ไปพักที่โรงแรมอีสตินแกรนด์สาทรมา เอาภาพห้องพักและบรรยากาศมาเล่าให้อ่านกันครับ ที่นี่เป็นโรงแรมระดับ 4 ดาวที่ตั้งอยู่บนถนนสาทร ใจกลางกรุงเทพฯ การเดินทางสะดวกสบายมาก ๆ จากพระราม 4 ขับมาตามถนนสาทรถึงสถานีสุรศักดิ์ก็เลี้ยวซ้ายเข้าโรงแรมได้เลย มีที่จอดรถสะดวกสบาย หรือถ้ามาด้วยรถไฟฟ้าก็ลงสถานีสุรศักดิ์มีทางเชื่อมเดินเข้าชั้น 3 ของโรงแรมได้เลยเช่นกัน

ทางเชื่อมจากรถไฟฟ้า

มา Check-in กันที่ Executive Lounge

     สำหรับเวลาเช็คอินก็บ่าย 2 โมง เช็คเอาท์ตอนเที่ยง ปกติก็เช็คอินได้ที่ชั้น Lobby ของโรงแรม แต่คราวนี้เราพักกันที่ห้อง Executive Deluxe เราสามารถเช็คอินและเช็คเอาท์ที่ Executive Lounge บริเวณชั้น 32 ของโรงแรมได้อีกด้วย เลิศหรูอลังการมาก ๆ งานนี้

บรรยากาศใน Executive Lounge

     Lounge เปิดให้บริการตั้งแต่ 6 โมงเช้าจนถึง 4 ทุ่ม ถ้าสนใจทานอาหารพร้อมชมวิวกรุงเทพฯจากมุมสูงที่นี่ก็มีอาหารเช้าให้บริการด้วย แถมระหว่างวันเราสามารถขึ้นมาทานน้ำและขนมได้อีกต่างหาก บริการแบบนี้เยี่ยมไหมหละครับ

Executive Deluxe Room

      ห้องแบบ Executive Deluxe อยู่บริเวณมุมตึก มีพื้นที่ประมาณ 48 ตารางเมตร แบ่งเป็นสัดส่วนอย่างลงตัว เริ่มกันที่ห้องนอนก่อนเลย มีเตียง King size ตั้งอยู่กลางห้อง โทรทัศน์ติดผนังอยู่ที่ปลายเตียง มีไฟสำหรับอ่านหนังสือ ไฟสำหรับเดินตอนกลางคืน ควบคุมทั้งหมดได้จากปุ่มตรงหัวเตียง มีเก้าอี้สำหรับเหยียดขาสบาย ๆ และโต๊ะวางของว่างที่อยู่บริเวณกระจกเพื่อชมวิว มีตู้เสื้อผ้า ตู้เซฟเก็บของ กาต้มน้ำ ไดร์ฟเป่าผม และสิ่งอำนวยความสะดวกอื่น ๆ ครบครัน

รับชา กาแฟ ทานเพิ่มไหมครับ

ของในตู้เย็น

ตู้เสื้อผ้า

     สิ่งอำนวยความสะดวกต่าง ๆ      จะว่าไปผมชอบตู้เสื้อผ้านะผมว่าเขาออกแบบได้น่าสนใจ คือมันสามารถเปิดได้ 2 ด้าน ทั้งจากห้องนอนและห้องน้ำ ทำให้ใช้งานได้อย่างมีประสิทธิภาพ หยิบเสื้อผ้าได้โดยที่ไม่ต้องเดินออกมาและก็แยกเป็นสัดส่วนได้โดยใช้ประตูจากอีกฝั่งนึง

