ชีวิตที่มึความสวยงามนั้น อาจไม่ได้หมายถึงชีวิตที่มีความ "เต็ม" ในทุกๆด้าน แต่มันเป็นเพียงการที่เรารู้จัก "เติม" สิ่งที่สร้างสรรค์ให้กับชีวิตวันละนิดละหน่อย เหมือนการสร้างประโยคเล็กๆที่ดีๆให้กับชีวิต จนกลายเป็นเรื่องราวที่มีคุณค่าและน่าอ่านในท้ายที่สุด
Group Blog
 
<<
เมษายน 2550
 
1234567
891011121314
15161718192021
22232425262728
2930 
 
6 เมษายน 2550
 
All Blogs
 
ฟาสต์ฟู้ดธุรกิจ:ตัวหนังสือยิ้มได้ ^_^

ยังจำได้ตอนที่เห็นหนังสือฟาสต์ฟู้ดธุรกิจเล่ม 3 ที่ชื่อว่าเดาะโลกดีดีแล้วตีลังกานั้น เรากำลังเครียดๆ เพราะไม่รู้จะเลือกคณะยังไงดี ปวดหัว หยิบมาอ่านเพราะเห็นชื่อเรื่องแปลกๆดี กะว่าหนังสือไร้สาระแน่ๆ แต่พอได้อ่านหนังสือเดาะโลกดีดีแล้วตีลังกา เราหัวเราะได้ทั้งๆที่หนังสือมันมีสาระ ไม่รอช้ารีบหาเล่มหนึ่งกับเล่มสองมาอ่านจากห้องพ่อ อ่านเสร็จแล้วมีแรงอ่านหนังสือสอบต่อ เราเชื่อแล้วว่าตัวหนังสือของหนุ่มเมืองจันท์นั้น ยิ้มได้ ( ได้ยินมาจากผู้ใดก้อม่ายรู้)……….. หลังจากนั้นมาหนังสือในเครือฟาสต์ฟู้ดธุรกิจ ก้กลายเป็นหนังสือประจำบ้าน อ่านกันทั้งพ่อ แม่ เรา ต่างก้ชอบหนังสือของหนุ่มเมืองจันท์ เมื่อมีเล่มใหม่ออกมาทีก็ต้องแย่งกันอ่านให้วุ่นวาย ถือเป็นหนังสือที่คุ้มมากเพราะซื้อมาแล้วได้อ่านถึงสามคน

จริงๆเราเป็นโรคไม่ค่อยถูกกับเศรษฐศาสตร์ซักเท่าไร ชีวิตนี้เคยเรียนแบบจริงๆกับเค้าแค่หน่อยเดียวที่ดาว้องก์ เรียนเสร็จแล้วให้คำตอบกับตัวเองได้เลยว่าจะไม่เรียนเศรษฐศาสตร์หรืออะไรเทือกๆนี้เด็ดขาด ( ยอมยกธงขาวเสียคะแนน part นี้เลยเอ้า ) เรียนไม่รู้เรื่องสุดๆ แต่ยังไงก้อตามหนังสือชุดฟาสต์ฟู้ดธุรกิจน้ำก้อทำให้เราพอเข้าใจหลักการทำธุรกิจขั้นพื้นฐานสุดๆที่สอดแทรกอยู่ในหนังสือได้ ไม่ถึงขั้นปิดหนังสือหนีไปเสียก่อน
และถึงเค้าจะเขียนเพื่อพยายามให้แง่คิดแก่ผู้ที่ทำธุรกิจ เราเองผู้สาบานว่าจะไม่ยุ่งเกี่ยวกับแวดวงธุรกิจถ้าไม่จำเป็นกลับเห็นดีเห็นงาม ถึงกับเปิดบริษัทของตัวเอง ตั้งชื่อว่า my life มี brain เป็น CEO และ มีระบบต่างๆของร่างกายเป็นพนักงานบริษัท ^_^

