1. JINNAI GUEM-SA-RANG ABC GREEN CREAM READY BRIGHT FOR FACE (สีเขียว)
2. JINNAI GUEM-SA-RANG ABC VIOLET CREAM READY BRIGHT FOR FACE (สีม่วง)
3. JINNAI GUEM-SA-RANG ABC PINK CREAM READY BRIGHT FOR FACE (สีชมพู)
4. JINNAI GUEM-SA-RANG ABC NUDE CREAM READY BRIGHT FOR FACE (สีเบจนู้ด)
อันนี้เป็นสวอชสีของครีมทั้ง 4 สี
ซึ่งครีมแต่ละสีก็มีคุณสมบัติ และลักษณะพิเศษที่แตกต่างกัน ดังนี้
1. JINNAI GUEM-SA-RANG ABC GREEN CREAM READY BRIGHT FOR FACE (สีเขียว)
เหมาะสำหรับผิวขาวเหลือง ช่วยให้ผิวหน้าดูสดใสอ่อนวัย ปกปิดรอยสิว ช่วยให้สีผิวที่ออกแดง รอยจ้ำแดงดูจางลง
2. JINNAI GUEM-SA-RANG ABC VIOLET CREAM READY BRIGHT FOR FACE (สีม่วง)
เหมาะสำหรับผิวขาวอมชมพู ช่วยปรับผิวให้ดูระเรื่อ สีผิวสม่ำขึ้นทันที แลดูมีสุขภาพดี
3. JINNAI GUEM-SA-RANG ABC PINK CREAM READY BRIGHT FOR FACE (สีชมพู)
เหมาะสำหรับทุกสภาพผิว ช่วยอำพรางจุดด่างดำ ความหมองคล้ำ ให้ผิวดูกระจ่างใสขึ้น อย่างเป็นธรรมชาติ แลดูมีสุขภาพผิวดี
4. JINNAI GUEM-SA-RANG ABC NUDE CREAM READY BRIGHT FOR FACE (สีเบจนู้ด)
เหมาะสำหรับผิวสองสี หรือผิวคล้ำ ช่วยให้สีผิวที่หมอง สว่างใสขึ้น แลดูเรียบเนียน
ต่อมาอินจะมาเทสเนื้อครีมของ JINNAI GUEM-SA-RANG ABC CREAM READY BRIGHT FOR FACE ให้ดูกันนะคะ
หลังจากที่บีบครีมออกมาจากซองสัมผัสแรกเลยคือรู้สึกว่าครีมตัวนี้เนื้อไม่ได้เหลวมาก แต่ดูน่าจะชุ่มชื้น เพราะว่ารู้สึกเย็นๆ พอลองใช้นิ้วเกลี่ยตัวครีม ยิ่งรู้สึกว่าเนื้อครีมชุ่มชื้นจริงๆ เพราะว่าตัวครีมมีน้ำออกมา หรือที่ทุกคนรู้จักกันในชื่อของครีมน้ำแตก ยิ่งเกลี่ยไปเรื่อยๆ ก็จะยิ่งมีน้ำออกมา (เกลี่ยสนุกมาก เพราะว่าเป็นเนื้อน้ำ) แต่พอเกลี่ยไปสักพักจนเนื้อครีมและน้ำแยกตัวออกจากกัน จะเกลี่ยยากขึ้นเพราะเนื้อครีมจะมีความแห้ง ทำให้เกลี่ยยาก
ข้อแนะนำ อินขอแนะนำนะคะว่าเวลาที่จะลงครีมตัวนี้ต้องบีบครีมออกมาทีละน้อยๆ ไม่ควรบีบออกมามากและแปะทิ้งไว้ เพราะเวลาเนื้อครีมแห้งจะเกลี่ยยากและแอบเป็นคราบ หรือหากบีบคือออกมาแล้วควรรีบเกลี่ยในขณะที่น้ำในตัวครีมยังไม่แยกตัวออกจากตัวครีมนะคะ จะทำให้เกลี่ยง่าย และได้ผิวที่ใสแบบสุขภาพดี
