Bloggang.com : jengly : . . . Vietnam วันที่สอง P e r f u m e P a g o d a เจดีย์หอม . . .

. . . Vietnam วันที่สอง P e r f u m e P a g o d a เจดีย์หอม . . .

*** คำเตือน ***ใครไม่ชอบอะไรยาวๆ ข้ามเลยนะค๊า ^^

ต่อจาก ตอนที่แล้ว

เช้าวันที่สองที่ฮานอย เราตื่นกันแต่เช้าตามเคย หลังจากที่ตั้งเจตนารมณ์อันแน่วแน่ว่าจะไปหาของเช้าหม่ำกันเอง ตั้งแต่เห็นมื้อเช้าที่โรงแรม ความตะกละถือเป็นแรงส่งให้คนเรามีความมุ่งมั่นได้เป็นอย่างดีจริงๆ เลยนะคะ ^^" เราออกจากโรงแรมกันสักประมาณเกือบ 7 โมง เพราะต้องกลับมารอขึ้นรถไปเที่ยวเจดีย์หอมกัน ตามเวลาเดิม 7.45 น. เพราะงั้นเรามีเวลาไม่นานสำหรับเช้านี้ แล้วที่สำคัญ เรายังไม่รู้เลยด้วยซ้ำว่ามีอะไรให้หม่ำกันบ้างแถวนี้ ก็ต้องรีบออกเดินจ้ำหาบรรณาการให้กับพระเดชพระคุณในพุงน้อยๆ ของเรากันแหละค่ะ แล้วเราก็สุ่มกันออกล่าหาของกินกันค่ะ แต่กว่าจะหาของกินเจอ เราก็โอ้เอ้ จอดนั่นแวะนี่มองบ้านเรือนเขาไปเรื่อยตามประสาค่ะ เรารู้สึกว่าบ้านเขามีเสน่ห์ในตัว คือ มันเป็นทั้งวัฒนธรรมของจีนและฝรั่งเศสผสมกัน หลายๆ บ้านยังมีความเป็นจีนเหลืออยู่เยอะมากๆ ดูได้จากบ้านเรือนของเขา แล้วที่เราชอบอีกอย่างคือ สีประตู สีบ้านเรือนของเขา
ประตูบ้านแบบจีน

เราเดินดูไรไปกันเรื่อย พร้อมสายตาที่สอดส่ายหาของกิน แล้วเราก็เจอค่ะ ร้านเฝอที่เราประทับใจ คือ อะไรๆ ที่เวียดนามนี่ดีนะคะ แต่เรื่องความสะอาดร้านอาหารเนี่ย ต้องทำเมินๆ มองข้ามกันไป เพราะร้านค้าส่วนใหญ่ตั้งริมถนน แล้วขอโทษเหมือนเขาไม่รู้จักถังขยะค่ะ ตามพื้นจะมีเศษกระดาษทิชชู่ที่ใช้แล้ว เศษกระดูกไก่เอย สารพัดตามร้านนั้นจะขายอยู่ตามพื้น เป็นภาพที่มองแล้วไม่เจริญตาเท่าไหร่กันหรอกค่ะ แต่พวกเราไม่ใช่คุณหนูไฮโซอะไร ไม่ได้เรื่องมากอะไร เมินๆ ไปเสียก็ไม่ใช่ปัญหาแล้วละค่ะ บางอย่างบางเรื่องเราก็ต้องปล่อยผ่านไปบ้าง ไม่งั้นจะไปไหนคงไม่มีความสุขแน่เลย จริงไหมคะ แต่ร้านนี้ที่เราประทับนอกจากความที่เขาจะอยู่ในซอกตึกยาวๆ แล้ว แต่ร้านนี้สะอาดค่ะ สะอาดมาก มีถังขยะใต้โต๊ะที่นั่งด้วย แต่เวียดนามนี่ไม่ค่อยอยากจะแนะนำผู้สูงอายุไขข้อไม่ดีไปนะคะ เพราะเก้าอี้เขาจะเป็นตัวเล็ก ๆ คล้ายๆ กับนั่งยองๆ นอกจากบรรยากาศจะดีแล้ว เฝอไก่ของที่นี่รสชาติยังอร่อยมากอีกด้วย แกะที่รักถึงกับออกปากว่าชอบร้านนี้ ด้วยสภาพร้าน และสิ่งประกอบอื่นๆ กัน บางทีนะคะ อาหารอย่างเดียวรสชาติอาจไม่เท่าไหร่ แต่ถ้าสภาพแวดล้อม สิ่งละอันพันละน้อยที่ประกอบกันขึ้นมา มันก็มีส่วนช่วยให้รสชาติของอาหารนั้นอร่อยขึ้นมาอย่างเหลือเชื่อเลยทีเดียว

