นอนโรงพยาบาลครั้งแรก
วันศุกร์ที่ 3 - วันจันทร์ที่ 6 ธันวาคม พุทธศักราช 2553ต้องรีบมาเขียนให้น้องไทได้อ่านก่อนที่จะลืม ช่วงหลังๆ มานี้ไม่รู้เป็นอะไร แม่หวีดรู้สึกว่าความจำแย่ลงเรื่อยๆ การหลงๆ ลืมๆ กลายเป็นเรื่องปกติไปเสียแล้ว คงต้องจัดการอะไรกับมันสักอย่างก่อนที่จะแย่ลงกว่านี้ช่วงวันอังคารที่ 30 พฤศจิกายนถึงวันพฤหัสที่ 2 ธันวาคม แม่หวีดต้องไปทำงานที่ท่าอากาศยานหาดใหญ่และภูเก็ต วันอังคารตื่นตั้งแต่ตีสามทำกับข้าวให้น้องไท อาบน้ำแต่งตัว ขึ้นไปจุ๊บลาน้องไทที่ยังหลับปุ๋ยอยู่ข้างพ่อหนุ่ม ตีห้าได้ฤกษ์ขับรถจากบ้านไปขึ้นเครื่องที่ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ เครื่องออกหกโมงสิบนาที รอดจากการตกเครื่องแบบเฉียดฉิวอยู่ที่โน่นคิดถึงน้องไททุกวัน ตกเย็นใจจดใจจ่อรอเวลาจะ Skype กับน้องไทตอนหัวค่ำ นัดกับน้าอ้วนไว้ตอนสองทุ่มของทุกวัน ต้องขอบคุณพี่ๆ น้องๆ เพื่อนร่วมงานที่เข้าใจแม่ลูกอ่อนผู้ติดลูกคนนี้ ที่ยอมให้หนีกลับห้องก่อนไม่ไปร่วมกิจกรรมเฮฮาด้วย พอได้เวลา Skype กันหนูได้เห็นหน้าแม่ ได้ยินเสียงแม่ในจอคอมพิวเตอร์ ก็ร้องไห้สะอึกสะอื้นเสียงดังทุกครั้ง คงนึกได้ว่าแม่ไม่อยู่ใกล้ๆ นี่นา จนพ่อหนุ่มจะไม่ยอมให้ Skype กันอีก แต่น้าอ้วนก็จัดให้ทุกครั้งที่มีโอกาส คงรู้ว่าแม่คิดถึงน้องไทมากมายแค่ไหนแม่เห็นน้องไทบนหน้าจอพี่แม็กกี้ Notebook คู่ใจที่ทนเหลือเกิน (นี่ก็ย่างเข้าปีที่ 5 แล้ว เธอก็ยังทนทานจริงๆ แถมน้องไทขึ้นไปเหยียบขย่มเป็นประจำอีก) อันนี้เป็นรูปตอนแม่เดินทางไปทำงานที่ท่าอากาศยานเชียงใหม่กับเชียงรายช่วงวันที่ 14 - 17 ธันวาคม หน้าตาหนูจะดู งง งง แบบนี้น้าอ้วนให้ไหว้แม่หนูก็ไหว้ ให้ยิ้มหนูก็ยิ้ม น้องไทคงจะงงนะว่าให้ไหว้คอมพิวเตอร์ทำไมวันพฤหัสแม่กลับถึงบ้านเกือบสองทุ่ม รถติดมากๆ ขับรถจนปวดหลัง ปวดก้นไปหมด ถึงบ้านล้างมือล้างเท้าเสร็จก็ขึ้นไปกอดหนูที่ห้องนอน พ่อหนุ่มพาหนูขึ้นนอนเร็วมาก ปกติแม่จะพาขึ้นห้องนอนตอนสองทุ่มครึ่งถึงสามทุ่มเช้าวันศุกร์พ่อกับแม่ไปทำงานตามปกติ สายๆ มีโทรศัพท์จากที่บ้านบอกว่าน้องไทเป็นไข้ พ่อกับแม่รีบตรงกลับบ้านทันที แม่ให้พี่หญิงเช็ดตัวหนูก่อนและเตรียมของน้องไทให้พร้อม พอรถถึงหน้าบ้านก็รับน้องไทขึ้นรถไปโรงพยาบาลกันเลย ไปถึงวัดไข้หนูมีไข้อยู่ต่ำๆ ป้าหมออารยาฯ ดูคอให้แล้ววินิจฉัยว่าติดเชื้อแบคทีเรียที่ต่อมทอลซิน (อีกแล้ว เมื่อครบขวบน้องไทก็เคยเป็นโรคนี้แล้วครั้งหนึ่ง ตอนนั้น แม่ไม่ได้นอนไปห้าคืนเกือบเป็นซอมบี้) ป้าหมอให้ยาฆ่าเชื้อมา สั่งว่าถ้าไข้ขึ้นเกิน 38 องศาให้เช็ดตัว ยาลดไข้สองตัวคือ ไทลินอล (หรือเทมปร้า) ให้ทุกสี่ชั่วโมง ส่วน Nurofen ให้ถ้าไข้สูงเกิน 38.5 องศาทุกหกชั่วโมง ยาสองตัวนี้ให้เสริมกันได้กลับบ้านตกเย็นกินยาลดไข้ไว้ ตัวไม่ร้อนมาก ประมาณตีสองครึ่งแม่เห็นน้องไทเริ่มหนาวสั่น