Group Blog
 
 
พฤษภาคม 2551
 
 123
45678910
11121314151617
18192021222324
25262728293031
 
1 พฤษภาคม 2551
 
All Blogs
 
@@++>>>>....ลุ้นรักคืนใจ Return to the mind (ครึ่งแรก)....<<<<++@@



เรื่องนี้เป็นแค่นิยายที่แต่งขึ้นเพื่อความสนุกสนานเท่านั้น ไม่ได้อ้างอิงจากแหล่งใด เป็นจินตนาการของผู้เขียนล้วนๆ ค่ะ

“ เราเลิกกันเถอะ “

ประโยคนี้ดังขึ้นในสมองของหญิงสาวที่นั่งชันเข่ามองสายฝนที่ตกอย่างกระหน่ำไม่มีทีท่าว่าจะหยุดแม้แต่น้อย

เรือนไม้สักที่มีชานยื่นออกมาสำหรับไว้นั่งรับลมเป็นที่ปักหลักของหญิงสาวในชุดเสื้อยืดกางเกงเล น้ำตาหยดใสๆ เริ่มหยดลงมาที่ละน้อยจนเริ่มเข้ามาบดบังการมองทัศนียภาพเบื้องหน้า

‘กีรดา’ ยกมือขึ้นปาดน้ำตาก่อนที่จะบอกตัวเองว่ามันผ่านไปแล้ว

ใช่...มันผ่านไปนานแล้ว แต่เธอไม่เคยลืมมันได้เลย ทุกคำพูดยังคงแจ่มชัดในหัวใจ

“ คุณกิ่งคะ เข้าบ้านเถอะค่ะ โดนละอองฝนแบบนี้เดี๋ยวจะไม่สบายนะคะ “ แสงคำแม่นมของกีรดาและแม่ครัวเอกของบ้าน ‘รัณสยา’ เอ่ยขึ้นเมื่อเห็นว่าหญิงสาวที่เป็นดั่งแก้วตาดวงใจยังไม่มีทีท่าว่าจะเข้ามาในบ้าน

“ กลับมาเหนื่อยๆ เข้าไปพักข้างในบ้านดีกว่าค่ะ “ แสงคำบอกอีกทีก่อนจะเข้าไปจับที่แขนหญิงสาวเบาๆ เป็นเชิงให้เข้าไปในบ้าน

หลังจากกลับมาจากอังกฤษ เธอก็ตรงมาที่ ‘บ้านเรือนไม้รัณสยา’ ทันที สามปีที่จากไปทุกอย่างยังคงสภาพเหมือนเดิม ไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลงไปนอกจากใครคนหนึ่งได้หายออกไปจากชีวิตเธอ

“ ทำไมคุณพ่อกับคุณแม่ท่านไม่มาด้วยล่ะคะ “ แสงคำเอ่ยหลังจากยกเครื่องดื่มพร้อมทั้งของว่างมาให้

“ งานยุ่งน่ะค่ะ กิ่งเลยขอกลับมาก่อน คิดถึงป้าแสงจังเลยค่ะ “ ว่าพลางกอดที่เอวท้วมๆ ทำให้ผู้สูงวัยยิ้มกว้างลูบหัวอย่างเอ็นดู

“ น่าจะกลับมาพร้อมกับท่านนะคะ กลับมาคนเดียวป้าห่วงจะแย่ ตอนที่คุณกิ่งโทรมาบอกว่าจะกลับมาคนเดียว ป้าห่วงมากเลยรู้มั้ยคะ “

“ รู้สิคะ แต่คิดถึงป้าแสงนี่หน่า คุณพ่อกับคุณแม่ก็เอาแต่ทำงาน “ ว่าอย่างน้อยใจ

“ โตแล้วนะคะคุณกิ่ง ทำงอนเป็นเด็กเล็กๆ ไปได้ “

“ แล้ววันนี้ป้าแสงมีอะไรให้กิ่งทานบ้างคะ หิวจัง “ คนร้องหิวทำท่าลูบท้อง

“ ของที่คุณกิ่งชอบทั้งนั้นแหละค่ะ เดี๋ยวป้าบอกเด็กตั้งโต๊ะให้นะคะ “


อาหารที่ขึ้นโต๊ะตรงหน้าบอกหญิงสาวได้เป็นอย่างดีว่า ป้าแสงรู้ใจเธอเสมอ แม้แต่ของโปรดเธอนางยังจำได้ไม่เคยลืม

ต้มจืดตำลึงหมูสับ ไข่ยัดไส้ ไก่ผัดพริกไทดำ และที่สำคัญ น้ำมะตูมเย็นเจี๊ยบ

“ น่าทานทั้งนั้นเลยค่ะ ป้าแสงทานด้วยกันนะคะ “

“ ป้าทานแล้วค่ะ คุณกิ่งทานเถอะ “

“ งั้นทานแล้วนะคะ “



ครึ่งชั่วโมงต่อมา อาหารตรงหน้าดูจะเป็นที่พอใจสำหรับกีรดามาก หญิงสาวขอเติมข้าวอย่างไม่กลัวความอ้วน ทำให้คนลงมือทำยิ้มอย่างภาคภูมิใจ