ประดาเครื่องปรุงรส

บรรยากาศในร้าน

เฝอไก่ค่ะ

เรียบร้อยจากเฝอมื้อเช้าแล้ว เราก็เดินกลับไปรอรถที่โรงแรม โชคดีที่ร้านเฝอไม่ไกลมากเท่าไหร่ เราเลยเดินกันได้แบบไม่ต้องเร่งรีบ บวกกับอากาศตอนเช้าที่ดี ไม่ร้อน เราก็เลยยิ่งเพลินค่ะ ยืนมองเห็นวิถีชีวิตคนฮานอย คนที่นี่ยังใช้จักรยานกันเยอะอยู่ค่ะ แล้วก็จักรยานที่นี่นะ ทำอะไรได้ทุกอย่างจริงๆ เลยคุณเอ้ยยย ยิ่งเห็นยิ่งทึ่ง ทำไปได้ไง(วะ) เรายืนรอกันสักพัก ถึงเวลานัดแล้วนี่นา แต่รถยังไม่มา ยืนไปยืนมาชักเมื่อยเลยต้องหาที่นั่ง อีกสักพักรถถึงมา ปรากฏว่าเขามารับเราเกือบเป็นรายท้ายๆ รถวันนี้ใหญ่กว่าเมื่อวาน แล้วแอร์ก็เย็นกว่าด้วย สวรรค์โปรดจริงๆ หลังจากต้องนั่งรถร้อนๆ ทั้งวันเมื่อวานนี้ เจอแอร์เย็นๆ แบบนี้วันนี้เราก็ยิ้มสิคะ เมื่อรถมารับเราก็เริ่มออกเดินทาง แล้วรถก็ไปจอดรับผู้โดยสารอีกหนึ่งราย ซึ่งเรามองอย่างไรก็ไม่น่าใช่นักท่องเที่ยวเลยสักนิด จนไปถึงเจดีย์หอมเราถึงรู้ค่ะว่าเธอมาทำไม

วันนี้เราเดินทางออกมาอีกด้านของฮานอยค่ะ จำชื่อเมืองไม่ได้ ^^” แต่บรรยากาศมันต่างกันกับเส้นทางไปอ่าวฮาลองกันโดยสิ้นเชิงเลยทีเดียวค่ะ เพราะเส้นทางที่ไปฮาลองนั้น มันเต็มไปด้วยโรงงานอุตสาหกรรม ฟ้องให้เห็นว่าเวียดนามกำลังพัฒนาตัวเองมากแค่ไหน ตามทางเราจะเห็นหนุ่มสาวโรงงานปั่นจักรยานกลับบ้านกันหลังเลิกงาน มองเห็นโรงงานอุตสาหกรรมต่างๆ อยู่ตามรายทาง แต่สิ่งที่เราเห็นจากเมื่อวานนี้ กลับไม่มีให้เราเห็นเลยในเส้นทางสู่เจดีย์หอม จะมีก็เพียงแต่ชุมชนเมืองเล็กๆ ซึ่งไม่ได้แออัดอะไรกันเท่าฮานอย และทุ่งนา ทุ่งข้าวเหลืองอร่ามที่มีให้เห็นตลอดเส้นทาง สมกับเป็นเมืองที่ขึ้นชื่อว่าส่งข้าวออกเป็นอันดับต้นๆ ของโลกเลยเช่นกัน อย่างหนึ่งที่รู้สึกคือว่า ถึงประเทศเวียดนามเป็นประเทศที่กำลังพัฒนาในด้านอุตสาหกรรม เทคโนโลยีต่างๆ แต่ขณะเดียวกันก็ไม่ได้ลืมรากเหง้าของประเทศตัวไปเลยสักนิด