ต่อมาเรามาดูกันดีกว่าว่าเมื่อทาครีมแต่ละสีแล้วจะเป็นยังไงบ้าง
แต่ก่อนอื่นมาดูสภาพผิวหน้าสดของอินกันก่อนดีกว่าว่าก่อนจะลงครีมมีสภาพเป็นยังไงบ้าง
สภาพผิวหน้า สาวๆอย่าเพิ่งตกใจสภาพหน้าสดของอินกันนะ ซึ่งโดยพื้นฐานแล้วอินเป็นที่ผิวมันมาก มีรูขุมขนกว้าง สีผิวไม่สม่ำเสมอ มีสิวเสี้ยน และมีรอยดำจากสิวบ้างเป็นบางส่วนค่ะ
เรามาเริ่มกันเลยดีกว่าค่ะว่าอินทาสีไหนแล้วจะเป็นยังไงบ้าง จะรอดหรือเปล่าน๊าาา
เริ่มจากสีแรกกันเลยดีกว่า สีเขียว JINNAI GUEM-SA-RANG ABC GREEN CREAM READY BRIGHT FOR FACE สีนี้หลังซองเคลมมาว่าเหมาะสำหรับสาวๆผิวขาวเหลือง ช่วยให้ผิวหน้าดูสดใสอ่อนวัย ปกปิดรอยสิว ช่วยให้สีผิวที่ออกแดง รอยจ้ำแดงดูจางลง
หลังจากทดลองใช้ เนื้อครีมตัวนี้เป็นสีเขียวอ่อน หลังใช้ผิวดูสว่างขึ้น รอยดำ แดงเล็กๆตรงข้างแก้มดูจางลง ใบหน้าดูใสแบบสาวที่มีผิวดีค่ะ แต่สำหรับอินจะรู้สึกว่าสีเขียวจะขาวไปนิดสำหรับอิน เพราะว่าช่วงนี้ออกแดดบ่อย ทำให้ผิวคล้ำขึ้น แต่สำหรับสาวๆที่ใช้รองพื้นประมาณเบอร์02 น่าจะเหมาะกับสีนี้นะคะ
ต่อมาไปกันที่ สีม่วง JINNAI GUEM-SA-RANG ABC VIOLET CREAM READY BRIGHT FOR FACE กันดีกว่าค่ะ โดยสีนี้หลังซองเคลมมาว่าเหมาะสำหรับผิวขาวอมชมพู ช่วยปรับผิวให้ดูระเรื่อ สีผิวสม่ำขึ้นทันที แลดูมีสุขภาพดี
หลังจากทดลองใช้ สีนี้เนื้อครีมเป็นสีม่วงพาสเทจ ตัวนี้สำหรับผิวอินรู้สึกว่าจะขาวเกินไป ใช้แล้วรู้สึกว่าหน้าแอบลอย แต่ว่าไม่เทานะคะ แต่ใช้แล้วผิวหน้าก็สีสม่ำเสมอกันทั้งหน้านะคะ ตัวนี้น่าจะเหมาะกับสาวๆที่ใช้รองพื้นเบอร์01 มากกว่าค่ะ
ต่อมามาดูที่ สีชมพู JINNAI GUEM-SA-RANG ABC PINK CREAM READY BRIGHT FOR FACE กันต่อดีกว่าค่ะ โดยสีนี้หลังซองเคลมมาว่าเหมาะสำหรับทุกสภาพผิว ช่วยอำพรางจุดด่างดำ ความหมองคล้ำ ให้ผิวดูกระจ่างใสขึ้น อย่างเป็นธรรมชาติ แลดูมีสุขภาพผิวดี
