.........................................................................................
เปียกปูน ลอนตาลและผม นั่งรถขนหมูมาตามทางหลวงหมายเลข 12
ทางหลวงที่ได้ถูกกำหนดชะตาชีวิตไว้แล้วว่าจะเป็นถนนสายสำคัญทางเศรษฐกิจในอนาคตที่จะเชื่อมประเทศทางซีกตะวันออกของอาเซียนนั่นคือประเทศเวียดนามกับประเทศพม่าที่อยู่ทางซีกตะวันตกของอาเซียนเข้าด้วยกัน จนมันถูกขนานนามว่า East - West Economic Corridor เรียกได้ว่าผมและเด็กๆ สามารถใช้ถนนเส้นนี้เป็นการเดินทางไปเวียดนามหรือพม่าก็ได้
เราใช้เวลาเดินทางเพียง 20 นาที ก็มาถึงยัง เมืองเก่า
เรียกว่าค่อนข้างสะดวกสบายมาก เพราะรถราที่วิ่งอยู่บนท้องถนนไม่วุ่นวายเลย และพอเมื่อมาถึงเมืองเก่า รถขนหมูก็ปล่อยพวกเราที่ตรงด้านหน้าอุทยานฯ พอดิบพอดี
ดังนั้นผมและเด็กๆ จึงไม่จำเป็นต้องเดินไกลมากยิ่งในวันที่อากาศร้อนแบบนี้
เมื่อลงรถขนหมูเสร็จพวกเราก็เริ่มการสำรวจด้านหน้าทางเข้าว่ามีอะไรน่าสนใจบ้าง เมื่อเปรียบเทียบกับสมัยก่อนเมื่อตอนผมเด็กๆ หรือแม้นกระทั้งเมื่อสองสามปีที่ผ่านมานี่เอง ทีนี่ดูแปลกตาไปมาก
ไม่ว่าจะเป็นเพื่อนใหม่ที่ชื่อ สกายแลปป์ ยานพาหนะผู้ให้บริการต่างถิ่นที่ย้ายถิ่นฐานสำเนาทะเบียนบ้านจากบ้านเกิดเมืองในดินแดนที่ราบสูง
มาทำมาหากินถึงที่โขทัย
หรือแม้นแต่การเที่ยวชมเมืองเก่า เดี๋ยวนี้ที่จะดูเชยหรือไม่อินเทรนด์ไปทันทีหากขับรถยนต์ส่วนตัวเข้ามาเที่ยวชมในเมืองเก่าเหมือนแต่ก่อน เพราะจะสังเกตุเห็นได้ว่าการปั่นจักรยานดูจะเป็นที่นิยมของเหล่าผู้มาเยือนเป็นอันมากในการเที่ยวชมสถานที่ต่างๆ ซึ่งเห็นได้จากจำนวนร้านให้เช่าจักรยาน หรือแม้นแต่จำนวนจักรยานที่นักท่องเที่ยวปั่นผ่านไปผ่านมาตรงที่ที่เรายืนอยู่ ที่มีอยู่มาก เยอะแยะ หรือภาษาโขทัยเราจะพูดว่า จิงจัง ในช่วงเวลาแบบนี้
Audio tour หรือ เครื่องบรรยายข้อมูลอุทยานฯ ก็ดูจะเป็นเทคโนโลยีชิ้นใหม่ที่เข้ามาช่วยเพิ่มเติมการท่องเที่ยวเมืองเก่าแห่งนี้ให้ดูมีสีสันมากขึ้น ไม่เฉพาะแต่ภาษาอังกฤษเท่านั้นที่มีไว้ให้บริการ บรรยายภาษาไทยก็มีไว้ให้บริการเช่นกัน
เรียกว่าไม่ทำให้คนไทยอย่างผมน้อยใจเลยว่าบริการแต่ชาวต่างชาติ
นอกจากนี้การเข้าชมโบราณสถานแห่งนี้ ไม่ว่าคุณจะเป็นคนท้องที่ คนไทย หรือชาวต่างชาติก็ดี เดี๋ยวนี้จะต้องเสียค่าธรรมเนียมในการเข้าชมตามที่ทางราชการกำหนด ในขณะที่สมัยก่อนคนท้องที่จะได้รับการยกเว้น
เว้นแต่มีอยู่สิ่งหนึ่งที่ยังคงเหมือนเดิม และยังดูเหมือนว่าจะยังเป็นเอกลักษณ์สำหรับการท่องเที่ยวของที่นี่ ที่ใครก็ตามที่มาเยี่ยมชม จะอดใจไม่ใช้บริการไม่ได้ นั่นก็คือ รถรางเที่ยวชมอุทยานฯ ที่จะมีวิทยากรสาวตัวเล็กๆ คอยบรรยายข้อมูลของสถานที่ต่างๆ ของโบราณสถานในเขตตัวเมืองชั้นในให้เราได้รับทราบถึงประวัติบนรถรางด้วย และที่สำคัญค่าบริการก็ถูกมาก เพียงท่านละยี่สิบบาทเท่านั้นเอง
เพื่อไม่ให้เป็นการเสียเวลา
ผมไม่รอช้าที่จะรีบเดินไปจ่ายค่าเข้าชมเขตโบราณสถาน
แต่แล้วพี่เจ้าหน้าที่ต้องมีอันต้องตกใจ ไม่ใช่ว่าเพราะหน้าตาของผม
เจ้าม๋าน้อยสองตัวของผมไปก่อเรื่องชกต่อย หรือ ปล่อยของเสียแต่อย่างใดนะครับ
แต่เพราะพี่เปียกปูน และน้องลอนตาลดันยินดีทีจะจ่ายค่าธรรมเนียมเยี่ยมชม ในอัตราผู้ใหญ่คนละ 20 บาทเท่ากับผม เพราะต้องการจะมีส่วนร่วมในการบำรุงรักษาและดูแลโบราณสถานเหล่านี้
แค่นั้นยังไม่พอครับ ม๋าน้อยสองตัวของผมดันอยากเอาใจพี่คนขับรถรางและพี่ผู้บรรยายด้วยการอารมณ์ป๋าจ่ายค่ารถรางอีกคนละ 20 บาท อัตราเดียวกับผมเล้ย เรียกว่างานนี้ได้ใจพี่ๆ เจ้าหน้าที่ทั้งสาวน้อยสาวใหญ่และผมไปตามๆ กัน
จ่ายตังค์เสร็จ ทักทายกับพี่เจ้าหน้าเรียบร้อย เราสามชีวิตมองหน้ากันแล้วคะแนนก็เป็นเอกฉันท์ครับ ว่าพวกเราตกลงจะนั่งรถรางเที่ยวชมแล้วแวะถ่ายรูปเป็นจุดๆ ตามสถานที่สำคัญๆ ในอุทยานฯแห่งนี้
และก่อนที่รถรางหน้าตาโบร้าน โบราณ แต่ดูไม่เชยคันนี้จะพาเราเที่ยวชม เปียกปูนกับลอนตาลขออาสาเป็นนายแบบรถรางมายั่วใจเล่นๆ แล้วเราลองมาดูกันซิว่า ม๋าน้อยสองตัวนี้ จะเซ็กซี่ แบบ pretty หรือจะมาดแมนขนาดไหน เผื่อใครมาเที่ยวที่นี่จะได้ถ่ายรูปมาแบ่งให้ดูกันบ้าง
นมชมพู