วัดป่าสิริวัฒนวิสุทธิ์ วัดในพระองค์ อ.ท่าตะโก จ.นครสวรรค์ : คำภาวนาเป็นจริง ตอนที่ 1
ไหว้พระฤดูฝน ล่าสุดที่ผ่านมา ก็ธุระไปส่งหลานเรียนพิเศษที่นครสวรรค์ (เตรียมการเปิดกูเกิ้ลแม็ฟ จดๆ รถไม่มีีจีพีเอสก็ต้องอย่างนี้ครับ จากระยะทางจากนครสวรรค์ไปถึงวัดป่าสิริวัฒนวิสุทธิ์ประมาณ 60 โล น่าสน) ... ส่งหลานเข้าเรียนเสร็จ ก็วิ่งยาวเลยครับ จากสี่แยกสะพานเดชาติวงศ์ วิ่งเข้าถนนสายเอเชีย(พหลโยธิน) เลี้ยวซ้ายเข้าเส้น 3001 สี่แยกหน้าค่ายจิรประวัติ เลี้ยวขวาเข้าเส้น 3004 (ถ้าตรงไป ผิดเส้นทาง จะเป็นสถานีรถไฟนครสวรรค์) วิ่งจนถึงอ.ท่าตะโก มีป้ายบอกทางไปวัดตลอดทาง ไม่มีหลงครับ เลี้ยวขวา ตามป้าย "วัดป่าสิริวัฒนวิสุทธิ์" เส้น 1145 จนถึงวัดครับ วัดอยู่บนภูเขาเห็นแต่ไกลครับ ตามมาครับ
***ขออภัยทำภาพไฟล์กิ๊ฟเส้นทางพิมพ์ชื่อวัดผิด วัฒน์ ที่ถูก วัฒน***
ด้วยเป็น ฤดูฝน ไม่มีแดดตั้งแต่เช้าครับ ได้แต่ภาวนาอยู่ในใจ ขอให้ ฟ้าเปิด
ป้ายทางเข้าวัดครับ
สถานที่จอดรถกว้างขวางครับ มีลานจอดรถด้านล่าง และลานจอดรถข้างเรือ
***เพื่อนๆคง งงใช่หรือเปล่าครับ เรืออะไร วัดป่าสิริวัฒนวิสุทธิ์สร้างอยู่บนเรือครับ ภาพถ่ายทางอากาศจากโปสการ์ดครับ ทางวัดจำหน่ายแผ่นละ 10 บาท
ประวัติของวัดจากเว็บ //www.watpasiriwattanavisut.org/ ความเป็นมา วัดป่าสิริวัฒนวิสุทธิ์ ในพระองค์ ฯ เลขที่ ๙๙ หมู่ที่ ๒ ตั้งอยู่บนเขา ณ บ้านเขาโคกเผ่น ตำบลทำนบ อำเภอท่าตะโก จังหวัดนครสวรรค์ เป็นพุทธสถานที่คณะสงฆ์และคณะศิษยานุศิษย์ของท่านเจ้าประคุณสมเด็จพระมหาวีรวงค์(วิน ธมฺมสารเถร ป.ธ.๙) อดีตเจ้าอาวาสวัดราชผาติการาม กรุงเทพฯ สร้างถวายแด่ท่านเจ้าประคุณสมเด็จพระมหาวีรวงค์ ในโอกาสที่เจริญชนมายุศม์ ครบ ๘๐ ปี เมื่อวันที่ ๒๙ กันยายน พ.ศ. ๒๕๒๙ วัดป่าสิริวัฒนวิสุทธิ์ ได้รับอนุญาตจาก กรมธนารักษ์ให้ใช้สถานที่ จำนวน ๙๖ ไร่ ๒ งาน ๕๘ ตารางวา สร้างวัดขึ้นเฉลิมพระเกียรติ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวภูมิพลอดุลยเดชมหาราช ในโอกาสเฉลิม พระชนมพรรษาครบ ๖รอบ๗๒พรรษา และได้รับพระราชทาน วิสุงคามสีวา ในปี พ.