หลังจากทดลองใช้ เนื้อครีมตัวนี้จะเป็นสีชมพูอ่อนๆ หลังใช้รู้สึกว่าสีผิวดูสม่ำเสมอขึ้น แอบรู้สึกว่าผิวดูอมชมพู ทำให้ดูสุขภาพดีประหนึ่งสาวเกาหลี และสีผิวก็ดูขาวขึ้นแต่ว่าไม่ขาวจนดูหลอก ดูลอย รอยสิว รอยดำก็ดูเนียน ดูจางลงค่ะ อินคิดว่าสีนี้เหมาะกับสาวๆที่อยากให้ผิวดูสุขภาพดี ขาวอมชมพู แนะนำเลยว่าถ้าไม่รู้จะเลือกสีอะไรดี สีนี้ถือเป็นตัวเลือกที่ดีเลยค่ะ
มาที่สีสุดท้ายอย่าง สีเบจนู้ด JINNAI GUEM-SA-RANG ABC NUDE CREAM READY BRIGHT FOR FACE กันดีกว่าค่ะ โดยสีนี้หลังซองเคลมมาว่าเหมาะสำหรับผิวสองสี หรือผิวคล้ำ ช่วยให้สีผิวที่หมอง สว่างใสขึ้น แลดูเรียบเนียน
หลังจากทดลองใช้ สีนี้เนื้อครีมมาในสีเนื้ออมเหลืองค่ะ ซึ่งหลังใช้รู้สึกว่าผิวดูกระจ่างใสขึ้นแบบสุขภาพดี และทำให้หน้าดูสว่างขึ้นค่ะ ซึ่งสีนี้ถือว่าเป็นสีที่เหมาะกับผิวของอินมากที่สุดแล้วค่ะ และอินรู้สึกว่าสีนี้เหมาะสำหรับสาวที่ผิวสองสี หรือผิวคล้ำตามที่เคลมมาจริงๆ แต่ถ้าคล้ำมากขอไม่แนะนำนะคะ เพราะมันจะดูขาวไปค่ะ
ในวันนี้นะคะอินก็มี How to แต่งหน้าง่ายๆ มาฝากเพื่อนๆกันค่ะ
ซึ่งจะมาในลุคที่จะเน้นเผยผิวให้ดูใส และจะไปจัดหนักหน่อยที่ดวงตาและริมฝีปาก เป็นที่สามารถแต่งออกงานต่างๆได้สบายเลย
How To......💋💋
1. ขั้นแรกอินก็จะลงสกินแคร์ที่ใช้เป็นประจำกันก่อน แล้วก็จะตามด้วยครีม3in1 ของ JINNAI GUEM-SA-RANG ABC CREAM READY BRIGHT FOR FACE ซึ่งสีที่อินใช้ในลุคนี้นะคะก็จะมี2สีด้วยกัน คือสีเบจนู้ด และสีม่วง โดยอินจะลงสีเบจนู้ดลงจนทั่วหน้า โดยอินแนะนำให้ใช้นิ้วในการลง เพราะทำให้เกลี่ยได้ง่ายและรวดเร็วกว่า โดยในการลงก็จะใช้การวอล์มเนื้อครีมก่อนเมื่อลงจนทั่วหน้า เพื่อความเนียนกริบก็อาจจะใช้ฟองน้ำกดๆลงไปบนผิวอีกครั้ง เพื่อความอยู่ทนของเนื้อครีมค่ะ ซึ่งหลังจากนั้นอินก็จะใช้ครีมสีม่วงในการลงบริเวณT-Zone และบริเวณที่ที่ต้องการให้ดูสว่างกว่าบริเวณอื่นค่ะ เพื่อทำให้หน้าดูมีมิติขึ้นค่ะ
