ระนอง ต้องลองมา... แล้วจะรัก (วันที่ 2 ชิวๆที่เมืองระนอง)



ย้อนดู วันที่ 1 นนทบุรี-ระนอง คลิ๊กเลย
 

วันพฤหัสที่ 6 ธ.ค.61
 
เมื่อคืนหลับสบายมาก เตียงนุ่มกำลังดี หมอนก็หนุนสบาย มาตื่นตอนหกโมงเช้า น้ำแอร์ไหลหนักมาก ต้องลุกมาปิดแอร์ ทิ้งไว้ครึ่งชั่วโมงมาเปิดใหม่น้ำก็ไม่ไหลแล้ว (แต่แอร์เย็นมากกกก สงสัยเย็นจัดท่อเลยตันมั่ง 555)
 
ไหนๆก็ตื่นแต่เช้าแล้ว ออกไปหาอะไรกินดีกว่า เช้านี้ตั้งใจไปร้านนี้เลย
ออกจากโรงแรมเวลา 6.46 น.ไมล์จากเมื่อวาน 623.6 กม.
 
 
 
 
ร้านอยู่บนถนนสะพานปลา (ถนนเดียวกันกับทางไปท่าเรือเกาะพยาม)
พิกัดที่ตั้ง : 27/61 หมู่ 4 ถนนสะพานปลา อ.เมืองระนอง จ.ระนอง
เวลาเปิด-ปิด : 07.00 – 14.00 น.
โทรศัพท์: 077-822-101, 085-069-1038
 
 
 
 
จาก รร.มาประมาณ 3 กม. เส้นทางตามกูเกิ้ลเลยครับ คลิ๊กเลย ร้านจะอยู่ซ้ายมือ มีป้ายเห็นเด่นชัดเจน 

มาถึงประมาณเจ็ดโมงเช้า ลูกค้าเริ่มมากันไม่กี่โต๊ะ ได้ที่นั่งแล้วสำรวจร้านก่อน
 
 
 
 
 
ภายในร้านจะมีตู้ติ๋มซำให้เราเข้าไปเลือกแล้วเค้าจะเอาไปนึ่งข้างหน้าร้านให้อีกที
ติ๋มซำ เข่งละ 22 บาท ทุกเข่ง
 
 
 
 
 
นอกเหนือจากติ๋มซำ ยังมีเมนู อื่นๆให้เลือกได้อีก
 
 
 
 
 
กระเพาะปลาน้ำแดงก็มี แต่ผมไม่ได้สั่ง
 
 
 
 
เลือกที่นั่งเสร็จ จะมีพนักงานเอาผักมาเสิร์ฟพร้อมกาน้ำชา ส่วนน้ำจิ้มต่างๆจะอยู่ในโต๊ะ ชอบแบบไหนเทใส่ถ้วยแบ่งได้เองเลยครับ มีน้ำจิ้มให้เลือกหลายอย่าง
 
 
 
 
เมนูแรกมาแล้ว หอยจ้อ กรอบอร่อยดี เนื้อปูแน่นแต่แอบมีกลิ่นคาวปูนิดๆ
 
 
 
 
บะกุ๊ดเต๋ กลิ่นเครื่องเทศหอมมาก เสิร์ฟมาตอนร้อนๆ แต่น้ำซุปยังไม่เข้มข้นเท่าไหร่ อาจจะคาดหวังไว้สูงเลยทำให้รู้สึกเฉยๆ ยังไม่ค่อยโดน
 
 
 
 
รอไม่นานอาหารก็มาครบตามจำนวนที่สั่ง
 
 
 
 
แอบสั่งเพิ่มอีกสองสามอย่าง
 
 
 
 
สรุป รสชาติยังไม่ถึงกับว๊าวววว มีอร่อยบ้างไม่อร่อยบ้าง โดยรวมถือว่ารสชาติยังไม่อร่อยเวอร์แต่ไม่ถึงกับเลวร้าย แต่เห็นมีคนท้องถิ่นมากินร้านนี้เยอะมาก ใครยังไม่มีร้านในดวงใจลองมาแวะชิมกันได้ครับ ส่วนราคาตามใบเสร็จ
 
 
 
