จินตนาการจากใจ รักใสส่งกลิ่นโชย
 
กุมภาพันธ์ 2550
 
 123
45678910
11121314151617
18192021222324
25262728 
 
15 กุมภาพันธ์ 2550
 
 

รักอลวน คนอลเวง (Ado Love & Person) - ตอนที่ 6


สุรยุทธิ์ยิ้มอย่างมีความสุขเมื่อออกมาเดินเล่นที่สนามหน้าบ้านในตอนเช้า แล้วเห็นรถของวุ้นเส้นจอดอยู่ที่หน้าบ้านท่านอา ความสัมพันธ์ของเขากับวุ้นเส้นยังไม่มีอะไรคืบหน้ามากนักเนื่องจากชายหนุ่มต้องระวังตัวมากขึ้นไม่ให้น้องสาวระแคะระคายเรื่องที่เขาคิดจะจีบวุ้นเส้น การแสดงออกถึงความหึงหวงอย่างออกนอกหน้า และคำพูดที่แสดงถึงความเกลียดชังเพื่อนรักของเขา เข้าหูของชายหนุ่มทุกวันหลังจากที่วุ้นเส้นได้พบกับบึก

สุรยุทธิ์รู้ว่าเขาต้องพยายามทำอะไรเพิ่มขึ้น เพื่อสร้างความคืบหน้าในความสัมพันธ์ของเขากับวุ้นเส้นแต่ทุกอย่างจะต้องเป็นไปแบบไม่กระโตกกระตาก เพราะเขามีตัวอย่างให้เห็นอย่างจะจะ บึกได้รับการกีดกันจากน้องสาวเขาทุกครั้งที่ไปตามจีบวุ้นเส้นที่มหาวิทยาลัย และเจียมอี๋ก็จะรับสายแทนเพื่อนรักทุกครั้งที่บึกโทรหาวุ้นเส้นขณะที่เธออยู่ด้วย

“สวัสดีครับท่านอา” สุรยุทธิ์ไม่รอช้าที่จะเดินตรงไปที่บ้านของท่านอาเพื่อพบสาวสวยในดวงใจ

“ว่าไงคุณชาย วันนี้มาหาน้องแต่เช้าเลยนะ น้องทำรายงานอยู่บนห้องกับเพื่อนจ๊ะ”

“กี่คนครับ”

“คนเดียวจ๊ะ วุ้นเส้นมาตั้งแต่หกโมงเช้า คุณชายจะชวนน้องไปไหนหรือเปล่า เดี๋ยวอาไปตามให้ อาไม่ได้ถามน้องไว้ด้วยว่ารายงานด่วนหรือเปล่า”

“อยู่ห้องไหนกันหรือครับ” สุรยุทธิ์เอ่ยปากถาม พร้อมกับมองหา ใจของเขาวิ่งไปหาสาวสวยแล้วตั้งแต่เห็นรถของเธอ นี่เป็นโอกาสสำคัญที่เขาไม่ควรปล่อยให้หลุดลอยไป

“อยู่บนห้องนอนจ๊ะ ขึ้นไปตามพร้อมกับอาเลยก็ได้ อาว่าจะขึ้นไปดูว่าขาดเหลืออะไรหรือเปล่าอยู่เหมือนกัน”

“ครับท่านอา”

พาเพลินอดที่จะหลุดยิ้มเอ็นดูสองสาวไม่ได้ เมื่อได้ยินเสียงหัวเราะและเสียงตะโกนโวกเวกดังออกมาจากห้อง ในขณะที่สุรยุทธิ์เริ่มเครียด กับบทสนทนาที่ชวนให้คิดสองแง่สามง่าม

“โอ๊ย ยอมแล้ว ยอมเล้ว เจียมอี๋ยอมแล้ววุ้นเส้น”

“ยอมจริงหรือ” วุ้นเส้นถามเพื่อนด้วยน้ำเสียงเจ้าเล่ห์

“เบาๆนะ” เจียมอี๋ขอร้องเพื่อนด้วยน้ำเสียงอ้อน

“เบาๆ แล้วมันจะสนุกตรงไหนล่ะ มันต้องซาดิสๆหน่อยถึงจะมันส์” วุ้นเส้นจับเจียมอี๋ขึ้นบ่าเตรียมทุ่มเพื่อนลงบนเตียง

