ลุงไม้คนเศร้า...มีเพื่อน มีกล้อง เที่ยวท่องไป ให้ใจหายเหงา - -'

<<
เมษายน 2549
 1
2345678
9101112131415
16171819202122
23242526272829
30 
 
3 เมษายน 2549
 

ที่ลอซู วันเหงา ส่งท้ายปีเก่า ต้อนรับปีใหม่ วันที่ 2

วันที่ 2 ของการท่องเที่ยวแล้ว..........นำภาพมาให้ชมก่อนครับ..........

ทีลอซู
เป็นน้ำตกที่มีความสวยงามเหมาะแก่การไปเที่ยวชมได้ทุกฤดูกาล หากจะไปเที่ยวควรไปประมาณปลายฝนต้นหนาว สายน้ำจะหลากไหลกระจายแรงมากที่สุดในช่วงฤดูฝน เพราะน้ำที่ตกมาจากแนวหน้าผาหินปูนที่กว้างกว่า 400 เมตร และบวกกับความสูงของสายน้ำที่มากถึง 300 เมตรไหลลดหลั่นลงมาเป็นชั้น ๆ กระทบแสงยามเช้าสาดกระเซ็นเป็นฝอย

น้ำตกทีลอซู จัดเป็นน้ำตกที่มีทั้งความงามและความยิ่งใหญ่อลังการจนติดอันดับ 1 ใน 6 ของ น้ำตกที่สวยที่สุดในโลก

คำว่าทีลอซูเป็นภาษากะเหรี่ยง แปลว่าน้ำตกดำ เป็นน้ำตกเขาหินปูนขนาดใหญ่ มีน้ำไหลแรงตลอดทั้งปี โดยเฉพาะช่วงฤดูฝน ละอองน้ำจะฟุ้งกระจายจนขาวโพลนไปทั้งหุบเขา แหล่งต้นน้ำเกิดจากห้วยกล้อท้อ โดยน้ำจะตกจากหน้าผาที่สูงชันและลดหลั่นกันเป็นชั้นๆ อย่างสวยงาม นอกจากนี้บริเวณรอบ ๆ น้ำตกยังสมบูรณ์ไปด้วยป่าดงดิบที่เขียวชอุ่มตลอดทั้งปี

ข้อมูลจาก...//www.thai-tour.com

........นอนเต๊นท์คนเดียว หนาว ณ ลานกางเต๊นท์ผมตื่นปกติตอนเช้าตีห้าเป็นประจำจนเคยชิน ติดเป็นนิสัยเนื่องจากเช้ามืดตีห้า ป้าอันเป็นสุดที่รักของผมต้องตื่นเพื่อเตรียมตัวไปทำงาน ผมจะโทร. ไปหาเพื่อเป็นการเตือนว่า ตีห้าแล้วนะ อย่าเผลอนอนเพลินละ เดี๋ยวไปทำงานสาย อีกอย่าง หากป้ารับสายก็หายห่วงครับ ก็คนอยู่ไกลเป็นห่วงนี่ครับ

ฮ่า ฮ่า ตอนนี้ตีห้าก็ยังตื่นและนึกถึงป้าเป็นประจำนะ ถึงป้าจะจากผมไปแล้ว


......ตีห้าผมก็ตื่นแล้วครับ โผล่หัวออกมานอกเต๊นท์เล็กน้อย อากาศเย็นครับ เสื้อกันหนาวเอย ถุงนอนเอยแถมสรวมหมวกไอ้โม่งอีกด้วย ยังมืดอยู่เลย

.....หัวหด เอ๊ย หดหัวเข้าไปนอนต่อ ไม่หลับครับ สังเกตว่าขอให้มีแสงสว่างเมื่อไหร่จะรีบไปถ่ายรูปน้ำตกเลยละครับ น้ำยังไม่อาบ ข้าวยังไม่กินละเพราะช่วงเช้าเท่านั้นที่เป็นเวลาที่น้ำตกทีลอซูน่ามอง น่าชม แสงส่องเข้าในทิศทางที่พอเหมาะกับการถ่ายรูป หมอกมีให้ดูสวยงาม ไม่มีผู้คนมาเกะกะ บดบังความงามตามธรรมชาติ