2. หลังจากลงตัวครีมเสร็จแล้ว อินก็จะลงแป้งผสมรองพื้น เพื่อเซตตัวครีมไม่ให้ไหลเยิ้มระหว่างวัน ซึ่งออนจะใช้การลงด้วยแปรงและลงแบบกดเพื่อให้แป้งติดทนมากยิ่งขึ้น **แต่สำหรับใครที่อยากได้ผิวที่ปกปิดมากขึ้นก็อาจจะลงรองพื้นหรือคุชชั่นก่อน แล้วค่อยลงแป้งฝุ่นตามลงไปก็ได้ค่ะ**
3. หลังจากเสร็จในส่วนของผิวก็มาในส่วนของการแต่งแต้มสีกันดีกว่าค่ะ โดยอินจะเริ่มจากการเขียนคิ้ว ซึ่งการเขียนคิ้วเป็นอันดับแรกจะทำให้เราแต่งหน้าได้ง่ายขึ้น ซึ่งอินจะเขียนโครงคิ้วขึ้นมาก่อน หลังจากนั่นจึงค่อยระบายสีลงไปซึ่งแนะนำให้ลงสีบริเวณหางคิ้วแล้วใช้แปรงเกลี่ยไล่สีลงมาเพื่อให้คิ้วดูมีมิติ
4. หลังจากนั้นอินก็จะมาในส่วนของตากัน โดยในลุคนี้อินจะใช้อายแชโดว์ทั้งหมด4สีด้วยกัน ได้แก่สีดำ สีนำ้ตาลเข้ม สีน้ำตาลส้ม และสีขาวมุกค่ะ โดยออนจะเลือกลงสีน้ำตาลเข้มเพื่อคัดเบ้าตาทั้งสองข้างก่อน เพื่อให้ดวงตาดูคมโต หลังจากนั้นก็จะลงสีดำที่รอยพับตาตรงที่คัดเบ้าไว้ และไล้ลงมาถึงขอบตาล่างค่ะ หลังจากนั้นก็จะลงสีน้ำตาลส้มบินเวณกลางตา และลงสีขาวมุกบริเวณหัวตาบนและหัวตาล่าง เพื่อให้ดวงตาดูสว่าง และสดใสขึ้นค่ะ หลังจากนั้นก็จะทำการเบลนด์ก็เป็นอันเสร็จค่ะ
5. หลังจากลงอายแชโดว์เสร็จออนก็จะกรีดอายไลเนอร์ โดยกรีดแบบเส้นเล็ก ให้ชิดขอบตา และตวัดหางเล็กน้อยค่ะ
6. หลังจากนั้นก็จะทำกาาสร้างกันสาด เฮ้ย สร้างความคมโต ฟรุ้งฟริ๊งให้กับดวงตาด้วยการสร้างขนตา โดยจะเริ่มจากการดัดขนตา ซึ่งแนะนำให้ดัดให้งอนจนกว่าจะพอใจก่อน แล้วค่อยปัดมาสคาร่า
7. เมื่อดัดขนตางอนจนพอใจแล้ว ก็ทำการปัดมาสคาร่า ทั้งขนตาบนและขนตาล่าง ให้ยาว งอน โตไปเลย แต่หากใครที่มีขนตาน้อย หรืออยากให้โตมากขึ้นก็อาจจะติดขนตาลงไปซ้ำได้นะคะ
8. เมื่อเราได้ดวงตาที่สวยแล้ว เราก็จะมาทำการปัดแก้ม ซึ่งในลุคนี้ออนจะไม่ปัดแก้มให้ดูมากจนเกินไป จึงเลือกใช้สีส้มบ่มแดด โดยจะปัดตามโหนกแก้ม เพื่อให้ดูเป็นธรรมชาติมากขึ้น
9. แล้วก็มาที่ส่วนสุดท้าย คือส่วนของริมฝีปาก ซึ่งอินจะทาลิปมัน ลงไปก่อนเพื่อให้ความชุ่มชื่นกับริมฝีปาก
10. หลังจากลงลิปมันแล้ว ก็ลงสีลิปสติกลงไป โดยในลุคนี้อินเลือกใช้สีชมพูสดใสค่ะ แค่นี้ก็เป็นอันเสร็จแล้ว
...Finish Look...