“งั้น เจียมอี๋เปลี่ยนใจแล้ว”

“ไม่ได้ อย่าดิ้น” วุ้นเส้นจับเพื่อนทุ่มลงบนเตียงพร้อมกับคลานขึ้นไปนอนทับ ตบเบาะสามครั้งนับแทนกรรมการเสร็จสรรพ

สุรยุทธิ์ทนไม่ไหวรีบเดินนำหน้าท่านอา เปิดประตูเข้าห้องของเจียมอี๋โดยไม่เสียเวลาเคาะ ภาพตรงหน้าทำให้เขาต้องยืนอึ้ง วุ้นเส้นกำลังนั่งคล่อมกดบ่าทั้งสองข้างของน้องสาวที่กำลังนอนหัวเราะและดิ้นอยู่บนเตียง

“เล่นอะไรกันจ๊ะเด็กๆ ไหนบอกว่าจะทำรายงานไง” พาเพลินเดินตามหลานชายเข้ามาในห้องพร้อมกับร้องทักขึ้น

วุ้นเส้นเขยิบตัวลงจากตัวของเพื่อนไปนั่งอยู่ข้างๆพร้อมกับยกมือไหว้คุณชาย และหันมาแก้ตัวกับท่านป้าของเจียมอี๋ “เจียมอี๋ ชวนเล่นค่ะท่านป้า”

“ก็วุ้นเส้น อยากง่วงนอนทำไมล่ะ” เจียมอี๋เห็นเพื่อนนั่งพิมพ์รายงาน พิมพ์ไปหลับไป จึงชวนวุ้นเส้นเล่นมวยปล้ำแก้ง่วง

“ก็ฉันต้องตื่นแต่เช้า ทั้งๆที่วันนี้เป็นวันหยุด ธรรมดาตอนนี้ฉันยังอยู่บนเตียงอยู่เลย” วุ้นเส้นบ่น ที่เธอต้องอุตส่าห์แหกขี้ตาตื่นมาหาเพื่อนแต่เช้าเพื่อทำรายงานก็เพราะเจียมอี๋นั่นแหละ ที่ห่วงอยากไปเที่ยวกับคุณชาย กลัวว่าตอนสายคุณชายมาชวนไปเที่ยวแล้วยังทำรายงานไม่เสร็จ

“อย่าเถียงกันจ๊ะเด็กๆ ลงไปกินของว่างก่อน พี่ชายมาชวนไปเที่ยวแหนะเจียมอี๋” พาเพลินสรุปแทนหลานชายเสร็จสรรพทั้งๆที่ยังไม่ได้คำตอบจากเขา

เจียมอี๋หันมามองหน้าวุ้นเส้นเนื่องจากรายงานที่ต้องส่งวันจันทร์ยังไม่เสร็จ

“เจียมอี๋ไปกับพี่ชายได้เลย เหลืออีกนิดเดียวเอง เดี๋ยววุ้นเส้นทำแป๊บเดียวก็เสร็จแล้ว” วุ้นเส้นยิ้มให้เพื่อน

“ถ้าอีกนิดเดียวก็ทำให้เสร็จ แล้วค่อยไปด้วยกันก็ได้ครับ พี่ไม่รีบ” สุรยุทธิ์ยิ้มกับวุ้นเส้น จริงๆเขาไม่ได้ตั้งใจจะมาชวนเจียมอี๋ไปไหน ที่เขาเดินมาที่บ้านท่านอาก็เพราะสาวสวยตรงหน้า

“ไม่เป็นไรค่ะ พี่ชายพาเจียมอี๋ไปได้เลย ท่านป้าคะ วุ้นเส้นขออยู่ต่ออีกสักครึ่งชั่วโมงนะคะ”

“จ๊ะ ลงไปทานของว่างก่อนไหม”

“ไม่ดีกว่าค่ะ ขอบคุณค่ะ วุ้นเส้นไปนั่งพิมพ์งานต่อดีกว่า” วุ้นเส้นลุกเดินไปที่โต๊ะคอมพิวเตอร์ที่ยังเปิดหน้าจอค้างอยู่

