3.เริ่มต้นที่รอยยิ้ม เริ่มต้นที่หัวใจ"น่ารักดีเนอะ" เสียงที่ดังมาจากคนข้างๆ ทำให้นทีละสายตาจากหน้าต่างอาคารเรียนชั้นม.ปลาย หันกลับมามองคนพูด "ใครวะ""ก็คนที่แกกำลังหว่านเสน่ห์อยู่นั่นไง" คนตอบตอบกลับมาทันที ก่อนที่จะคว้าเอาหมากฝรั่งในมือของอีกฝ่ายไปแกะและยัดเข้าปาก "ไม่สวยเด่นเหมือนรุ่นพี่นงเพื่อนเขา แต่ก็สะดุดตาดี ยิ้มทีข้างี้ใจละลาย" พูดจบก็รีบเขยิบถอยออกมาก่อนที่จะโดนลูกถีบ ที่คนตัวสูงทำท่าจะเงื้อขึ้นมา"ล้อเล่นน่า หวงจัง..เขายังไม่เป็นแฟนแกซักหน่อย" ฝ่ายนี้ยังแซวต่อ.."แต่ถามจริง ทำไมต้องเป็นคนนี้วะ อย่างแกหล่อเลือกได้นะโว้ย" ชาคริตถาม"หล่อเลือกได้น่ะแก ไม่ใช่ฉัน" นทีตอบเพื่อนเขา ชาคริต ลูกครึ่งที่หน้าตาดีไม่เป็นสองรองใคร เป็นคนที่ทั้งรุ่นพี่รุ่นน้องกรี๊ดกร๊าดกันนักหนา "แล้วที่ถามนี่ ยัยนั่นไม่ดีตรงไหน""ไม่ใช่ว่าไม่ดี แต่นั่นนะรุ่นพี่นะแก คิดจะปีนเกรียวเหรอ ถึงจะไม่สวย ไม่รวย ไม่เด่นเท่าที่ควร แต่ก็เป็นนักเรียนทุนของโรงเรียน ท๊อปอันดันต้นๆของม.หกเลยนะโว้ย ขนาดมาโรงเรียนสายทุกวัน โดดเรียนก็บ่อย แต่เวลาสอบทีไรทำคะแนนโด่งนำไปทุกที ""แล้วไง" นทีถามแล้วยักไหล่น้อยๆ"ก็เรามันเป็นใคร สอบทีไร คะแนนโหลยโท่ย แกนะสอบได้เกือบที่สุดท้ายทุกที เรียนที่ไหนๆก็เหมือนเดิม ดีที่ไม่ตกก็บุญแล้ว เค้านั่นนะเด็กเรียน แต่เรามันเด็กเลว"นทียักไหล่อีกครั้ง แม้จะรู้ว่าที่ชาคริตพูดมาก็ไม่ผิดซักนิด ลูกที่ไม่มีใครต้องการอย่างเขา ก็คงเป็นได้แค่เด็กเลวๆ ที่ตั้งใจสร้างแต่ปัญหาให้คนอื่นไม่รู้จักจบสิ้น โดยเฉพาะอย่างยิ่งคนในครอบครัว เขาคิด.. แล้วยิ้มอย่างเย้ยหยันก็ปรากฏที่ริมฝีปากชาคริตตบไหล่เพื่อนเบาๆอย่างเข้าใจความรู้สึก "ไม่เอาน่า..อย่าไปคิดถึงมันเลย คิดถึงรอยยิ้มของรุ่นพี่นิดีกว่า" นั่นสิ..รอยยิ้มของนิติยา..ความจริงเขาเห็นเธอมานานแล้ว ตั้งแต่หลายเดือนก่อนนับตั้งแต่เขาย้ายเข้ามาที่โรงเรียนแห่งนี้พร้อมกับชาคริต ..รอยยิ้มที่สดใส รอยยิ้มที่เธอแบ่งปันความสดใสให้ใครต่อใครมากมายส่วนชาคริตเป็นลูกชายของน้องสาวของพ่อของเขากับชายหนุ่มชาวต่างชาติที่เลิกลากันไปตั้งแต่ชาคริตห้าขวบ ขณะที่ตอนนั้นนทีอายุได้เพียงหกขวบ แต่เริ่มเข้าโรงเรียนในชั้นปีเดียวกัน ดังนั้นคนที่นั่งอยู่ข้างๆนี้ จึงเป็นทั้งเพื่อนเป็นทั้งลูกพี่ลูกน้องในคนเดียวกัน ร่วมหัวจมท้ายกันมาตลอด แม้กระทั่งการย้ายมาเรียนในโรงเรียนต่างจังหวัดนี้เช่นกันด้วยชาคริต..คือผลพลอยของความรักต่างเชื้อชาติที่ถูกมองอย่างรังเกียจ..