Bloggang.com : nobuta wo produce : NOBUTA WO PRODUCE : สิ่งที่เป็นมากกว่าหนังวัยรุ่นธรรมดา

NOBUTA WO PRODUCE : สิ่งที่เป็นมากกว่าหนังวัยรุ่นธรรมดา

NOBUTA WO PRODUCE

ชื่อไทยคือ โนบูตะ ปฎิบัติการเปลี่ยนเธอให้สวยปิ๊ง
แม้ชื่อเรื่องจะดูเหมือนเป็นซีรีย์ เกี่ยวกับความรักและมิตรภาพ
ของวัยรุ่นหนุ่มสาววัยเรียนทั่วไป
แต่จริงๆแล้วเรื่องนี้เน้นที่เนื้อหาสาระมากกว่านั้น
เรื่องราวของมิตรภาพของคำว่าเพื่อนแท้ เราคิดว่า NOBUTA WO PRODUCE เป็นซีรีย์ที่ให้คำจำกัดความได้ดีที่สุดเรื่องหนึ่งค่ะ

เป็นหนังที่ว่าด้วย การมีชีวิตอยู่ การปรับตัว การสร้างกำลังใจ
และแรงบันดาลใจเพื่อมีชีวิตอยู่ต่อไปบนโลกใบนี้ค่ะ
ออกแนวเวอร์ แต่หนังเรื่องนี้เป็นอะไรที่ประทับใจมาก ดูแล้วรู้สึกอบอุ่น รู้สึกดี
ขออนุญาต copy คำโปรยหนังมานิดนึงนะคะ ชอบประโยคนี้มาก

“การมีชื่อเสียง หรือการเป็นที่นิยมชมชอบนั้น
ไม่ได้มีความหมาย หรือสำคัญอะไรเลย เพราะมันคือสิ่งจอมปลอม เหมือนกับที่ชูจิเป็น เพราะสิ่งที่มีความหมายมากกว่านั้นคือ การมีเพื่อนที่แท้จริงที่สามารถให้เราเป็นในสิ่งที่เป็นเรา และมีความสุขกับการใช้ชีวิตอย่างที่เราอยากให้เป็น เราไม่จำเป็นต้องเป็นที่นิยมชมชอบ แต่เราจำเป็นต้องมีเพื่อนดีๆ"

เป็นความจริงและเป็นอะไรที่ โดน...ใจ มาก

โนบูโกะ เด็กสาวม.ปลาย ที่มีนิสัยเงียบ เก็บตัว ไม่สามารถเข้าสังคมกับใครได้ มีชีวิตอยู่แบบทื่อๆ ยิ้มไม่เป็น(ในหนังแอบตลกเหมือนกันเวลาที่นางเอก พยามยามจะยิ้มน่ะค่ะ ^ ^) เพราะมีปมฝั่งใจจากอดีต ในวัยเด็ก และ มีชีวิตอยู่ ในแบบที่โดนหมายหัวกลั่นแกล้งอยู่ตลอดเวลาค่ะ..เป็นคนประเภทที่ มีชีวิตอยู่เหมือน ไม่มีตัวตนในสังคม...

โนบุโกะ
"ก็อย่างที่ฉันบอก ไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลงได้
ไม่ว่ายังไง โลกใบนี้ก็ยังเป็นเหมือนเดิม
โลกที่ฉันไม่สามารถมีชีวิตอยู่ได้
มันก็ยังคงดำเนินต่อไป"

ชูจิ
"ถ้าอย่างนั้น ก็สร้างมันขึ้นมาสิ โลกที่เธอสามารถมีชีวิตอยู่ได้ ฉันจะสร้างมันขึ้นมาเอง"

ชูจิ เด็กหนุ่ม ที่ป็อบปูล่าของห้อง
เท่ห์ เก่ง อัธยาศัยดี มีแฟนน่ารัก(แฟนรับบทโดย เอริกะ โทดะ นางเอกเดธโน้ต ค่ะ) เป็นศูนย์รวมและเป็นที่ชื่นชอบของทุกคนในห้อง