“ไปค่ะท่านป้า พี่ชาย ลงไปทานของว่างกันดีกว่า วันนี้พี่ชายจะพาเจียมอี๋ไปเที่ยวที่ไหนหรือคะ ไปชุดนี้ได้หรือเปล่า” เจียมอี๋เข้าไปเกาะแขนพี่ชายและถามขึ้นอย่างสนิทสนม

“เปลี่ยนเป็นกระโปรงดีไหมจ๊ะเจียมอี๋ ไป เดี๋ยวป้ากับคุณชายรอข้างล่าง” พาเพลินยิ้มและบอกกับหลานสาวคนโปรด

“น้องวุ้นเส้นไปด้วยกันซิครับ เดี๋ยวพี่รอ นี่ยังไม่เก้าโมงเช้าเลย” สุรยุทธิ์เอ่ยปากชวนวุ้นเส้นอีกครั้ง

วุ้นเส้นละสายตาจากหน้าจอมายิ้มกับคุณชาย “ขอบคุณค่ะ วุ้นเส้นมีนัดตอนเที่ยง คงไปกับพี่ชายกับเจียมอี๋ไม่ได้”

“นัดกับใคร” เจียมอี๋ถามเพื่อนด้วยน้ำเสียงเอาเรื่อง เนื่องจากบึกไปหาวุ้นเส้นที่มหาลัยหลายครั้ง แถมยังโทรคุยกันอีกต่างหาก เธอพยายามเตือนเพื่อนรักแล้ว แต่วุ้นเส้นยืนยันว่าไม่เคยไปไหนกับเขาสองต่อสองและจะระวังตัว

“วันนี้ฉันจะพาแม่ กับเส้นใหญ่ เส้นเล็กไปซื้อของที่ซุปเปอร์ ก็เลยนัดกันไปกินข้าวกลางวันนอกบ้านด้วย” วุ้นเส้นยิ้มและบอกกับเพื่อนรัก

“แล้วไป” เจียมอี๋ค้อนเพื่อน

“ก็บอกแล้วไง ว่าไม่มีอะไร” วุ้นเส้นยิ้มให้เพื่อนรัก หญิงสาวรับรู้ถึงความห่วงใยของเจียมอี๋ที่มีต่อเธอ เครื่องตวงวัดของเธอได้ทำงานเสร็จสิ้นไปแล้วตั้งแต่คืนวันที่พบกับหนุ่มในฝันครั้งแรก และน้ำหนักมันก็กดเอียงไปทางชายหนุ่ม เธอเดินไปพบโอกาสหนึ่งเปอร์เซ็นต์ของผู้หญิงและเธอก็ยังมีเวลามากพอที่จะเดินเข้าไปพิสูจน์ก่อนที่จะทยอยใส่ความรักให้กับเขา

“เราลงไปข้างล่างกันก่อนเถอะคุณชาย เจียมอี๋ลูกรีบเปลี่ยนชุดซิจ๊ะ อย่าให้พี่เขารอนาน”

“ค่ะ ท่านป้า”

*********

บึกมานั่งรอวุ้นเส้นที่บ้านตั้งแต่บ่ายเพื่อที่จะชวนหญิงสาวไปทานข้าวเย็นนอกบ้าน และถ้าเธอยอมไป นี่ก็จะถือเป็นการออกเดทครั้งแรกของเขาและเธอ เนื่องจากตั้งแต่ที่เขาเทียวไปเทียวมาจีบเธอทั้งที่บ้านและที่มหาวิทยาลัย วุ้นเส้นไม่เคยตกปากรับคำยอมไปไหนกับเขาเลยสักครั้ง

“ไปกับพี่บึกเขาหน่อยนะพี่วุ้นเส้น พี่บึกเขาชวนตั้งหลายครั้งแล้ว” เส้นเล็กช่วยพูดให้กับว่าที่แฟนพี่สาว

“นั่นซิพี่วุ้นเส้น ให้พี่บึกพาไปเลี้ยงข้าวนอกบ้านบ้างก็ได้ จะได้ไม่เปลืองข้าวที่บ้าน พี่บึกเขากินจุจะตาย” เส้นใหญ่หันไปยิ้มกับบึกที่มาเป็นสมาชิกร่วมโต๊ะอาหารเย็นที่บ้านเขาเกือบทุกวัน