ในงานสัปดาห์หนังสือ 2550 นี้ ฟาสต์ฟู้ดธุรกิจได้ออกมาถึงเล่มที่เก้าแล้ว ชื่อว่า “แพ้ได้ แต่ ไม่ยอม” เราเห็นชื่อเรื่องแล้วรู้สึกไม่ค่อยจะตรงกับอารมณ์ของตัวเองในตอนนี้เท่าไรนัก เพราะตอนนี้เรากำลังรู้สึกว่าเราไม่อยากดิ้นรนอะไรแล้ว เหนื่อยยย ถึงกับเป็นครั้งแรกที่ซื้อมาเสร็จแล้วตั้งไว้เฉยๆไม่ได้อ่านเพราะขี้เกียจ หลังจากนั่งมองหนังสือมา 2 วันเต็มๆ วันนี้ก็เป็นวันที่เรารู้สึกเซ็งมากกก เลยลองหยิบขึ้นมาอ่านตามสัญชาติญาณ พอได้อ่านแล้วก้อยังคงสบายใจขึ้นอยู่ดี …….. ได้ข้อสรุปว่าถึงแม้ว่าใครๆเค้าจะไม่ยิ้มให้เราแล้ว แต่ก้อยังดีที่ตัวหนังสือของหนุ่มเมืองจันท์ยังคงยิ้มให้เราเหมือนเดิม เป็นความรู้สึกคุ้นเคยดุจได้เจอหน้าเพื่อนสนิท
ขออนุญาติหยิบยกข้อคิดคติดีๆมาใส่ใน blog ด้วยละกัน เผื่อมีใครแวะเข้ามาอ่านแล้วจะยิ้มได้ หรืออย่างน้อยก้อหัวคิ้วขมวดเข้าหากันน้อยลง

กฏข้อที่หนึ่งของบัณฑิต อึ้งรังษี : ต้องยอมรับว่าโลกนี้ไม่ยุติธรรม ไม่ต้องถามว่า “ทำไม” (หุๆ ท่าจะจริงแฮะ)
ยอมรับไปเลยเพื่อที่จะไม่เสียเวลาตีโพยตีพาย เอาเวลาไปใช้ในการต่อสู้ดีกว่า ( หรือไม่ก้อเอาเวลามาคิดเรื่องดีๆ จะสบายใจกว่าไหม เราไม่รู้จะสู้กับใครอ่ะ )


เมื่อมีปัญหาก็ต้องแก้ปัญหา แปรวิกฤตเป็นโอกาสให้ได้ สำหรับเราแล้วขอแค่แก้ปัญหาละกัน ชีวิตเรายังไม่ได้วิกฤตอะรายขนาดนั้น ……. การแก้ปัญหาไม่ได้เริ่มต้นที่วิธีการที่ซับซ้อน แต่ต้องเริ่มต้นที่ใจ “ ใจที่ไม่ยอมแพ้ เชื่อว่าพรุ่งนี้ต้องดีกว่าวันนี้ ”


ลาร์ลี่ คิงบอกไว้ว่าคนเราไม่เคยฉลาดขึ้นเลยเวลาเราพูด แต่จะฉลาดขึ้นเมื่อเราฟัง อันนี้คงรู้กันทุกคนแหละ เราเองฟังมาหลายรอบแล้ว ทำไม่ได้ซะที

อันนี้ถูกใจ อิๆ
Q : การไปเที่ยวคนเดียวมีข้อดีอย่างไร …………..
บินหลา ตอบ : การไปเที่ยวคนเดียวสิ่งที่ได้แน่ๆคือการตัดสินใจเอง คุณจะได้ตัดสินใจทุกช่วงของการเดินทาง
ไม่ว่าผิดหรือถูก คุณก็จะต้องรับผิดชอบกับสิ่งที่คุณตัดสินใจลงไป
ในโลกแห่งความเป็นจริง การตัดสินใจหรือการใช้ดุลยพินิจของตัวเองเลือกเดินทางไหนเป็นสิ่งสำคัญมาก ชีวิตไม่ใช่ข้อสอบปรนัยที่มีคนกำหนดทางเลือก ก ข ค ง ให้กากบาท และไม่มีครูคอยเฉลยด้วยว่าสิ่งที่คุณเลือกถูกหรือผิด ที่สำคัญ ชีวิตผ่านแล้วผ่านเลย เลือกแล้วเลือกเลย
ดุลยพินิจและการตัดสินใจจึงเป็นเรื่องจำเป็นมาก คนเก่งคือคนที่ตัดสินใจถูกมากกว่าผิด ต้องทำบ่อยๆทำเป็นประจำ และรู้จักสรุปบทเรียนทุกครั้งที่ตัดสินใจ เพื่อให้การเลือกครั้งต่อไปไม่ผิดพลาด( หรือมี prop ที่จะผิดพลาดน้อยที่สุด แหะๆ)



คิดแบบบุญเกียรติ โชควัฒนา : คิดแต่เรื่องดีๆให้มีกำลังใจ แล้วทุกเป้าหมายที่ว่ายากก็จะไม่ยาก