อากิระ เด็กหนุ่มที่ภายนอกดู ติ๊งต๊อง(บางทีก็มากกว่าติ๊งต๊อง ยามะพีน่ารักมากค่ะเรื่องนี้ ^ ^) แต่จริงๆแล้ว เราว่า อากิระนี่ล่ะ เป็นผู้ใหญ่ที่สุดในเรื่อง เป็นคนที่จริงใจกับชูจิ และแอบปลื้มโนบูตะด้วย

โชคชะตา พาเพื่อนทั้งสามคนมาเจอกันค่ะ

คนหนึ่งอยู่จุดต่ำสุดของสังคม
คนหนึ่งอยู่สุดสูงสุด
อีกคนมีชีวิตอยู่แบบกลางๆ ไม่ขึ้นและไม่ลงกับใคร
เรื่องราวการต่อสู้ การให้ความหวังและกำลังใจ
มิตรภาพของเพื่อนที่ไม่ได้วัดกันที่ปริมาณหรือจำนวนของเพื่อนที่มาก
หากแต่เพียงแค่เพื่อนที่พร้อมจะยืนอยู่ข้างๆเราเสมอ ไม่ว่าเวลาไหนก็ตาม พร้อมที่จะจับมือกันเดินไป และถึงแม้ไม่ได้พูดตคุยหรือมีชีวิตอยู่ในที่เดียวกันแล้ว เราก็สามารถที่จะรับรู้ได้ว่า....เค้ายังอยู่....ข้างๆเราเสมอ(ซึ่งพอเราโตขึ้น ก็หาได้ยากนะคะ ความรู้สึกแบบนี้ แต่ถึงแม้ว่าจะหายาก แต่เพียงแค่ครั้งนึงเราเคยได้รู้สึกแบบนี้ ก็คิดว่ามันเป็นสิ่งที่คุ้มค่าแล้วล่ะค่ะ^ ^)

เพื่อนสนิทคนแรก
ที่เป็นเพื่อนผู้หญิง ในแบบของเด็กสาวทั่วไป ที่โนบูโกะ
ฝันอยากจะมี เพื่อนที่เป็นฝ่ายเดินเข้ามาหาเธอเอง
แต่เธอก็คือ คนที่ทำร้ายโนบูโกะ และให้บทเรียนที่มีค่าแก่โนบูโกะ และที่สำคัญ มันทำให้เห็นมิตรภาพของเพื่อนแท้ ชูจิและอากิระมากขึ้น ..(แอบกลัวผู้หญิงหรือเพื่อนในแบบนี้ขึ้นมาเลย แกล้งกันรุนแรงมากเลยในความรู้สึก เป็นคนในแบบที่ น่ากลัว แต่ก็มีตัวตนอยู่จริงในสังคม)

เอริกะ โทดะ
เรื่องนี้ก็แสดงเป็นแฟนสาวของชูจิค่ะ
ทั้งคู่เป็นคู่รักที่ทุกคนในโรงเรียนอิจฉา
แต่ความจริงแล้ว เธอน่าสงสารมากกว่านะคะ
เพราะสิ่งที่ชูจิทำ ...คือการแสแสร้งค่ะ
แต่สุดท้ายทั้งสองคนก็กลายมาเป็นเพื่อนที่ดีต่อกันค่ะ
สำหรับชูจิแล้ว ทุกสิ่งทุกอย่างในโลกนี้ คือ เกมส์
ถ้าเล่นดี เราก็อยู่ต่อ
ในทางกลับกัน ถ้าเล่นไม่ดี ก็อาจจะต้องแพ้
(แต่สุดท้ายในหนังตอนจบ ชูจิก็คิดได้นะคะ ถ้าแพ้..ก็แค่เริ่มต้นใหม่ : ))