“เดี๋ยวเถอะเส้นใหญ่ พูดกับพี่เขาแบบนั้นได้อย่างไง พี่เขาเป็นแขกนะลูก” กรพิมหันไปปรามลูกชายก่อนจะหันมาคุยกับลูกสาว “วุ้นเส้นลูก ไปกินข้าวนอกบ้านกับพี่เขาหน่อยเถอะ”

วุ้นเส้นนั่งมองหน้าบึก ที่กำลังส่งสายตาอ้อนวอนมาที่เธอ ก่อนจะหันไปตอบรับแม่ “ค่ะแม่”

“เฮ้” สามหนุ่มร้องประสานเสียงขึ้นพร้อมกัน กระโดดลุกขึ้นยืนและยกมือขึ้นปรบกัน

กรพิมยิ้มกับลูกสาว ก่อนจะหันไปมองลูกชายทั้งสองกับว่าที่แฟนลูกสาวที่ดูจะเข้ากันได้ดีกับครอบครัวของเธอไม่แพ้แฟนเก่าของวุ้นเส้น บึกเป็นผู้ชายคนที่สองไม่นับรวมกับเพื่อนผู้ชายที่โรงเรียนและมหาวิทยาลัย ที่วุ้นเส้นพาเข้าบ้านและแอบกระซิบบอกกับเธอว่าเป็นผู้ชายที่กำลังดูๆกันอยู่เพื่อคบเป็นแฟน

วุ้นเส้นใส่เสื้อยืดกางเกงยีนส์เดินลงจากห้อง ผิดความคาดหวังของบึกที่คิดว่าสาวสวยจะใส่กระโปรงในโอกาสพิเศษแบบนี้ แต่ด้วยรูปร่างและหน้าตาของเธอ ชุดอะไรก็ดูจะทำให้เธอสวยโดดเด่นได้หมด

“น้องวุ้นเส้นอยากทานอะไรเป็นพิเศษหรือเปล่าครับ” บึกถามขึ้นขณะพาเธอเดินไปที่รถของเขาที่จอดอยู่หน้าบ้าน

“ไปร้านเพื่อนพี่บึกที่อยู่ใกล้บ้านก็ได้ค่ะ ครั้งที่แล้วทานไปได้นิดเดียวเอง วุ้นเส้นชอบรสชาดอาหารของที่ร้าน”

“ครับ” บึกเปิดประตูรถให้วุ้นเส้นขึ้นนั่ง

“ต้องโทรจองด้วยหรือคะ” วุ้นเส้นถามขึ้น เพราะเห็นชายหนุ่มหยิบมือถือขึ้นโทร ระหว่างเดินอ้อมมาขึ้นรถ

“เปล่าหรอกครับ พี่โทรให้พี่เดือนจัดโต๊ะให้โรแมนติคเป็นพิเศษสำหรับการเดทครั้งแรกของเรา”

วุ้นเส้นยิ้มอาย “แค่มากินข้าวเฉยๆก็เรียกว่าเดทแล้วหรือคะ วุ้นเส้นยังไม่ได้รับพี่บึกเป็นแฟนสักหน่อย เราแค่ลองคบกันเฉยๆ”

“นั่นแหละครับ ลองคบกันก็เรียกว่าแฟนแล้ว ถ้าขั้นต่อไปก็เป็นคู่หมั้น” บึกยิ้มและส่งสายตาดุคมที่หวานหยดย้อยไปให้กับวุ้นเส้น

“พี่บึกนี่ขี้ตู่ชะมัด ตอนนี้วุ้นเส้นให้พี่บึกเป็นแค่ว่าที่แฟนค่ะ ไปกันเถอะค่ะ วุ้นเส้นเริ่มหิวแล้ว”

บึกยิ้ม “ครับ ว่าที่แฟนก็ว่าที่แฟน”

สองหนุ่มสาวนั่งเปิดเมนูสลับกับเงยหน้าขึ้นสบตากันท่ามกลางแสงเทียนที่อยู่กลางโต๊ะ ปล่อยให้พนักงานเสริฟยืนมองอยู่ห่างๆตามคำสั่งของเจ้าของร้าน

“ทำไมต้องโกหกเจียมอี๋ด้วย” เจียมอี๋เดินตรงเข้ามากระชากเมนูอาหารออกจากมือเพื่อน พร้อมกับร้องโวยวายเพื่อนที่นั่งหันหน้าออกมาทาง ทางเข้าของร้าน