“ อร่อยมากเลยค่ะ ป้าแสงนี่ฝีมือยังเหมือนเดิมเลยนะคะ “

“ แล้วเมื่อไหร่จะกลับมาทานอีกล่ะคะ อยู่เมืองนอกก็ไม่เหมือนอยู่บ้านเราหรอกนะคะ “

“ คงอีกไม่นานหรอกค่ะป้า ถ้าบริษัททางโน้นแข็งแรงคุณพ่อกับคุณแม่คงย้ายกลับมา ส่วนกิ่งคงหางานทำที่นี่เลยค่ะ จะอยู่ให้ป้าแสงหายคิดถึงเลย “

“ จริงนะคะ อย่ามาหลอกคนแก่ให้ดีใจเล่นนะ “

“ จริงสิค่ะ มาเที่ยวนี้กิ่งอยู่ตลอดชีวิตเลยค่ะ “ แล้วหญิงต่างวัยกอดกันอีกครั้ง

“ ว่าแต่ทำไมคุณกิ่งไม่เข้าไปทำงานที่บริษัทคุณพ่อล่ะคะ “

“ ไม่ดีกว่าค่ะ กิ่งอยากหางานด้วยตัวเองก่อน ก่อนที่จะไปเมืองนอกกิ่งก็ทำที่อื่นนี่คะ ยังไม่อยากไปอ้อนขอเข้าไปทำที่บริษัทค่ะ “

“ เอางั้นหรือคะ “

“ เอาอย่างงี้ล่ะค่ะ “


หลายชั่วโมงผ่านไปฝนที่ตกลงมาเมื่อตอนบ่ายก็ยังไม่ยอมหยุด หญิงสาวนั่งมองสายฝนภายในห้องนอนที่ยังมีของมากมายที่ยังไม่ได้จัดให้เข้าที่

‘เราเลิกกันเถอะ‘ ชายตรงหน้าพูดด้วยน้ำเสียงเด็ดขาด

‘คุณกับผมเราคงไปกันไม่ได้ คุณหลอกผม เห็นผมเป็นคนโง่มากสินะ’ เขายิ้มเยาะตัวเองขณะที่กีรดาน้ำตาไหลอย่างหนักพร้อมกับเสียงสะอื้น

‘กิ่งไม่เคยคิดจะหลอกคุณ แต่กิ่งเพียง...’ เธอเว้นวรรคนิดนึงทำให้ชายหนุ่มตรงหน้าเอ่ยสวนขึ้นทันที

‘นี่หรือที่คุณบอกว่าไม่เคยหลอกผม ถ้าคนในบริษัทไม่พูดกันผมคงยังเป็นไอ้โง่ที่ให้คุณหลอกเล่นไปเรื่อยๆ สินะ’ เขาตะคอกอย่างสุดทน

‘เลิกกันเถอะ’ พูดแค่นั้นแล้วเขาก็เดินจากไปพร้อมกับร่างหญิงสาวที่ทรุดตัวลงนั่งร้องไห้ตัวโยน เสียงที่เรียกชื่อเขาให้หยุดเริ่มแหบจนไม่มีเสียงออกมา

ก๊อก ก๊อก ก๊อก

เสียงเคาะประตูทำให้กีรดาหลุดจากอดีต ก่อนยกมือขึ้นปาดน้ำตาจนคิดว่าไม่เหลือร่องรอยใดๆ เอ่ยปากบอกคนด้านนอกให้เข้ามา

“ ป้าเห็นไฟยังเปิดอยู่เลยเอานมอุ่นๆ มาให้ค่ะ จะได้นอนหลับสบาย “ นางวางแก้วนมไว้ตรงโต๊ะหัวเตียงก่อนที่จะมานั่งลงบนเตียงข้างหญิงสาว

“ คิดอะไรอยู่คะ หน้าเครียดจังเลย “

“ ไม่มีอะไรหรอกค่ะ ขอบคุณสำหรับนมนะคะ ป้าแสงพักผ่อนเถอะค่ะ วันนี้เหนื่อยมาทั้งวันแล้ว “

“ อย่าลืมทานนะคะ งั้นป้าไปนอนก่อน คุณกิ่งเองก็อย่านอนดึกล่ะ “

“ ค่ะ ราตรีสวัสดิ์นะคะ “


หลังจากที่หญิงสูงวัยที่เธอเคารพอีกคนเดินออกจากห้อง หญิงสาวก็เหม่อมองออกไปนอกหน้าต่างอีกครั้ง ก่อนที่จะบอกตัวเองเป็นครั้งที่ร้อย
ว่ามันผ่านไปแล้วและมันคงไม่มีวันที่จะหวนกลับมาได้อีกครั้ง