ฉากเล็กๆที่รู้สึกชอบและประทับใจอีกฉากก็คือ
ตอนที่โนบูตะ ไม่ยอมตัดผมที่รกรุงรังของตัวเอง
(จนเด็กๆแถวนั้นให้ฉายาเธอว่าเป็นผีที่ศาลเจ้า)
เพื่อที่จะเปลี่ยนชีวิตใหม่
ชูจิและอากิระ ก็พยายามที่จะช่วยให้เธอมีชีวิตที่สดใส
ได้แต่งตัวและทำผมในแบบที่ นักเรียนหญิงคนอื่นๆเค้าเป็นกันบ้าง
แต่เธอไม่กล้าพอที่จะเปลี่ยนแปลงตัวเอง
บอกกับชูจิและอากิระไปว่า
ถ้าอย่างนั้น เธอกล้าที่จะใส่เสื้อผ้าสีสันฉูดฉาดพวกนั้นมั้ยละ?
(พร้อมกับก้มหน้าและชี้ไปทางเสื้อพวกนั้น...เอ่อ สีมันแบบว่า สุดๆอ่ะ)
ความเงียบ แทนคำตอบว่าพวกเค้าไม่ใส่
แต่ตัดมาอีกตอนก็เป็นตอนที่โนบูตะนั่งอยู่คนเดียว
ในสนามเด็กเล่น เพื่อนทั้งสองคน ทั้งชูจิกับอากิระ
เดินเข้ามาพร้อมกับบอกว่า

เราไปตัดผมกันเถอะนะ!
พร้อมกับใส่เสื้อผ้าที่เธอท้าให้สองคนใส่สีสันแสบตามาก^ ^ เป็นการแสดงความจริงใจที่อยากจะให้โนบุโกะกล้าที่จะลุกขึ้นมาปลี่ยนแปลงตัวเองบ้าง โดยการยอมใส่เสื้อผ้าพวกนั้น...ฉากนี้มันทำให้รู้สึกอบอุ่นใจมากเลยนะ :)

โนบูตะโดนแกล้ง
เทสีลงไปบนเสื้อที่เขียนคำว่า น่าเกลียดลงไป
(แล้วใครจะกล้าใส่ฟอร์มที่มีคำเหล่านี้ติดมาที่โรงเรียนล่ะคะ)
แต่ทั้งชูจิและอากิระ ก็เป็นคนที่ใส่ทั้งเสื้อและกางเกง
ที่เขียนด้วยสีและคำต่างๆลงไป
จนกลายเป็นกระแสที่ฮิตในหมู่นักเรียน
ตอนที่สองคนนั่นวิ่งตัดหน้าผ่านโนบูตะไป
เธอมองเห็นกางเกงของเพื่อนทั้งสองที่เขียนด้วยสีแบบที่เธอโดนแกล้ง ฉากตอนนี้ก็ทำเอาเราน้ำตารื้นเลยล่ะ สิ่งที่เพื่อนทั้งสามคนผ่านเหตุการณ์ต่างๆร่วมกันมา ทั้งตลกทั้งฮา ทั้งเศร้าและเสียใจ
แต่สิ่งที่สำคัญที่สุดก็คือการที่พวกเค้าทั้งสาม
ได้ความเป็นเพื่อนที่ดีต่อกันค่ะ

ได้รู้ซึ้งถึงความหมายของคำว่าเพื่อนแท้..

การที่คนๆหนึ่งซึ่งเคยใช้ชีวิตอยู่แบบโดดเดี่ยว แยกตัวออกจากสังคม เป็นคนที่ใช้ชีวิตอยู่แบบที่เรียกได้ว่า ไม่มีตัวตนในสังคม
เป็นฝ่ายถูกรังแกและถูกกลั่นแกล้งมาโดยตลอด
สามารถก้าวข้ามผ่านสิ่งเลวร้ายเหล่านั้นมาได้
และยังพาตัวเองขึ้นมาอยู่ในจุดที่ทุกคนสามารถมองเห็นได้นั้น....
มันถือได้ว่ายอดเยี่ยมมากเลยนะคะ(ถ้าใครที่เคยอยู่ในจุดนี้
จะเข้าใจได้ดีว่ามันยากและต้องใช้กำลังใจและความพยายามมาก
แค่ไหน)

