...คำโปรยปกหลัง...เขาตัดสินใจช่วยเธอผู้มีดวงตาเข้ม เป็นประกายที่ยากจะลืมลีอาร์ ฮาร์ดิ้ง ...หญิงสาวผู้กร้าวแกร่งเจ้าของไร่ม้าบิน พยายามปกป้องไร่ของเธอให้พ้นมือคนโลภ เมื่อมือปืนรูปงามมาอ้างสิทธิ์ในครอบครัวของเธอ เธอจึงสาบานว่าจะทดสอบความสามารถของเขาให้ถึงที่สุด ทว่าเมื่อลีอาร์จ้องดวงตาที่กระจ่างลุกโชติช่วง เธอก็อ่อนระทวยใต้สัมผัสรุกเร้าและริมฝีปากอันร้อนรนของเขา ในที่สุดเธอก็ไม่ว่าอะไรหากเขาจะอยู่กับเธอ ในอ้อมกอดของเธอตลอดไปคาล สตีเวนส์...มือปืนหนุ่มผู้มาดมั่นตระหนักดีว่า เขาต้องทำให้นางสาวฮาร์ดิ้งเชื่อว่า เขาบริสุทธิ์ใจที่จะช่วยเธอ ปกป้องไร่ของเธอ และพยายามที่จะลืมดวงตาสีเข้มเป็นประกาย เรือนผมสีน้ำผึ้งที่ยากจะห้ามใจไม่แตะต้อง แต่ทันทีที่ได้กอดร่างระหงและลิ้มรสจุมพิตแสนหวานของเธอ คาลก็ลุ่มหลงในรสเสน่หาที่เขาไม่อยู่ในฐานะที่จะปฏิเสธได้...ความเห็นส่วนตัว...พออ่านนิยายจบ ต้องย้อนกลับไปอ่านโปรยปกหลังอีกครั้ง แล้วถามตัวเองในใจ ...ใครคิดคำโปรยเนี่ย? ถ้าถามว่าโปรยปกมันไม่ดีตรงไหน มันก็เหมือนกับพล็อตนิยายทั่วๆ ไปที่ใช้ดึงดูดใจคนอ่าน ...ไม่ใช่ว่าไม่ดีนะคะ แต่ไม่รู้สิ เมื่อเราอ่านเนื้อในของนิยายแล้ว มันมีความเข้มข้น และซับซ้อนมากกว่า คิดว่าจริงๆ น่าจะสามารถหยิบสิ่งที่สำคัญ สิ่งที่ดึงดูดใจ และมีความครอบคลุมเรื่องราวได้มากกว่านี้....ถ้ามีใครหยิบหนังสือเล่มนี้จากร้านหนังสือ อ่านปกหลังแล้ววางหนังสือลง เราก็คงจะไม่แปลกใจเลย ส่วนตัวเราคิดว่าตัวเองโชคดีนิดนึง หลายปีก่อนสมัยที่เริ่มหันกลับมาอ่านนิยายแปลอีกครั้ง ก็จิ้มๆ สุ่มเลือกมั่วๆไป ในเวปขายหนังสือมือสอง เลยได้หนังสือเล่มนี้มาอ่านด้วยความไม่ตั้งใจคร่าวๆ เรื่องนี้เป็นเรื่องราวของ ลีอาร์ ฮาร์ดิ้ง สาวแก่ทึนทึก(อายุยี่สิบเจ็ดเอง...แต่ในสมัยนั้นคงถือว่าแก่พอสมควร) ชีวิตในวัยเด็ก เก็บกดเป็นมีปม ว่าพ่อไม่รัก คอยแต่ดูถูกเหยียดหยามเพราะตนเกิดมาเป็นผู้หญิง พออายุได้สิบขวบ พ่อก็เอาเด็กคนหนึ่งมาให้เลี้ยง ลีอาร์คอยประคบประหงมจนรักยิ่งกว่าเป็นลูกของตัวเอง สมัยตอนอายุยี่สิบปี ได้หมั้นและจะแต่งงานกับทนายความหนุ่มของครอบครัว เพื่อหนีการกดขี่ของผู้เป็นพ่อ แต่ว่าเขาดันมาเสียชีวิตจากไปเสียก่อน เธอจึงถอนหมั้นและมาอยู่ดูแลไร่และน้องชายหัวแก้วหัวแหวน...สิ่งเดียวที่หลายคนสงสัย เหตุใดพ่อจึงยกสมบัติทั้งหมดให้แก่ลูกเลี้ยง โดยไม่ให้อะไรกับลูกสาวแท้ๆ เลย และคู่หมั้นหนุ่มก็ยอมถอนหมั้นอย่างง่ายดายแต่โดยดีเจ็ดปีผ่านไป หลังจากการตายของพ่อลีอาร์ วันหนึ่งอยู่ๆ ก็มีมือปืนหนุ่มหล่อวัยฉกรรจ์ ควบม้าเข้ามาในไร่ของเธอ และอ้างสิทธิ์ว่าเขาคือพ่อที่แท้จริงของแบรด น้องชายของเธอ เขาเพียงแต่อยากมาทำความรู้จักกับรู้จักกับลูกชายเท่านั้น