จะด้วยความบังเอิญหรือพรหมลิขิตก็ตามที ที่ทำให้ไลเต้ได้รับเชิญจากโรงแรมแกรนด์ดอย ซึ่งเป็นโรงแรมระดับห้าดาวในเมืองไทยให้มาเที่ยวพักผ่อน เพื่อให้ชายหนุ่มได้ทดลองใช้บริการและสัมผัสกับบรรยากาศที่โอบล้อมไปด้วยธรรมชาติที่แสนงดงาม ทั้งนี้ก็เพื่อให้ชายหนุ่มได้เขียนบทวิจารณ์ลงในบล็อกของเขานั่นเอง  ซึ่งโดยปกติแล้วชายหนุ่มจะไม่ค่อยตอบรับคำเชิญของใครโดยง่าย งานส่วนใหญ่ที่ทำจะเป็นเพราะอารมณ์พาไปล้วน ๆ แต่ครั้งนี้สิ่งที่ทำให้ชายหนุ่มหยุดพิจารณาข้อความในจดหมายเชิญ นั่นคือคำว่า ‘ประเทศไทย’

แค่เพียงได้เห็นข้อความแจ้งสถานที่ว่าเป็นประเทศไทย ก็ทำให้ภาพใบหน้าสวย ๆ ของหญิงสาวจอมยียวนคนหนึ่งลอยเข้ามาในหัวของไลเต้ทันที การตัดสินใจสำหรับเขาในครั้งนี้จึงไม่ยากเลยสักนิด ยิ่งเมื่ออ่านรายละเอียดแล้วพบว่าเป็นโรงแรมที่เชียงใหม่ หัวใจของชายหนุ่มก็ตอบตกลง ก่อนที่จะโทรไปเช็คข้อมูลจากภรรยาของเพื่อนรักเสียด้วยซ้ำ

            “แล้วเราจะได้เจอกันอีกครั้งคนสวย” เสียงพึมพำของชายหนุ่มดังขึ้นหลังจากตอบรับคำเชิญกลับไปทางอีเมล์เรียบร้อยแล้ว รอยยิ้มปรากฎขึ้นบนใบหน้าอันหล่อเหลาของชายหนุ่ม

            สองอาทิตย์ผ่านไปไวเหมือนโกหก ในที่สุดไลเต้ อเปโรโล่ ก็พาความหล่อของตัวเองมากระชากใจสาวไทยอีกครั้ง สนามบินเชียงใหม่ที่คลาคล่ำไปด้วยผู้คน ชายหนุ่มในชุดกางเกงยีนส์เสื้อยืด สวมทับด้วยเจ็คเก็ตหนัง กำลังเดินลากกระเป๋าเดินทางของตนเองออกมาตามทางออกผู้โดยสาร ทุกอย่างก็ธรรมดาปกติเช่นเดียวกับผู้โดยสารทุกคน แต่ที่ไม่ธรรมดาก็คือความหล่อและรูปร่างที่เพอร์เฟคของชายหนุ่มที่ขนาดผู้ชายด้วยกันเองยังต้องหันมอง ส่วนสาว ๆ ไม่ต้องพูดถึงเพราะมองกันจนเหลียวหลัง ปาดน้ำลายกันรัว ๆ เลยทีเดียว ยิ่งเมื่อชายหนุ่มโปรยยิ้มไปให้ เสียงกรี๊ดกร๊าดก็ดังตามมาทันที

            ไลเต้เดินมองหาป้ายชื่อของตนเอง จนได้มาเจอกับพนักงานขับรถของทางโรงแรมที่ยืนชูกระดาษเขียนชื่อของเขาอยู่ปะปนกับผู้คนที่มารอรับผู้โดยสารเช่นเดียวกันจำนวนมากที่บริเวณทางออก การเดินทางมายังโรงแรมแกรนด์ดอยของชายหนุ่มเป็นไปด้วยความเรียบร้อย

            โรงแรมหรูท่ามกลางการโอบล้อมของขุนเขา อากาศที่สดชื่น ความเขียวชะอุ่มของต้นไม้ สีสันระรานตาจากดอกไม้สวย ผสมกับเสียงน้ำไหลที่ในลำธารข้าง ๆ โรงแรมนั้น สร้างความประทับใจให้กับชายหนุ่มได้มิใช่น้อย ไลเต้ยืนสูดอากาศและเสพอาหารตาเป็นวิวสวย ๆ ชั่วอึดใจก่อนที่จะเดินเข้าไปภายในโรงแรมเพื่อทำการเช็คอินเข้าพัก พนักงานต้อนรับสาวรีบเข้ามาทำหน้าที่ของตนเองด้วยความเต็มใจอย่างยิ่ง ก็ใครจะอดใจไหว หล่อ ล่ำ ขาว สูง ขนาดฝรั่งที่ใครก็อยากลิ้มลองเสียปานนั้น