ความรู้สึกเหมือนเราไม่มีตัวตนในสังคม
ดูเป็นสิ่งไม่มีค่าสำหรับใครนั้น คงเป็นความรู้สึกที่เกิดขึ้นได้
กับทุกๆคนนะคะ คนที่popularและถูกรุมล้อม อยู่ตลอดเวลา
เท่านั้นล่ะค่ะ ที่จะไม่เคยเข้าใจมัน .....ในตอนสุดท้ายของหนัง
เราจึงอดที่จะร้องไห้กับฉากตลกๆของโนบุโกะไม่ได้ ...
เธอพยายามที่จะแต่งตัวเป็นคนทำความสะอาดศาลเจ้า
(ตามคำขอของอากิระ ที่พูดขึ้นมาลอยๆว่าชูจิอยากจะเห็นเธอ
ใส่ชุดตลกๆนั่นก่อนที่จะต้องย้ายโรงเรียน และพวกเค้าทั้งสามคน
ก็จะไม่ได้เจอกันทุกวันเหมือนเดิมอีก) ..
คำพูดที่โนบุโกะพูดบอกกับชูจิและอากิระคือ....(ในขณะที่ทั้งสองคนยืนอึ้งเมื่อเห็นเธอกล้าแต่งชุดนั้น)

ฉันอยากจะทำทุกอย่างถ้ามันเป็นความต้องการของเธอ
.....เพื่อที่จะบอกให้เธอได้รู้ว่า
...ฉันรู้สึกขอบคุณเธอมากแค่ไหน...

ในที่สุดโนบุโกะสามารถยิ้มออกมาได้(ในเรื่องโนบุโกะพยายามอย่างยิ่งที่จะยิ้มให้เหมือนคนปกติอยู่ตลอดเวลาค่ะ ละครสร้างบุคลิกให้เธอเป็นคนที่ยิ้มยาก)...
ดังนั้นในตอนแรกที่เธอสามารถยิ้มได้ในแบบนั้น ...
จึงรีบวิ่งขึ้นไปบนดาดฟ้า ซึ่งเป็นที่ประจำที่ โนบุโกะ ชูจิ และอากิระ จะนัดพบกันเป็นประจำ แต่เมื่อวิ่งๆไปจนถึงดาดฟ้า
ถึงเพิ่งนึกขึ้นได้....พวกเค้า ไม่ได้อยู่ที่นี่แล้วนี่นา...
โนบุโกะแหงนหน้ามองบนท้องฟ้าพร้อมกับหยาดน้ำตาและรอยยิ้ม
ประทับใจมากกับมิตรภาพของเพื่อนในแบบนั้น
ที่ถึงแม้จะไม่ได้เจอ ก็สามารถรับรู้ได้ว่า..มันมีอยู่จริง

Recommend :)

คนเราสามารถมีชีวิตอยู่ได้..ไม่ว่าอยู่ที่ไหน

nobuta wo produce

Create Date : 03 ตุลาคม 2554

Last Update : 12 มกราคม 2555 4:27:53 น.

11 comments

Counter : 4305 Pageviews.

เรื่องนี้ก็ชอบ
น่ารักดีกับมิตรภาพ
ได้ดูแว่บๆ ตอนนั้นฉายทางทีวี
จนต้องไปหาแผ่นมาดู

โดย: we IP: 124.122.249.49 วันที่: 10 ตุลาคม 2554 เวลา:22:37:33 น.

ดีใจที่มีคนชอบเหมือนกันค่ะ
เราชอบมาก
มันสร้างแรงบันดาลใจให้เราได้หลายอย่างเลยล่ะค่ะ
สังเกตได้จากชื่อ blog ก็คงพอจะรู้นะคะ

