ฉันจะรักคนนี้มากพอหรือเปล่า?
ฉันจะรักคนนี้มากพอหรือเปล่า? คำถามง่าย ๆ แต่ตอบยากจัง
มีใครเคยตั้งคำถามนี้กับตัวเองเวลารักใครบ้างหรือเปล่าคะ?
ส่วนใหญ่เราจะคิดว่าเรารักเขาแต่เราอาจจะไม่เคยถามตัวเองว่าเราจะรักเขามากพอที่จะฟ่าฟัน
ก้าวข้ามผ่านอุปสรรคในชีวิตคู่ได้หรือไม่





พื้นฐานของการเลือกคู่ส่วนใหญ่เราจะให้ความสำคัญว่าเขาคนนั้นจะตอบโจทย์ที่เราต้องการได้หรือไม่
สิ่งนี้ไม่ผิดค่ะแต่ไม่ถูกต้องทั้งหมด เราพลาดสิ่งสำคัญอีกหนึ่งอย่างคือการตั้งคำถามให้กับตนเอง
ฉันจะรักคนนี้มากพอหรือเปล่า?

มากพอที่จะให้อภัยเขาในวันที่เขาผิดพลาด
มากพอที่จะยอมเปลี่ยนแปลงตนเองเพื่อให้อยู่ด้วยกันได้
มากพอที่จะให้อีกคนเข้าในชีวิต
มากพอที่จะอดทนต่ออุปสรรคที่จะเข้ามา
มากพอที่จะมองข้ามสิ่งที่ไม่ดีของเขา
มากพอที่จะเอาชนะความเห็นแก่ตัวของตัวเองในหลาย ๆ เรื่องได้
มากพอที่จะอยู่เคียงข้างเขาเมื่อวันที่เขาล้มลง
มากพอที่จะ ฯลฯ



แล้วมันจำเป็นด้วยเหรอที่เราจะต้องตั้งคำถามเหล่านี้? นั่นนะสิจำเป็นด้วยเหรอ
แต่เมื่อวันที่เราผิดหวัง
เมื่อวันที่เขาทำไม่ได้อย่างใจ
เมื่อวันที่เราเจออุปสรรค
เมื่อวันที่เราเจอคนที่คิดว่าคนอื่นดีกว่าเขา



คำถามพวกนี้จะเป็นสิ่งสำคัญที่เราจะยังคงอยู่เคียงข้างเขาไม่ไปไหน เป็นสิ่งที่ยึดเหนี่ยวเราไว้
บางคนก็อาจจะบอกว่าคนเรามีสิทธิ์เลือกที่จะหาสิ่งที่ดีที่สุดให้กับตัวเองนี่
ใช่ค่ะ..คนเราคิดแบบนี้เสมอแต่ความรักไม่ใช่การหาสิ่งที่ดีที่สุดให้กับตนเอง
ความรักคือการที่เรายอมให้อีกคนเข้ามามีส่วนร่วมในชีิวิต ถ้าใจเรายังแคบและไม่ใจกว้างมากพอ
สุดท้ายความเห็นแก่ตัวของเราจะเอาชนะทุกอย่าง และท้ายที่สุดเราจะทำร้ายใครคนหนึ่งโดยที่ไม่ได้ตั้งใจหรือบางคนอาจจะไม่สนใจด้วยซ้ำว่าคนอื่นจะเป็น จะตาย จะเสียใจมากแค่ไหน เพราะคิดว่าตัวเองมีสิทธิ์ที่จะทำ การยกความเห็นแก่ตัวเพื่อทำร้ายคนอื่นเป็นสิ่งที่เลือดเย็นนะคะ เราอาจจะมองไม่เห็นหรอกว่ามันแย่ขนาดไหน จะเห็นก็ต่อเมื่อวันที่เราเป็นผู้ถูกกระทำนั่นแหละเราถึงจะเข้าใจ



ถ้าเราใช้เหตุผลของการเห็นแก่ตัวในการเลือกคู่ สุดท้ายแล้วเราก็จะแพ้ภัยต่อตนเอง
ความรักกับความเห็นแก่ตัวไปด้วยกันไม่ได้ มันตรงกันข้ามกันอย่างสิ้นเชิง
จริง ๆ เราทุกคนมีความเห็นแก่ตัวด้วยกันทั้งนั้น มันเป็นธรรมชาติของมนุษย์
ไม่มีใครที่สมบูรณ์แบบ เราเชื่อแบบนี้เสมอมา คน ๆ หนึ่งย่อมมีข้อเสียของเขา
เราเองก็มีข้อเสียของเรา แต่โดยส่วนใหญ่ไม่มีใครเลือกคู่ของตนเองเพราะเขามีข้อเสียอะไร
เรากลับเลือกมองแต่สิ่งดีเพียงอย่างเดียวในการตัดสินเขา ไม่ผิดค่ะที่จะมองข้อดี
แต่อย่าลืมที่จะมองเห็นข้อเสียของเขา ไม่มีความสัมพันธ์ไหนอยู่รอดเพียงแค่ผลประโยชน์อย่างเดียว