เก๋มาก ๆ เปิดได้ 2 ทาง

     โต๊ะทำงานก็เป็นอีกจุดที่น่าสนใจ ปกติจะเห็นอยู่มุมนึงในห้องนอน แต่ที่นี่โต๊ะทำงานถูกออกแบบให้หลบเข้าไปอยู่อีกด้านของห้องนอน ประหนึ่งเป็นห้องทำงานขนาดย่อม ๆ ทำให้มีความสงบและเป็นส่วนตัวได้อย่างดี มีโทรศัพท์ที่โทรเบอร์ 02 พร้อม wifi ให้ใช้ฟรี

     โต๊ะทำงานที่หลบมุมมาจากห้องนอน     

     เราตามไปดูที่ห้องน้ำกับดีกว่า ส่วนของห้องน้ำนี่ถูกกั้นแยกส่วนไว้อย่างชัดเจน เปิดประตูเข้าไปก็จะรู้สึกได้ถึงความกว้างที่สามารถเข้ามานอนเล่นที่นี่ได้เลยทีเดียว กั้นส่วนเปียกกับส่วนแห้งไว้อย่างดี มีห้องอาบน้ำและอ่างอาบน้ำไว้ให้พร้อมอุปกรณ์ต่าง ๆ เช่น สบู่ แชมพู ฯลฯ ครบครัน เป็นไงครับเห็นแล้ว ผมหละไม่อยากออกจากห้องน้ำกันเลยทีเดียว ในช่วงเย็นพนักงานที่มาทำห้องจะปิดม่านไว้ให้ อย่าไปเปิดนะครับเพราะอย่างที่เห็นมันเป็นห้องกระจก ถ้าเราเปิดไฟนี่ข้างนอกจะมองเห็นได้ครับ ไม่ดี ไม่ดี ... 555

บรรยากาศในห้องน้ำ

     สิ่งอำนวยความสะดวกต่าง ๆ      สำหรับห้องอาหารที่นี่มี Glass House เป็นห้องบุฟเฟต์อินเตอร์ให้บริการอยู่ที่ชั้น 5 และมีห้องอาหารจีน Chef man ให้บริการที่ชั้น 3 บริเวณทางเชื่อมไปขึ้นรถไฟฟ้า มี Luce เป็นห้องอาหารสไตล์อิตาเลี่ยนให้บริการอยู่ที่ชั้น 14 ซึ่งชั้นนี้มีสระว่ายน้ำและห้องออกกำลังกาย พร้อมบาร์เครื่องดื่มเล็ก ๆ ไว้ให้บริการอีกด้วย

สระว่ายน้ำที่ชั้น 14

ห้องออกกำลังกายเปิด 24 ชั่วโมง

Kid Club ที่ชั้น 15

     ก่อนหน้านี้ผมว่าสระว่ายน้ำที่นี่น่าจะเป็นสระว่ายน้ำที่มีวิวดีแห่งนึงเลยทีเดียว เพราะสามารถชมพระอาทิตย์ตกดินพร้อมวิวแม่น้ำเจ้าพระยาได้ด้วย แต่ตอนนี้มีตึกสูงมาสร้างขนาบข้าง วิวงาม ๆ เลยหายไปเยอะทีเดียว อ้อ ... สำหรับคนที่พาเจ้าตัวเล็กไปแบบผม ที่ชั้น 15 มีห้อง Kid Club ที่มีของเล่นทั้งแบบสัมผัสได้และเสมือนจริง (เกมส์) ไว้ให้เด็ก ๆ ได้เล่นแก้เบื่อด้วยนะครับ คุณชายนี่ไปอยู่ได้เป็นชั่วโมงเลยทีเดียว

     ทานอาหารเช้าพร้อมชมวิวจากชั้น 32      เห็นแล้วเป็นอย่างไรกันบ้าง ผมว่าเป็นอีกหนึ่งทางเลือกที่น่าสนใจทั้งด้านราคา คุณภาพและความสะดวกสบายเผื่อใครสนใจก็ลองดูได้ครับ

Create Date : 13 กันยายน 2559
Last Update : 9 มิถุนายน 2560 11:09:48 น.		2 comments
Counter : 2800 Pageviews.
Share Tweet