ตอนที่ หนึ่ง

จุดเริ่มต้นของ...เลย..เถิด

เลย เถิดจนถึง เชียงคาน

ทริปนี้ เป็นการท่องเที่ยวที่...เลย...เถิดจริงๆ ครับพี่น้องเพราะมันเป็นอะไรที่เล้ยยย...เลยเถิด ตะเลิดเปิดเปิง

ตั้งแต่ความคิดที่จะออกเดินทางแล้วละครับ ซึ่งแม้ตัวผมเองก็ไม่รู้เหมือนกันจนถึง ณ ตอนนี้ว่าเป็นเพราะอะไรที่มาดลจิตดลใจให้ผมต้องออกเดินทางแบบนี้ 

สงสัยอาจจะเป็นเพราะเจ้าที่แรงหรือเปล่า ที่ท่านคงมาดลจิตดลใจให้ตัวผมต้องออกเดินทาง ทั้งๆ ที่ความเป็นจริงผมก็ได้วางแผนแล้วว่าสุดสัปดาห์นี้จะทำอะไรบ้าง ไม่ว่าจะเป็นการนอนเก็บชั่วโมงให้ได้มากที่สุดในโลกเผื่อจะได้ลงหนังสือกินเนสบุ๊ค (ไม่รู้ว่าเขียนถูกหรือเปล่า) กับเขาบ้าง

สุดสัปดาห์นี้อยู่เชียงรายไม่ได้แล้ว...

ผมพูดกับตัวเองพร้อมกับผมนึกในใจด้วยดวงตาเปล่งประกายแสดงถึงความแน่วแน่ มุ่งมั่น และเด็ดเดี่ยวว่าให้ตายยังไงก็ต้องเดินทางลงทางทิศใต้ให้ได้ตามที่พ่อหมอได้เคยบอกไว้ (จริงๆ แล้วก็ไม่ใช่พ่อหมอที่ไหนหรอกครับ ก็เชียงรายมันเหนือสุดอยู่แล้ว...ถ้าขึ้นไปต่อทางเหนืออีก ก็คงต้องทะลุประเทศไทย)

ผมเริ่มออกเดินทางการท่องเที่ยวแบบ “เลย”เถิดอันนี้

ในตอนบ่ายวันศุกร์ ของเดือนกุมภาพันธ์ 2556

อันเป็นเดือนแห่งความรักของหนุ่มสาวที่กำลังมีความรักและเดือนสำคัญในทางพระพุทธศาสนาของคนอีกหลายๆ คนหรือโดยเฉพาะกับคนที่กำลังปลงทางโลกอย่างผม 

นั่นก็คือ เดือนที่มี “วันมาฆบูชา” ตอนที่ผมจะออกเดินทาง ผมบอกตามตรงเลยว่าในหัวสมองอันน้อยนิดของผมอันนี้ยังไม่ได้คิดเลยเสียด้วยซ้ำว่าจะไปยังที่ใดเดินทางด้วยเส้นทางไหนเลยเสียด้วยซ้ำแต่เอาเป็นว่าผมก็ออกเดินทางเป็นที่เรียบร้อยแล้วละ

พะเยาก็ขับผ่านมาแล้ว ข้างหน้าก็จะเป็นลำปาง ผมต้องรีบเตือนสติตัวเองด้วยคำถามสำคัญที่ผมเองก็ยังไม่ได้คำตอบเสียทีว่่า “ผมต้องการจะไปที่ไหน...?” แต่สุดท้าย...ท้ายสุด ผีผลไม้ (ผลัก) ให้มือของผมนั้นจัดการหมุนพวงมาลัยให้เลี้ยวซ้ายออกเดินทางมุ่งหน้าไปยัง จังหวัดแพร่ ที่อำเภองาว จังหวัดลำปาง พร้อมกับบอกตัวเองว่า วันนี้ คืนนี้เป้าหมายหรือจุดหมายปลายทางก็คือ "ภูทับเบิก" จังหวัดเพชรบูรณ์ พร้อมกับตะเบะท่าทหารหรือตำรวจด้วยสีหน้าอันมุ่งมั่น (อันนี้ขอยืมมาจากพี่ติ๊ก ในรายการเนวิเกเตอร์) 

ผมขับรถยนต์ผ่านจังหวัดลำปาง เข้าสู่จังหวัดแพร่ แล้วก็มุ่งหน้าเดินทางต่อไปเรื่อยๆ จนมาถึงจังหวัดอุตรดิตถ์โดยไม่ได้หยุดพักเลย เพราะต้องการจะใช้เวลาในการเดินทางน้อยที่สุด

