1วัน3จังหวัด...ถ้ำผาไท น้ำพุร้อนแจ้ซ้อน ลอยโคม ณ ธุดงคสถานล้านนา
Nov 8, 2008 เราเดินทางล่วงหน้ามาเชียงใหม่ 1 คืนก่อนหน้านั้นแล้วก็พักบ้านพี่แจ๊ค(พี่ใจดีของพวกเรา นอกจากขับรถพาพวกเราเที่ยวแล้ว) พอราวๆตี5 เราก็ออกไปรับเพื่อนๆจาก กทม. ที่มาถึงขนส่งอาเขตด้วยรุ่งประเสริฐ์ทัวร์ เห็นบ่นนอนไม่ค่อยหลับเพราะเหม็นฉี่กัน
เพื่อนจาก ตจว. ก็ทยอยกันมานัดพบและอาบน้ำอาบท่ากัน
อาหารเช้า อภินันทนาการโดย พี่แจ๊คและครอบครัว
เช้านี้เรามาแวะที่นี่ก่อนค่ะ วัดพระธาตุหริภุญชัยวรมหาวิหาร จ.ลำพูน
ไม่รู้เป็นไงนะปีนี้ มา2พระธาตุ ก็อยู่ในระหว่างบูรณะทั้งคู่ เพราะก่อนหน้า2สัปดาห์ เพิ่งไปพระธาตุดอยสุเทพ มาเหมือนกัน
เพื่อความเป็นสิริมงคล พวกเราก็มานมัสการพระธาตุหริภุญชัย เอาฤกษ์เอาชัยสำหรับทริปใหญ่แห่งปี
อันนี้ตอนแรกก็เถียงๆกันอยู่ ว่าต้องวนฝั่งไหน ซ้ายหรือขวากันแน่ สรุป พวกเราก็วนขวา
เสร็จแล้วเดินชมรอบๆ ไปพบกับต้นสาละ ไม่เคยเห็นกัน แวะดูหน่อย
อันนี้เหมือนหออะไรสักอย่าง มีฆ้องใหญ่ๆด้วย
แล้วพวกเราก็อำลา จ.ลำพูน เพื่อมุ่งหน้าไปยังจุดหมายต่อไป
ระหว่างทางเพื่อนๆก็หิวเร็วซะเหลือเกินเลยต้องแวะทานอาหารกลางวันที่ ร้านข้าวซอยโอมา...เป็นข้าวซอย อิสลาม อร่อยใช้ได้ นอกจากนี้หมูสะเต๊ะและขนมปังหน้าหมูก็ไม่ควรพลาดจ้ะ
มุ่งหน้าสู่ อช.ถ้ำผาไท จ.ลำปาง ที่นี่ไม่เสียค่าธรรมเนียมเข้าอุทยานนะคะ เข้ามาแล้วเป็นอุทยานที่เงียบเหงาจัง แต่ก็ดูร่มรื่นย์มาก น่ากางเต้นท์นอน เจ้าหน้าที่บอกว่า ช่วงเทศกาลก็มีนักท่องเที่ยวมาพักเยอะอยู่เหมือนกัน
เจ้าหน้าที่ กุลีกุจอมาต้อนรับพวกเราอย่างดี แนะนำที่เที่ยวและอาสานำเที่ยวถ้ำ โดยไม่มีค่าใช้จ่ายนะคะ ประทับใจมาก แต่พอเที่ยวถ้ำเสร็จเราเองก็ให้ทิปเป็นสินน้ำใจเล็กๆน้อยๆนะค่ะ ภาพนี้คือจุดเริ่มต้นของการเดินไปเที่ยวถ้ำผาไทกันนะจ๊ะ ระยะทางเดินขึ้นบันไดไปประมาณ 280 กว่าขั้น
เดินขึ้นไปสักพักมองลงมาก็สูงแฮะ
ระหว่างทาง
สงสัยเราจะแก่ไปแล้วมั๊งเนี่ย มาได้ครึ่งทางก็หอบแห่กๆ