วุ้นเส้นเงยหน้าขึ้นมองเพื่อนรัก

“ทำไมวุ้นเส้นต้องโกหกเจียมอี๋ด้วย” เจียมอี๋ต่อว่าเพื่อนอีกครั้งด้วยน้ำเสียงที่สั่นด้วยความน้อยใจ

วุ้นเส้นลุกขึ้นยืนจับมือเจียมอี๋ “วุ้นเส้นไม่ได้โกหกเจียมอี๋นะ”

เจียมอี๋สะบัดมือเพื่อน แล้วออกวิ่ง ขณะที่วุ้นเส้นหันมาส่งยิ้มแหยๆกับบึกก่อนจะรีบวิ่งตามเพื่อนออกไป

“นั่งก่อนซิคุณชาย สองสาวคงจะต้องเคลียร์กันสักพัก” บึกค่อนข้างมั่นใจว่าสองสาวไม่ได้เป็นทอมดี้ อย่างที่เพื่อนเข้าใจ เพราะตั้งแต่ที่เขาคบกับวุ้นเส้น เขาพบว่าหญิงสาวเป็นคนอ่อนหวาน ช่างเอาใจ และรักสวยรักงาม นอกจากนั้นเขายังแอบสืบเรื่องของสองสาวจากฝาแฝดมาแล้ว

“ฉันออกไปดูหน่อยดีกว่า” สุรยุทธิ์เริ่มเป็นห่วงสองสาว โดยเฉพาะน้องสาวที่ดูจะหวงเพื่อนจนออกนอกหน้า

“เจียมอี๋ วุ้นเส้นไม่ได้โกหกนะ เราเป็นเพื่อนกันมานานขนาดไหนแล้ว เจียมอี๋ไม่เชื่อใจวุ้นเส้นหรือ” วุ้นเส้นจับไหล่ของเพื่อนให้หันหน้ามาคุยกัน

“จะให้เจียมอี๋เชื่อได้ยังไง ในเมื่อเห็นๆกันอยู่” เจียมอี๋ส่งค้อนให้เพื่อน พร้อมกับต่อว่าเพื่อนด้วยน้ำเสียงสั่นเครือ

“พี่บึก เขาไปรอวุ้นเส้นที่บ้าน พอวุ้นเส้นกลับจากซุปเปอร์ พี่เขาก็ขออนุญาตแม่พาวุ้นเส้นมากินข้าวนอกบ้าน” วุ้นเส้นอธิบายให้เพื่อนรักฟังอย่างใจเย็น

“วุ้นเส้นไม่เชื่อเจียมอี๋หรือ” เจียมอี๋มองหน้าเพื่อนรักด้วยความน้อยใจ เธออุตส่าห์เป็นห่วงเพื่อน แต่เพื่อนกลับไม่ยอมเชื่อเรื่องที่เธอเล่า

“เชื่อซิ แต่ก็อยากพิสูจน์ด้วย เจียมอี๋เชื่อใจวุ้นเส้นไหมล่ะ” วุ้นเส้นเชื่อเรื่องที่เพื่อนพูด แต่เธออยากรู้ว่าตอนนี้เขายังเป็นอย่างที่เพื่อนเล่าอยู่หรือเปล่า หญิงสาวคิดว่าไม่เสียหายอะไรที่จะลองคบบึกดู ถ้าเธอพบว่าเขายังไม่ทิ้งพฤติกรรมเก่าๆที่เธอรับไม่ได้ เธอก็แค่ตัดใจ

เจียมอี๋พยักหน้า

“งั้นเจียมอี๋ก็ต้องช่วยวุ้นเส้นพิสูจน์ด้วย” วุ้นเส้นยิ้มเมื่อเห็นเพื่อนรักเข้าใจในสิ่งที่เธอตัดสินใจ

เจียมอี๋ถอนหายใจมองหน้าเพื่อนด้วยความเป็นห่วง กังวลว่ารูปลักษณ์ภายนอกของเพื่อนรักพี่ชายที่โดนใจเพื่อนสาวสุดๆจะทำให้เพื่อนรักเลอะเลือนมองข้ามความจริง