ก่อนที่จะเข้าสู่เขตจังหวัดพิษณุโลก ผีผลัก...อีกแล้วครับ โดยครั้งนี้ผียังคงผลักให้มือของผมหักพวงมาลัยรถยนต์ของผมให้เลี้ยวซ้ายอีกครั้งหนึ่ง เพื่อเข้าสู่เส้นทางลัดเพื่อมุ่งหน้าไปยัง อำเภอชาติตระการ และอำเภอนครไทย จังหวัดพิษณุโลก ที่ทางแยกเข้าอำเภอทองแสนขัน จังหวัดอิต ตระ รา ดุ๊ต...อุตรดิตถ์ ที่ผมสามารถใช้เป็นเส้นทางผ่านไปยัง ภูทับเบิก จุดหมายปลายทางของผมในวันนี้และคืนนี้ได้

ขณะนี้เวลา 18.40 น. ตามที่นาฬิกาบอก เป็นไงครับผมเชื่ออะไรๆ ง่ายดีไหมและระหว่างที่ผมกำลังขับรถยนต์อยู่นั้นผมก็ได้กวาดสายตาไปรอบๆ เพื่อที่ต้องการจะรู้ว่าตอนนี้ผมขับรถยนต์อยู่ที่ส่วนไหนของเมืองไทยแล้ว จนเมื่อผมขับรถยนต์มาถึงด่านตรวจแห่งหนึ่ง ผมรู้้ทันทีได้เลยว่า ตอนนี้ผมกำลังอยู่ที่ "อุทยานแห่งชาติภูหินร่องกล้า" อำเภอนครไทย จังหวัดพิษณุโลก และเมื่อผมจ่ายชำระค่าธรรมเนียมค่าเข้าเขตอุทยานแห่งชาติแห่งชาติที่ด่านตรวจถ่ายรูปนิ๊ดหน่อยแล้ว ผมก็จัดแจงรีบขึ้นรถยนต์ แล้วจัดการขับรถยนต์ขึ้นภูเขาตามทางที่คดเคี้ยวไปมาได้ระยะทางซักประมาณ 5 กิโลเมตร

ผมก็เดินทางมาถึงยัง ณ ที่ทำการของอุทยานฯ 

และร้านค้าสวัสดิการของอุทยานฯ ด้วยการเดินทางที่ไม่ได้หยุดพักเลยตั้งแต่บ่าย และตอนนี้พระอาทิตย์ก็ได้ลับขอบฟ้าไปแล้วด้วย ผมจึงตัดสินใจที่จะแวะหยุดพักการเดินทางอันเลยเถิดนี้ไว้ซักพักที่ร้านค้าสวัสดิการอุทยานฯ ไม่ใช่ว่าผมต้องการที่จะแวะเที่ยวชมลานหินปุ่ม ถ่ายรูปที่ลานหินแตกหรือนั่งฟินเก็บบรรยากาศของผาชูธงที่มีความสวยงามทางธรรมชาติอันเกิดจากการเปลี่ยนแปลงของภูมิประเทศทางธรณีวิทยา หรือใช่ว่า ณ เวลานี้ที่นี่มีกิจกรรมอะไรที่พิเศษหรอกนะครับ แต่ที่ผมต้องหยุดการเดินทางไว้ชั่วครู่ก็เพราะว่า "ผมหิวข้าวคร้าบบบ...พี่น้อง” เพราะผมเองยังไม่ได้กินอะไรเลยตั้งแต่ออกเดินทาง ดังนั้นผมขอพักทานข้าวเย็นซักครู่นะครับ ก่อนที่เวลามันจะล่วงเลย เลยเถิดเกินกว่าที่จะเรียกว่าอาหารมื้อเย็น

แต่...ก่อนที่ผมจะขอตัวไปจัดการกับข้าวมื้อเย็น ผมซึ่งในฐานะที่ผมเคยเป็นนักท่องเที่ยวผู้หนึ่งที่เคยมาเยี่ยมเยียนสถานที่แห่งนี้ ผมขอแนะนำเลยว่าไม่ควรพลาดที่จะมาเที่ยวพักผ่อนหรือเยี่ยมชมก็ดี โดยเฉพาะในช่วงปลายฝนต้นหนาว เพราะนอกจากความเย็นสบายของอากาศที่นี่แล้ว นักท่องเที่ยวยังจะสามารถเห็นดอกไม้ป่าสีสันสวยงามมากมายเต็มลานหินและทางเดินได้อีกด้วย

Create Date : 08 พฤษภาคม 2556
Last Update : 8 พฤษภาคม 2556 1:03:23 น.		0 comments
Counter : 619 Pageviews.
Share Tweet