 
อิ่มเสร็จ ขับรถตรงไปยังท่าเทียบเรือประมง ระนอง จากร้านขับตรงไปอย่างเดียว มีป้ายบอกไปท่าเรือ
 
 
 
 
ตอนแรกตั้งใจแค่มาเดินดูนิดหน่อยแล้วกลับ พอเดินเข้าไปเจอตลาดปลาใหญ่มาก มีเรือประมงเอาสัตว์ทะเลมาขึ้นพอดี ตื่นตาตื่นใจมาก
 
 
 
 
เดินถ่ายรูปเพลินเลย
 
 
 
 
 
 
 
ปลาหมึกมีหลายชนิด หลายไซด์มาก
 
 
 
 
ปลาหลายประเภท มีเป็นกองๆเลย
 
 
 
 
ขอยิงยาวเลยแล้วกัน
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
ที่จริงก็เหมือนไม่ค่อยมีอะไร แต่พอเดินเข้าไปดูแล้ว เพลินในการถ่ายรูปมากกว่า แต่บอกไว้ก่อนในตลาดน้ำจะแฉะๆหน่อย กลิ่นคาวปลาจะติดตัวถ้าไม่ใช่แนวผ่านไปเลยก็ได้ 555 เดินเล่นเกือบครึ่งชั่วโมง ได้เวลากลับเข้าโรงแรม นอนเล่น 1 ตื่น 

เวลา 11.00 น. ได้เวลาออกจากโรงแรม The B เพื่อไปนอนที่โรงแรม TINIDEE ในคืนนี้ ระหว่างทาง ผ่านตลาดสดเทศบาล ขอแวะชมตลาดนิดนึง
 
 
 
 
แฟนเห็นขนมจีนทางใต้ไม่ได้ แพ้ทาง
 
 
 
 
เจ้านี้อยู่ด้านหน้าในตลาดสดเลยครับ
 
 
 
 
1 จานจัดไป น้ำยาผสมน้ำพริก
 
 
 
 
ผักต่างๆ เครื่องเคียงเพียบ
 
 
 
 
ส่วนผมไม่ใช่ทาง เดินเล่นในตลาดอย่างเดียว
 
 
 
 
 
 
 
 
แฟนจัดการขนมจีนเรียบร้อย เดินมาตบขนมต่ออีก 1 ถ้วย
 
ร้านนี้อยู่ข้างในตลาด มีอยู่เจ้าเดียว
 
 
 
 
 
ได้มาแล้ว 1 ถ้วย แถมขนมอะไรก็ไม่รู้อีก 1 ห่อ
 
 
 
 
บอกอร่อยทั้งขนมจีนและขนมหวาน พรุ่งนี้ขอพามาซ้ำอีกรอบนะ อืมมม...

ตรงตลาดสดถนนสายนี้เป็นที่จอดรถไปอำเภออื่นๆด้วย ถือว่าเป็นย่านของการคมนาคมในระนองเลยทีเดียว
 
 
 
 
 
 
หลังจากนั้นเข้าไปเคลียร์ที่พัก ที่โรงแรม TINIDEE ก่อนครับ เส้นทาง คลิ๊กเลย
 
 
 
 
โรงแรมอยู่ติดท่ารถสมบัติทัวร์ ระนอง ใกล้กับตลาดสดล่าง หลังจากเช็คอินเรียบร้อยแล้ว บ่ายสองถึงเข้าห้องได้ ตอนนี้ก็ขอบัตรเข้าส่วนแช่น้ำร้อนที่รักษะวาริน วิ่งตามกูเกิ้ลเลยครับ คลิ๊กเลย

มาถึงเป้าหมายแรก มื้อเที่ยง ร้านคุ้นลิ้น เล็งตั้งแต่เมื่อวานแล้ว อยู่ในน้ำแร่ระนอง รักษะวารินนั้นแหละ
 
 
 
 
 
โต๊ะอาหารจะมี กระดิ่งไว้สำหรับเรียกพนักงาน เซียมซีเมนูอาหารไว้สำหรับคนไม่รู้จะกินอะไรก็เขย่าเซียมซี แล้วก็ตุ๊กตาไล่ฝนพร้อมปากกา อันนี้เขียนชื่อแล้วไปแขวนได้เลย ข้อสำคัญคือฟรี
 
