วันนี้ไม่เหงา ทั้งสามรวมเที่ยว ดอกกระเจียว ป่าหินงาม
เหอ เหอ เหอ แอบ แอบ แอบชวนน้อง ๆ ไปซะก่อน ทั้งอยาก ทั้งกลัว ฮ่า ฮ่า.....อยากอะไร อยากดู.....ดูอะไร ดอกกระเจียว.....กลัวอะไร กลัวเหี่ยวซะก่อน....แล้วที่บอกจะไป ก็ไปอีกซิ ..... มีคนเอารูปดอกกระเจียวมาอวดอยู่เรื่อยเลย สวย ๆ ทั้งน๊านนนน ฮ่า ฮ่า รับปากไปหลายคนเลยละนะว่าจะไปช่วงหยุดยาว "เข้าพรรษา" เก๊าะหยุดตั้ง 3 วันแนะ อิ อิ 9-10-11 กรกฎาคม แต่ก็นะ ต่อมอยากมันหลั่งสารสร้างความอยากมากขึ้น จนต่อมแตก ฮ่า...มีน้อง ๆ เดะ ๆ จาก ม. รังสิตหลงคารมมาร่วมประสานความอยากด้วย 2 คน ด้วยละ ฮ่า ฮ่า .....ตกลงไปกันละ ฮ่า! เจอกันที่ทำงาน ทานข้าวกลางวันเสร็จ เติมน้ำมันรถเต็มถัง ลุย ลุย ลุย จากหนองแคเวลาเที่ยงครึ่ง ไปเรื่อย ๆ สบาย ๆ คุยกันไป แต่ใจก็ยังแว๊บ อดคิดถึงป้าไม่ได้ ป้าเขาก็เคยไปมาแล้วละนะที่อุทยานแห่งชาติป่าหินงาม ....โฮ่ โฮ่ พอถึงนะ เอาละจัดการกลางเต๊นท์ก่อนละ จัดข้าวของยังไม่ทันไรเลย ฝนมาซะแล้ว หลบฝนไปอยู่ในเต๊นท์ทั้ง 3 คนแทบไม่ทันเลย ดีนะเนี่ยที่กางเต๊นท์ซะก่อน ฮ่า ฮ่า เกือบเปียกไป....สรุปวันแรกไม่ได้ไปเที่ยวตรงไหนของอุทยานแห่งชาติป่าหินงามเลยละ ฝนตกไม่นานนะ เลยทั้ง 3 คน(มีใครบ้างเดี๋ยวมีบอก)ไปหาเสบียงใส่ท้อง แล้วก็เดินดูดอกกระเจียวที่บริเวณอุทยานแห่งชาติป่าหินงามนั่นเท่านั้นแหละ ไม่เป็นไร ไม่เป็นไร ....อ่อ ค่าเข้า-ไม่มี....ค่ากางเต๊นท์-ไม่ต้องแค่บริจาคตามแต่กำลังศรัทธาละครับ ตกลงผมเห็นที่ทำการมีชุดทำบุญของวัดเลยใส่ปัจจัยไปครับ ฮ่า..มะบอกอะนะ อิ อิ ว่าใส่ไปเท่าไหร่ ก็บอกแล้ว แล้วแต่กำลังศรัทธานิ.....ตื่นตีห้า จัดการไปอาบน้ำ ล้างหน้า แปรงฟัน บอกนะที่นี่ห้องน้ำเพียบ ห้องอาบน้ำเพียบ อิ อิ ไม่ต้องห่วงเลยละ ไม่ใช้ขันอีกด้วย ฝักบัวเชียวนะขอบอก .....ตอนเช้านี่ ทางอุทยานแห่งชาติป่าหินงามจะเปิดให้เข้าไปชมได้ตั้งแต่เวลา 06.00 น. ครับจนถึง18.00 น. นะ ที่จะไปเที่ยวนี่เอารถเข้าไปได้นะ รถเก๋ง รถปิ๊กอัพ รถตู้.....