On Air :: กับประโยคกระซิบเตือนเบาๆ แสนโรแมนติก "อย่าตกใจไปล่ะ"
On Air ... เล่ห์รักโลกมายา (ชื่อเรื่องตามชื่อไทยที่ฉายที่ช่องเจ็ด) ซึ่งขอบอกว่าใครคิดเนี่ย? มันไม่ได้ตรงกับเนื้อเรื่องเลยซักนิดเดียว "โลกมายา" น่ะใช่ แต่ "เล่ห์รัก" ไม่เลยซักนิดเดียว เพราะความรักของแต่ละคนแต่ละคู่ ออกจะตรงไปตรงมา ไม่มีเล่ห์เหลี่ยม แต่ถ้าเป็นเล่ห์เหลี่ยมชั้นเชิงของการทำงานในวงการมายาน่ะใช่แน่นอน
On Air ... เป็นเรื่องราวการบอกเล่ากลไกการทำงานของวงการบันเทิง (หรือเรียกกันอีกนามคือวงการมายานั่นเอง) ผ่านการทำละครซ้อนในละครที่มีชื่อเรื่อง Ticket to the Moon พล็อตเรื่องนั้นอาจจะไม่ใช่พล็อตใหม่ แต่สาระและการดำเนินเรื่อง ทำได้ดีไม่แพ้เรื่องไหนเลยค่ะ
Ticket to the Moon ... เป็นจุดเริ่มต้นของการเข้ามาพัวพันกันอย่างยุ่งเหยิงของตัวละครหลักสี่ตัว อันได้แก่
-ผู้จัดการดาราจิตใจดี มีน้ำใจ ปั้นดารามานักต่อนัก (แต่กำลังตกอับสุดๆ)
-ซุปเปอร์สตาร์ ฉายานางฟ้าแห่งเกาหลี (แต่ตัวจริงตรงข้ามกับฉายาโดยสิ้นเชิง)
-ผู้กำกับหนุ่ม ไฟแรง ( แต่มือใหม่และไม่ค่อยรู้จักการประนีประนอม)
-นักเขียนบทชื่อดัง (ติสแตก ไม่แคร์ใคร) การันตีฝืมือด้วยรางวัลการเขียนบทดีเด่น 4 รางวัลซ้อน
ดูด้วยความไม่ได้คาดหวังมาก่อน เพราะเปิดดูตอนแรกแบบงงๆ รู้จักดาราแบบผิวเผิน เปิดฉากแรกมา เกือบทนดูไม่ได้ เพราะเห็นนักเขียนบท นางร้ายอะไรก็ไม่รู้ ทั้งแก่ ทั้งตลก ไม่สวย ปากเสีย นิสัยก็ไม่ดี ส่วนนางเอกซุปเปอร์สตาร์ก็ร้าย หยิ่งยโส เอาแต่ใจ ดูไปจากหลายนาทีทีเดียว กว่าจะรู้ว่า
...อุ๊ย ชั้นเข้าใจผิดไป ยัยผู้หญิงร้ายๆ สองคน ที่ทำเอาแทบทนไม่ได้นั้น...นั่นมันนางเอกทั้งคู่จ้า
พอเริ่มทำใจได้ ดูต่อไปเรื่อยๆ มันสนุกแฮะ ดูแล้วไม่อยากหยุด เพราะปมปัญหาและแนวการดำเนินเรื่องเป็นแบบที่ชอบอยู่พอดี ยิ่งดูยิ่งชอบ ดูจบ ขอยกให้เป็นซีรี่ย์ดีเยี่ยมอีกหนึ่งเรื่องในดวงใจ ซีรี่ย์เรื่องนี้ขอใช้คำว่า Perfect...เลยแล้วกันนะคะ สำหรับเรา On Air คือซีรี่ย์ที่สมบูรณ์แบบมาก เรียกว่าเกินความคาดหวังกันเลยทีเดียว