 
 
 
เซียมซีเมนูอาหาร
 
 
 
 
 
สั่งอาหารก่อน
 
 
 
 
 
ระหว่างรออาหาร เขียนชื่อในตุ๊กตาไล่ฝนแล้วเอาไปแขวนภายในร้าน
 
 
 
 
 
นั่งรอไม่นานอาหารก็เริ่มทยอยมา
 
 
 
 
สั่งไป 3 อย่าง
เมนูแรก ปลาลุมพุกลุยสวน รสชาติหวาน เค็ม มัน กลมกล่อมมาก อร่อยเลยครับ เนื้อปลากินได้ทั้งก้างเลย ก้างนิ่มมาก คล้ายๆปลากระป๋องแต่อร่อยกว่า จานนี้เด็ด
 
 
 
 
ผัดเหลียงไข่ รสชาติออกกลางๆ แฟนบอกอร่อยแต่ผมเฉยๆ ลิ้นใครลิ้นมันเนอะ
 
 
 
 
กุ้งแม่น้ำผัดกะปิสะตอ ให้กุ้ง 4 ตัว ใหญ่มากกกกก ผัดเข้มข้นเข้ากันดี ส่วนสะตอให้มาน้อยมาก อยากกินสะตอมากกว่า 555 ไม่ชอบอีกอย่างคือใส่ถั่วฝักยาวมาทำไม สะตอให้น้อยแค่ไหนก็ไม่ต้องใส่ถั่วฝักยาวมาก็ได้ เสียรสชาติหมด สรุป จานนี้รสชาติดี แต่อยากกินสะตอมากกว่ากุ้ง น่าจะลดกุ้งแล้วมาเพิ่มสะตอจะดีกว่า ส่วนถั่วฝักยาวไม่ต้องใส่ เสียดายรสชาติ  
 
 
 
 
แฟนสั่งน้ำใบผักเหลียงปั่นมากิน ลองชิมไป 1 แก้ว ไม่ใช่แนว 
 
 
 
 
ราคาตามใบเสร็จเลยครับ อาจดูสูงไปหน่อย แต่มาดูขั้นตอนการกับปริมาณก็พอสมเหตุสมผลอยู่ จริงๆทางร้านน่าจะทำเป็น 2 ราคา จานใหญ่กับจานเล็ก ใครมา 2-3 คนก็ทำแบบจานเล็กให้ จะดีกว่า
 
สรุป รสชาติโอเคให้ผ่าน ร้านอาหารสะอาด พนักงานดูแลดี ราคาดูสูงไปนิดแต่บวกปริมาณกับรสชาติถือว่ารับได้ ถ้ามีโอกาสไปกินอีกไหม คือไปก็ได้ ไม่ไปก็ได้ แล้วแต่จังหวะอารมณ์อยากกินในเวลานั้น
 
 
 
 
หลังจากอิ่มแล้ว เดินเล่นบ่อน้ำร้อนรักษะวารินกันต่อ
 
 
 
 
ช่วงบ่ายวันนี้ ร้อนมากกกกก แดดแรงเลย หลบเข้าไปในฮอท สปริง ของ โรงแรมทีนีดี
 
***ใครนอนพักที่โรงแรมทีนีดี ขอบัตรเข้าฟรีที่เค้าเตอร์แผนกประชาสัมพันธ์ของโรงแรมได้เลยครับ แล้วมายื่นที่นี่ หน้าตาบัตรจะเป็นแบบนี้
 
 
 
 
ยิ่นบัตรให้พนักงานแล้วเดินเข้าไปเลยครับ
 
 
 
 
ข้างในจะมีสระน้ำร้อนให้แช่อยู่ 4 บ่อ สะอาดมาก

สระน้ำร้อนจะแยกเป็นสองส่วน เป็นคล้ายสระแฝด มีสระใหญ่และก็สระเล็กอยู่ติดกัน มีอยู่ 2 ข้าง หน้าตาจะเป็นแบบนี้
 
 
 
 
 
 
 