กลุ่มผมก็เอารถเข้าไปแหละ จุดแรกที่จะไปก็จุดชมวิวสุดแผ่นดิน ที่คิดคิดกันไว้นะ ต่อจากที่นี่ก็ไปทุ่งดอกกระเจียวแล้วก็ต่อไปยังลานหินหน่อ ลานหินงามละครับ เราว่าเรามาเช้าแล้วนะหลังจากชงกาแฟกับหนมปังรองท้องแล้ว ที่ไหนได้เพียบเลยครับ คน คน คน มากมาย มากมาย ฮ่า ฮ่า ไหมละ...เดี๋ยวดูนะช่วงเข้าพรรษาจะขนาดไหน ไม่อยากคิด จุดชมวิวสุดแผ่นดินเป็นอีกชื่อที่เรียกกันในหมู่นักท่องเที่ยวเนื่อจากอุทยานแห่งชาติป่าหินงามตั้งอยู่บนเทือกเขาพังเหยซึ่งแบ่งเขตระหว่างภาคกลางกับภาคตะวันออกเฉียงเหนือ จากจุดนี้สามารถชมทิวทัศน์ได้อย่างสวยงามและมีความสูงจากระดับน้ำทะเลประมาณ 846 เมตร...ฮ่า ฮ่า รูปสลับกันอะ มะเป็นไร ไม่เป็นไร พอรถเข้าที่ลานจอดรถ เราต้องเดินขึ้นไปที่จุดชมวิวสุดแผ่นดินอีกไม่ไกลหรอกครับ บอกแล้วคนเพียบเลย สาว ๆ หนุ่ม ๆ แก่ ๆ เด็ก ๆ ฮ่า..กล้องผมตอนนี้เจ้า Olympus SP500UZ จัดการเมมการ์ดซะตอนนี้ 1 กิ๊ก. ฮ่า ฮ่า ถ่าย ถ่าย ถ่าย ถ่ายแหลก งานนี้ร้อยห้าสิบรูปเท่านั้น คัด ๆ มานะ เอามาจัดการแค่ย่อภาพ ทำกรอบ ใส่ชื่อเท่านั้น ไม่ได้ตกแต่งไรเลยน๊า.....เนี่ยรูปนี้ละ คิดถึงผาหัมหดที่อุทธยานแห่งชาติไทรทองเลย คล้าย ๆ กันแบบนี้ น้องตูนคนนี้หัมจะหดเป่าหว่า อิ อิ งะ...ลืมถามน้องเขาอะครับ แฮ่....น้องอีกคนเขาเป็นมะหญิงอะ ไปไหนก็ไปด้วยกันเลยลืมถามอะครับ ฮี่ ฮี่ แต่คิดว่าน่าจะหดนะ กิ กิ ผมอะนะขนาดยืนไกล ๆ ยังหดเลยอะ เจี๋ยวใจ้ กรึ๋ยยยยย! ......พอดูวิวจนพอใจ ถ่ายทะเลหมอกจนหนำใจ ฮ่า...ทะเลหมอกนะ นะ เดี๋ยวจาไปดูทะเลหมอกที่เพ็ชรบูรณ์อีกแหละ มิวันไหนก็วันหนึ่งข้างหน้า ไปแน่ ไปแน่ ไปเดินต่อไปยังทุ่งดอกกระเจียวทุ่งดอกกระเจียว หรือเรียกอีกชื่อหนึ่งว่า บัวสวรรค์มีสีชมพูอมม่วง เป็นพืชตระกูลขิงข่า ออกดอกในหน้าฝนและจะบานเต็มทุ่งช่วงเดือนมิถุนายน-สิงหาคมของทุกปี.....ที่ทุ่งดอกกระเจียวนี้นะ ทางอุทยานแห่งชาติป่าหินงามเขาจัดทางเดินให้นะครับ ห้ามแตกแถวแยกแนวไปเกะกะละ อิ อิ เดี๋ยวโดน..