เมื่อบอกตัวเองอย่างนั้นกรีดาจึงรีบจัดการกับข้าวของที่วางอยู่ตรงหน้าให้เข้าที่เข้าทางก่อนจะเข้าไปอาบน้ำชำระร่างกายที่เต็มไปด้วยเหงื่อ
หลังการเดินทางอีกรอบ

เวลาผ่านไปสิบห้านาทีหญิงสาวในชุดนอนออกมานั่งรับลมที่ระเบียง ลมเย็นจากฝนที่ตกลงมาทำให้เธอรู้สึกสดชื่นขึ้นบวกกับได้อาบน้ำทำให้
ใบหน้านวลดูสดใสขึ้นกว่าเดิมหากทว่าภายในจิตใจกลับยังหม่นหมอง

ติ๊ด ติ๊ด ติ๊ด

เสียงโทรศัพท์ดังขึ้นบ่งบอกให้เจ้าของรู้ว่ามีสายเรียกเข้า กีรดาเอื้อมมือไปหยิบโทรศัพท์ที่วางอยู่ ก่อนที่จะขมวดคิ้วเข้าหากันอย่างสงสัย
หากแต่ก็ไม่ปล่อยให้ความสงสัยนั้นอยู่นานจึงกดรับสายที่เรียกเข้านั้นทันที

“ สวัสดีค่ะ กีรดาพูดค่ะ “

“ ไงกิ่ง กลับมาไม่บอกพี่เลยนะ “ คนปลายสายเอ่ยด้วยน้ำเสียงน้อยอกน้อยใจ

“ เอ่อ มิทราบนั่นใครคะ “

“ อ่าว พี่ธามเอง จำกันไม่ได้หรือไง “

“ พี่ธาม อ๋อ “ กีรดาทำเสียงเป็นเชิงรับรู้หลังจากนึกอยู่ชั่วครู่

“ จำได้แล้วสินะ “

“ ค่ะ สบายดีมั้ยคะพี่ กิ่งเพิ่งกลับมาเมื่อบ่ายนี้เอง ว่าแต่ทำไมรู้ข่าวเร็วจัง “

“ นี่ธามรินทร์นะครับ ไม่มีอะไรที่ไม่รู้ ฮ่าๆ “ แล้วเสียงหัวเราะก็ดังตามมา

ธามรินทร์ หรือ พี่ธาม ลูกของน้านินเพื่อนบ้านของครอบครัวเธอ หลังจากที่เธอย้ายมาอยู่ที่บ้านเรือนไม้รัณสยา วันแรกของการย้ายมาอยู่ที่นี่
เด็กชายที่ดูผิวเผินคงจะอายุมากกว่าเธอเพียงไม่กี่ปีส่งยิ้มหวานพร้อมมอบความเป็นมิตรให้ ทำให้การย้ายมาอยู่บ้านหลังใหม่ที่สร้างมาจาก
น้ำพักน้ำแรงของพ่อและแม่ของเธอไม่เหงาและมีความสุขทุกครั้งที่อยู่กับเขาคนนี้

แต่ทว่าหลายปีต่อมาเด็กทั้งสองกลายเป็นหนุ่มและสาว หากกิจการที่ต้องการขยับขยายของครอบครัวเธอในต่างประเทศก็ทำให้ครอบครัว
กีรดาต้องย้ายไปประจำอยู่ที่ประเทศอังกฤษนานหลายปี ประจวบเหมาะกับตอนนั้นเธอมีปัญหาเรื่องความสัมพันธ์กับใครคนนั้นจึงทำให้
การตัดสินใจลาออกจากงานเดิมเป็นไปอย่างง่ายดาย

“ นั่นสินะ พี่ธามเก่งเสมอ “

“ มาคราวนี้จะอยู่นานมั้ย “

“ ตลอดชีวิตค่ะ นานพอไหมเอ่ย “ ว่าพลางหัวเราะ แต่คนฟังกลับกำลังค้อนเธอผ่านทางโทรศัพท์ทั้งๆ ที่รู้ว่าค้อนให้ตายยังไงคนปลายสาย
ก็ไม่มีวันรู้

“ ว่าแต่ ทำไมบ้านพี่ธามเงียบจัง “ ชะเง้อคอมองไปยังบ้านข้างๆ

“ พี่ย้ายแล้ว “ ประโยคนั้นทำเอากีรดาตกใจ อึ้งไปสองวิกว่าจะหาเสียงตัวเองเจอ

“ ย้าย? ทำไมล่ะคะ “

“ มีคนหนีพี่ไปก่อนเลยย้ายหนีบ้าง ฮ่าๆ “ เขาว่าติดตลก

“ พี่บ้า “

“ ฮ่าๆ เออ เดี๋ยวพรุ่งนี้พี่ไปหาที่บ้านแล้วกัน “ แล้วสายก็ตัดไปโดยมิได้เอ่ยคำลาใดๆ ทั้งสิ้น หญิงสาวยิ้มกับโทรศัพท์