“ขี้แยชะมัด เราคบกันมากี่ปีแล้ว วุ้นเส้นเคยทำอะไรที่โง่ๆ ไม่มีเหตุผลหรือ” วุ้นเส้นยกมือขึ้นปาดน้ำตาให้เจียมอี๋พร้อมกับร้องถามขึ้น

“ก็ความรักมันทำให้คนตาบอดนี่” เจียมอี๋บ่นกระปอดกระแปด

วุ้นเส้นหัวเราะ “งั้นเรียนจบ วุ้นเส้นก็มีอาชีพรองรับแล้วซิ จะขายล็อตเตอรี่หรือเล่นดนตรีข้างถนนดีนะ”

“บ้า” เจียมอี๋ยิ้มออก ยกมือขึ้นทุบเพื่อน

สุรยุทธิ์ยืนแอบมองสองสาวคุยกัน ด้วยความรู้สึกหนักใจ น้องสาวของเขาอาจจะถึงขั้นฆ่าตัวตายได้ ถ้าวุ้นเส้นบอกเลิก

“อ้าว พี่ชายมายืนทำอะไรตรงนี้คะ” เจียมอี๋มองหน้าพี่ชายด้วยความแปลกใจ เมื่อถูกวุ้นเส้นจูงมือเดินกลับเข้าร้าน และพบว่าเขามายืนรออยู่ข้างๆพุ่มไม้

“พี่มาตามน้องเจียมอี๋กับน้องวุ้นเส้นครับ”

“ไปค่ะ มีแฟนขี้งอนขนาดนี้ ต้องคอยง้อหน่อยนะคะ” วุ้นเส้นพูดกับคุณชายแต่หันไปยิ้มล้อเพื่อน

“บ้า” เจียมอี๋รีบหันหน้าหลบตาพี่ชาย พร้อมกับยกมืออีกข้างที่ว่างตีไปที่แขนของเพื่อนเบาๆ

สุรยุทธิ์กำลังเครียด ตีความประโยคของวุ้นเส้นตามที่ตัวเองคิดแล้วยิ่งเครียดหนัก กลืนน้ำลายลงคอดังเฮือก พร้อมกับพึมพำในใจ ถึงกับประกาศตัวเป็นแฟนกันเลยหรือ

“เคลียร์กันได้แล้วหรือครับ” บึกยิ้มเมื่อสองสาวเดินจูงมือกันมาที่โต๊ะ

เจียมอี๋ยกมือขึ้นไหว้บึกเพราะเมื่อสักครู่มัวแต่งอนเพื่อนจึงยังไม่ได้ทักทายเขา

“มานั่งข้างๆวุ้นเส้น” วุ้นเส้นดึงมือเพื่อนมานั่งเก้าอี้ด้านข้างเธอ

“วันนี้พี่บึกคิวว่าง ไม่ได้นัดสาวที่ไหนไว้หรือคะ” เจียมอี๋ถามพร้อมกับแจกค้อนวงใหญ่ให้เพื่อนพี่ชาย

วุ้นเส้นยิ้มแหยๆกับบึก ก่อนจะหันมาถามเพื่อน “กินอะไรดีเจียมอี๋ เอาแกงส้มชะอมของชอบของเธอไหม”

เจียมอี๋ทำหน้าเซ็งสุดๆ พยักเพยิดกับเพื่อนรัก ก่อนจะหันไปยิ้มกับพี่ชายเมื่อเห็นเขาเดินมานั่งที่เก้าอี้ฝั่งตรงข้ามกับเธอ

“งั้นเอาแกงส้มชะอม กับยำถั่วพูค่ะ พี่บึกกับพี่ชายสั่งคนละอย่างซิคะ ช่วยๆกัน”

บึกยิ้มกับวุ้นเส้น ยกเมนูขึ้นดู ก่อนจะหันไปโบกมือเรียกพนักงาน สั่งอาหารตามรายการที่วุ้นเส้นบอกและเพิ่มไปอีกสามสี่อย่าง

“น้ำอะไรดีครับน้องวุ้นเส้น น้องเจียมอี๋” บึกถามขึ้น

“ท่าทางพี่บึกจะเอาใจผู้หญิงเก่งมากๆเลยนะคะ สงสัยจะทำจนชิน ไม่รู้ตอนนี้มีผู้หญิงอยู่ในลิสกี่คน” เจียมอี๋ค้อนบึก พร้อมกับหาเรื่องแขวะเขา โดยลืมเลือนไปว่าปกติเวลาเธอไปไหนกับพี่ชาย เขาก็จะบริการและถามเธอแบบนี้เหมือนกัน