อะไรไม่รู้ เก๊าะม่ายรู้นิ เรามันคนรักษาระเบียบอยู่แล้ว นิ นิ .....คนเยอะครับ ดอกกระเจียวก็กำลังสวยทีเดียว ผมมะสนอะนะ สนใจแต่ดอกกระเจียวสวย ๆ อะ น้องตูนกะอีกคนน้องผู้หญิงน้องส้มนั่นก็กล้อง Sony นะ ถ่ายแหลกเหมือนกัน ฮ่า ฮ่า น้องเขาเรียกผมว่าลุง อิ อิ อะ อะ ลุงก็ลุงฟะ มะเป็งไร กิ กิ .....หนำใจกะดอกกระเจียวแล้ว จุดต่อไปก็ไปที่ลานหินงามกันละลานหินงาม เป็นลานหินที่มีรูปร่างแปลกตาในบริเวณพื้นที่มากกว่า 10 ไร่ ซึ่งเกิดจากการกัดเซาะของเนื้อดินและหินเป็นเวลาหลายล้านปีจนเกิดเป็นลานหินงามที่มีความแปลกตาสวยงามในปัจจุบัน.....ไม่ได้เดินไปนะ ออกจากทุ่งดอกกระเจียวก็กลับไปขึ้นรถทั้ง 3 คนแหละ ขับไปจอดยังลานจอดรถใกล้ ๆ กะลานหินงามครับ ข้าง ๆ ยังมีบ้านพักชื่อบ้านบัวสวรรค์ด้วยละ หลังนี้ห่างไกลจากที่ทำการพอควรเลย ไม่ได้ถามรายละเอียดนะ .....ก็ต้องมีปีนกันบ้าง ขึ้น ๆ ลง ๆ นะ ระมัดระวังเลยทีเดียว หินทั้งนั้น พลาดไปเป็นเจ็บกันละนะ ต้นไม้ก็มีมาก สัตว์เล็ก สัตว์น้อย ดอกไม้ก็พอมีให้ชื่นชมละ ....หินเหล่านี้มีชื่อนะครับ หินจานเรดาห์ หินถ้วยบอลโลก หิน..อิ อิ ว่าไปงั้นแหละ ไม่หรอกนะ แต่ก็ไปจนทั่วละครับ ฮ่า ฮ่า รองเท้าเอาแบบแน่ ๆ เกาะ ๆ ไปด้วยละ อ่อ....พลังกาย พลังใจด้วยคร๊าบบบบบ อิ อิ .....อีกอันนะ ฮ๋า พอละเรื่องหิน เดินไป ๆ มา ๆ ขึ้น ๆ ลง ๆ เหงื่อโชกเลยแต่ก็นะ ตื่นเต้นดีอะครับ น่าไปชม ย่าไปดูของจริงเลย ไม่ไกล ไม่ไกล ห่างจากกรุงเทพฯ แค่ 270 โลเองคร๊าบบบบบ .....นี่ละ น้อง 2 คนที่ไปกะผมอะนะ สนุกสนานเจรงเจรง ก็นะวัยเขากำลังสนุกนิ เห็นแล้วก็สนุกไปกับเขาสองคนด้วยแหละ .....ฮ่า ฮ่า ไป ๆ มา ๆ อดึดถึงป้าซะงั้น ป้าตอนนี้กำลังทำอะไรอยู่น๊า จารู้ไหมน๊ะว่าลุงคิดถึงป้าทุกวันเลย .....นี่ละครับ เต๊นท์ที่เราทั้ง 3 คนนอนกันเมื่อคืน ก็ที่เมื่อวานโดนฝนถล่มซะ ฮ่า ฮ่า สบายมาก สมอแน่นหนา ไม่ปลิวไปไหน ไม่ใช่ไรหรอก...ฝนตกไม่นาน ไม่รุนแรงอีกด้วย ไม่น่ากลัว ออกจะสนุกซะอีก อิ อิ .....