.....ประมาณหกโมงเช้า สว่างแล้ว แสงใช้ได้ พรรคพวกก็มีลุกมาบ้างไม่กี่คน ผมเตรียมกล้อง สรวมรองเท้า อ่อ...เอาขาตั้งกล้องไปด้วย บอกเพื่อนว่า ไปดูน้ำตกก่อนนะ ไม่ต้องห่วงเรื่องอาหารเช้า หากทางทัวร์จัดเตรียมเสร็จก็ทานไปก่อนเลยไม่ต้องรอ หุ หุ ข้าวเช้าหมดก็ไปซื้อได้แต่ช่วงเวลาสวย ๆ ตอนเช้าของน้ำตกทีลอซูหาได้ยากครับ
.....ผมเดินผ่านด่านไปเลย ไม่ต้องซื้อตั๋วเข้า 20 บาทครับ เช้าขนาดนี้เจ้าหน้าที่ยังไม่มีลงมาทำหน้าที่หรอก ผมรีบจะไปน้ำตกให้รวดเร็วที่สุดครับเดี๋ยวหมอกหาย แสงหมดมุมสวย คนมาเกะกะ ระยะทาง 1.5 กิโลเมตรยังไม่มีใครมาเดินเกะกะเลย ผมกึ่งเดิน กึ่งวิ่งไม่หยุด อากาศเย็นสบาย จากการที่อยู่บ้านแล้วตื่นเช้ามาวิ่งเป็นประจำทุกเช้าทำให้การเดินกึ่งวิ่งกึ่งกระโดดในระยะทาง 1.5 กิโลเมตรในครั้งนี้ สบาย ๆ สำหรับผมครับ อีกทั้งเป็นการทดสอบร่างกายด้วยว่า แข็งแรงพอหรือยังหลังจากผ่าตัดใหญ่ที่ศิริราชมาตอนช่วงเดือนกุมภา-มีนา ไม่เป็นปัญหาแล้ว สบาย ๆ ครับ ยังคงชกมวยได้ 3 ยกเหมือนเดิม ฮ๋า ฮ่า ขอบอก อิ อิ
.....เงียบครับ เงียบจนกลัวเหมือนกัน ไม่มีใคร ไม่มีคน ฮ่า ฮ่า คิดไปนะไปคนเดียว เสือ หมีออกมานี่ จะวิ่งหนีทันไหมเอ่ย อะ! ไม่มีไรหรอก กลัวไปทำไม


.....ถึงน้ำตกแล้วครับ ชมภาพไปเรื่อย ๆ ผมนึกว่าผมมาเป็นคนแรก ไม่ใช่....มีมาก่อนแล้วกลุ่มนึง สี่ห้าคน ไม่เป็นไร ผมเริ่มถ่ายรูปหมอกมีมากดีสมใจผม แสงแดดทำมุมดีเหมาะกับการถ่ายภาพ คนไม่เห็นเลยไม่มีอะไรมารบกวนความสงบ
......แต่ผมยังหอบนะ โธ่! ก็กระโดด วิ่ง มาตลอด 1.5 กิโลนี่ครับ แต่ก็กลัวว่ากว่าจะรอให้หายเหนื่อย คนก็จะมา พระอาทิตย์ก็จะไม่เป็นใจ หมอกก็จะหลบหน้าหนีพระอาทิตย์ไปซะก่อน ขาตั้งกล้องก็ช้าไป พื้นที่จะตั้งก็ไม่ค่อยเรียบ อาศัยถ่ายโดยอาศัยพิงต้นไม้เอาบ้าง กล้องแนบกับต้นไม้บ้าง หายใจลึก ๆ กลั้นหายใจถ่ายบ้าง ก็แสงน้อยนี่ครับ กล้องแบบ Compact แบบนี้ ปรับอะไรไม่ได้ความไวชัตเตอร์ย่อมน้อยเป็นธรรมดา ต้องระวังจุดนี้มากเลย