แล้วไข้ก็เริ่มขึ้น เราเช็ดตัวแล้วดูเหมือนไข้ไม่ยอมลดเลย พ่อกับแม่เห็นพ้องให้พาน้องไทไปโรงพยาบาล พอไปถึงพยาบาลวัดไข้ได้ 36.5 องศา (วัดทางรักแร้) แม่ยังสงสัยเพราะแม่อุ้มหนูอยู่ หน้าผากหนูร้อนมาก หน้าแดง ตาเยิ้ม ซึมขนาดนี้ มันผิดปกติ แม่เลยใช้ที่วัดอุณหภูมิทางหูวัด ปรากฏว่าได้ 39 องศา แม่บอกให้พยาบาลมาวัดไข้ใหม่อีกที คราวนี้วัดได้ 39.6 องศา พยาบาลแตกตื่นรีบเตรียมเช็ดตัวกันเลย ซักพักคุณหมอเดินง่วงๆ มาตรวจหนูแล้วให้ยาเทมปร้า เราแอดมิทตอนตีสามครึ่งเช้าตรู่วันเสาร์ แต่ต้องรอป้าหมออารยาฯ คุณหมอประจำตัวหนูมาตรวจตอนเช้าวันอาทิตย์น้องไทมีไข้ขึ้นเป็นระยะๆ ไข้ขึ้นทีเช็ดตัวกันที หนูร้องไห้ทุกครั้งที่โดนเช็ดตัว วันนี้ยังซ่าได้อยู่ เพราะคุณหมอให้ยาชนิดทานกับเช็ดตัวเวลาตัวร้อนเตียงเด็กของโรงพยาบาลนี่ยกกั้นเป็นกรงได้ น้องไทเดินเล่นในนั้นเป็นที่สนุกสนาน เพราะที่บ้านไม่มีแบบนี้ช่วงนี้ใกล้วันเฉลิมพระชมพรรษาพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ในโทรทัศน์จึงมีรูปพระองค์ท่านตลอด น้องไทพอเห็นในหลวงหนูก็จะยกมือไหว้ เป็นสิ่งที่น่ารักที่พ่อหนุ่มสอนหนูไว้สายๆ วันอาทิตย์ป้าหมออารยาฯ มาแล้ว คอหนูไม่ค่อยดีเลย ป้าหมอสั่งให้น้ำเกลือ เพราะจะหายเร็วขึ้นและสามารถให้ยาทางน้ำเกลือได้เลยไม่ต้องฉีดยา แม่กอดหนูไว้ตอนพี่พยาบาลแทงเข็มน้ำเกลือ หนูร้องไห้เีสียงดังน่าสงสารมากๆ พี่พยาบาลพันเขนหนูเอาไว้เป็นแท่งเลย พอมาถึงห้องหนูยื่นมือขอให้คนโน้นคนนี้เอาเข็มน้ำเกลือออกให้ ตกบ่ายเหนื่อยมากๆ จนหลับไปเตียงนอนคนไข้ไม่ได้นอนกันหรอก มานอนเตียงคนเฝ้าไข้กัน เอาเตียงคนเฝ้ามาวางชิดกับโซฟายาว แม่นอนข้างนึงแทนที่กั้นเตียง หนูนอนตรงกลาง พ่อนอนอีกข้างนึงบนโซฟา ตกกลางคืนพยาบาลต้องมางมหาน้องไทกลางเตียงเพื่อวัดไข้ อยากให้โรงพยาบาลเปลี่ยนเป็นที่วัดไข้ทางหูแทนทางรักแร้จังเลย เพราะผลมันไม่ดีเท่า ใช้เวลานานกว่าอีก เด็กน้อยไม่ค่อยยอมอดทนรอกันเท่าไรนักหรอกตื่นมาก็ชมวิวจากชั้น 7 ของโรงพยาบาลกันพอบอกให้ยิ้มก็จะได้รูปแบบนี้ที่ชั้นนี้มีโซนของเล่นด้วย จอมซ่าเลยได้ไปลุยเล่นมือเดียวก็ได้ ชอบ ชอบ แบบนี้ที่บ้านไม่มีเก้าอี้ตัวเล็กที่บ้านก็ยังไม่มี (แม่กำลังสะสมขวดยาคูลท์อยู่คับ ว่าจะ DIY กะเค้าเสียหน่อย)เด็กทุกคนต้องเล่นถ้ามา admit ที่นี่ ดูน้องไทจะสนุกกับการขับรถมากพ่อหนุ่มเลยได้ฉลองวันพ่อปีที่ 2 ที่โรงพยาบาล"คุณพ่อจุ๊บคุณลูก""คุณลูกจุ๊บคุณพ่อ"น้ำเกลือขวดใหญ่กะเด็กชายตัวเล็กเข้าโหมดเศร้า ซึมบ่ายสองวันจันทร์น้ำเกลือขวดที่สองหมด ป้าหมอให้กลับบ้านได้พร้อมยาอีก 3 ขวด ถึงบ้านยิ้มแป้นเลย แป้นเอ้ย แป้นสองวันหลังกลับจากโรงพยาบาล มือน้องไทยังมีรอยเข็มน้ำเกลืออยู่เลยขอให้น้องไทเป็นเด็กแข็งแรงนะคับรักน้องไทตลอดกาล**แม่หวีด พยาบาลมือใหม่**