ป่าหน้าฝน...มนต์เสน่ห์เชียงราย
ภาพ: นมชมพู / เรื่อง: นมชมพู
ป่าหน้าฝน มนต์เสน่ห์เชียงราย
หน้าฝนแบบนี้... ไม่มีอะไรให้เที่ยวหรอก...ป้าแจ่ม แม่บ้านประจำอพาร์ตเมนท์
บนสะพานคอนกรีตที่พาดตัวเหนือธารน้ำในวันสุดแสนจะธรรมดาของช่วงฤดูฝนบ้านเรา ผมยืนปลดปล่อยอารมณ์และความคิดไปกับคำพูดที่มักจะได้ยินเสมอๆ เวลาที่อยากจะออกเที่ยวในช่วงฤดูฝน และวันนี้เองก็จะเป็นวันที่ผมจะได้มีโอกาสพิสูจน์ให้เห็นว่าคำพูดของป้าแจ่ม ไม่สามารถใช้ได้กับเมืองไทยเสมอไป
จากทางแยกเข้าวัดร่องขุ่น จังหวัดเชียงราย ผมเดินทางต่อไปอีกราว 19 กิโลเมตร ตามทางหลวงแผ่นดิน 1208 เรื่อยไปจนสุดสาย ซึ่งใช้เวลาไม่นานผมก็มาถึงยัง ณ ที่ทำการหน่วยพิทักษ์อุทยานแห่งชาติลำน้ำกกที่ 1 (น้ำตกขุนกรณ์) ที่เมื่อเปิดประตูรถยนต์ออกมาก็สามารถสัมผัสถึงความเย็นสดชื่นบริสุทธิ์จากผืนป่าเขียวขจีของฤดูฝน ที่ใครหลายๆ คนมักจะคิดว่าการมาเที่ยวป่าหน้าฝนคงเป็นอะไรที่น่าเบื่อ ไม่ต่างอะไรกับการนั่งหลบฝนอยู่ในบ้านอย่างไงอย่างนั้น
ห่างออกไปไม่ไกลจากตรงที่ผมยืนอยู่ คือ ทางเดินเพื่อขึ้นสู่ตัว น้ำตกขุนกรณ์ หรือที่ชาวบ้านแถวนี้เรียกว่า น้ำตกตาดหมอก ที่จะต้องใช้การเดินเท้าด้วยระยะทางประมาณ 1.4 กิโลเมตร
ด้วยเหตุที่ น้ำตกขุนกรณ์ ตั้งอยู่บนเทือกเขาดอยช้างที่มีสภาพพื้นที่เป็นภูเขาสลับซับซ้อนที่มีความสูงจากระดับน้ำทะเลปานกลาง 700-1500 เมตร ดังนั้นตลอดทางเดินเข้าชมน้ำตก จะสามารถพบเห็นพันธุ์ไม้ต่างๆ ขึ้นให้เห็นอยู่มากมาย ไม่ว่าจะเป็นต้นไม้ขนาดใหญ่ ไม้คลุมดิน กล้วยไม้ และเฟิร์น
เกือบตลอดระยะทาง ผู้มาเยือนสามารถรู้สึกได้ราวกับเดินลอดซุ้มไผ่ลำโต ที่มีความสูงชนิดที่เรียกได้ว่าถ้าได้แหงนคอมอง จะต้องมีอาการปวดคอได้เลยทีเดียว ด้วยเพราะต้นไผ่แต่ละต้นต่างแข่งกันแทงยอดจากผิวดินพุ่งขึ้นสูงเพื่อที่จะรับแสงแดด ถึงแม้นว่าครั้งนี้ผมจะมาที่นี่คนเดียว แต่การเดินป่าครั้งนี้ผมไม่ได้รู้สึกเบื่อหรือเหงาเลย เพราะตลอดเส้นทางจะได้ยินเสียงนกนานาชนิดแย่งกันร้องส่งเสียง รวมถึงแมลงต่างๆ ก็ทำหน้าที่คอรัสประสานเสียงช่วยเสริม ให้แขกผู้มาเยือนรู้สึกได้แนบชิดธรรมชาติอย่างกลมกลืนและเป็นกันเอง จนเกิดความรู้สึกว่าธรรมชาติได้สรรค์สร้างกระบวนการเหล่านี้ให้ออกมาอย่างสมดุลและง่ายดาย แต่อาจจะเป็นเพราะมนุษย์เราห่างไกลธรรมชาติเองต่างหาก จึงกลับทำให้ความรู้สึกเหล่านี้กลายเป็นเรื่องซับซ้อนและยากที่จะเข้าใจ