ส่วนนักท่องเที่ยวภายนอกเสียค่าเข้าคนละ 40 บาท มีบริการตามป้ายเลยครับ
 
 
 
 
ห้องอาบน้ำ กับ ห้องแต่งตัวจะอยู่ด้านซ้ายกับด้านขวาสุด
 
 
 
 
 
ผมเข้ามาถ่ายรูปเฉยๆ ไม่ใด้ใช้บริการใดๆ ถ่ายรูปเสร็จก็เดินออกมาข้างนอก ส่วนแฟนผมไปนอนที่ที่โรงโยคะ เมื่อวานไปนอนอบร้อนๆ ติดใจวันนี้ไปนอนเล่นอีก ส่วนผมออกมาได้ก็เดินออกมาถ่ายรูปข้างนอกอีกนิดหน่อย
 
 
 
 
มาช่วงบ่ายๆแดดจัดๆก็ดีไปอย่าง นักท่องเที่ยวไม่ค่อยมีเท่าไหร่ ถ้าช่วงเย็นๆคนจะเยอะมากกกกกกกกกก
 
 
 
 
 
 
เวลา 12.50 น.ระยะทาง 638 กม.ได้เวลาออกจากบ่อน้ำร้อน เป้าหมายต่อไป ไม่รู้ 555 ถามคนแถวนั้นแนะนำไปบ่อน้ำร้อนพรรั้ง อยู่แถวบ้านหงาว 
 
ออกจากบ่อน้ำร้อนให้เลี้ยวซ้ายไปทางถนนเพชรเกษมตรงไปอย่างเดียว ประมาณ 8 กม.ก็ถึงแล้ว เปิดกูเกิ้ลแล้วขับตามไปเลยครับ คลิ๊กเลย

ระหว่างทางแวะเติมน้ำมัน 1,000 บาท น้ำมันเหลือตามรูปเลย
 
 
 
 
ถนน 4 เลนขับสบายมาก ใกล้ถึงจะมีป้ายบอกเลี้ยวซ้ายเข้าไปอีก 2.5 กม. ประมาณ 15 นาทีก็มาถึงแล้ว
 
 
 
 
 
ก่อนเข้าจะมีด่านข้างหน้า ต้องซื้อบัตรผ่านเข้าคนละ 20 บาทก่อน (เอาไปใช้ผ่านด่านน้ำตกหงาวภายในวันเดียวได้ด้วยครับ)
 
 
 
 
เข้ามาภายในมีที่จอดรถให้แล้วเดินเข้ามา จะมี จนท.คอยตรวจบัตรตรงจุดนี้
 
 
 
 
ร้านอาหารสวัสดิการตรงข้ามกับลานจอดรถ
 
 
 
 
ถัดไปเป็นร้านกาแฟ แล้วถึงทางเข้าบ่อน้ำร้อน
 
 
 
 
เข้ามาแล้วจะเจอบ่อน้ำหรือสระหรือลำธาร ไม่รู้เหมือนกัน 5555 ไม่มีข้อมูล ตรงนี้น้ำธรรมดา ไม่ใช่น้ำร้อน น้ำจะออกเย็นๆเหมือนน้ำตกเลย
 
 
 
 
 
น้ำใสมาก
 
 
 
 
เดินตามทางมาเรื่อยๆ จะถึงตรงนี้ ข้ามสะพานไป
 
 
 
 
มีลำธารเล็กๆ
 
 
 
 
ผ่านบ่อน้ำร้อน
 
 
 
 
เดินเลยไปหน่อยจะมีบ่อแช่น้ำร้อน 2 บ่อ
 
บ่อนี้ยังไม่ได้ใส่น้ำแร่ น่าจะเพิ่งทำใหม่
 
 
 
 
ถัดมาอีกหน่อยเป็นสระเล็ก
 
 
 
 
เดินขึ้นไปอีกหน่อย ตรงนี้เป็นบ่อน้ำแร่ 37 องศา
 
 
 
 
 
บ่อนี้มีนักท่องเที่ยวมาแช่กันตลอด หาว่างๆไม่ค่อยมี เลยถ่ายรูปติดหน้าน้องเค้ามาด้วย ขอปิดหน้าน้องหน่อยครับ
 