ถึงแม้ว่าตัวเองจะไม่เคยได้อยู่ในจุดที่ต่ำสุดแบบที่โนบุโกะยืนอยู่ แต่เพียงแค่ในสถานการณ์ ที่เราเคยได้เลียบๆเคียงๆไปยืนอยู่ในจุดนั้น นั่นก็ทำให้จิตตกแล้วล่ะค่ะ
ใครว่าชีวิตวัยรุ่นเป็นเรื่องสนุก
เรื่องนี้คงบอกเราได้เป็นอย่างดี ว่ามันมีอะไรที่มากกว่านั้น สิ่งเล็กๆ สิ่งธรรมดาๆ ที่เกิดขึ้นในวันหนึ่งๆ แต่ในนั้นมีรายละเอียดของแต่ละชีวิตดำเนินอยู่มากกว่านั้น

ถึงแม้ในวันนี้จะข้ามผ่านช่วงวัยรุ่น เข้าสู่วัยของการทำงานแล้ว แต่ก็ใช่ว่าในชีวิตของผู้ใหญ่ ในโลกของการทำงานจะไม่มีสิ่งเหล่านี้อยู่หรอกนะคะ

คิดว่า ความเชื่อมั่น ว่าเราสามารถเปลี่ยนแปลง ไปสู่สิ่งที่ดีกว่าได้ และสิ่งที่เรียกว่ามิตรภาพ สามารถพาเราให้ข้ามผ่านสิ่งเหล่านั้นไปได้ค่ะ

ถึงแม้ว่าเราจะหาสิ่งที่เรียกว่ามิตรภาพของเพื่อนแท้ ได้ยากเหลือเกินแล้ว แต่คิดว่า เพียงแค่สักครั้งที่เราได้เคยได้รับมัน เราสามารถที่จะขุดความรู้สึกเก่าๆนั้นออกมาสร้างพลังใจให้เราได้นะคะ

และถึงแม้ว่าท้ายที่สุดแล้วจะไม่มีใครเลย
แต่เราก็ยังมีตัวเราเองค่ะ

เราดีใจ
ถึงแม้จะเพียงแค่น้อยนิด ที่มีคนชอบเรื่องนี้แบบเดียวกับเรานะคะ

แค่เพียงตัวหนังสือ ไม่กี่ตัวที่ส่งผ่านถึงกัน

ก็เป็นสิ่งมีค่าแล้วล่ะค่ะ

โดย: nobuta wo produce

วันที่: 13 ตุลาคม 2554 เวลา:11:19:54 น.

แอบมาหาอะไรดูครับ ^^

โดย: BoonsermLover

วันที่: 20 ตุลาคม 2554 เวลา:6:36:14 น.

ไว้จะไปตามดูมั่งค่ะ

โดย: หมู (meitanteiruss

) วันที่: 24 ตุลาคม 2554 เวลา:17:10:16 น.

เดี๋ยวจะลองหามาชมครับ

โดย: คนขับช้า

วันที่: 25 มกราคม 2555 เวลา:21:39:02 น.

อยากดูซีรี่เรื่องนี้ขึ้นมาแล้วสิ มีให้ยืมไหมครับ?

โดย: คนขับช้า

วันที่: 7 กรกฎาคม 2555 เวลา:12:00:37 น.

ชอบมาก😍😍😍😍😍😍😍😍😍😘😘😘😘😘😘😘

โดย: TooT IP: 182.53.174.89 วันที่: 11 ตุลาคม 2556 เวลา:11:49:07 น.

ชอบมาก😍😍😍😍😍😍😍😍😍😘😘😘😘😘😘😘

โดย: TooT IP: 182.53.174.89 วันที่: 11 ตุลาคม 2556 เวลา:11:49:07 น.

เราตามเก็บผลงานปู้จายค่ายเจอีเลยได้ดูเรื่องนี้ค่ะ เป็นรีวิวที่ดีมากเลยค่ะ คือตอนเราดูไม่ได้รู้สึกละเอียดละออกับซีรีย์เท่าไห่รเเต่คุณโนบุตะดึงความรู้สึกตรงนั้นออกมาบรรยายได้ลึกซึง หนังสือเล่มเดียวกันเเต่ความรู้สึกของคนอ่านอาจเเตกต่างกัน ซีรีย์เรื่องนี้ก็เหมือนกันค่ะ ขอบคุณที่ทำให้เราได้รู้ความรู้สึกอีกมุมหนึ่งจากหนังเรื่องเดิมทีเคยดู เเละนี่ก็น่าจะเป็นอีกเรื่องในลิสท์ดูซ้ำยามว่างของเรา
ปล น้องของคาเมะเเสดงโดยยูโตะ คนนี้ที่หนึ่งในใจเรา ฮี่ๆ โตะเบียดมัสสึจุนจากโกคุเซนขึ้นมารั้งตำเเหน่งนี้ได้สองปี หลังจากที่เรารักจุนมาอย่างยาวนาน (เราบ้าปู้จายค่ายนี้)