.....ผมถ่ายรูปจนพอใจแล้ว เสียงคนเริ่มได้ยินมาไกล ๆ แสงอาทิตย์สว่างมากขึ้น หายเหนื่อยแล้วครับ ท้องเริ่มโอดครวญ หิวครับ อิ อิ ไปดีกว่า กลับละ เก็บกล้อง น้ำลูบหน้าพอชื่นใจ แล้วก็เดินลงมา ร้อนครับถึงแม้อากาศยังเย็นอยู่แต่ผมยังไม่หายร้อนครับ เสื้อกันหนาวนะถอดมาถือแล้ว เดินลงมาก็สวนกับนักท่องเที่ยวกลุ่มแรกมาเป็นครอบครัวมีเด็ก ๆ มาด้วย 2 คน เดินคุยกันมาอย่างมีความสุข เจอผมก็ยิ้มให้ถามผมว่าอีกไกลไหม ผมตอบว่า ไม่ไกลครับ รีบไปตอนนี้ซิ น้ำตกสวยหมอกยังเยอะอยู่เลย เดินมาอีกพักเจออีกกลุ่มครับ กลุ่มนี้ยิ่งน่ารัก น่าทึ่งด้วยก็มีทั้งเด็ก อิ อิ ทั้งคนแก่มาด้วยละ อายุที่มาก ๆ มีสี่ห้าคนเลยละ คะเนดูที่อายุมาก ๆ คงเกิน 70 แล้วครับ ก็ผมขาวแถมใส่แว่นตาด้วย ส่วนเด็ก ๆ ก็คงไม่เกินห้าหกขวบละครับ


.....กลับมายังลานกางเต๊นท์ เสื้อกันหยาวไม่ใส่แล้ว ร้อนครับ เดินไปยังกลุ่มทัวร์ที่ทางทัวร์ทำอาหารให้ทาน พรรคพวกทานกันอิ่มเกือบหมดแล้วเหลือนั่งอยู่ไม่กี่คน
.....อุ อุ ข้าวต้มด้วย ชอบ ชอบมาก ๆ เลย ฮ่า ฮ่า โซ้ยซะพุงกาง ตามด้วยขนมอีกถ้วย แอบเรอเอี๊ก ๆ แอบนะ อิ อิ ไม่ปล่อยดังหรอก คนที่นั่งยังสรวมเสื้อกันหนาวพร้อมหมวกโม่ง ส่วนผมเหลือเสื้อกั๊กบาง ๆ ตัวเดียว ไม่หนาวครับ ไอออกจากตัวเป็นหมอกเลย ทานไป คุยไป มีความสุข
.....ช่วงตอนเช้าที่ลานกางเต๊นท์ที่เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าอุ้มผางพวกเรายังคงมีเวลาเดินเที่ยว พักผ่อนจนถึงสาย ๆ ละ ถึงจะเดินทางกลับไปที่พักครับ


......นั่งพักนานเหมือนกัน พรรคพวกเดินไปเที่ยวน้ำตกทีลอซูอีกครั้งบ้าง นอนเล่นในเต๊นท์บ้าง ผมก็เดินเล่นดูวิว ดูเต๊นท์ ชมผู้คนไปเรื่อย ๆ โลกหนอกว้างใหญ่ไพศาลเสียจริง ๆ คนเราก็มี 2 ตา 1 จมูก 1 ปาก 2 หูเหมือนกันแต่ก็ยังแยกแยะไม่เหมือนกัน ถึงที่นี่......ความอยากบังเกิดครับ กาแฟ ฮ่า ฮ่า อดไม่ได้ครับเดินไปจัดการกาแฟซะ 1 แก้วพร้อมขนมปัง 1 ห่อ ตามไปด้วยน้ำชา อิ่มแหละแต่อยากนี่ครับ ดื่มกาแฟเสร็จเลยถ่ายรูปซะ 1 แชะ อุ อุ


.....สายแล้ว เต๊นท์หายไปเยอะแล้วครับ ขึ้นรถกระบะเพื่อกลับบ้านพัก ระหว่างทางนะ ภาพต่อไป


แวะที่แรกครับ สวนส้มเพชรอุ้มผาง รถที่มาเที่ยว ทัศนาจร ทัศนศึกษามีหลายคันเลย น้ำส้มเย็นชื่นใจ อุ อุ ผมไม่ได้ซื้อ ฮ่า ฮ่า ไม่ตื่นเต้นเท่าไหร่ครับเพราะที่บ้านที่สระบุรีแถวบ้านผมสวนส้มมีมากมายหลายร้อย หลายพันไร่ครับ