 
 
 
ข้ามลำธารไปจะมีอีกบ่อ 42 องศา
 
 
 
 
ผมแช่บ่อนี้ครับ 42 องศา
 
 
 
 
 
แช่น้ำแร่เสร็จลงไปแช่น้ำในลำธารสลับกัน น้ำร้อน น้ำเย็น ฟินมาก ส่วนน้ำในลำธารจะมีสปาปลาธรรมชาติด้วย ปลาเยอะมาก มารุมกินผิวหนังที่ตายแล้ว จั๊กจี้ดี
 
 
 
 
บ่อน้ำแร่ จะมีห้องน้ำ ห้องเปลี่ยนชุด อยู่ 2 จุด สะอาดอยู่เหมือนกัน
 
 
 
 
 
แช่น้ำเล่นประมาณ 45 นาทีได้เวลาไปเที่ยวต่อ ระหว่างเดินทางไปที่ลานจอดรถ จะมีบ่อแช่น้ำอีก 2 บ่อ แต่ละบ่อจะมีนาฬิกาไว้ให้ดู ระหว่างแช่ตัวด้วย
 
 
 
 
 
 
ออกจากบ่อน้ำร้อนพรรั้งเวลา 14.30 น.ระยะทาง 653 กม.

ออกมาถึงถนนเพชรเกษมเลี้ยวซ้าย ขับไปไม่ไกลจะมีป้ายเลี้ยวซ้ายเข้าไปยัง อช.น้ำตกหงาว
 
 
 
 
ทางเข้าจะมีด่านเก็บเงิน เราใช้บัตรบ่อน้ำร้อนพรรั้งยืนให้ จนท.ได้เลย ไม่ต้องซื้อบัตรเข้าไปใหม่ ภายใน อช.ร่มรื่นมาก แต่ถ้าจะเข้าไปถึงน้ำตกต้องเดินไปอีก วันนี้ไม่ได้เตรียมตัวมาแค่แวะมาดูเฉยๆ 
 
 
 
 
 
ที่ อช.มีจุดลานกางเต็นท์ให้ด้วย ใครชอบธรรมชาติเอาเต็นท์มากางได้เลยครับ
 
 
 
 
 
อยู่ที่อช.ประมาณ 10 นาที ได้เวลากลับเข้าที่พัก 

ออกจาก อช. เลี้ยวซ้ายแล้วยูเทิร์นกลับ ขับมาได้หน่อยมีป้ายบอกไปวัดบ้านหงาว เลี้ยวซ้ายเข้าไปเลยครับ ไม่ถึง 5 นาทีก็มาถึงวัดบ้านหงาว
 
 
 
 
ประวัติวัดบ้านหงาว ตั้งอยู่ที่ ตำบลหงาว อำเภอเมือง จังหวัดระนอง เป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่สำคัญของจังหวัดระนอง ใกล้กับภูเขาหญ้าระนอง เดิมทีเป็นเพียงที่พักพระสงฆ์จนกระทั่งหลวงพ่อเขียด พระธุดงค์มาจากปัตตานีมาปักกรดบำเพ็ญ แล้วชาวบ้านเกิดการเลื่อมใสศรัทธา จึงได้สร้างวัดขึ้นในปี พ.ศ.2530 และให้ท่านพำนักที่วัดแห่งนี้ ปัจจุบันวัดบ้านหงาวมีเจ้าอาวาสชื่อพระครูประจักษ์สุตาสาร เป็นพระนักพัฒาได้มีการเปลี่ยนแปลงหลายอย่างเกิดขึ้นในสมัยพระครูประจักษ์สุตาสาร เช่น อุโบสถหลังใหม่ที่ใหญ่และสวยงาม เป็นอุโบสถ 2 ชั้น หรือที่เรียกว่า อุโบสถลอยฟ้ากว้าง 8 เมตร ยาว 15 เมตร รอบอุโบสถเทคอนกรีตเป็นลานกว้างมีลูกกรงล้อมรอบ ในแต่ละมุมทั้ง 4 ด้าน มีอาคารจัตุรมุขกว้าง มีบันไดขึ้นลงรอบทิศเหนือ ใต้ ตะวันออก ตะวันตก ด้านล่างของอุโบสถเป็นห้องโถงใช้สำหรับการประ ชุมสัมมนา ภายในอุโบสถวัดบ้านหงาว เป็นที่ประดิษฐานพระประธาน มีนามว่า “หลวงพ่อดีบุก” เป็นพระพุทธรูปปางมารวิชัย มีชื่อเป็นทางการว่า “พระติปุกะพุทธมหาศากยมุนีศรีรณังค์” อันมีความหมายว่า “พระพุทธรูปดีบุกองค์ใหญ่เป็นสิริมงคลและศักดิ์ศรีของเมืองระนอง” และยังมีความสวยงามของฝาผนังที่แกะสลักเป็นลวดลายต่างๆ อีกด้วย