เมื่อเดินต่อไปตามทางได้ซักระยะ จากธารน้ำที่ไหลแนบขนานในระดับเดียวกับทางเดิน ก็เริ่มต่างระดับมากขึ้นเรื่อยๆ จนกลายเป็นหุบผาลึกทามกลางแมกไม้เขียวขจี จนได้ยินก็แต่เพียงเสียงน้ำไหลกระทบโขดหินน้อยใหญ่อยู่เบื้องล่าง เดินฟังเสียงต่างๆไป แวะชม ถ่ายรูปผีเสื้อไป หยุดดู ตาน้ำ จุดเริ่มต้นของสายธาร กล้วยไม้หายากและพันธุ์ไม้แปลกตาตามรอยต่อป่า ไม่นานผมก็มาถึงยัง น้ำตกขุนกรณ์ และภาพที่อยู่ตรงหน้าผมตอนนี้ คือ ภาพของน้ำตกที่ยิ่งใหญ่ อลังการสมกับคำว่า น้ำตกที่สวยที่สุดและสูงที่สุดของจังหวัดเชียงรายจริงๆ
ด้วยความอุดมสมบูรณ์ของป่าไม้ในเทือกเขาแห่งนี้ จึงทำให้มีปริมาณน้ำมากไหลตกลงจากหน้าผาที่สูงถาโถมลงมาปะทะโขดหินและพื้นน้ำที่อยู่เบื้องล่าง จนเกิดเป็นละอองน้ำเล็กๆ สีขาวฟุ้งตลบไปทั่วบริเวณ ทำให้ถึงบางอ้อว่า ทำไมน้ำตกแห่งนี้ถึงมีชื่อเรียกว่า นำ้ตกตาดหมอก เพราะด้วยละอองน้ำที่มีจำนวนมากนี้เอง จึงทำให้ผมเก็บกล้องคู่ใจแทบไม่ทัน ทั้งๆ ที่ยังต้องใช้เวลาอีกไม่ต่ำกว่า 5 นาที กว่าจะถึงตัวน้ำตก แต่เมื่อไหนๆ ก็มาถึงแล้ว ผมจึงต้องมองหาที่หลบมุมตามหลังต้นไม้ใหญ่เพื่อจะเก็บภาพความสวยงามและความอัศจรรย์ของธรรมชาติ ที่ก็สำคัญคือ เพื่อไม่ให้ตัวผมเองเปียกมากไปกว่านี้
สำหรับผมแล้วมันเป็นความประทับใจที่มาพร้อมกับความสุขสดชื่น คุ้มค่ากับการที่ได้มาเยือน แต่ก็แอบที่จะอดเสียดายแทนคนไทยอีกหลายๆ คนไม่ได้ ที่ยังไม่เปิดใจใหม่ให้กับการท่องเที่ยวสถานที่อันสวยงามของบ้านเราเอง กลับมีแต่อาคันตุกะจากต่างแดนเท่านั้นที่เลือกจะบินข้ามน้ำข้ามทะเลจากแดนไกล เพื่อมาเที่ยวชมความสวยงามทางธรรมชาติในบ้านเรา จะได้ก็เพียงแต่ภาพถ่ายและประสบการณ์กลับไปยังประเทศบ้านเกิดเท่านั้น แต่ในขณะที่คนไทยเรา โชคดีที่มีธรรมชาติที่สวยงามแบบนี้ พร้อมจะรอต้อนรับให้เราได้ไปเที่ยวได้ตลอดทั้งปี
.....................................................
Create Date : 12 กรกฎาคม 2556 |
|
1 comments |
Last Update : 12 กรกฎาคม 2556 16:49:34 น. |
Counter : 2718 Pageviews. |
|
|
|