วันนี้มีโอกาสได้มานั่งเล่น ดูบล็อกเก่าๆ ที่เคยอัพเอาไว้ อ่านนู่น อ่านนี่ไปเรื่อย เลยทำให้รู้ตัวอย่างหนึ่ง ว่าตัวเองมีข้อเสียใหญ่ๆ หนึ่งข้อ คือเวลาที่ทำอะไรบางสิ่งแล้ว จะหมกมุ่นอยู่กับสิ่งนั้นมากๆ เป็นพักๆ ไป
เคยมีบางช่วงชอบเขียนนิยาย ...ก็เขียนนิยายลงบล็อก วันต่อวันทีเดียว แต่บางช่วงบ้าวาดรูปมาก ก็วาดแล้ววาดอีก บางช่วงบ้า DIY ก็หมกมุ่นอยู่กับการเย็บของ ประดิษฐ์ของ
เป็นคนที่ไม่สามารถ ทำหลายๆ สิ่ง หลายๆ อย่าง ให้มันดำเนินไปพร้อมๆ กันได้เลย เหมือนคนสมาธิสั้น อย่างช่วงที่ผ่านมา ชอบเย็บกระเป๋ามาก...ก็บ้าเย็บ จนกระเป๋าจะเต็มบ้านอยู่แล้ว
นอกจากการหมกมุ่นกับบางสิ่งบางอย่างมากกินไปแล้ว ยังเป็นคนที่จัดสรรเวลาไม่ค่อยเป็น และชอบปล่อยให้เวลาผ่านไปโดยเปล่าประโยชน์ แล้วมักมานั่งเสียใจ เสียดายเวลาอยู่เสมอ...
ห่างหายจากการอัพบล็อกกรุ๊ปนี้ไปนานตั้งหลายเดือน เดือนนี้ขอทบทวนตัวเองหน่อยว่าทำอะไรไปบ้าง
สิ่งที่ขาดไปอย่างต่อเนื่อง เป็นเวลาหลายเดือนมาแล้ว คือการอ่านหนังสือ เว้นระยะนานมาก หยิบอะไรมาอ่าน ก็ไม่สนุกดังเดิ ...การวาดรูป แทบจะลืมไปแล้ว ว่าความรู้สึกตอนได้หยิบดินสอ พู่กัน มันรู้สึกอย่างไร
DIY ยังคงทำอยู่บ้าง เป็นครั้งคราว
และสิ่งที่ตั้งเป้าหมายเอาไว้ คือกำลังจะกลับมาเขียนนิยายลงบล็อกอีกครั้ง ส่วนนิยายเรื่องแรกในชีวิต ที่เขียนจบไปนั้น ...ก็รีไรท์จบและส่งสำนักพิมพ์ไปแล้วเมื่อวาน รอไปอีก 3 เดือน หากผลงานผ่านการพิจารณา ก็คงจะได้เห็น (ไม่) วุ่นนัก รักข้างบ้าน เป็นรูปเล่มขึ้นมาบ้าง
แต่ถ้าไม่ผ่าน ก็ไม่เป็นไร หากคริสและสายฝน จะไม่ได้ออกไปอยู่ในใจผู้อ่าน อย่างน้อย คริสและสายฝน จะอยู่ในใจฉันเสมอ ในฐานะ ลูกชายและลูกสาวคนแรก ที่คลอดออกมาและปลุกปั้น ผลักดัน จนทั้งสองได้แต่งงานกันเป็นฝั่งเป็นฝาในที่สุด
สิ่งที่ทำให้ท้อใจอยู่ในขณะนี้ คือการเรียนพิเศษภาษาอิตาลี่ ที่ได้ลงคอร์สเรียนจนจะจบเทอมแล้ว รู้สึกผิดหวังกับตัวเองมาก ที่สมองไม่ยอมรับสิ่งที่ได้เรียนเลย แม้จะอยู่อิตาลี่มาหลายปี แต่ความรู้ในเรื่องการอ่านและการเขียนยังงูๆ ปลาๆ นัก
มองตัวเองในขณะนี้ แล้วย้อนนึกไปถึงตอนยังวัยรุ่น ทำไมตอนนั้น ถึงได้สนุกสนานกับทุกสิ่งทุกอย่างรอบตัว และสามารถเรียนรู้มันได้อย่างมีชีวิตชีวา แต่ในขณะนี้ ทุกอย่างถึงดูตื้อไปหมดก็ไม่รู้
แต่ไม่เป็นไร ...พรุ่งนี้ท้องฟ้าสดใสเสมอ
ฉันเชื่ออย่างนั้น ...
ตั้งปนิธานเอาไว้ ซักวัน ฉันจะพูดภาษาอิตาลี่ให้เก่ง ให้จงได้...