นอกจากนี้ภายในวัดเป็นที่ตั้งของพิพิธภัณฑ์ท้องถิ่น ซึ่งมีการรวบรวมสิ่งของเครื่องใช้ต่างๆ ตั้งแต่อดีต จนถึงปัจจุบัน เก็บรักษาให้อนุชนรุ่นหลังได้ศึกษาค้นคว้า นอกจากนี้ ยังมีวังมัจฉามีพันธุ์ปลาน้ำจืดนานาชนิดที่สามารถให้อาหารได้อย่างใกล้ชิด และที่สำคัญมีบันไดคอนกรีตกว่า 300 ขั้น ที่สามารถใช้เดินขึ้นไปบนยอดของภูเขาเพื่อดูทิวทัศน์ของจังหวัดระนองได้รอบ 360 องศา ได้รับการพัฒนาให้เป็นสถานที่ท่องเที่ยวทางวัฒนธรรม
ส่วนรายละเอียด ดูในเวปนี้ได้เลยครับ คลิ๊กเลย
 
 
 
 
 
 
อยู่ประมาณ 10 นาที ไม่ได้สำรวจอะไรทั้งนั้น ยกมือไหว้พระเสร็จกลับ
 
ขากลับแวะซื้อของฝากนิดนึง อยู่ก่อนถึงวัด
 
 
 
 
 
ส่วนมากจะเป็นของกิน ที่ขึ้นชื่อก็เป็น กาหยู กะปิ
 
 
 
 
 
 
 
 
 
ได้ของมานิดหน่อย สบายใจ
 
 
 
 
ขับออกมาถนนเพชรเกษม เจอจุดเช็คอินของเมืองระนองอีกที่นึง
 
 
 
 
ทางผ่านพอดี อยู่ติดถนน แวะเช้าไปชมหน่อย
 
 
 
 
เฉยๆ ยังไม่ค่อยมีอะไร ดูในเวปคนอื่นทำไมเค้าถ่ายรูปออกมาสวยจัง 
 
 
 
 
ได้เวลากลับเข้าโรงแรมแล้วครับ จากภูเขาหญ้ามาโรงแรมทีนีดี ประมาณ 11 กม. ใช้เส้นทางตามกูเกิ้ล คลิ๊กเลย
 
ถึงโรงแรมทีนีดี เวลา 15.47 น. ต้อนรับด้วยน้ำกระเจี๊ยบ หวาน เย็นชื่นใจ
 
 
 
 
มารับกุญแจห้องที่แผนกประชาสัมพันธ์ ขอชมพนักงานที่นี่บริการดีทุกคนเลยครับ
 
 
 
 
ผมจองห้อง Corner Suite จาก Agoda ไม่รวมอาหารเช้า ได้ห้อง 502
 
 
 
 
บรรยากาศหน้าลิฟต์ชั้น 5
 
 
 
 
 
เลี้ยวซ้ายสุดเลยครับ
 
 
 
 
 
เข้าไปดูในห้องกัน 

ห้องกว้างมากกกกกก เป็นเตียงคู่ มีเตียงขนาด 5 ฟุตให้ 2 เตียง เตียงแข็งแรงดี ที่นอนนิ่มกำลังดี นอนสบายไม่ปวดหลัง หมอนให้มาเตียงละ 2 ใบ มีแบบแข็งและแบบอ่อน ชอบมากเลย ส่วนพื้นปูด้วยกระเบื้อง หัวเตียงมีโคมไฟให้ฝั่งละดวง ที่สำคัญปลั๊กไฟมีให้หลาายจุดมาก
 