ศ. ๒๕๔๘ ชื่อ วัดป่าสิริวัฒนวิสุทธิ์ นี้ ท่านเจ้าประคุณสมเด็จพระมหาวีรวงค์ ( วิน ธมฺมสารเถร) อดีตเจ้าอาวาสวัดราชผาติการามวรวิหาร ได้ประทาน ชื่อวัดว่า วัดป่าสิริวัฒนวิสุทธิ์ เพื่อถวายพระเกียรติ แด่สมเด็จพระสังฆราชเจ้า กรมหลวงชินวรสิริวัฒน์ (ม.จ.ภุชงค์ ชมพูนุท) วัดราชบพิธสถิตสีมาราม ส่วน สิริวัฒนวิสุทธิ์ ( วิ. ) เป็นพระราชทินนามที่พระราชทานชื่อสมณศักดิ์ แด่พระราชาคณะ ชั้นสามัญ ฝ่ายวิปัสสนาธุระ ( พัดขาว ) พระครูปลัดสัมพิพัฒนวิริยาจารย์ ( สุนทร สุนฺทราโภ เปรียญ ๔ ประโยค) ได้รับพระราชทาน เมื่อวันที่ ๕ ธันวาคม พ.ศ. ๒๕๒๕ ปัจจุบันเลื่อนสมณศักดิ์ เป็น พระเทพโมลี ผู้ช่วยเจ้าอาวาสวัดราชผาติการาม กทม. เมื่อ วันที่ ๑๒ มิถุนายน พ.ศ. ๒๕๕๐ สมเด็จพระเจ้าพี่นางเธอ เจ้าฟ้ากัลยาณิวัฒนา กรมหลวงนราธิวาสราชนครินทร์ ทรงพระกรุณาโปรดเกล้า ฯ รับวัดป่าสิริวัฒนวิสุทธิ์ เป็นวัดในพระองค์ ฯ และทรงรับเป็นองค์ประธาน งานก่อสร้างเจดีย์ศรีพุทธคยา เฉลิมพระเกียรติ แด่พระบาทสมเด็จพระเจ้าภูมิพลอดุลยเดชมหาราช ในโอกาสที่ทรง ครองสิริราชสมบัติครบ ๖๐ ปีและ ทรงเจริญพระชนมายุครบ ๘๐ พรรษา ใน วันที่ ๕ ธันวาคม พ.ศ. ๒๕๕๐
รูปลักษณ์สิ่งก่อสร้าง วัดป่าสิริวัฒนวิสุทธิ์ ในพระองค์ ฯ สร้างเป็นรูปเรือหลวง มีความหมายถึงพาหนะที่จะช่วยขนสัตว์โลกที่ยังตกอยู่ในห้วงแห่งสังสารวัฎ (ทะเลวน) ให้พ้นจากโอฆะสงสารห้วงน้ำนั้นคือ กิเลส เรือที่ตั้งอยู่บนเกาะหรือภูเขา หมายถึงเป็นสถานที่ ที่น้ำไม่สามารถท่วมถึงได้หรือท่วมทับแก่บุคคลที่มี ปัญญาได้ ผู้มีปัญญา มีความขยัน อดทนไม่ประมาทตามกิเลส มีความ สำรวมระวังดี ก็จะอยู่บนเรือลำนี้ได้โดยปลอดภัย เรือหลวงอันเป็นที่ตั้งของวัดป่าสิริวัฒนวิสุทธิ์ มีชื่อเรือว่า ราชญาณนาวาฑีฆายุมงคล สร้างขึ้นเพื่อเฉลิมพระเกียรติ แด่สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์พระบรมราชินีนาถ ในโอกาสเฉลิมพระชนมพรรษาครบ ๕ รอบ ๖๐ พรรษา เรือหลวงลำนี้มี ความกว้าง ๓๐ เมตร ยาวโดยประมาณ ๖ ไร่เศษ สิ่งก่อสร้างต่างๆ ที่ สร้างขึ้นล้วนแต่เป็นอนุสรณ์ให้ระลึกถึงสถาบันแห่งชาติทั้งสิ้น พระพุทธเอกนพรัตน์ บริเวณหัวเรือ ราชญาณนาวาฑีฆายุมงคล เป็นที่ ประดิษฐานพระพุทธเอกนพรัตน์ ( ปางเสริมบารมี )
ภาพบริเวณหัวเรือครับ