การที่จะรู้สึกชอบใครสักคนมันก็มีด้วยกันหลายสาเหตุ บางคนชอบที่หน้าตา บุคลิก นิสัย ฐานะ
เงินทอง แต่นี่ไม่ใช่ความรักมันคือความหลง หลงในรูป หลงในสิ่งที่ฉาบฉวย มันอาจจะมีส่วนก็จริงที่เราจะตัดสินคน ๆ หนึ่งเข้าในชีวิต เพราะเรามีสิทธิ์ที่จะเลือกคนดี ๆ เข้ามา แต่อย่าลืมถามตัวเองหากวันหนึ่ง เมื่อคน ๆ นี้พิการขึ้นมาเราจะยังรักเขาอยู่หรือเปล่า เมื่อคน ๆ นี้ไม่มีเงินทองหรือล้มละลาย หรืออ้วนขึ้นมา ไม่สวย เราจะยังอยู่เคียงข้างเขาหรือเปล่า เมื่อเรายอมรับ เราจะเห็นคุณค่าของเขาแม้ในวันที่เขาลำบาก แต่ถ้าหาใครสักคนเพราะหน้าตาดี เพราะเขามีอันจะกินเพียงอย่างเดียว โดยไม่ได้มาตั้งคำถามให้กับตนเอง คุณจะให้คุณค่ากับตัวเองมากกว่าเขาแน่นอน คือเห็นผลประโยชน์ที่เราจากได้จากเขาเพียงอย่างเดียว และเมื่อวันที่เราไม่ได้ในสิ่งที่เราเคยได้หรือมีอุปสรรคที่เข้ามา เราจะไม่มีใจที่อยากจะอดทนกับเขา ไม่มีใจที่จะยอมรับเขาได้ หากเรายังไม่นึกถึงจิตใจซึ่งกันและกัน จะต้องมีคนใดคนหนึ่งเสมอที่เสียใจกับความสัมพันธ์นี้ ไม่มีความสัมพันธ์ไหนที่จะตัดเยื่อใยโดยไม่เจ็บปวด เพราะการสร้างความสัมพันธ์มันมีความผุกพันธ์เข้ามาเกี่ยวข้อง การตัดขาดความสัมพันธ์ย่อมเจ็บเสมอ บางคนเจ็บปางตายก็มี เพราะอีกฝ่ายรักเขาไม่มากพอที่จะเอาชนะความเห็นแก่ตัวของเขาได้



ถ้าเราเห็นใจซึ่งกันและกันและรู้จักตัวเองมากพอ เราจะไม่มานั่งล้อเล่นกับความรู้สึกนี้หรอกค่ะ
แต่โดยส่วนใหญ่เรามองความรักเป็นเพียงของฉาบฉวย เห็นเป็นเรื่องสนุก ล้อเล่นกับความรู้สึกของคนอื่น โดยไม่คิดว่าคนอื่นเขาจะรุ้สึกอย่างไร? จะเจ็บปวดมั้ย? เลือดเย็นมั้ยล่ะคะ ยิ่งปัจจุบันคนก็ยิ่งเลือดเย็นมากขึ้น เห็นความรู้สึกของคนอื่นเป็นเรื่องสนุก โดยไม่รุ้ตัวเองเลยว่าแท้ที่จริงแล้วตัวเขาเองได้กลายเป็นปีศาจไปแล้ว และเลวร้ายไปกว่านั้นคือยอมที่จะทำร้ายคนที่เขารักได้อย่างไม่ละอายใจ
คบชู้ คบซ้อน คนที่เขารักเจ็บเจียนปางตายก็ยังไม่รู้สึก เพราะความเห็นแก่ตัวมีมากกว่ายังไงล่ะ
เพราะเขารักตัวเองมากกว่า
เพราะเขารักคนนั้นไม่มากพอที่จะเอาชนะความเห็นแก่ตัวได้



แต่ถ้าเรารักคนนั้นมากพอ เราจะจับมือเขาแล้วช่วยเขาให้ดีขึ้นเมื่อวันที่เขาลำบาก
หรือแม้แต่เขาจะทำผิดต่อเราแค่ไหนเราก็จะให้อภัยเขาได้