.....สวนส้มครับ


.....ถึงแล้วครับ ถ้าตะโคะบิ๊ เราพักทานข้าวมื้อกลางวันกันที่นี่ ประวัติแล้วที่นี่เป็นถ้ำของ ขบวนการโจรก่อการร้ายมาก่อน เอาไว้ซ่องสุ่มกำลังและเก็บอาวุธ ภายหลังรัฐบายไล่ปราบปรามจนเกลี้ยงเราก็เลยได้ถ้ำนี้มาเป็นแหล่งท่องเที่ยว ปากถ้ำจะมีนักเรียนมาบรรเลงเพลงให้ฟังและยังมีมัคคุเทศก์น้อย ๆ คอยส่องไฟฉายให้เราเข้าไปในถ้ำด้วย ก็ช่วยอุดหนุนจุนเจือเป็นค่าใช้จ่ายน้อง ๆ เขาด้วยนะครับ ตอนผมออกมาจากถ้ำ นั่งรอเพื่อน ๆ ฟังเพลงไปก็ขำไป สงสัยมาจากคนละวงกันแน่เลย เล่นกันไปมองหน้ากันไป คนละจังหวะ ก็ไม่ว่ากันละครับ ถือว่าช่วยเด็ก ๆ ที่มาหาค่าเล่าเรียน


.....เข้าถ้ำตะโคะบิ๊ละ หน้าถ้ำครับ บรรยากาศในถ้ำค่อนข้างเย็น ภายในถ้ำมีหินงอก หินย้อยมากมาย


.....เดินในถ้ำตามมัคคุเทศก์น้อยไปเรื่อย ๆ ผมเดินไม่นานครับ ระยะทางไกด์บอกว่า 3 กิโลเมตร ผมเดินไม่สุดหรอกครับ ไม่ตื่นเต้นนะแหละ ระหว่างทางที่มีหินย้อยนั้น เมื่อโดนแสงจะได้เงาที่จะจินตนาการไปเป็นสิ่งต่าง ๆ ฟังคำบรรยายจากมัคคุเทศก์น้อย จำไม่ได้หรอกครับ มากมายจำไม่ไหว พอถ่ายรูปโดยใช้แฟลชก็ไม่สวยเลยเดินออกมารอข้างนอกถ้ำครับ นั่งพักผ่อนดีกว่า

....ประมาณห้าโมงเย็นกว่า ๆ รวมพลขึ้นรถกลับบ้านพัก


.....นี่แหละ บ้านพักแยกกันไปพักผ่อน อาบน้ำทานข้าวกันสบาย ๆ มีโทรทัศน์ให้ดู อ่อ...ไม่มีการนับเลขครับ หลับอย่างเดียว ก็เหนื่อยนี่เดินกันทั้งวัน

นอน นอน นอน

เดี๋ยวพรุ่งนี้เราจะพาเที่ยวระหว่างทางกลับอีกชุด วันสุดท้ายแล้ว ปีใหม่อีกด้วย โปรดติดตาม


Create Date : 03 เมษายน 2549
Last Update : 3 เมษายน 2549 14:51:26 น. 3 comments
Counter : 1307 Pageviews.  
 
 
 
 
สวยมากน่าไปจัง จามีโอกาศไปหรือเปล่าอะนะ
 
 

โดย: อินทรีทองคำ วันที่: 3 เมษายน 2549 เวลา:11:02:58 น.  

 
 
 
น่าไปเที่ยวจังเลยครับลุง
 
 

โดย: panumas05 วันที่: 3 เมษายน 2549 เวลา:11:11:59 น.  

 
 
 
อยากไปม๊ากมาก..ขอบอกคะ...ใครจะไปกันวันไหนช่วยส่งข่าวบอกที..จะไปด้วย..ควรไปช่วงไหนถึงจะดีคะ..รบกวนช่วยบอกทีนะคะ
 
 

โดย: นู๋ผีสีขาว วันที่: 13 พฤษภาคม 2549 เวลา:17:51:44 น.  

Name
Opinion
*ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก

ไม้หลักปักมั่นคง
 
Location :
สระบุรี Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed

ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]




ให้ทุกคนที่เข้ามาที่นี่ มีความสุข สนุกสนาน
ชีวิตสดใส เพื่อนใจ เพื่อนกายไม่ขาดนะ :)

เวบดอกไม้ของย่าดา

[Add ไม้หลักปักมั่นคง's blog to your web]

 
pantip.com pantipmarket.com pantown.com