โดย: lyly_j IP: 203.209.66.42 วันที่: 24 กรกฎาคม 2557 เวลา:9:37:23 น.

ทักทาย คุณ lyly_j ค่ะ
nobuta wo produce เรารักซีรีย์เรื่องนี้ค่ะ
มันเป็นซีรีย์นอกสายตามากๆ ทีแรกที่ดู gikจำได้ว่า ไอทีวี (หรือว่าไทยพีบีเอสแล้วนะ ตอนนั้นเปลี่ยนชื่อสถานีหรือยังไม่แน่ใจนะคะ)
นำมาเสนอฉาย ซึ่งตอนนั้นน่าจะเข้ายุคปลายๆของซีรีย์ญี่ปุ่นที่เฟื่องฟูในบ้านเราแล้วล่ะค่ะ คือความตั้งใจแรกเลยเราอยากดู ยามะพี ค่ะ(ตัวเลือกในการเลือกดูซีรีย์ของโนบุจะเป็นแบบนี้นะคะ คือถ้าจะดูซีรีย์หรือหนังหนึ่งเรื่อง 1. ดูจากนักแสดงนำ เป็นหลัก 2. ดูจาก ผู้กำกับ 3. ดูจากพลอตเรื่องค่ะ และ4. ดูจากเรตติ้งหรือเพื่อนแนะนำค่ะ ^^)
สำหรับ nobuta wo produce พอดูๆไป กลายเป็นว่า เราอิน เรื่องนี้เข้าอย่างจังเลย

คือมันนอกกรอบของหนังวัยรุ่นมาก จะพูดอย่างไรดี
คือมันต้องได้ดูนะ ถึงจะเข้าใจ
โนบุว่าเป็นหนังปรัชญา ดีๆเรื่องนึงได้เลย คือมันสอนการใช้ชีวิตนะ มันเป็นความรักของเพื่อน ในมุมมองที่เราไม่ค่อยได้เห็นทางหนังหรือซีรีย์บ่อยนัก

พลอตเรื่องที่ว่ามิตรภาพ รักกันยั่งยืน มันก็มีหลายเรื่องที่ทำออกมา และมีที่ดีดีอยู่มากเหมือนกันอันนี้เราไม่เถียง (เช่นเรื่อง Reply 1997 ของฝั่งเกาหลีค่ะ อันนี้แนะนำคุณ lyly นะคะ) มีซีรีย์เกี่ยวกับเพื่อนหลายเรื่องที่ดี

แต่เรื่องนี้ คำว่ามิตรภาพและเพื่อนมันถูกนำเสนอออกมาในอีกมุมมองหนึ่งที่สวยงามแตกต่างกันออกไปจากเรื่องอื่นๆน่ะค่ะ แล้วบทแล้วการดำเนินเรื่อง ประกอบกับคุณภาพ อินเนอร์ของนักแสดงที่ออกมา รวมๆกันแล้วมันโดน เราเลยรู้สึกรัก เรื่องนี้
...
ดีใจที่มีคนชอบเรื่องนี้เหมือนกันนะคะ

"คนเราสามารถมีชีวิตอยู่ได้ ไม่ว่าอยู่ที่ไหน "

โดย: nobuta wo produce

วันที่: 24 กรกฎาคม 2557 เวลา:20:11:57 น.

ยังไม่มีโอกาสได้ดูเลยครับ

โดย: คนขับช้า IP: 1.47.68.28 วันที่: 4 พฤษภาคม 2562 เวลา:20:59:51 น.