การรอคอย กับ ความเร่งรีบ กำหนดให้ความรู้สึกที่มีต่อเข็มนาฬิกาแตกต่างกัน
นาฬิกาเป็นเครื่องมือที่มนุษย์ผลิตขึ้นมา ดังนั้นเมื่อมนุษย์ต้องเป็นนายมัน อย่าให้มันเป็นนายเรา วิธีนี้ใช้ได้ดีเวลาที่เรานัดใครแล้วไปสาย …….. จำไว้ว่า ใจ ต้องสำคัญกว่า เข็มนาฬิกา …. ถ้าเราไปสี่โมงครึ่งแต่ใจอยากจะให้เป็นสี่โมงเย็น เราก็แค่หมุนเข็มยาวจากเลข 6 ไปเลข 12 ถือคติว่าเวลาหวนกลับมาไม่ได้ แต่เข็มนาฬิกาหมุนกลับได้


















Create Date : 06 เมษายน 2550
Last Update : 20 เมษายน 2550 2:13:26 น. 4 comments
Counter : 480 Pageviews.

 
อืม! เคยยืมของเพื่อนมาอ่าน สนุกดี
ชอบเขาเขียนตอนจะจบเรื่อง จะลงท้ายด้วยอะไรที่ต้อง อื้ม.. เสมอ

งานสัปดาห์หนังสือที่ผ่านมาเพื่อน(คนเดิม)ก็ไปซื้อเล่มใหม่มา
แอบยืมมาอ่านได้แป๊บนึง สนุกเหมือนเดิม
วันนั้นได้เจอตัวเป็นๆ ของหนุ่มเมืองจันทร์ด้วย


โดย: bombik วันที่: 6 เมษายน 2550 เวลา:2:35:08 น.  

 


แวะมาอ่านที่นี่เลยล่ะ
ยังไม่เคยอ่านเลยเจ้าค่ะ


โดย: อุ้มสี วันที่: 6 เมษายน 2550 เวลา:10:06:37 น.  

 
ได้เจอตัวจริงด้วยหรือ เราไปงานมาหลายปีแล้วนะ ไม่เห็นเคยเจอเลยอ่ะ


โดย: N3K วันที่: 6 เมษายน 2550 เวลา:11:27:17 น.  

 
เคยมีอยู่ 3 เล่ม ใครยืมไปก้อรู้ยังไม่ได้คืนเลย T T


โดย: mancunian IP: 203.118.121.116 วันที่: 1 พฤษภาคม 2550 เวลา:23:07:45 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

MsBrenda
Location :
กรุงเทพฯ Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed

ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]




blog นี้ดูจะเกิดขึ้นมาได้เนื่องด้วยเจ้าของบล็อกเกิดอยากจะเขียน
แล้วอยากให้คนอื่นๆอ่านเรื่องที่ตัวเองเขียนด้วย
การมีบล็อกเป็นของตัวเองก็เลยดูจะลงตัวดี
และแม้ว่าช่วงนี้ถึงชีวิตการเรียนที่เป็นอยู่ไม่ค่อยเอื้อให้เรามานั่งเขียนบล็อกสักเท่าไร
แต่การที่ได้พักจากชีวิตที่วุ่นวายมาทำอะไรที่ชอบสักพัก ก็เป็นเรื่องที่ดีเหมือนกัน


บางเรื่องที่เราเขียนก็ดูจะบ้าๆบอๆไร้สาระไปหน่อย
จนเหมือนยึดเป็นที่ระบายอารมณ์ในบางครั้ง
อย่างไรก็ตาม
เราต้องขอขอบคุณทุกคนมากๆนะคะที่เข้ามาอ่าน


ปล .
เราใช้ชื่อ N3K เป็นชื่อ blog เนื่องจากชื่อนี้เป็นชื่อกลุ่มเราสมัย ม.ต้น
แล้วเราสมัครพันธุ์ทิพย์ช่วงมอต้นพอดี ก็เลยใช้ login เป็นชื่อนี้แล (( ง่ายดีมั้ย ))

((( ปล จริงๆแร้ว )))

ตอนนี้เรากำลังจิตตกกับการเข้าสู่แผนกทำคลอดเป็นวันแรก

แอบกลัวอยู่อ่ะ เราไม่อยากทำคลอดเรย

ทำไงดีอ่ะ??




Friends' blogs
[Add MsBrenda's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.