ร้านซูชิเล็กๆ ในซอกหนึ่งของเมืองฟลอเร็นซ์ดินแดนแห่งมนต์ขลัง





ว่าจะเอาทริปสามวันสองคืนในฟลอเร็นซ์มาลงบล็อก แต่ก็ยังไม่มีโอกาสเสียที เพราะว่ารูปเยอะเกิน (ขี้เกียจย่อรูป) และเมื่อมีรูปเยอะและชอบไปเสียหมด จึงตัดสินใจไม่ได้ซักที ไม่รู้ว่าจะหยิบรูปไหนมาลงดี

แต่ว่าเวลาที่ไปชื่นชมและอ่านบล็อกท่องเที่ยวของคนอื่นๆ รู้สึกชอบ และมีความสุขทุกครั้งไป ดังนั้นตั้งแต่นี้ต่อไป จะค่อยๆ ทยอยลงรูปในแต่ละครั้งที่มีทริปพิเศษไปเที่ยวเมืองต่างๆ ค่ะ


สำหรับตัวฉันเอง เรื่องหนึ่งที่สำคัญเป็นอันดับต้นๆ รองจากการอ่านหนังสือ ก็คงต้องยกให้เรื่องกิน เพราะเป็นคนที่ชอบทานมากๆ ไปฟลอเร็นซ์คราวนี้ ก็ไม่พลาดโอกาสในการไปทานอาหารที่โปรดปรานที่สุดอย่างหนึ่ง นั่นก็คือ ซูชิ นั่นเอง


...ใกล้ค่ำขึ้นมา ไม่รอช้า จับจาดาแต่งตัวเตรียมพร้อมเสร็จสรรพ...



เวลาเกือบห้าโมงเย็นในเดือนพฤษภาคม แดดยังร้อนเปรี้ยงๆ ประนึงว่าเพิ่งเที่ยงวันเท่านั้น จาดาหน้าตาเหยเก ร้อนตับแทบตัก แต่แม่จาดาสู้ตายค่ะ เพื่อการกิน กิน และกิน ไม่มีอะไรจะมาหยุดยั้งเราได้...



















































































เดินเล่นเรียกน้ำย่อซักนิดหน่อยก่อน ที่จะเดินทางไปยังจุดมุ่งหมาย ซึ่งร้านซูชิ ร้านเล็กๆ แห่งนี้ อยู่ไม่ใกล้ไม่ไกลจากโบสถ์ชื่อดังของเมืองฟลอเร็นซ์ แต่ฉันเสียดายเหลือเกินที่จำชื่อร้านไม่ได้ ต้องขออภัยไว้ ณ ที่นี้ด้วยค่ะ

มีหนุ่มน้อยพนักงาน (หรืออาจจะเป็นเจ้าของก็ไม่รู้) เพราะคนเอเชียดูอ่อนเยาว์ ดังนั้นจึงไม่สามารถคาดเดาอายุของหนุ่มคนนั้นได้ แต่ที่เตะตาเหลือเกิน ก็คงจะเป็นทรงผมเกาหลีนั่นแหล่ะ เห็นทีไรก็ขัดตาขัดใจทุกทีไป

ร้านอาหารญี่ปุ่น แต่คนในร้านและพนักงาน ส่งภาษาจีนกันโขมงโฉงเฉง...คนจีนก็ยังคงความเป็นคนจีน ที่ไม่ว่าอยู่ที่ไหน เสียงมักจะมาเป็นอันดับหนึ่ง

พอซูชิมาเสริฟ ก็หน้าตาดีสมกับที่รอคอยที่เดียว แม้หน้าตาของอาหาร ไม่ว่าที่ไหนๆ ก็คงไม่แตกต่างกันเท่าไหร่นัก แต่บรรยากาศรอบตัว มันให้ความรู้สึกแตกต่างจริงๆ


อาจเป็นเพราะคำว่า ฟลอเร็นซ์ มันมีมนต์ขลังอยู่ในหัวใจของฉันเป็นทุนเดิมอยู่แล้ว แม้จะมานั่งทานอาหารพื้นๆ อย่างนี้ แบบที่ทานที่ไหนก็ได้ แต่มันก็ให้ความรู้สึกว่ายอดเยี่ยม รสชาติอร่อยดีทีเดียว


วันนั้นมีโอกาสได้เห็นและได้ลุ้นจาดา กับการหัดใช้ตะเกียบเป็นครั้งแรกในชีวิต เป็นอะไรที่ทุลักทุเลมากๆ มันยาก ยากเกินไปสำหรับเด็กวัยสี่ขวบกว่า ที่ไม่เคยใช้ตะเกียบมาก่อน แต่จาดามีความอดทนสูงเป็นพิเศษ ทั้งขัดใจที่มันคีบยากมากๆ แต่คุณเธอก็ไม่ยอมแพ้ พยายามจนได้ แม้จะทานไป งอแงไปด้วยก็ตาม








Create Date : 24 พฤศจิกายน 2553
Last Update : 25 พฤษภาคม 2554 3:53:49 น. 7 comments
Counter : 1658 Pageviews.