พี่ธามก็ยังเป็นพี่ธามเสมอ ไม่เคยเปลี่ยนไปเลยจริงๆ



เช้าวันต่อมา รถนิสัน ซันนีสีดำขับเข้ามาจอดภายในบ้านเรือนไม้รัณสยาพร้อมชายหนุ่มที่สูงเกือบร้อยเจ็ดสิบห้าเซนติเมตรก้าวลงมาจากรถ

“ ใครมาน่ะแต้ว “ แสงคำเอ่ยถามเด็กในบ้านระหว่างที่กำลังง่วนจัดโต๊ะอาหารเช้าให้กีรดา

“ คุณธาม ป้าๆ คุณธามมา “ เด็กสาวชี้มือไปยังผู้มาใหม่ด้วยความตื่นเต้น

“ สวัสดีครับป้าแสง “ ธามรินทร์เอ่ยพร้อมประนมมือไหว้

“ สวัสดีค่ะคุณธาม ลมอะไรหอบมาถึงนี่ได้คะ ป้านึกว่าจะลืมบ้านนี้แล้วซะอีก ตั้งแต่คุณกิ่งไปเมืองนอกคุณธามก็ย้ายบ้านหนีกันเลย “

“ จะลืมได้ยังไงครับ ส่วนเรื่องบ้านมันเป็นเรื่องสุดวิสัยจริงๆ ครับ “ ชายหนุ่มว่าพลางกอดป้าแสงคำแน่น

“ ยังอ้อนป้าแสงเหมือนเดิมเลยนะคะพี่ธาม “ คนเพิ่งลงมาจากชั้นบนเอ่ยล้อกับท่าทางกอดกันของสองป้าหลาน

“ อ้าว คุณกิ่ง ลงมาแล้วหรอคะ “

“ ค๊า ลงมาพอดีได้เห็นป้าหลานเค้าอ้อนกันเลย “

“ แหมคุณกิ่งก็ เออ แล้วนี่คุณธามทานอะไรมาหรือยังคะ “ ประโยคหลังนางหันมาถามชายหนุ่มคนเดียวของบ้าน

“ ยังเลยครับ ว่าจะมาขอทานข้าวฝีมือป้าแสงซะหน่อย ไม่ได้ทานมานาน แล้วนี่ครับผมเอาผลไม้มาฝากด้วย “ ธามรินทร์ชูถุงผลไม้ก่อนที่จะให้
เด็กเอาไปจัดใส่จาน

“ กิ่งกลับมาคราวนี้อยู่ถาวรแบบนี้นี่มาคุมบริษัทพ่อต่อรึเปล่า “ ธามรินทร์เอ่ยขณะที่ตักอาหารจานที่ใกล้สุด

“ ไม่ค่ะ กิ่งจะหางานทำดูก่อน “

“ อืม เราจบทางด้านโฆษณามาใช่มั้ย “

“ ค่ะ “ พยักหน้าตามด้วย

“ สนใจไปทำงานกับพี่รึเปล่าล่ะ “

“ อ่ะ พี่ธามเปิดบริษัทใหม่แล้วหรอคะ ไม่เห็นรู้เรื่องเลย “ คนไม่รู้เรื่องทำตาถลน

“ ก็จะไปรู้เรื่องอะไรล่ะเราน่ะ ย้ายไปสามปีกับพี่กับเชื้อไม่เคยติดต่อ “ ว่างอนๆ

“ แหม ทำงอนไปได้ ใครไม่รู้เดี๋ยวเข้าใจผิดว่าเป็นเกย์ไม่รู้นะคะ เดี๋ยวจะหาว่ากิ่งไม่เตือน “

“ เออ ได้ทีนะเรา ว่าแต่จะไปรึเปล่า พี่จะได้เตรียมห้องให้ “

“ อึ๋ย ใช้เส้น ไม่ค่อยเวิร์คมั้งพี่ธาม เดี๋ยวคนในบริษัทพี่จะนินทาได้ “ กีรดาทำหน้าสลดสยอง

“ เฮ้ย กะแค่ไปทำงานกลัวอะไรขนาดนั้น บอกว่าเราเป็นน้องพี่ ใครก็ไม่กล้าว่าแล้ว ถ้ามีว่าบอกพี่เดี๋ยวไล่ออกไปเลย “ ธามรินทร์พูดด้วยน้ำเสียงเด็ดขาด

“ ป้าว่าก็ดีนะคะ ไปทำงานกะคุณธามป้าจะได้ไม่ห่วงด้วย “ คนที่เดินเอาผลไม้ที่เพิ่งจัดเสร็จมาให้พร้อมกับเอ่ยความคิดเห็นหลังจากที่พอจะ
ได้ยินที่ทั้งสองคุยกัน

“ กิ่งดูจะมีความสำคัญมากเลยนะเนี่ย ถึงขนาดพี่ธามจะไล่คนออกเลยเพราะเขามาว่ากิ่งเลย “