 
 
 
 
 
 
ปลายเตียงมีกระจก 1 บานพร้อมไฟคู่ ทีวี LED ภาพคมชัดทุกช่อง โต๊ะทำงานพร้อมเก้าอี้แต่งตัว
 
 
 
 
บนโต๊ะทำงาน มีเครื่องเป่าผม เมนูอาหาร ปฏิทินพร้อมกระดาษทิชชู่
 
 
 
 
ถัดไปมีกาน้ำร้อนให้ พร้อมน้ำเปล่า 3 ขวด กาแฟแบบซอง ส่วนขนมขบเคี้ยวเสียเงินนะครับ ตามรูปเลย
 
 
 
 
ด้านล่างมีตู้เย็นขนาดเล็กใส่น้ำดื่มต่างๆ ไว้บริการให้ด้วย (เสียเงิน)
 
 
 
 
ถัดไปเป็นตู้เสื้อผ้า มีตู้เซฟ เสื้อคลุม 2 ตัวและสลิปเปอร์ 2 คู่
 
 
 
 
 
 
ตรงกันข้ามกับตู้เสื้อผ้าเป็นห้องน้ำ แอบโบราณนิดๆแต่สะอาดมาก มีอ่างน้ำผ้าม่านกั้นแบบโรงแรมทั่วไป น้ำเป็นฝักบัวกับเรนชาวเวอร์ น้ำไหลแรงมาก พนักงานบอกว่าน้ำเค้าเป็นน้ำแร่มาจากรักษะวาริน สามารถเปิดแช่ในอ่างได้เลย ส่วนชักโครกมีสายน้ำชำระให้ด้วย (ลืมถ่ายรูป)
 
 
 
 
อุปกรณ์ต่างๆพวกแปรงสีฟัน ยาสีฟัน ไม้ปั่นหู สบู่ มีให้ครบ
 
 
 
 
หลังจากนอนเล่นได้ซักพัก พนักงานเอาผลไม้ 1 จานมาเสิร์ฟให้ถึงห้องนอน พนักงานที่นีบริการดีมากทุกคนเลยครับ ขอชมจากใจ
 
 
 
 
นอนเล่นได้ซักพัก ลงไปชั้น 2 จะมีห้องฟิสเนต ห้องโยคะ ห้องซาวน่า บริการฟรีสำหรับนักท่องเที่ยวที่มาพักภายในโรงแรม
 
 
 
 
 
 
ห้องโยคะ
 
 
 
 
ห้องซาวน่า
 
 
 
 
 
 
 
จากชั้น 2 ลงด้านหลังไปยังสระน้ำชั้นล่างได้เลย ตรงนี้สระว่ายน้ำใหญ่มาก
 
 
 
 
อ่างจากุซซี่น้ำแร่ สระนี้เป็นระบบน้ำวน
 
 
 
 
 
สระรวม อุณหภูมิน้ำแต่ละบ่อต่างกัน
 
 
 
 
 
 
 
ก่อนลงสระรักษาระเบียบด้วยครับ
 
 
 
 
หลังจากสำรวจภายในโรงแรมเสร็จ ประมาณ 5 โมงเย็นขับรถเล่นในเมืองระนอง ขับวนไปเรื่อยๆ ผ่านโรงพยาบาล เห็นคนนั่งกินโรตีกันเยอะ ลองแวะชิมหน่อย
 
 
 
 
ส่วนถัดไปข้างๆ ขายน้ำเต้าหู้ ร้านนี้คนท้องถิ่นก็มากินกันเยอะ ขอลองชิมหน่อย
 
 
 
 
 
ได้มาคนละถ้วยพร้อมปาท่องโก๋ สั่งมากินในร้านโรตี
 
 
 
 
ดูเมนูก่อน
 
 
 
 
โรตีไส้กรอกชีส+โรตีธรรมดา

ชอบโรตีธรรมดามากกว่า ทอดมาจืดๆ จะมีนมกับน้ำตาลให้ใส่เอาเอง กินกับน้ำเต้าหู้เข้ากันมาก ถ้าใครมากินโรตีร้านนี้แนะนำสั่งน้ำเต้าหู้ร้านข้างๆมากินด้วยจะเข้ากันมาก
 