            “สวัสดีค่ะ คุณไลเต้ อเปโรโล่ โรงแรมแกรนด์ดอยยินดีต้อนรับค่ะ พอดีว่าดิฉันได้รับมอบหมายจากคุณตรีเพชร ผู้ช่วยผู้จัดการฝ่ายการตลาดให้คอยดูแลคุณ ถ้าหากว่าคุณต้องการอะไรยกหูโทรศัพท์ที่ห้องกดหนึ่งศูนย์ศูนย์ โทรหาดิฉันได้เลยนะคะ ดิฉันชื่อช่อผกา คุณเรียกว่าช่อเฉย ๆ ก็ได้ค่ะน่าจะง่ายกว่า เดี๋ยวดิฉันจะพาคุณขึ้นไปที่ห้องเอง เชิญตามมาได้เลยค่ะ” พนักงานต้อนรับสาวส่งเสียงทักทายชายหนุ่ม พูดจาคล่องแคล่วอย่างมืออาชีพ แถมด้วยการชะม้ายชายตาให้ชายหนุ่ม หากว่าตอนนี้สามารถกลืนกินผู้ชายตรงหน้าเข้าไปได้ เธอก็คงไม่รีรอ

            “ได้เลยคนสวย เชิญคนสวยนำทางได้เลยครับ” เสียงตอบที่นุ่มทุ้มบาดใจสาวถูกส่งกลับไปให้พนักงานต้อนรับสาว ตามด้วยการขยิบตาและโปรยยิ้มทรงเสน่ห์เป็นของแถมอีกด้วย แค่นี้ก็พอที่จะทำให้หญิงสาวรู้สึกร้อนวูบวาบขึ้นมาในช่องท้องได้ทันที

            ช่อผการีบพาชายหนุ่มตรงขึ้นลิฟต์พาขึ้นไปยังชั้นของห้องสวีตสุดหรู กับวิวของขุนเขาที่โอบล้อมอยู่รอบด้าน เมื่อมองผ่านประตูกระจกใสแบบเลื่อนบานใหญ่ที่ใช้กั้นพื้นที่ห้องพักกับระเบียงนอกห้อง เพื่อให้มองออกไปแล้วพบกับความสดชื่นเขียวชะอุ่ม และฟ้าใส ซึ่งนับว่าเป็นหนึ่งในสิบห้องของโรงแรมที่มีราคาแพงที่สุด ตามที่ได้มีคำสั่งจองห้องพักจากผู้ช่วยผู้จัดการฝ่ายการตลาด เอาไว้ต้อนรับแขกคนสำคัญอย่างชายหนุ่ม

            “ถึงแล้วค่ะ..คุณไลเต้ ขอให้พักที่ห้องนี้อย่างมีความสุข ดื่มด่ำกับธรรมชาติรอบกายคุณได้อย่างเต็มที่นะคะ” ช่อผกากล่าวบอกชายหนุ่มตามหน้าที่ ก่อนจะพูดต่ออย่างอิดออดไม่อยากออกจากห้อง “อย่าลืมนะคะว่าต้องการอะไรก็สามารถกดเบอร์หนึ่งศูนย์ศูนย์โทรหาช่อได้ทุกเมื่อ” สายตาจิกหนุ่มของเธอถูกส่งไปให้บล็อกเกอร์ชื่อดังอีกครั้ง อย่างต้องการจะสื่อความหมาย

            “แล้วถ้าผมต้องการตอนนี้เลยล่ะครับ” ไลเต้ผู้ไม่เคยปฏิเสธน้ำใจของสาวสวย ส่งเสียงตอบรับพร้อมกับส่งมือหนาไปรวบตัวหญิงสาวเข้ามาหาตัวเขาทันที ตามมาด้วยริมฝีปากหยักของชายหนุ่มที่ประทับลงบนกลีบปากบางแดงสดด้วยสีของลิปติก ลีลารสจูบที่เร่าร้อนของชายหนุ่มคงถูกใจพนักงานต้อนรับสาวอยู่มาก จนแรงปรารถนาพุ่งสูงขึ้น มือบางจึงจัดการถอดแจ็คเก็ตหนังออกให้เจ้าของร่างใหญ่เสร็จสรรพ และกำลังจะจัดการกับชิ้นส่วนต่อไป

            ติ๊งต่อง... 