ก็กะว่าจะเก็บเต๊นท์แล้วก็กลับกันละ แต่ทีนี้ ลุงที่กางเต็นท์ข้าง ๆ เมื่อเช้าครอบครัวแกมากันเยอะนะ เกิดเตาแก๊สไม่ติด ผมเลยให้ยืมเตาไปใช้ พอจะแยกกันลุงแกก็ถามว่าไปดูดอกกระเจียวขาวยัง โห...ตาโตเลยเรา ที่ไหนอะ อยากดู อยากไป ลุงแกก็บอกทางที่ไปเลยนะ อิ อิ ได้ดูกันละดอกกระเจียวขาว ฮ๋า ฮ่า น้องทั้งสองก็บอกว่า ไป ไป ไปดูกันก่อน ลุย ลุย เอ้าเฮ้.........ทางเดินก็ต้องเดินไปตามเส้นทางศึกษาธรรมชาติอะครับ ระยะทาง 1.7 กิโลเมตร จริงแล้วดอกกระเจียวขาวเดินไปไม่ถึง 1.7 กิโมตรหรอกครับประมาณโลเดียวก็ถึงมั้ง ระหว่างทางก็เดินคุยกันไป ดูข้างทางไปเรื่อย ๆ ผมต้องเตือนน้องทั้งสองว่า เดินนะช้า ๆ ดูสื่งต่าง ๆ ข้าง ๆ ทางไปเรื่อย ๆ ไม่ใช่เดินจ้ำเอา จ้ำเอาแบบนี้จะรีบไปไหน ฮ่า ฮ่า ได้ผลน้องทั้งสองก็หยุดถ่ายรูปนั่น ๆ นี่ ๆ ไปเรื่อย ๆ เลย ดี ดี ผมก็ถ่ายมั้งแหละนะ ดอกไม้เหลือง ๆ สวย ๆ เจ้าตัวนี้กะลังกัดกินใบไม้ ฮ่า ฮ่า ธรรมชาติจริง ๆ .....ยัง ยัง ยังไม่เห็นดอกกระเจียวขาวคร๊าบบบ แต่ก็นะ ยังมีสิ่งน่าสนใจ น่ามอง น่าสนุกละ ดอกไม้ไงครับ ใครละไม่ชอบดอกไม้ ดอกไม้เปรียบเหมือนผู้หญิง จะอย่างไรก็มีเสน่ห์แบบดอกไม้ แบบผู้หญิงละครับ เอ!....แล้วป้าสุดที่รักของลุงนี่เปรียบได้กับดอกอะไรนะ ดอกอะไรที่เพี้ยน ๆ ดีหว่า อิ อิ ....โฮ่ โฮ่ เห็นละดอกกระเจียวสีขาวดีใจ ดีใจ อิ อิ แต่ยัง....เดินไปให้สุดก่อนดีกว่าเส้นทางศึกษาธรรมชาติเดี๋ยวค่อยย้อนกลับมาอีกทีนะ นะ ฮ่า! นี่ละหน้าผาก็ใกล้ ๆ กะจุดชมวิวสุดแผ่นดินแหละ เฉียด ๆ ไปดู อุ อุ หดเลยนิ....แบบว่า คนเป็นโรคกลัวความสูงอะครับ ขนาดไกล ๆ ยังหดนิ โฮ่ โฮ่ .....อะกลับละ ย้อนเดินกลับไปดูดอกกระเจียวขาวกันละ อ้าว! น้องตูนกะน้องส้มหยุดดูอะไรหว่า ตั้งใจถ่ายรูปกันใหญ่เลย อ่อ...แมงมุมนี่เอง มา มา ขอลุงบ้าง ฮ่า ฮ่า .....ยังมีอะไรน่าสนใจอีกนะ นี่ไงมอสครับมอส(เขียนผิดเป่าหว่า) มีบางคนชอบนะ ชอบเอาไปปลูก ภาพนี้ก้อนหินเลอะไปหมด จัดองค์ประกอบไม่ได้เลย อะ อะ ถ่ายละนะ ฮ๋า ฮ่า ......