การให้อภัยกับการไม่ยอมรับความจริงไม่เหมือนกันนะ อย่าคิดว่าคนที่ให้อภัยแล้วจะไม่ทันคนอื่น
หรือยอมเป็นเบี้ยล่าง การให้อภัยคือการไม่ถือโทษโกรธเขาเพราะเราเห็นว่าเขาเป็นมนุษย์อยู่เหมือนเราที่สามารถทำผิดพลาดได้ แต่การไม่ยอมรับความจริงคือหลอกตัวเองกลัวว่าเขาจะทิ้งไปหรือกลัวความเจ็บปวด กลัวว่าเขาจะไม่รักเราแล้ว อันนี้คือการหลอกตัวเอง ที่ว่าความรักทำให้คนตาบอดนั่นไม่จริงค่ะ แต่เราใช้ความเห็นแก่ตัวเพื่อหลอกตัวเองมากกว่า ถ้ารักจริง ๆ เราจะมีเมตตาให้เขาเอง




ในท้ายที่สุดนี้การให้ความสำคัญในการเลือกคู่จึงเป็นสิ่งที่จำเป็น อย่าเอาสิ่งเหล่านี้มาล้อเล่น
หรือเห็นเป็นเพียงเรื่องน่าสนใจเพราะคนที่เสียใจกับสิ่งเหล่านี้มีให้เห็นกันมานักต่อนักแล้ว
การรู้ว่าตัวเองรักใครมากพอ มันจะทำให้เราไม่ต้องเสียเวลาเริ่มต้นใหม่กับคนอื่นไปเรื่อย ๆ
การเลือกคนเข้ามาเป็นเรื่องที่ควรทำแต่การที่เราจะตกลงคบใครสักคนควรจะถามย้ำตัวเองให้ดี
อย่าให้คนอื่นต้องมาเจ็บปวดหรือผิดหวังเพราะเรา เพราะเมื่อไหร่ที่เขารักเรามาก
เขาก็จะเจ็บปวดมากเช่นกัน ฉะนั้นนอกจากจะให้ถามตัวเองให้ดีแล้วควรนึกถึงจิตใจของอีกฝ่ายด้วยถ้าเราทุกคนให้ความสำคัญเราจะรู้ว่าความรักนั้นมีค่ามากแค่ไหน แล้วเราจะเห็นคุณค่าของคนอื่นมากกว่าเห็นตัวเราเป็นสำคัญ เพราะหากเราเห็นตัวเรามีคุณค่ามากกว่าคนอื่นเมื่อไหร่ เราพร้อมที่จะเหยียบเขาให้ต่ำกว่าเราเมื่อนั้น แล้วเราจะทำร้ายคนอื่นทั้งทางตรงและทางอ้อมโดยที่ตั้งใจและไม่ได้ตั้งใจ โหดร้ายนะคะเมื่อลองมองดูดี ๆ การทำร้ายจิตใจคนอื่นนั้นเลือดเย็นของแท้เลยล่ะ



  • ถามตัวเองให้ดี
  • เพราะการเลือกคนรักไม่ใช่เลือกเพราะเขาดี
  • แต่ให้เลือกเพราะเรารักเขามากพอที่จะให้อีกคนเข้ามาในชีวิตเรา
  • ถ้าเราต่างฝ่ายต่างจริงจรังกับความสัมพันธ์และใส่ใจกันมากพอ
  • เราก็จะเห็นเองว่าคุณค่าของความรักนั้นยิ่งใหญ่และสวยงามมากขนาดไหน

>>ขอบคุณทุกท่านที่เข้ามาอ่านค่ะ<<




Create Date : 27 เมษายน 2558
Last Update : 27 เมษายน 2558 18:03:39 น.
Counter : 7082 Pageviews.

3 comments
  
ได้อ่านแล้วดีมากๆเลยค่ะ ทำให้รู้ว่าการที่เราจะรักใครสักคนนั้นเราต้องยอมรับทุกอย่างในตัวเขาให้ได้ คนเราเกิดมาไม่ได้สมบูรณ์แบบทุกอย่างค่ะ
โดย: fon IP: 157.7.205.214 วันที่: 12 พฤษภาคม 2558 เวลา:8:51:01 น.
  
ชอบมากค่ะ ขอเก็บไว้อ่านนะคะ
โดย: kik IP: 202.149.127.123 วันที่: 3 มิถุนายน 2558 เวลา:15:33:27 น.
  
หากอยากปรึกษาเจ้าของบล๊อก
พอจะมีช่องทางติดต่อได้ทางไหนบ้างครับ
โดย: พล IP: 49.228.85.106 วันที่: 10 มิถุนายน 2559 เวลา:3:45:44 น.
ชื่อ :
Comment :
 *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

Annaria
Location :
  

[ดู Profile ทั้งหมด]
 ฝากข้อความหลังไมค์
 Rss Feed
 Smember
 ผู้ติดตามบล็อก : 5 คน [?]



บอกเล่าเรื่องราวและความรู้สึกผ่านตัวอักษร
New Comments
เมษายน 2558

 
 
 
1
2
3
4
5
6
7
8
10
11
12
13
14
15
16
17
18
19
20
21
22
23
24
25
26
28
29
30