            เสียงกริ่งที่หน้าประตูห้องพักดังขึ้น จนทำให้ทั้งสองร่างต้องผละออกจากกันอย่างสุดแสนจะเสียดาย ช่อผกาจัดการเช็ดสีลิปสติกออกจากปากของชายหนุ่ม และก้มลงดูความเรียบร้อยของตัวเองอีกเล็กน้อยก่อนที่จะเดินไปเปิดประตู เห็นเป็นหนุ่มน้อยผู้ทำหน้าที่ยกกระเป๋าของแขกคนสำคัญขึ้นมานั่นเอง ไลเต้ควักแบงค์สีน้ำตาลออกจากกระเป๋าส่งให้หนุ่มน้อยเป็นการตอบแทน ช่อผกาเห็นแล้วถึงกับตาโตไม่ผิดหวังจริง ๆ กับผู้ชายคนนี้ หล่อ ล่ำ รวย และเร่าร้อนเช่นนี้ ถ้าปล่อยให้หลุดมือเธอก็คงโง่เต็มที ‘ยังไงก็ขอชิมหน่อยก็ยังดี ขนาดแค่จูบยังเด็ดขนาดนี้ อย่างอื่นจะขนาดไหน’ ช่อผกาคิดอยู่ภายในใจ แต่ใบหน้าก็ไม่อาจปิดบัง รอยยิ้มกรุ่มกริ่มปรากฏขึ้นที่มุมปาก ในตาเป็นประกายวาววับ ไม่ต่างอะไรกับชายหนุ่มในตอนนี้ เมื่อเคมีเข้ากัน ความต้องการก็ตรงกัน มีหรือที่คาสโนว่าอย่างไลเต้จะปล่อยให้หลุดมือ

            ทันทีที่เด็กยกกระเป๋าก้าวเท้าออกไป ประตูห้องปิดสนิทลง บทรักที่เร่าร้อนก็บรรเลงขึ้นทันที

            “อื๊ม ใจเย็น ๆ สิคะที่รัก อย่าดึงอย่างนั้นค่ะ ชุดยับหมด เดี๋ยวช่อต้องใส่ลงไปทำงานอีกนะคะ” ช่อผกาส่งเสียงเตือนชายหนุ่มที่กำลังจัดการกับเสื้อผ้าของเธอด้วยความรวดเร็ว ก่อนที่จะปล่อยมือออกจากการสัมผัสกับบางสิ่งที่กำลังพองแข็งสู้มือของหญิงสาวผ่านเนื้อผ้ายีนส์หนาที่ช่วงล่างของชายหนุ่ม เพื่อมาช่วยจัดการกับเสื้อผ้าของเธอเอง จากความชำนาญของทั้งคู่ ใช้เวลาเพียงไม่นานก็ทำให้อาภรณ์ที่กีดขวางทางรักของเธอและเขาหลุดพ้นไปจากทั้งสองร่างจนเปลือยเปล่าอยู่ในขณะนี้ บทรุกและรับที่ทั้งคู่สลับกันมอบให้แก่กันนั้นดำเนินไปภายในกรอบระยะเวลาที่จำกัด แต่นั่นก็ไม่เป็นอุปสรรคต่อคาสโนว่าตัวพ่อ เพียงขอให้บอกเงื่อนไข ชายหนุ่มก็พร้อมจะจัดให้ในทุกรูปแบบ

            เสียงขาเตียงขยับเสียดสีกับพื้นห้องดังเอี๊ยดอ๊าด เป็นจังหวะเดียวกับการสอดใส่เข้าออกที่ขับเคลื่อนโดยสะโพกสอบของชายหนุ่มอย่างต่อเนื่อง ประสานกับเสียงจากช่อผกาที่ร้องครวญครางอยู่ใต้ร่างหนา แรงดีตามขนาดตัวของชายผู้นำพา ความใหญ่ไซส์ยุโรปที่หญิงสาวได้รับอยู่นั้น ช่างสร้างความตื่นเต้นและเสียดเสียวให้เธออย่างถึงใจ จนในที่สุดก็พากันไปถึงยังฝั่งฝัน แม่สาวไวไฟถึงกับติดอกติดใจของใหม่ของใหญ่เข้าเสียแล้ว แต่ก็จำต้องตัดใจลงไปทำหน้าที่ของเธอให้หมดเวลางานเสียก่อน เช่นเดียวกับพ่อหนุ่มไฟแรง ที่ครั้งเดียวไม่เคยเพียงพอ เมื่อไฟแห่งราคะถูกจุดติดแล้วใช่จะดับกันได้ง่ายอย่างใจคิด จนต้องออกไปหาที่ระบายเพิ่มเติม