“ ไม่ต้องมาพูดเล่นเลย พี่อุตส่าห์หางานให้ทำน่าจะรีบตกลง “

“ อ่า ขอเล่นตัวหน่อยก็ไม่ได้ ไปก็ได้ค๊า เริ่มงานวันไหนคะ “

“ เราหายเหนื่อยหรือยังล่ะ ถ้ายังก็ไม่ต้องรีบ “

“ โห หายแล้ว อยากทำงานมากมาย งั้นกิ่งไปพรุ่งนี้นะ “

“ งั้นก็ตามใจ “



วันนี้กีรดาตื่นแต่เช้ามาแต่งหน้าทำผมก่อนที่จะลงมาด้านล่างด้วยเสื้อกล้ามสีขาวคลุมด้วยเสื้อตัวนอกสีชมพูสั้นแค่ครึ่งตัวมีสร้อยห้อยไว้เพื่อไม่ให้ดูโล่งคอกับกางเกงยีนส์สีอ่อนขาเดปพร้อมกับกระเป๋าใบเขื่อง สมกับเป็นนักครีเอทีฟ

“ ทานข้าวเช้าก่อนนะคะคุณกิ่ง แล้วค่อยไป “

“ ค๊า ว่าแต่เช้านี้มีอะไรทานมั้งคะ “

“ ข้าวต้มทรงเครื่องทะเลค่ะ “ คนพูดเมนูอาหารเช้ากำลังตักข้าวต้มใส่ชามก่อนจะยกมาให้หญิงสาว

“ ขอบคุณค่ะป้าแสง “


หลังจากทานอาหารเช้าเรียบร้อย หญิงสาวก็ออกจากบ้านพร้อมพาหนะคู่ใจ


หนึ่งชั่วโมงต่อมารถนิวบิลเทิลสีขาวก็ขับมาจอดหน้าบริษัท ‘ธามแอดเวอร์ไทซิ่ง’

กีรดาเดินตรงเข้าไปภายในบริษัทที่ดูจะเป็นเหมือนเกรทเฮ้าท์ที่มีเพียงสามชั้นเสียมากกว่าที่ทำงาน ภายในตกแต่งสไตล์อาร์ตๆ มากกว่า
ที่จะทำให้ดูเคร่งขรึม หญิงสาวที่ดูเหมือนพนักงานประชาสัมพันธ์ยิ้มหวานมาให้เธอก่อนที่จะเอ่ยถาม

“ ไม่ทราบว่าจะมาติดต่อธุระเรื่องอะไรกับใครคะ “

“ อ่า กิ่งมาหาพี่ธาม เอ่อ คุณธามรินทร์น่ะค่ะ “

“ นัดไว้หรือเปล่าคะ “

“ ค่ะ “

“ งั้นคุณเดินขึ้นไปชั้นสามห้องซ้ายมือนะคะ “

“ ขอบคุณค่ะ “

เมื่อรู้ว่าคนที่ต้องการพบอยู่ที่ไหน กีรดาก็เดินขึ้นบันไดไปทันที ระหว่างทางพนักงานดูเหมือนจะมองเธอเป็นสายตาเดียว ที่มองมากสุด
คงจะเป็นผู้ชาย เพราะจากเท่าที่สังเกตการณ์บริษัทของพี่ธามดูเหมือนกับว่าจะจ้างแต่พนักงานชายมากกว่าพนักงานหญิง

“ มาแล้วหรอ พี่กำลังรอเราอยู่พอดี นั่งก่อนๆ “

“ บริษัทพี่ธามนี่ไม่คิดจ้างพนักงานหญิงเพิ่มบ้างหรือคะ ตั้งเดินขึ้นมาเห็นอยู่แค่สองสามคนเอง “

“ ฮ่าๆ ก็จ้างแล้วไง “ หญิงสาวทำหน้าเหวอกับปฏิกิริยาอาการหัวเราะตัวงอของคนตอบ

“ ก็เรานี่ไง “

“ ... “

อึ้ง และ อึ้ง ตั้งแต่รู้จักกันมาเธอเพิ่งเห็นว่าเขาเล่นมุกบ่อยก็ครั้งนี้ สงสัยสามปีที่จากแผ่นดินเกิดไปคงจะนานพอดู

“ มาได้จังหวะพอดีเลย พี่มีโปรเจ็คใหม่เพิ่งมาสดๆ ร้อนๆ “ เขาว่าพลางส่งแฟ้มรายละเอียดมาให้ดู

“ คิดงานให้กับผลิตภัณฑ์แบรนด์เนมชื่อดังของบริษัท เตชินท์อินเตอร์ไพร์ส จำกัด มันเป็นผลิตภัณฑ์น้ำหอมตัวใหม่เน้นกลุ่มผู้ชาย พอไหวมั้ยกิ่ง “

คนที่โดนถามว่าไหวมั้ย ไม่ได้อยู่ในอารมณ์ตอบรับใดๆ เพราะแค่ชื่อบริษัทก็ทำให้ใจเธอหล่นวูบไปอยู่ที่ตาตุ่มแล้ว

ไม่หรอก...มันก็แค่คนชื่อเหมือน...เขาจะมีบริษัทได้อย่างไร ในเมื่อตอนที่เลิกกันครั้งนั้นเธอและเขาก็ยังเป็นเพียงพนักงานในบริษัทโฆษณา
แห่งหนึ่งเท่านั้น