ตอนเปิดมามันมีหลายสิ่งที่คิดว่าไม่น่าเชื่อ เราไม่คิดมาก่อนเลย ว่าคุณนักเขียนบทจะเป็นนางเอก แต่ยิ่งดู ยิ่งหลงรัก คอยเชียร์คอยเอาใจช่วยตลอด เพราะคุณเธอนั้น แข็งนอกแต่อ่อนใน ปากร้ายแต่เอาเข้าจริงๆ ใจอ่อนไหวมาก แถมเถียงกับคุณดาราขาวีนทีไร แพ้ทางทุกที
ส่วนคุณดารานางฟ้าเกาหลี ก็สุดยอดและเล่นเก่งเช่นกัน ไม่เคยเห็นคิมฮานึลในลุคร้ายๆ แบบนั้นมาก่อน ดูแล้วก็ยกนิ้วให้ ว่าเธอทำได้ดีจริง ดูแล้วทั้งเห็นใจและหมั่นไส้ไปพร้อมๆ กัน
ในส่วนของการดำเนินเรื่อง นอกจากความรักความโรแมนติกของคู่พระเอก,นางเอกทั้งสองคู่แล้ว เรื่องราวการทำงาน ความเข้มข้น การเชือดเฉือนคารมกันก็มันส์สุดยอด โดยเฉพาะระหว่างตัวเอกหญิงทั้งสองคน ต้องบอกว่าไดอาล๊อค บทสนทนามันได้และโดนใจจริงๆ
ใครจะไปคิดว่า แค่ผู้หญิงสองคน มานั่งประจันหน้ากันอยู่ที่โต๊ะอาหาร คอยเอาแต่พูดจา จิกกัด เชือดเฉือน ข่มกันอยู่ในทีนั้น มันจะมีอะไรแฝงอยู่เยอะ ไม่ว่าจะเป็นอีโก้ ความคิด ความอ่าน การพยายามปกปิดตัวอ่อนไหวของตัวเอง...และสะท้อนความเป็นจริงของสังคมมายานั้นๆ
ดูแล้วสะท้อนใจดี สอนใจด้วยค่ะ ได้มองเห็นพัฒนาการของตัวละครแต่ละคน เมื่อเราอยู่ในจุดไหน เราก็ต้องทำในจุดนั้นให้มันดีที่สุด...เมื่อเป็นเขียง ก็ต้องโดนสับ สับ สับ แต่เมื่อเราเป็นมีด เราก็ต้องสับ สับ สับ ถ้าไม่สับแรงๆ เดี๋ยวเขาจะว่าได้ ว่ามีดมันไม่ทำหน้าที่ให้ดีให้เหมาะ แต่เมื่อเขียงกลายเป็นมีด บางครั้งเธอก็เอาแต่สับอย่างเดียว จนลืมไปว่าครั้งหนึ่งเธอก็เคยเป็นเขียงมาก่อน เหมือนอย่างที่ตัวละครเอกเป็น
ตัวละครมีความสมจริงมาก จนมากไปด้วยซ้ำ มนุษย์ทำงานอย่างเราๆ มักหงอกับคนที่ใหญ่กว่า แต่ในขณะเดียวกัน เราก็ว๊ากกับคนที่เล็กกว่า...ต่อกันมาเป็นทอดๆ ยิ่งได้มองเห็นว่าการทำงานในวงการบันเทิง (และทุกๆ ที่) การทำงานเป็นหมู่คณะ มันไม่ง่ายเลย ปัญหามันเกิดขึ้นได้กับทุกคนจริงๆ ไม่ว่าจะเป็นดารา เป็นนักเขียน ผู้จัดการดารา,ผู้กำกับ,เจ้าของสถานี, ตัวประกอบตัวเล็กตัวน้อย
...บางครั้งคนเราต้องทำในสิ่งที่ไม่อยากทำ บางครั้งเราต้องฝืนใจทำ...เพื่อผลงานที่ได้เสียงตอบรับที่ดี