ซึ่งลุคนี้จะเป็นลุคที่สามารถแต่งไปงานต่างๆได้อย่างง่ายๆเลยค่ะ
หลังจากแต่งหน้าผ่านไปประมาณ10ชั่วโมง ซึ่งอย่างที่บอกว่าอินเป็นคนที่หน้ามันมาก อันนี้คือผ่านการซับมันแล้วหนึ่งรอบ ซึ่งจะสังเกตเห็นว่าเครื่องสำอางบนใบหน้ามีการเลือนลางไปพอสมควร ใบหน้าก็หมองขึ้น ส่วนครีมที่ลงไปบริเวณ T-Zoneที่ลงไปคือลบเลือนหายไปเกือบหมด ส่วนบริเวณก็มีการลบเลือนแต่ก็ยังหลงเหลืออยู่บางและบริเวณร่องจมูก รอยพับตาก็มีการเป็บคราบเล็กน้อยค่ะ ดังนั้นอินคิดว่าสำหรับสาวๆที่หน้ามันแบบอิน ก่อนจะลงครีมตัวนี้แนะนำให้ลงไพร์เมอร์ก่อนจะดีกว่า แต่สำหรับสาวผิวแห้ง ผิวปกติ หรือผิวผสม ครีมตัวนี้น่าจะรอดอยู่ค่ะ
สรุปหลังการใช้
1. ในส่วนการเป็น Foundation รู้สึกชอบตรงที่เนื้อครีมเกลี่ยง่าย ให้ความชุ่มชื่นกับผิว ปกปิดพอใช้ ช่วยให้ผิวดูสว่างกระจ่างใสขึ้นอย่างเป็นธรรมชาติ แลดูสุขภาพดี ซึ่งถือว่าโอเคเมื่อเทียบกับราคา
2. ในส่วนของการเป็น Base ที่ช่วยปกปิดรอยสิว รอยดำ สำหรับรอยที่ไม่เข้มมากถือว่าทำให้จางลงได้ในระดับหนึ่ง แต่สำหรับรอยที่เข้มๆอาจจะต้องใช้ Base ในการช่วยอีกที และไม่เหมาะสำหรับสาวๆที่มีสิวบนใบหน้าเยอะ เพราะว่าไม่ปกปิดมากเท่าที่ควร
3. ในส่วนของการเป็น Primer ในส่วนตัวอินรู้สึกว่ายังไม่ผ่าน เพราะอย่างที่บอกไปว่าอินเป็นคนที่หน้ามันมากๆ ดังนั้นสำหรับสาวๆผิวมันคงจะต้องใช้ Primer แยกในการช่วยเรื่องความคุมมัน และความติดทนของเครื่องสำอาง แต่สำหรับสาวๆผิวแห้ง ผิวปกติ และผิวผสมตัวนี้น่าจะรอดอยู่ค่ะ
4. สามารถทำความสะอาดออกได้ง่ายด้วยคลีนซิ่ง ซึ่งอินคิดว่าตัวนี้เหมาะสำหรับสาวผิวแห้ง ผิวปกติมากกว่า เหมาะสำหรับสาวๆที่ไม่ต้องการที่จะแต่งหน้าอะไรมากมายค่ะ
ราคากล่องละ 174 บาท ในหนึ่งกล่องบรรจุ 10 ซอง ปริมาตรซองละ 5 กรัม
ซึ่งสาวๆสามารถหาซื้อได้ที่
- //www.thebeautylover.com
- BEAUTY Shopping Online ชั้นนำ และร้านค้าตัวแทนจำหน่ายบีลอฟทั่วประเทศ
ขอขอบคุณทาง BELOV และทาง Revu ค่ะ