“ กิ่ง เป็นอะไรหรือเปล่า หน้าซีดเชียว “ ธามมรินทร์เอ่ยพร้อมสีหน้าไม่ค่อยดีที่เห็นคู่สนทนามีลักษณะแปลกไป

หรือว่า...ชื่อ เตชินท์ จะมีปฏิกิริยากับเจ้าตัว เขาเองก็ไม่ได้รู้รายละเอียดมากนักและไม่เคยพานพบหน้าบุคคลที่กีรดาบอกว่าเป็นแฟนมาก่อน
มารู้อีกทีตอนที่เธอจะย้ายไปเมืองนอกแค่นั้นแหละว่า ทั้งคู่เลิกกันแล้ว ด้วยเหตุผลอะไรก็สุดจะถาม เพราะเจ้าตัวบอกเพียงแค่นั้น

“ กิ่ง ยังไม่ลืมเขาอีกหรือไง พี่ว่าอาจจะไม่ใช่คนเดียวกันก็ได้นะ แต่ถ้ากลัวก็ไม่ต้องรับงานนนี้ เดี๋ยวพี่ให้ลูกน้องคนอื่นทำแทน ส่วนเรา
เดี๋ยวพี่จะหาให้ใหม่ “

“ ไม่เป็นไรค่ะพี่ธาม คงไม่ใช่คนเดียวกันหรอก กิ่งคงคิดมากไปเอง สามปีที่ผ่านมาเขาอาจจะมีใครใหม่ไปแล้วก็ได้ “ พูดไปยิ้มไปเพียงแต่ว่า
รอยยิ้มนี้ธามรินทร์รู้ดีว่ามันฝืนมากแค่ไหน

น้องสาวเขาคงรักผู้ชายคนนี้มาก แต่เหตุใดเล่าที่ทำให้ทั้งคู่เลิกกัน

“ แน่ใจนะ “

“ ค่ะ กิ่งทำได้จริงๆ “ เธอตอบรับอย่างหนักแน่น แต่สีหน้าไม่ค่อยสู้ดีเท่าไหร่

“ งั้นก็ตามใจ ถ้าไม่ไหวบอกพี่แล้วกัน “

“ งานนี้กำหนดพรีเซนต์อีกสองอาทิตย์ที่บริษัทเตชินท์ แล้วนี่คือตัวผลิตภัณฑ์ “

“ ค่ะ “



สองอาทิตย์ต่อมา หญิงสาวแบกสตอรี่บอร์ดขึ้นรถก่อนที่จะขับไปตามเส้นทางที่ธามรินทร์บอกซึ่งเป็นที่ตั้งของบริษัทเตชินท์อินเตอร์
ไพร์ส

หญิงสาวเลี้ยวรถเข้ามาจอดที่ลานด้านหน้าบริษัท ตึกสูงที่มีตัวอักษรเป็นภาษาอังกฤษตามชื่อบริษัทติดไว้ตัวโต ทำให้กีรดาต้องแหงนหน้ามองอย่างสุดตัว

“ ไปกิ่ง “ ธามมรินทร์เรียกหญิงสาวที่เหม่อมองตัวตึกให้เข้าไปด้านใน


ชั้นยี่สิบสอง เป็นจุดหมายปลายทางของทั้งสองคน มีพนักงานหญิงวัยกลางคนเป็นคนเดินนำทาง ธามรินทร์และกีรดามายังห้องประชุมเล็กที่จัดไว้สำหรับดูงานนี้โดยเฉพาะ

เมื่อผลักประตูเข้าไปก็พบว่ามีผู้ชายที่นั่งหันหลังให้อยู่ก่อนแล้ว แผ่นหลังกว้างที่พ้นขอบเก้าอี้ออกมาดูสง่าและดูคุ้นตายิ่งนักสำหรบกีรดา

“ คุณเตชินท์คะ ทางบริษัทธามแอดเวอร์ไทซิ่งมาขอพรีเซนต์งานแล้วค่ะ “ หญิงสาวที่เดินนำมาเมื่อกี้กล่าวบอกคนที่ยังนั่งหันหลังให้รับรู้การมาถึงของคนที่มาใหม่

ขณะที่เตชินท์หันกลับมาที่ผู้มาใหม่ก็ทำให้เขารู้สึกว่าใจกระตุกวูบ ผู้หญิงที่เกือบจะลืมไปแล้วกลับมาในความทรงจำอีกครั้ง

กีรดา...ผู้หญิงที่ทำให้เขาเต้องเจ็บปวดและเป็นผู้หญิงที่เขารักสุดใจ

“ สวัสดีครับ คุณเตชินท์ “ ธามรินทร์เอ่ยขึ้นหลังจากที่เห็นว่าทั้งห้องอยู่ในความเงียบกริบ

“ สวัสดีครับ “ เขาปั้นหน้าขรึม แต่ภายใต้หน้ากากเย็นชานั้นกลับหวั่นไหวยิ่งนักเมื่อมองไปทางผู้หญิงคนเดียวของห้อง