ระหว่างนั้นคุณเพื่อนไปถึงปากถ้ำกันแล้ว
ไชโย...มาถึงปากถ้ำเสียที
บริเวณปากถ้ำค่ะ
มีพระพุทธรูปด้วยค่ะ ระหว่างนี้เจ้าหน้าที่ก็บรรยายประวัติของถ้ำผาไท ได้ความรู้ด้วย
ถ้ำผาไท เกิดจากภูเขาหินปูน มีความลึกจากบริเวณปากถ้ำเข้าไปประมาณ 405 เมตร มีหินงอกและหินย้อยที่สวยงามอยู่ตลอดเส้นทางเดิน มีถ้ำเล็กถ้ำน้อยอีกมากมาย ภาพนี้เรียกว่า"ไข่ดาว" เป็นจุดที่มีน้ำหยดลงมาจะกลายเป็นหินงอกอีกที แต่ละถ้ำก็มีความสวยงามแตกต่างกันออกไป ถ้ำเหล่านี้และหินงอกหินย้อยได้รับการขนานนามต่าง ๆ กัน คือ สร้อยอโนดาษ ชาละวันบรรทมคูหา หย่อนอารมณ์ รโหฐานชาติรังษี นิวาสจอมโจร เสนาอาสน์ บังลังก์โจร คูหาสวาท เชลยกำศรวล เทพีไสยาสน์ จรมรรคา เอราวัณ มณีโชติเดียวดาย อเวจี โรจนา ไตรรังษี ประกายเพชร รัตวิไล คอยหาย วิมานหินย้อย ลานลีลาศ ผาพิฆาต ม่านศิลา ถ้ำเสือเกล็ดแก้ว โดดเดียว ผาเสด็จ ฉัตรศิลา สร้อยระย้า สิงห์ผงาดและจันทโครพ ส่องฉายไฟไปยังหินงอกหินย้อยเหล่านี้ จะเห็นเสมือนประกายเพชรวาววับทีเดียว สวยมากนะ
อันนี้ถ้ำ"คอยหาย" ฟังตำนานจากเจ้าหน้าที่แล้ว พวกเราแทบอยากจะเดินออกจากถ้ำให้เร็วที่สุดค่ะแต่มันก็ต้องใช้เวลาพอควร กว่าจะออกไปที่ปากถ้ำ เพิ่งสังเกตุเห็น คราบสีแดงๆตรงจุดนั้นด้วย...คือไรอ่ะ จำไม่ได้ว่าเจ้าหน้าที่บอกรึเปล่าว่ามันคือคราบอะไร
เที่ยวถ้ำเสร็จแล้วก็ออกมา...ดีใจมาก รอดตายแล้ว หลังจากแอบเสียวสันหลังอยู่พักใหญ่
ได้เวลาเหนื่อยอีกรอบ คือ การเดินลง แล้วเราก็อำลา อช.ถ้ำผาไท ไปด้วยความประทับใจ แอบหวังลึกๆว่า สักวันจะพาลูกทัวร์มานอนกางเต๊นท์ที่นี่ ตามคำแนะนำของเจ้าหน้าที่ ขอแนะนำให้เพื่อนๆลองไปเที่ยวกันค่ะ เจ้าหน้าที่บริการดีจริงๆ น่ารักมาก
พวกเราก็บึ่งต่อมายัง อช.แจ้ซ้อน มาถึงที่นี่ราวๆ 4 โมงเย็นแล้ว
น้ำพุร้อนแจ้ซ้อนที่มีสภาพการเกิดทาง ธรณีวิทยาที่น่าสนใจ มีกลิ่นกำมะถันค่อนข้างอ่อน จำนวน 9 บ่อ ตั้งอยู่ในบริเวณพื้นที่ประมาณ 3 ไร่ ภายในพื้นที่มีโขดหินน้อยใหญ่กระจัดกระจายอยู่ทั่วไป และมีไอน้ำลอยกรุ่นขึ้นจากบ่อปกคลุมรอบบริเวณราวกับสายหมอก นิยมนำไข่ไก่และไข่นกกระทามาแช่ สำหรับไข่ไก่แช่นานประมาณ 17 นาที ไข่แดงจะแข็งมีรสชาติมันอร่อยส่วนไข่ขาวจะเหลวคล้ายไข่เต่า (แต่ครานี้ไม่ได้เตรียมไข่ไปแช่เลย)