 
เราก็ชอบซูชิแต่ขอเลือกหน้าที่ไม่ใช่ปลาดิบ กับหน้ากุ้งนะ นอกนั้นสู้ตายยิ่งใส่ชีสนิดแปะไว้ด้านบนยิ่งโปรดปรานเลยล่ะ อู๊ย..พูดแล้วหิว

จาด้าคงงงยากไม้สองอันจะคีบอาหารยังไง ขนาดเรายังไม่นิยมเลยแต่ถ้าจำเป็นก็ใช้ เรารู้สึกจับนานๆ แล้วปวดนิ้วมากอ่ะ


โดย: ส้มแช่อิ่ม วันที่: 24 พฤศจิกายน 2553 เวลา:8:13:39 น.  

 
น่าทานจังเลยค่ะ


โดย: janaui วันที่: 24 พฤศจิกายน 2553 เวลา:9:33:24 น.  

 
น่าทานจังเลย แถวตลาดขายอันละ 5-10 บาท

ไม่อร่อยเท่าโออิชิ อิอิ

สาวน้อยหน้าหวานคงกินด้วยความอร่อยเป็นแน่แท้

อิ่มอกอิ่มใจไปด้วยค่ะ

ท้องก็อิ่มละ เพราะเพิ่งทานข้าวมา

แฮปปิ้ นะคะ


โดย: Rinsa Yoyolive วันที่: 24 พฤศจิกายน 2553 เวลา:10:18:59 น.  

 
ชอบทานอาหารญี่ปุ่นเป็นทุนเดิมอยู่แล้วค่ะ แต่ชอบพวกสุกี้อะไรเทือกนั้น แต่นี่ไม่ได้ทานมาจะปีแล้ว ฮ่าาาา ปีที่แล้วทานทุกวัน ปีนี้เลยเพลาๆลงบ้าง กิกิ


โดย: army_wifey วันที่: 24 พฤศจิกายน 2553 เวลา:10:25:18 น.  

 


แวะมาทานซูชิกับน้องจาดาด้วยครับ
น้องน่ารักจังครับ...

บล็อคหน้า สงสัยน้องจาดาคงใช้ตะเกียบคล่องขึ้น





โดย: the fivedog วันที่: 24 พฤศจิกายน 2553 เวลา:13:28:43 น.  

 
กำลังคิดตอนเห็นภาพจาดาจับตะเกียบว่า หน้าตาเอาจริงเอาจังมาก
พอมาอ่านที่แจงเขียนถึง เลยอดอมยิ้มไม่ได้
เด็ก ๆ กับความพยายามใช้ตะเกียบนี่น่ารักดีนะ
นึกถึงตัวเอง ตอนเด็ก ๆ คีบลูกชิ้นไม่ได้ เอาตะเกียบจิ้มลงไปเลย ^^

ปล. จากที่แจงถามเรื่องกระเป๋า
การทำรูปเด็กนูน ๆ เป็นการเอาผ้ามาเย็บตามรอยที่วาดไว้
เป็นเทคนิคที่เรียก แอพพลิเค จ้า ต้องใช้ความพยายามมากหน่อยตรงที่
เราต้องดูเป็นว่าต้องเย็บผ้าผืนไหนล่างสุด แล้วค่อย ๆ ไล่เย็บทับขึ้นมา เพื่อความสมจริง
พอเสร็จเป็นตัวก็ต้องมีเทคนิคเจาะผ้า และ กุ้นขอบอีกครั้งพร้อม ๆ กับอัดใยโพลี
เพื่อให้ตุ๊กตานูนขึ้นมา งานนี้ยิ่งวาดแพทเทิร์นเล็กเท่าไหร่ยิ่งยากเพราะจะต้องเย็บละเอียดมั่ก ๆ
ส่วนเรื่องจะเอาไปทำปลอกหมอนล่ะก็น่าจะได้นะ เพียงแต่ว่าตามความเห็นส่วนตัว
ถ้าเรามีปลอกหมอนอยู่แล้ว จะวาดแบบ และ แอพพลิเคทับลงไป ก็น่าจะมีผ้าพื้นเย็บปิดด้านหลังอีกทีเพื่อความสวยงามจ้า


โดย: Paulo วันที่: 24 พฤศจิกายน 2553 เวลา:13:30:32 น.  

 
เอ๊ะ...งง
จำได้ว่าเขามาทักทายแจงเรื่องนี้แล้ว
แต่เอ...ข้อความของตูนล่องหนไปไหนหนอ

อยากบอกว่าทานซูชิไม่เป็น
หัดใช้ตะเกียบตอนโตแล้วด้วยค่ะ


โดย: เหมือนพระจันทร์ วันที่: 25 พฤศจิกายน 2553 เวลา:10:24:02 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

nikanda
Location :
จันทบุรี Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 31 คน [?]




ลายปากกา









New Comments
Group Blog
 
<<
พฤศจิกายน 2553
 123456
78910111213
14151617181920
21222324252627
282930 
 
24 พฤศจิกายน 2553
 
All Blogs
 
Friends' blogs
[Add nikanda's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.