“ นี่ กีรดา ครีเอทีฟครับ “ ธามรินทร์เอ่ยแนะนำ

“ สวัสดีค่ะ คุณเตชินท์ “ กีรดาเอ่ยด้วยน้ำเสียงขื่น ไม่คิดเลยว่าการกลับมาคราวนี้จะทำให้เธอและเขาต้องมาเจอกันอีกครั้งในเวลาอันรวดเร็วอย่างนี้

“ สวัสดีครับ คุณกีรดา “ เตชินท์เอ่ยเสียงเข้ม

“ ผมไม่มีเวลามากนัก เริ่มพูดคอนเซปต์คุณมาเลยดีกว่า “ เขาหันไปทางกีรดาก่อนเอ่ยบอกน้ำเสียงที่ดูห่างเหินกับสีหน้าเรียบเฉย

สามปีเปลี่ยนผู้ชายคนนึงไปมากถึงเพียงนี้เชียวหรือ จากคนที่เคยอ่อนโยนกลับกลายเป็นเย็นชา เธอผิดมากใช่ไหมที่ไม่ได้บอกว่าตัวเอง
เป็นลูกเจ้าของบริษัทชื่อดังแห่งหนึ่งในประเทศไทย และเพราะไม่อยากให้ใครต่อใครมาพูดว่าเขาและเธอไม่เหมาะสมกันเพียงเพราะฐานะที่ต่างกัน แต่บัดนี้คงไม่ใช่แล้วสินะ เพราะเขา...เตชินท์ คนใหม่ที่เป็นนักธุรกิจพันล้าน ผู้ที่มีทุกอย่างเพียบพร้อมสามารถเทียบเท่าเธอได้ทุกอย่าง

“ คอนเซปต์นี้จะเจาะจงไปที่ผู้ชายอย่างที่บริษัทคุณต้องการ โดยการที่ให้ผู้ชายมาเป็นพรีเซ็นเตอร์และใช้น้ำหอม ในขณะที่สาวๆ ที่ผ่านไปมา
เมื่อได้สัมผัสกับกลิ่นหอมก็เกิดอาการหลงไหล “

“ คุณคิดได้แค่นี้เองหรือ “ เตชินท์เอ่ยขึ้นทันทีหลังจากฟังจบ ขณะที่คนฟังสองคนเกิดอาการช็อคกับคำพูดมะนาวไม่มีน้ำ กีรดาขบกรามแน่นก่อนที่จะโต้กลับ

“ ถ้าคุณคิดได้ดีกว่านี้ แล้วไม่ทราบว่าจะมาจ้างบริษัทโฆษณาทำไมให้เสียเวลา “

“ คุณธาม ผมขอคุยกับครีเอทีฟตามลำพังหน่อยครับ “ เขาหันไปทางธามรินทร์ ฝ่ายนั้นก็จนใจต้องออกไปตามคำขอ โดยเหลือบมองกีรดาอย่างให้กำลังใจก่อนเดินออกจากห้องอย่างจำใจ

“ งานนี้ครีเอทีฟต้องมาเองเลยหรือไงคุณ หรือเพราะเห็นชื่อบริษัทผม ทำให้ต้องมาเสนองานเองเลย “ เขาว่าพลางก้มตัวลงมาใกล้ แขนทั้งสองข้างค่อมร่างของหญิงสาวเอาไว้

“ นั่นเป็นเหตุผลที่ไม่เคยอยู่ในหัวสมองของฉันมาก่อน ถ้าฉันรู้ว่านี่คือบริษัทคุณฉันจะไม่มีวันมาเหยียบที่นี่เด็ดขาด จำเอาไว้ด้วย “ กีรดาพูดโต้กลับอย่างไม่ยอมแพ้เช่นกัน แม้ในใจจะเจ็บปวดกับคำพูดเขาแค่ไหนก็ตาม

“ แต่ผมมองตาคุณผมไม่คิดแบบนั้น ตาคุณมันฟ้องอะไรมากกว่านั้น อย่างน้อยมันก็บอกว่าคุณไม่เคยลืมผม “ ตาที่มองลึกเข้ามาในดวงตาของกีรดานั้นวิบวับ

“ คุณคงจะมองผิดแล้วล่ะ เพราะในสายตาฉันไม่เคยมีคุณมากกว่าคุณเตชินท์ “ ทุกคำพูดที่ออกไปนั้นเธอรู้ดีว่ามันไม่จริง เธอไม่เคยลืมเขาตลอดเวลาสามปีที่เลิกกัน

แต่ประโยคนี้สำหรับคนที่ไม่รู้ว่าหญิงสาวกำลังคิดอะไรก็สามารถเรียกอารมณ์โกรธของตัวเองให้พุ่งปี๊ดได้อย่างง่ายดาย เตชินท์จับแขนเธอให้ลุกขึ้นด้วยสีหน้าเกรี้ยวกราด