ชวนเพื่อนๆมาแช่น้ำร้อนให้ผ่อนคลายกันนะคะ
ระหว่างทางเดินไปแช่น้ำร้อนบ่อรวม บรรยากาศที่นี่ ทำให้ผ่อนคลายดีค่ะ มองไปก็มีแต่เขียวๆและน้ำ
จ่ายเงินค่าบริการ 20 บาทสำหรับบ่อรวม มีผ้าถุงหรือผ้าขาวม้าให้เปลี่ยน (ห้องแช่ส่วนตัวก็มีนะคะ)
แต่แช่บ่อรวมมันได้อารมณ์กว่านะ
และแล้วก็สดชื่นสบายตัว พร้อมปฏิบัติภาระกิจต่อไป
เพิ่งรู้ว่า อช.แจ้ซ้อน ยังเป็นสถานที่ฝึกวิทยายุทธ์ด้วย
บรรยากาศยามเย็นที่ อช.แจ้ซ้อน ...เราชอบจัง อากาศเริ่มเย็มเรื่อยๆ พวกเราแวะหาอะไรรองท้องด้วยเครปและลูกชิ้นที่เป็นรถเข็น บริเวณที่ทำการอุทยาน แต่...ไม่อร่อยเลย
เย็นมากแล้ว อีกหนึ่งภาระกิจสำคัญของทริปนี้ คือการไปลอยโคมที่ ธุดงคสถานล้านนา จ.เชียงใหม่ แต่พวกเราก็ฝ่าความมืด ด้วยอาการลุ้นตลอดทาง ว่าจะมาทันมั๊ย? ในที่สุดก็ไม่ทันตอนจังหวะปล่อยโคมพร้อมๆกันเยอะๆ เพราะระหว่างทางที่รถมุ่งไปนั้น เห็นกำลังปล่อยไกลๆ แต่ก็ไม่เป็นไร...อุปสรรคยังไม่หมดรถติดมากๆจนต้องตัดสินใจลงเดินกันเลย ไกลอยู่นา...ไม่หวั่นล่ะ เดินไปก็มีพลุและปะทัดจุดกันตลอด เราแอบกลัวอ่ะ กลัวมาตกใส่เรา
และแล้วเมื่อมาถึงบริเวณที่จัดงาน พวกเราก็เริ่มจุดโคมกัน
พร้อมปล่อยแล้วนะ
และแล้วโคมของพวกเราก็ลอยตามโคมของใครหลายๆคนที่ไปร่วมปล่อยโคมในวันนั้น
หมดภาระกิจนี้แล้วเริ่มจะหิวนะ ก็ข้าวเย็นยังไม่ได้กินนี่นา ปาเข้าไป4ทุ่มกว่าแล้ว...อำลาธุดงคสถานล้านนา
โจ๊กรอบดึกก็เกิดขึ้นตามด้วยติ่มซำ ที่ร้านโจ๊กสมเพชร (เจ้าประจำของพวกเรา)
อิ่มแล้วก็มานอนกันที่ บ้านกาแฟ คืนนี้หลับเป็นตาย เพลียมากๆ
หมดภารกิจในวันแรกแล้วจ้ะ แล้วอย่าลืมติดตามตอนต่อไปนะคะ ออบหลวงและแม่แจ่ม
Create Date : 13 สิงหาคม 2552 |
|
25 comments |
Last Update : 16 สิงหาคม 2552 23:00:26 น. |
Counter : 3018 Pageviews. |
|
|
|