ในขณะที่เขาเองก็เกิดจากความรักต่างชนชั้นที่ไม่มีใครต้องการ แม่ของเขามักถูกกดลงต่ำกว่าความเป็นจริงเสมอเพียงเพราะความจนและการก้าวเข้ามาทีหลัง ...ตอนนั้นเขาเด็กเกินกว่าจะเข้าใจอะไร แต่ตอนนี้เขาโตพอแล้ว ..โตพอที่จะเข้าใจอะไรๆมากขึ้น เข้าใจถึงความกดดันที่ผู้เป็นแม่เคยได้รับ..เมื่อพ่อ แม่ และแม่ของชาคริตเสียไปในอุบัติเหตุระเบิดในโรงงานของพ่อเขา.. นายชาคริตที่เคยแยกไปอยู่ต่างหากกับแม่เพียงคนเดียวจึงย้ายมาอยู่กับครอบครัวใหญ่ของเขา กลายเป็นเงาตามตัวของกันและกัน..เพราะหัวอกอันเดียวกัน "แกกับฉัน มันหลานนอกคอกเหมือนกันนี่หว่า ไปไหนก็ต้องไปด้วยกันสิวะ" นั่นคือคำพูดของชาคริตที่นทีจำได้ดี และหวังว่าจะเป็นเช่นนี้ตลอดไปถึงตอนนี้..แม้จะยังใช้เงินของครอบครัวของพ่อเขาอยู่บ้าง แต่ก็ไม่มีใครมาวุ่นวายกับเด็กโข่งหัวแข็งอีกแล้ว...เขาจึงย้ายมาอยู่ที่ต่างจังหวัดกับน้าสาว น้องสาวคนเดียวของแม่ เพราะบ้านใหญ่นั้น มีภรรยาอีกคนและลูกๆของเขาครอบครองอยู่แต่อย่างว่า..ก็ลูกเมียสองนี่ จะเรียกร้องอะไรได้ แค่เขาส่งให้เรียนนี่ ก็บุญหัวแล้ว..เขาคิดเขารู้ดี..ว่าที่เขาเกิดมาได้นั้น เป็นพระคุณใหญ่หลวงของผู้เป็นแม่ .. แม้บางครั้ง..ใจมันจะแอบคิดอย่างเจ็บปวดไม่ได้ว่า เพราะแม่ทำตัวเอง ทำไมต้องยอมกินน้ำใต้ศอกของคนอื่นด้วยเล่า ..พ่อผู้ให้กำเนิดอีกคน..ก็คงมีความผิดไม่น้อยไปกว่ากัน นั่นคือความไม่รู้จักพอ แต่อย่างไรเสีย ทั้งสองคนนั้นก็ได้จากไปแล้ว..บางทีเขาอาจเด็กเกินไป..เด็กเกินกว่าที่จะเข้าใจเรื่องของหัวใจ ความรักบ้าบออะไร..เขาไม่ต้องการรู้จักหรอกยอมรับแหล่ะว่า..ความรู้สึกที่เกิดขึ้นมันคงเป็นแค่ความรู้สึกถูกตาถูกใจแบบวัยรุ่นที่อาจผ่านมาแล้วก็ผ่านไป แต่รอยยิ้มสดใสที่ได้เห็นจากใบหน้าของนิติยานั้น เขาอยากจะกอบเก็บมันไว้ในใจ ในความทรงจำที่มีแต่ความหดหู่ของตนเองไปซักระยะ เพราะความรู้สึกดีๆแบบนี้ มันไม่ได้เกิดขึ้นกับทุกๆคนนี่น่า แค่คนนี้คนเดียวเท่านั้น . .แค่เธอเท่านั้น ..นทีบอกตัวเอง ก่อนจะหันกลับไปมองที่หน้าต่างที่คนด้านบนหายไปแล้ว"วันนี้แกกลับไปก่อนนะ..ฉันมีธุระนิดหน่อย" ว่าแล้วก็ลุกเดินตัวปลิวจากไปพร้อมกระเป๋านักเรียนใบแฟบ ที่ไม่มีอะไรอยู่ในนั้นเลย นอกจากปากกาสองด้ามและสมุดอีกเล่มเดียวชาคริตไม่กล่าวถามถึงธุระ..เพราะรู้ว่านทีนั้นมักมีโลกส่วนตัวของตัวเองเสมอ และดูเหมือนว่าตอนนี้ ณ เวลานี้ โลกของผู้ชายที่ชื่อนทีจะมีแต่..รอยยิ้มของนิติยา..คนเดียวกระมังแค่เพียงเห็นรอยยิ้มของเธอ..เพื่อนของเขาก็มีความสุขแล้ว