            สองหนุ่มสาวเดินออกจากห้อง หลังจากที่สำรวจสภาพตัวเองว่ากลับสู่สภาพเดิมกันเรียบร้อยแล้ว สองร่างที่อยู่ในลิฟต์มองตาสื่อความนัย อารมณ์ปรารถนาเพิ่มขึ้นราวกับปลากัดที่แค่มองตากันตัวเมียก็ท้องได้ หนึ่งสาวลงมาเพื่อทำหน้าที่ที่ยังค้างคา หนึ่งหนุ่มลงมาเพื่อเปิดหูเปิดตาและหาคนสานต่อความต้องการ เสน่ห์ช่างเกินจะทานทนเมื่อคาสโนว่าตัวพ่อแค่เพียงโปรยปรายรอยยิ้ม เสียงกรี๊ดอย่างสุดกั้นก็ดังขึ้นเป็นระยะ ไม่ทันจะต้องออกนอกโรงแรมก็มีสาวไฟแรงสูงมองส่งสายตาทอดสะพานให้ชายหนุ่มเป็นทิวแถว มีหรือที่คาสโนว่าตัวพ่อของชายหนุ่มจะปล่อยโอกาสที่มีเข้ามาให้หลุดลอย งานนี้ช่อผกาจะแสดงความหึงหวงก็ใช่ที่ จึงได้แต่เพียงปล่อยให้เป็นไปอย่างใจของชายหนุ่ม เพราะแค่เพียงเช็คหลักหมื่นที่ได้รับมาจากชายหนุ่ม ก็สามารถปิดอาการไม่พอใจจากพนักงานต้อนรับสาวเอาไว้ได้แล้ว

            เสียงลือเสียงเล่าอ้างดังกระฉ่อนในวันเปิดงาน ตรีเพชรเดินเข้าโรงแรมมาก็ได้ยินสาว ๆ แผนกต้อนรับพูดกันถึงความร้อนแรงของแขกคนพิเศษของเธอ จนทำให้อยากจะเจอหน้าจริง ๆ ว่าจะหล่อขนาดไหน และก็ไม่นานอย่างที่คิด เพราะในขณะที่หญิงสาวเดินเข้ามาในแผนก ยังไม่ทันจะได้วางของลงบนโต๊ะของตัวเองด้วยซ้ำ เสียงโทรศัพท์บนโต๊ะของเธอก็ดังขึ้น

            “สวัสดีค่ะ ตรีเพชรพูดค่ะ”

            (มาแล้วเหรอตรี พอดีเลยเดี๋ยวลงไปที่ห้องอาหารกับพี่หน่อย ตอนนี้คุณไลเต้เขาอยู่ข้างล่าง พี่จะแนะนำให้เรารู้จัก ยังไม่ได้เจอกันนี่ใช่ไหม) เป็นผู้จัดการหัวสมัยใหม่นั่นเองที่อยู่ปลายสาย

“ค่ะ..ได้ค่ะพี่ฝน” เสียงตอบรับจากตรีเพชรก่อนที่จะวางสาย ‘ดีเหมือนกัน อยากเห็นอยู่พอดี จะดูซิว่าจะหล่อขนาดไหน คนข้างล่างถึงได้พูดกันไม่หยุดปาก’ หญิงสาวหยุดความคิดเมื่อฝนทิพย์ ผู้จัดการฝ่ายการตลาดเดินออกมาจากห้องตรงมายังโต๊ะของเธอ ตรีเพชรเก็บกระเป๋าถือของตัวเองใส่ลิ้นชักแล้วจึงเดินออกไปพร้อมกัน

“พี่ฝนคะ ท่านประธานเชิญพบทางด้านโน้นค่ะ” พนักงานสาวคนหนึ่งเดินตรงเข้ามาบอกฝนทิพย์ ที่เดินออกมาจากลิฟต์และกำลังจะเดินตรงไปยังห้องอาหารของโรงแรม