 
 
 
หลังจากนั้นขับรถเล่นในเมือง วนมาถึงตลาดสด เจอร้านก๋วยเตี๋ยวลูกชิ้นปลาทำเอง ขอลองชิ้มหน่อย
 
 
 
 
บะหมี่แห้ง เกี้ยวปลาอร่อยใช้ได้ ไม่มีกลิ่นคาว อร่อยอยู่ 
 
 
 
 
เส้นเล็กแห้ง ของแฟน บอกชอบหนังปลาทอดกรอบที่ใส่มา ความจริงผมก็ชอบอร่อยดี
 
 
 
 
เกาเหลาเส้นปลา เส้นปลาอร่อยดีครับแต่น้ำซุปเฉยๆยังไม่ค่อยโดนเท่าไหร่ โดยรวมพอใช้ได้ยังไม่ถึงกับอร่อยสุดๆ
 
 
 
 
ก๋วยเตี๋ยวคนละชามกับเกาเหลาเส้นปลา อิ่มพอดี ได้เวลากลับเข้าที่พักแล้วครับ 

มาถึงโรงแรมทีนีดีเวลา 19.15 น.ระยะทาง 688.5 กม. 
 
พรุ่งนี้ไปดำน้ำที่เกาะบูเออร์กันครับ คลิ๊กเลย
 
 


รวมระยะทางวันนี้ทั้งหมด 64.9 กม.
 
สรุปค่าใช้จ่ายวันนี้
-อาหารเช้าระนองโอชา 371 บาท
-ตลาดเช้า 70 บาท
-ตลาดสดระนอง 40 บาท (ขนมจีน 1 ถ้วย 25 บาท, ขนมหวาน 1 ถ้วย 15 บาท)
-ร้านคุ้นลิ้น 1,110 บาท (อาหาร 1,090 บาท, ทิป 20 บาท)
-เติมน้ำมันปั๊มเอสโซ่ 1,000 บาท (ดีเซลพลัส 31.33 ลิตร ลิตรละ 31.92 บาท)
-ค่าเข้าบ่อน้ำร้อนพรรั้ง 40 บาท (คนละ 20 บาท)
-ของฝากร้านวัชรี 730 บาท (เม็ดมะม่วงอบเกลือ 500 กรัม 1 ถุง 240 บาท, ปลาเกล็ดขาว 1 ถุง 100 บาท เม็ดมะม่วงอบเนย 350 กรัม 1 ถุง 190 บาท, กะปิอย่างดี 2 กระปุก 200 บาท)
-โรตีฮัทช่า ข้าง รพ.ระนอง 70 บาท
-น้ำเต้าหู้+ปลาท่องโก๋ 30 บาท
-ก๋วยเตี๋ยวปลาลูกชิ้นทำเอง 130 บาท
-ค่าที่พัก Tinidee Hotel@Ranong 1,540.12 บาท (ห้อง Corner Suite)
 
รวมทั้งหมด 5,131.12 บาท




 

Create Date : 11 มกราคม 2562
2 comments
Last Update : 3 กุมภาพันธ์ 2565 17:19:08 น.
Counter : 1926 Pageviews.

ผู้โหวตบล็อกนี้...
คุณKavanich96, คุณโอน่าจอมซ่าส์

 

ขอบคุณที่แบ่งปัน

 

โดย: Kavanich96 12 มกราคม 2562 1:34:01 น.  

 

ต้องมีสักวันจะไปเที่ยวที่ระนองมั้งจ้า

 

โดย: โอน่าจอมซ่าส์ 18 มกราคม 2562 10:33:18 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 


nongmalakor
Location :
นนทบุรี Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 120 คน [?]




ใช้ชีวิตอย่างพอเพียง
Google
Group Blog
 
<<
มกราคม 2562
 
 12345
6789101112
13141516171819
20212223242526
2728293031 
 
11 มกราคม 2562
 
All Blogs
 
Friends' blogs
[Add nongmalakor's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.