“เจียมอี๋” วุ้นเส้นหันไปส่ายหน้าปรามเพื่อน

“ไม่มีหรอกครับ ตอนนี้พี่คบกับน้องวุ้นเส้นแค่คนเดียว” บึกตอบเจี๋ยมอี๋แต่หันไปมองวุ้นเส้น

วุ้นเส้นส่งยิ้มกลับไปให้ชายหนุ่ม ก่อนจะหันมาเอาใจใส่เพื่อนรักตามเสียงร้องอ้อน

บึกถอนหายใจออกมาเบาๆ ก่อนจะนึกบ่นในใจ ตัวมารจริงๆ ไม่รู้คุณชายจะพายายจอมจุ้นมากินที่ร้านนี้ทำไม อุตส่าห์สร้างบรรยากาศมาอย่างดีแล้วเชียว

“เดี๋ยวฉันให้พี่ชายขับไปส่งที่บ้านให้นะ” เจียมอี๋บอกกับเพื่อนเมื่อทั้งสี่เดินมาถึงที่จอดรถ

“ไม่ได้หรอกครับ มันน่าเกลียด พี่เป็นคนขอแม่พาน้องวุ้นเส้นมา พี่ก็ต้องรับผิดชอบพาไปส่ง” บึกบอกกับเจียมอี๋โดยพยายามเก็บความหงุดหงิดไว้ไม่ให้ออกมาทางน้ำเสียง อะไรจะหวงเพื่อนขนาดนั้น ที่โต๊ะอาหารก็ทีหนึ่งแล้ว นั่งออเซาะเพื่อนตั้งแต่เริ่มกินจนกินเสร็จ ทำให้เขาแทบไม่มีโอกาสได้คุยอะไรกับสาวสวยของเขาเลย

“นั่นซิเจียมอี๋ มันดึกแล้ว มีอะไรค่อยโทรคุยกัน อย่ารบกวนพี่ชายเลย ฉันกลับกับพี่บึกได้ ไว้ถึงบ้านแล้วฉันโทรไปหาดีไหม” วุ้นเส้นรู้ว่าเจียมอี๋ห่วงเธอแต่เธอรู้สึกเกรงใจที่จะต้องให้พี่ชายไปส่งเธอที่บ้าน และเธอก็ค่อนข้างมั่นใจว่าพี่บึกจะไม่พาเธอออกนอกเส้นทางแน่

เจียมอี๋ส่งค้อนให้เพื่อน พร้อมกับนึกบ่นในใจ เราหรืออุตส่าห์เป็นห่วง แต่วุ้นเส้นกลับไม่ได้กลัวอะไรเลย สงสัยความรักมันจะบังตาวุ้นเส้นจริงๆ

“สวัสดีค่ะพี่ชาย บ๊าย บายเจียมอี๋เดี๋ยวฉันโทรหา” วุ้นเส้นยกมือไหว้ลาคุณชายก่อนจะโบกมือลากับเพื่อนรัก แล้วเดินตามบึกไปที่รถ

“พี่ชายคะ เจียมอี๋รบกวนพี่ชายขับรถตามพี่บึกไปส่งวุ้นเส้นได้ไหมคะ” เจียมอี๋รู้สึกเป็นห่วงเพื่อนจริงๆ เธอได้ข่าวจากพวกพี่ๆว่าพี่บึกชอบพาผู้หญิงไม่ซ้ำหน้าไปนอนที่คอนโด ถึงหญิงสาวจะเชื่อใจเพื่อนรัก แต่เธอไม่สามารถไว้ใจเล่ห์กลของเพลย์บอยได้

สุรยุทธิ์ยืนอึ้งกับคำขอของน้องสาว เขาหึงวุ้นเส้นจนจะบ้าอยู่แล้วแต่ต้องเก็บอาการไว้ แต่เจียมอี๋กลับแสดงอาการหึงและหวงเพื่อนจนออกนอกหน้า ถึงขนาดให้เขาขับรถตามไปดูต่อ