ไม่ได้อยากเปิดเผยฐานะที่แท้จริงของตัวเอง ลีอาร์ไม่คิดจะยินยอม แต่ว่าในเวลานั้นเอง แบรด กลับทำให้เอสปี้เด็กสาวคนหนึ่งท้องขึ้นมา และพ่อของเด็กสาวคนนั้นจะเอาเรื่องให้ได้ ทำให้ลีอาร์ต้องใช้คาล สตีเวนส์ และฐานะมือปืนของเขามาคอยปกป้อง และยอมให้น้องชายของเธอ แต่งงงานกับเด็กสาวคนนั้นเพื่อลูกในท้อง ความรักของมือปืนหนุ่ม กับสาวเย็นชาผู้ปิดกั้นตัวเอง ก่อตัวขึ้นท่ามกลางเรื่องวุ่นวายของครอบครัวเล็กๆ และไร่ม้าบินของพวกเขา คาลและลีอาร์กลัวว่าพ่อของน้องสะใภ้ อาจจะฆ่าแบรดเพื่อทำให้ทุกอย่างตกเป็นของลูกสาวตนเอง ดังนั้นจึงได้มีการขอให้แบรด ทำพินัยกรรมให้พี่สาวเป็นผู้ดูแลทุกสิ่งทุกอย่างหากว่าเขาต้องมีอันเป็นไป ซึ่งสร้างความไม่พอใจให้แก่ภรรยาวัยกระเตาะและพ่อตาจอมละโมบเป็นอย่างมาก....ซึ่งการทำพินัยกรรมฉบับนั้น ได้ทำกับทนายความของตระกูล ผู้ซึ่งเคยเป็นคู่หมั้นของลีอาร์ และเขาก็คือคนที่บอกว่ารักเธอมาตลอด และยังรอคอยเธออยู่เสมอมาและเรื่องเลวร้ายมากยิ้งขึ้น เมื่ออยู่ๆ แบรดก็ถูกรอบทำร้ายและฆ่าตายอย่างกระทันหัน และเอสปี้ ภรรยาตัวน้อยๆ และลูกในท้องของเธอก็บังเอิญอยู่ด้วยกัน และรถม้าเสียหลักทำให้เอสปี้คอหักตายตามไปด้วย ...หลังจากวันนั้นเพียงวันเดียว ในค่ำคืนที่ลีอาร์เศร้าซึมสุดขีด เธอต้องการที่พักพิงทางใจ และคาลก็ก้าวเข้ามาในเวลาที่เหมาะสม เขาขอเธอแต่งงาน และทั้งคู่ก็แต่งงานกันทันที ท่ามกลางคำครหาของชาวบ้านใกล้เรือนเคียง แต่เพียงระยะเวลาสั้น หลังจากนั้น มี้ด คู่หมั้นเก่าและทนายความก็เข้ามาหาลีอาร์ พร้อมกับคำสันนิฐานที่เป็นไปได้ ว่าใครกันที่จะฆ่าแบรด ใครกันที่จะได้ผลประโยชน์จากตรงนั้น...พ่อของเอสปี้ที่ไม่รู้เรื่องพินัยกรรมฉบับใหม่เลย หรือลีอาร์ผู้เป็นพี่สาวที่มีชื่ออยู่ในพินัยกรรมต่อจากแบรด...หรือจะเป็นเขา คาล สตีเวนส์ เพราะถึงแม้ว่าเขาจะไม่มีชื่อในพินัยกรรม แต่ถ้าเขารวบรัดแต่งงานกับลีอาร์ เขาก็จะกลายเป็นเจ้าของไร่ม้าบินไปโดยปริยาย...อ่านนิยายเรื่องนี้จบ แปลกใจมากที่มันไม่ดัง เสิร์จหาในเนทก็ไม่เจอ ไม่มีใครพูดถึง ทั้งๆ ที่เป็นนิยายที่อ่านแล้ว ได้ทั้งน้ำ ได้ทั้งเนื้อ มากกว่านิยายแปลโรมานซ์ที่ดังๆ ตั้งหลายเล่ม... เสียดายค่ะถ้าคอโรมานซ์จะมองข้ามหนังสือเล่มนี้ไป เพราะโปรยปกหลังไม่ดึงดูดใจเท่าที่ควรปล. เดี๋ยวนี้นิยายชื่อซ้ำกันเยอะจังเลยค่ะ เสิร์จเข้าไปในเนทก็ชักงง เจอ"คืนฝันวันรัก"อีกสองเล่ม เป็นนิยายไทยสมัยเก่าเล่มหนึ่ง อีกหนึ่งเล่มเป็นนิยายรักของนักเขียนใหม่มั๊ง (เราไม่รู้จักนามปากกานี้อ่ะค่ะ) แถมเจอเรื่อง"แม่ค้าขนมหวาน" ชื่อเรื่องเหมือนนิยายของคุณฬีฬา แต่เนื้อเรื่องคนละแนว ไม่เหมือนกันหรอกค่ะ
แนวนี้ส่วนใหญ่เราก็เลือกอ่านจาก เรื่องย่อปกหลัง หรือดูจากคนแปล
มากกว่าจะจำชื่อคนเขียนล่ะ