เมื่อก่อน เวลาที่ดูละครซักเรื่อง แล้วเห็นแคสติ้งไม่โดนใจ เราก็จะบ่นในใจตลอด แต่เดี๋ยวนี้รู้สึกว่าอืม...หยวนๆ กันไป เพราะละครซักหนึ่งเรื่อง ไม่อาจต้องตอบสนองความต้องการของคนดูได้ทั้งหมดหรอก ตัวดารา ค่าย ผู้จัดการดารา สปอนเซอร์ การโฆษณาแฝง (ที่อาจมี) และอะไรอีกมากมายจิปาถะ...บอกได้คำเดียว ดูซีรี่ย์เรื่องนี้จบแล้วรักหมดใจ มันได้อะไรมากกว่าแค่ความบันเทิงเยอะจริงๆ
ปล. ฉากประทับใจมีหลายฉาก แต่ฉากที่จำขึ้นใจจนเข้าเส้นเลย 55+ ก็คือฉากจูบแสนโรแมนติกของคุณผู้กำกับกับคุณนักเขียน หลังจากที่เริ่มรู้ใจตัวเองกันแล้ว
เป็นฉากในห้องสมุด ที่คุณนักเขียนกำลังอ่านหนังสืออยู่ เมื่อย เพลีย แล้วคุณผู้กำกับก็เดินเข้ามานั่งข้างๆ แล้วตบไหล่ตัวเอง เป็นคำถามว่า คุณอยากพักบ้างไหม หลับตรงนี้ก็ได้นะ ไหล่นี้ผมให้ยืม แล้วคุณนักเขียนก็ซบไหล่เขา เธอหลับตาลง ก่อนจะต้องลืมตาขึ้นมาอีกครั้ง เพราะได้ยินคุณผู้กำกับกระซิบบอกข้างหูว่า
"อย่าตกใจไปล่ะ" ...พอเธอเงยหน้าขึ้นมามองเขา เขาก็ประทับจูบลงมาบนริมฝีปากเธอ เตือนช้าไปหน่อยนะจ๊ะคุณผู้กำกับ...คุณนักเขียนต๊กใจแทบแย่...ตาโตเชียว..อิอิ
ปปล. รีวิวบล็อกนี้ ขอไว้อาลัยให้กับปาร์คยองฮา ผู้รับบท ผู้กำกับลีคยองมิน...ขอให้จากไป ไปอยู่ในที่ที่สงบสุข
Create Date : 18 สิงหาคม 2554 |
|
10 comments |
Last Update : 18 สิงหาคม 2554 6:31:29 น. |
Counter : 4361 Pageviews. |
|
|
|
ปกติดูละคร ดูเผินๆ เหมือนจะเลือกดารา แต่ว่ามันแค่ด่านดึงความสนใจเท่านั้นเอง พอรู้ว่าใครแสดง ก็จะไปดูที่พล็อตเรื่อง ถ้าไม่ใช่ดาราที่คุ้นเคยหรือชอบมากจริงๆ ถ้าไม่สนใจพล็อตเรื่อง ก็ไม่เสี่ยงดูเหมือนกัน แต่กรณีเป็นดาราที่ชอบจริงๆ พล็อตอะไรก็ดูทั้งนั้น ( อันนี้มันห้ามใจมิได้)
แต่อีกกรณีนึง คือเป็นพล็อตเรื่องที่ อ๊ะ! น่าสนใจแฮะ ดาราไม่หล่อไม่สวย ไม่เป็นไร ขอลองดูก่อน แล้วก็จะได้เจอซีรีย์ดีๆ และดาราดีๆ แบบที่ไม่ได้คาดหวังมาก่อน
คุณ Nikanda มักจะเก็บเอาประเด็นข้อคิดที่ดีๆ มาด้วยทุกครั้งที่เขียนบล็อกซีรีย์ เขียนบ่อยๆ นะคะ มาแชร์กัน และจะเป็นกำลังใจให้เสมอ