“ครับ” สุรยุทธิ์ตอบรับน้องสาวอย่างเสียไม่ได้

“ขอบคุณค่ะ พี่ชายใจดีที่สุดในโลกเลย” วุ้นเส้นยิ้มและเข้าไปเกาะแขนพี่ชาย ที่ไม่เคยขัดใจเธอเลยสักครั้ง

บึกขับรถออกจากร้านไปได้ไม่ถึงห้าร้อยเมตร ก็ต้องหลุดยิ้ม ชำเลืองตาขึ้นมองกระจกหลังเป็นพักๆ

“ท่าทางน้องเจียมอี๋จะหวงเพื่อนมากๆเลยนะครับ” บึกจงใจเน้นคำว่ามากให้วุ้นเส้นรู้สึก

“ค่ะ เจียมอี๋เขาก็ขี้ระแวงแบบนี้แหละค่ะ ประวัติพี่บึกก็ไม่ค่อยจะดีสักเท่าไหร่ ไม่ใช่หรือคะ เพื่อนของวุ้นเส้นก็ต้องห่วงเป็นธรรมดา” วุ้นเส้นหันไปยิ้มและคุยเล่นกับบึก

“ไม่ธรรมดาหรอกครับ ขนาดให้คุณชายขับรถตาม” บึกบอกกับวุ้นเส้นพร้อมกับชำเลืองดูที่กระจกหลังอีกครั้ง

วุ้นเส้นหันไปมองรถด้านหลัง ก่อนจะหันมามองหน้าชายหนุ่มและถามขึ้น “พี่บึกเคยมีประวัติ พาผู้หญิงไปข่มขืนหรือเปล่าคะ”

“อะไรนะครับ ทำไมน้องวุ้นเส้นถึงได้เห็นพี่เป็นโจรบ้ากามไปได้” บึกทำตาโตหันมามองหน้าวุ้นเส้น พร้อมกับถามขึ้นด้วยความตกใจ

วุ้นเส้นหัวเราะคิกคักชอบใจ “งั้นก็แสดงว่าเจียมอี๋เขาขี้ระแวงไปเอง”

บึกหันมามองหน้าวุ้นเส้น เห็นดวงตาพราวระยิบระยับส่องประกายยิ้มแย้มไปพร้อมกับปาก จ้องมองเขาอยู่ ก็อดยิ้มตามเธอไปด้วยไม่ได้

“เจียมอี๋บอกว่าพี่บึกเป็นเสือผู้หญิงค่ะ” วุ้นเส้นบอกกับบึกด้วยใบหน้ายิ้มแย้ม

“พี่นี่นะ” บึกหันมามองหน้าวุ้นเส้นอีกครั้ง พร้อมกับยกนิ้วขึ้นชี้หน้าตัวเอง

วุ้นเส้นหัวเราะ “พี่บึกอย่าหันมามองวุ้นเส้นซิคะ แล้วก็อย่าปล่อยมือจากพวงมาลัยด้วย วุ้นเส้นยังไม่อยากไปนอนหยอดน้ำเกลือที่โรงพยาบาล”

“โอ๊ยๆ พี่จะบ้าตาย น้องเจียมอี๋ไปเอาข่าวมาจากที่ไหน น้องวุ้นเส้นอย่าไปเชื่อนะครับ พี่ไม่ได้เป็นคนแบบนั้น” บึกชลอรถหันมาโอดครวญกับหญิงสาว

“วุ้นเส้นเชื่อในสิ่งที่เห็นค่ะ” วุ้นเส้นยิ้มและบอกกับชายหนุ่มด้วยน้ำเสียงหนักแน่น




 

Create Date : 15 กุมภาพันธ์ 2550
1 comments
Last Update : 15 กุมภาพันธ์ 2550 14:58:24 น.
Counter : 513 Pageviews.

 

 

โดย: > เอ้ < photo 15 กุมภาพันธ์ 2550 15:56:46 น.  

ชื่อ : * blog นี้ comment ได้เฉพาะสมาชิก
Comment :
  *ส่วน comment ไม่สามารถใช้ javascript และ style sheet
 

 

Jew Nilmanee
Location :


[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed

ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]




[Add Jew Nilmanee's blog to your web]

 
pantip.com pantipmarket.com pantown.com
pantip.com pantipmarket.com pantown.com