พระพุทธเอกนพรัตน์ ( ปางเสริมบารมี )
พระพุทธเอกนพรัตน์ สร้างขึ้นในปีมหามงคลสมัยที่พระบาทสมเด็จ พระเจ้าอยู่หัวภูมิพลอดุลยเดชมหาราช ทรงครองสิริราชสมบัติครบ ๕๐ ปี เป็นปีกาญจณาภิเษก พระเทพโมลี ผู้ช่วยเจ้าอาวาสวัดราชผาติการาม เจ้าคณะเขตดุสิต ( ธรรมยุต ) กรุงเทพ ฯ ซึ่งเป็นผู้ริเริ่มสร้างวัดป่าสิริวัฒนวิสุทธิ์ ในพระองค์ ฯ ขึ้น ได้คิดรวบรวมพระพุทธจริยาปางต่างๆ ประจำวันของเทพนพเคราะห์ทั้ง ๙ พระองค์ มีพระอาทิตย์เทพ จันทรเทพ เป็นต้นและคนทั้งหลายก็นำมาเป็นนิมิตหมายแห่งวันเกิดของตน และเทพแต่ละองค์ก็จะมีพระพุทธรูปปางต่างๆ ที่เคารพนับถือบูชาประจำพระองค์ มนุษย์ทั้งหลายที่ได้ถือนิมิตรหมายแห่งเทพประจำวันเกิด ก็จะต้องยอมรับนับถือพระพุทธรูปที่ประกอบด้วยพุทธจริยาปางต่างๆ มาประจำตัวด้วย จึงเป็นที่มา ของพระพุทธรูปประจำวันเกิดทั้ง ๗ วัน โดยเพิ่มวันพุธกลางคืนคือพระราหูและพระเกตุเข้าอีก ๒ พระองค์ จึงรวมเป็น ๙ องค์ เรียกว่า เทพนพเคราะห์สำหรับดูแลรักษามนุษย์ให้มีความสุขความเจริญ พระพุทธเอกนพรัตน์ เป็นพระพุทธรูป ๓ องค์ ๓ สมัย ๔ อิริยาบถ ๑๐ ปาง ในฐานเดียวกันคือ ประทับยืนสมัยสุโขทัย ประทับนั่งสมัยเชียงแสน และปางไสยาสน์สมัยอู่ทอง รวมพุทธจริยา ๑๐ ปาง ประทับยืน ๕ ปาง ๑. ปางประทับรอยพระพุทธบาท (พระกาญจนาภิเษกเป็นองค์ประธาน ) ๒. ปางรำพึง ประจำวันศุกร์ ๓. ปางห้ามญาติ ประจำวันจันทร์ ๔. ปางถวายเนตร ประจำวันอาทิตย์ ๕. ปางอุ้มบาตร ประจำวันพุธ ประทับนั่ง ๓ ปาง คือ ๖. ปางนาคปรก ประจำวันเสาร์ มีนาค ๙ เศียร ๗. ปางสมาธิ ประจำวันพฤหัสบดี ๘. ปางปาลิไลยก์ ประจำวันพุธกลางคืน ประทับบรรทม ( ไสยาสน์ ) ๒ ปาง คือ ๙. ปางไสยาสน์ ประจำวันอังคาร ๑๐. ปางพระเกศธาตุ ประจำพระเกตุ( พระหัตถ์แตะพระเศียร ) ถอนเส้นพระเกศา
ผู้บัญชาการเรือ ราชญาณนาวาฑีฆายุมงคล คือ เสด็จในกรมหลวงชุมพรเขตต์อุดมศักดิ์
เรืออยู่ในน้ำ
ด้านหลังเสด็จในกรม เป็นพระพิฆเณศ/เทวรูป
ที่ฐานพระพุทธรูปมี
ตอนต่อไป จะไปชมโบสถ์แก้วครับ
Create Date : 21 สิงหาคม 2555 |
|
17 comments |
Last Update : 21 สิงหาคม 2555 1:27:57 น. |
Counter : 9311 Pageviews. |
|
|
|
เป็นวัดที่อลังการงานสร้า้งมากครับ