            “งั้นตรีไปที่ห้องอาหารก่อนก็แล้วกัน คงไม่นาน คุยกับท่านเสร็จแล้วเดี๋ยวพี่ตามไปนะ” ฝนทิพย์หันมาบอกตรีเพชรที่เดินมาด้วยกัน ก่อนจะแยกไปยังทิศทางที่พนักงานสาวชี้มือบอก ปล่อยให้ตรีเพชรเดินไปยังห้องอาหารของโรงแรมตามลำพัง โดยทางที่จะไปห้องอาหารนั้น จะต้องผ่านเคาน์เตอร์และล็อบบี้ของโรงแรมก่อน จนทำให้หญิงสาวได้เจอกับลูกค้าขาประจำคนหนึ่งที่กำลังถือกระเป๋าเดินทางใบเล็กตรงเข้ามาที่เคาน์เตอร์เช็คอิน

            “อ้าว! คุณนท สวัสดีค่ะ” เสียงใสของตรีเพชรส่งไปทักทาย นทนันท์ กุลวินิจ พ่อเลี้ยงหนุ่มแห่งไร่ชานทนันท์ด้วยรอยยิ้ม

            “สวัสดีครับ คุณตรี ดีใจจังที่วันนี้ได้เจอคุณด้วย สบายดีนะครับ” ชายหนุ่มส่งเสียงตอบกลับพร้อมกับรอยยิ้มเช่นกัน

            นทนันท์ พ่อเลี้ยงหนุ่มจากแม่ฮ่องสอน ทุกครั้งที่เขาเดินทางมาเชียงใหม่จะมาใช้บริการห้องพักของโรงแรมแกรนด์ดอยแห่งนี้เป็นประจำ จนทำให้เป็นที่รู้จักและคุ้นเคยกันดีกับผู้ช่วยผู้จัดการฝ่ายการตลาดอย่างตรีเพชร จนถึงขนาดที่ว่าหญิงสาวได้ไปเที่ยวไร่ชานทนันท์มาแล้วด้วย

            “สบายดีค่ะ รอบนี้คุณนทจะมาพักกี่วันคะ”

            “คืนเดียวเท่านั้นครับ พอดีว่าผมไปที่อุตรดิตถ์มา แล้วก็จะแวะทำธุระที่เชียงใหม่นี่แค่วันเดียวครับ พรุ่งนี้ก็กลับแล้ว คุณตรีมีอะไรจะให้ผมรับใช้หรือเปล่าครับ”

            “แหม ใครจะกล้าใช้พ่อเลี้ยงนทละคะ ตรีแค่จะชวนคุณนทไปทานข้าวที่ร้านเล็ก ๆ  ตอบแทนตอนที่ตรีกับเพื่อนไปแม่ฮ่องสอนครั้งที่ผ่านมา แล้วคุณนทช่วยดูแลเป็นอย่างดีน่ะค่ะ แต่ก็ไม่รู้ว่าคุณนทจะรังเกียจร้านเล็ก ๆ หรือเปล่าน่ะสิคะ จะพาไปร้านใหญ่แพง ๆ ก็ไม่ไหวด้วยสิ ตรีเงินเดือนน้อยค่ะ ฮ่าฮ่า”

            “ไม่เลยครับ ที่ไหนผมก็ทานได้ทั้งนั้น ถ้ามีคุณตรีไปด้วย”

“แหม..ฟังแล้วชื่นใจจังค่ะ งั้นเดี๋ยวเอาไว้เย็นนี้ตรีเลิกงานแล้วจะโทรหานะคะ ช่วงเย็นคุณนทว่างหรือเปล่าคะ”

            “ถึงไม่ว่าง ผมก็เคลียร์ให้ว่างได้ครับ สาวสวยจะเลี้ยงข้าวทั้งที จะทำตัวยุ่งได้ยังไงกัน”

            “ฮ่าฮ่าฮ่า งั้นเดี๋ยวเย็นนี้เจอกันค่ะ ตรีขอตัวไปทำงานก่อน เชิญคุณนทตามสบายเลย ถ้าขาดเหลืออะไร โทรบอกตรีได้เลยนะคะ” ตรีเพชรพูดทิ้งท้าย ก่อนจะปล่อยให้พ่อเลี้ยงหนุ่มได้ไปเช็คอินอย่างที่ตั้งใจในตอนแรก

---------------------------------------------

อุ๊ย ๆ พ่อเลี้ยงหนุ่มก็น่ากินนาจา 555