นี่ละสภาพทางเดินศึกษาธรรมชาติของที่นี่ละครับ รองเท้าเดินป่าก็จะดีนะ ทางเดินนี่เฉียดไปใกล้ ๆ หน้าผา 2 ครั้งละ มีคำเตือนว่าระวังตกหน้าผาด้วยละครับ ......มาแล้วดอกกระเจียวสีขาวอะครับ แซมด้วยต้นไม้ใบหญ้า ฮ่า ฮ่า บางดอกนะอุตส่าห์ไปเอาต้นหญ้าออกด้วยความหวังดีจาได้ถ่ายรูปได้สวย ๆ เหอ เหอ เอนเอียงล้มแผละปายเลยเฮ้อนะ อิ อิ เจ้าดอกกระเจียวขาวนี่แลดูหนาหนักกว่ากระเจียวแดงจริง ๆ .....ฮ่า ฮ่า เยอะแยะพอประมาณเลยละนะครับ ดู ดู ไปเรื่อย ๆ นะ กล้องก็ไม่ได้ดีเด่อะไรนักหนาขนาด DSLR นะ เจ้า Olympus SP500UZ ตัวนี้ บางทีกว่าจะถ่ายได้คลุกไปมานานเลย เหอ เหอ พอใจ พอใจ พอใจ ท่องไว้ ท่องไว้ มะงั้นเสียเงินนะ อิ อิ .....บางคนอาจสงสัย ไหนว่าจะไปตอนเข้าพรรษาไง ไปครับเดี๋ยวเดือนหน้าก็ไปอีกนะ อิ อิ แหม แหม รับปากป้าหยามไว้แล้วนิ อิ อิ มีอีกหลายคนฝากให้ไปดูต้นทางก่อน นะ นะ ได้เลย ฮ๋า ฮ่า .....ดอกสุดท้ายละครับ พอ พอ ออกจากอุทยานแห่งชาติป่าหินงามลาก่อนทุ่งดอกกระเจียวและก็จุดชมวิวสุดแผ่นดินเดี๋ยวเดือนหน้ามาหาอีกทีนะ ฮ่า ฮ่า ออกมาแวะทานข้าวกลางวัน ต่อไปก็ไปน้ำตกเทพพนาครับ ไม่ไกลจากอุทยานแห่งชาติป่าหินงามนะ เลี้ยวซ้ายเข้าไปไม่ไกลเท่าไหร่หรอก ไม่หลง ไม่หลงครับ รับรอง ฮ๋า ฮ่า .....น้ำตกเทพพนาจะอยู่ห่างจากปากทางเข้าไป 7 กิโมตรนะชั้นบนสุดมีความสูง 3-4 เมตร ไม่ไหวคนเล่นน้ำเต็มเลยทั้งที่น้ำก็ไม่ค่อยมีเท่าไหร่ เลยต้องถอยไปชั้นที่ 2 ซึ่งมีความสูงประมาณ 2-3 เมตร โฮ๋ โฮ่ ยังมีคนเล่นน้ำแฮะแต่คนเดียวเอง เลยไปเล็ง ๆ กล้องเล่น ๆ ซักพักก็ขึ้นจากหน้ำไปครับ ฮ่า ฮ่า ได้โอกาสก็กดซะเลย น้ำไม่ค่อยมีหรอกครับ คงต้องรอให้ฝนตกมากกว่านี้แหละ ฮ่า ฮ่า ขอบคุณหลาย ๆ เด้อที่เข้ามาเที่ยวที่นี่ เดี๋ยวเดือนหน้าพอไปอุทยานแห่งชาติที่ชัยภูมิอีกทีช่วงเข้าพรรษา จามาอัพบล้อกใหม่น๊า เจริญ เจริญ เจริญทุก ๆ คนนะปราศจากโรคภัยไข้เจ็บ มีเรื่ยวแรงเที่ยวธรรมชาตินะครับ