“ อ่อ แล้วฉันจะบอกอะไรคุณอีกอย่าง ว่าฉันลืมคุณไปนานแล้ว “ ประโยคนี้ยิ่งทำให้คนอารมณ์ขึ้นยิ่งบีบแขนกีรดาหนักขึ้นกว่าเดิม แม้สีหน้าของ
หญิงสาวจะเจ็บปวดแค่ไหนเขาก็ไม่ได้สนใจ

“ ลืมหรอ งั้นผมจะทำให้คุณจำมันได้เอง “

พูดแค่นั้นเขาก็เข้าไปประชิดตัวหญิงสาวก่อนที่จะโน้มตัวและใบหน้าที่เลื่อนเข้าไปใกล้ก่อนที่จะประกบปากและถอนออกอย่างรวดเร็ว

เขาถอยหน้าออกมานิดเดียวก่อนจะเอานิ้วไล้ที่ปากตัวเอง ปฏิกิริยานี้ทำให้กีรดายั้งมือไม่อยู่

เพลี้ยะ...เสียงฝ่ามือที่ฉาบไปบนใบหน้าขาวๆ ที่เกลี้ยงเกลาของชายหนุ่มจนหน้าหัน

“ สำหรับการดูถูกฉัน “ แล้วหญิงสาวก็วิ่งออกจากห้องไปทันที



กีรดาออกไปแล้ว เตชินท์ได้แต่มองแผ่นหลังนั้นไปด้วยอารมณ์ที่หลากหลาย

เขา...ไม่เคยลืมเธอ ถึงแม้จะพยายามลืม แต่ทุกครั้งมันก็จะคอยกลับมาเตือนเขาตลอดเวลา และวันนี้วันที่ได้เจอกันอีกครั้ง เขากลับทำให้มันหนักกว่าเก่า อารมณ์ที่เคยโดนหลอกจากผู้หญิงที่เขารักทำให้คำพูดและการกระทำดูจะตรงข้ามกับใจไปหมด

ชายหนุ่มทรุดตัวลงนั่งเอามือกุมขมับอย่างครุ่นคิดก่อนที่จะเรียกให้เลขาฯ เชิญธามรินทร์เข้ามาอีกครั้ง

“ ผมตกลงกับโปรเจ็คนี้ เริ่มถ่ายทำจริงได้วันไหนครับ “ เขาเอ่ยหลังจากธามรินทร์เข้ามานั่งแล้ว

“ เร็วที่สุดก็อาทิตย์หน้าครับ “

“ งั้นตามนี้แล้วกันนะครับ คุณธามจัดการได้เลย แล้ววันถ่ายทำผมจะเข้าไปดู และโปรเจ็คนี้ห้ามเปลี่ยนคนคุมงานเด็ดขาด ไม่งั้นสัญญาเป็นอันโมฆะ “

“ มีอะไรหรือเปล่าครับ “

ชายหนุ่มอึ้งไปสองวินาทีก่อนที่จะอธิบาย “ ผมกลัวว่าถ้าไม่ใช่คนคิดคุมเองจะไม่เข้าใจอย่างลึกซึ้งน่ะครับ “

“ ครับ “

นี่มันอะไรกันนะ...อีกคนวิ่งออกจากห้องไปโดยไม่พูดจาอะไร ถามก็ไม่ตอบ ส่วนอีกคนที่ตอนแรกดูเหมือนจะไม่พอใจกับงานชิ้นนี้กับถามถึงวันถ่ายทำงานแถมยังไม่ให้เปลี่ยนคนคุม มันต้องมีอะไรแน่ๆ แต่มันอะไรล่ะ...

เฮ้อ แล้วเสียงถอนหายใจก็ดังขึ้นหลังจากที่ไม่สามารถคิดหาคำตอบใดๆ ได้เลย


(To Be Continue ka~)


Create Date : 01 พฤษภาคม 2551
Last Update : 1 พฤษภาคม 2551 19:04:01 น. 0 comments
Counter : 268 Pageviews.

ชื่อ : * blog นี้ comment ได้เฉพาะสมาชิก
Comment :
  *ส่วน comment ไม่สามารถใช้ javascript และ style sheet
 

ดาวเหงา_Lonely Star
Location :


[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed

ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]




Lonely Star เป็นนามปากกาที่ใช้สำหรับเขียนนิยาย (มือสมัครเล่นค่ะ) ^__^
ถ้าจะเรียกกันตามจริงแล้วนั้นก็สั้นๆง่ายค่ะ คือ นิ่ม (NIM)
เป็นคนอารมณ์แปรปรวนและปรวนแปร ฮา ติ๊งต๊องไปวันๆ แต่ก็แฝงไปด้วยบางอย่างที่พอจะมีสาระอยู่บ้าง กรั่กๆ
อยากรู้จักกันมากขึ้นก็แวะมาทักทายกันได้นะคะ ^^


°PoisonFlowers°

คำคมๆ สำหรับวันนี้ "Love looks not with the eyes,But with the mind..."



Friends' blogs
[Add ดาวเหงา_Lonely Star's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.