การเดินทางของเราวันนี้ ไม่มีหยุดพักค่ะ เพราะระยะทางเพียงแค่ 70 กิโลเมตร แต่ก็อยู่ดี แอบๆ เมื่อยก้นกันเล็กน้อย เพราะต้องนั่งอยู่บนรถประมาณ 1.30 ชม. โชคดีที่ระยะทางไม่ไกล ไม่งั้นคงจะทรมานกว่านี้เป็นแน่แท้ แอบๆ คิดเหมือนกันว่าถ้าบริการรับส่งสินค้าด่วนอย่าง FedEx หรือ DHL มาทำธุรกิจที่นี่ จะรุ่งหรือจะริ่ง เพราะเขาจำกัดความเร็วรถวิ่งได้แค่นี้ จะไปส่งสินค้าทันเวลาอย่างที่คุยไหมน้อ เออ แน่ะ เจ็งลี่ก็คิดอะไรเลื่อนเปื้อนไปอีกแล้ว ระหว่างทางเราเจอเรื่องระทึกกันเล็กน้อยค่ะ ขณะที่กำลังเพลินมองข้างทาง บางคนก็หลับเอาแรง หลังจากหมดเรี่ยวแรงไม่ยอมนอนเมื่อคืนนี้แล้ว รถของคณะเราแล่นผ่านหมู่บ้านที่ทำนาข้าวเป็นล่ำเป็นสัน จะไม่ให้บอกว่าเป็นล่ำเป็นสันอย่างไรเล่าคะ ก็สองข้างทางเต็มไปด้วยทุ่งนา นาข้าวเหลืองไปหมด แถมยังไม่พอ พี่เวียดพากันเอาข้าวที่เกี่ยวแล้วมากองไว้ข้างถนน รถจะวิ่งจะเหยียบผ่านอย่างไรเขาก็ไม่สนค่ะ เหมือนเขาทำเป็นเรื่องปกติจนชิน แต่มันเป็นเรื่องอปกติของเจ็งลี่ และสมาชิกบนรถแน่นอนค่ะ
ตากข้าวกันแบบนี้ค่ะ

พวกเราหลับบ้างตื่นบ้างกันเพลินๆ จู่ๆ รถที่แล่นช้าๆ ก็ต้องชะงักกลางทาง เหลียวซ้ายก็กองข้าว ขวาไปก็คน อ๊ะ กองข้าวกองฟางอีกเช่นกันค่ะ แล้วรถจอดทำไมหว่า สักพักค่ะ มีชายคนหนึ่ง ท่าทางพี่แกจะทำสติหล่นหายไปตามฟาง มาเคาะๆ รถ แล้วส่งเสียงดังน่าดู ตกใจว่าเป็นอะไรกันหนอ นิ่งแน่กันอยู่พักหนึ่งเห็นพี่แกเดินรอบรถ แล้วก็ยกมือไหว้ปะหลกๆ อ้าว มาขอเงินรึนั่น เล่นกันแบบนี้เลยรึเนี่ย - -“ สักพักก็เห็นมีคนมาผลักพี่แกติดกองฟาง รถถึงแล่นผ่านต่อไปได้ ก็ตกใจบ้างนิดหน่อย เพราะงงว่าเกิดไรขึ้นมากกว่า

ไม่นานนัก รถก็เลี้ยวเข้าที่จอดรถ ไกด์บอกให้เราเข้าห้องน้ำห้องท่า และบอกให้เราเตรียมหมวกปีกกว้างไว้ด้วย ด้วยความแสนรู้ว่างานนี้มีเผากันแน่ๆ เจ็งลี่ก็เตรียมหมวกมาไว้แล้วตั้งแต่เมื่อคืน เพราะไม่อยากจะมาซื้อหมวกงอบกันแถวนี้ ด้วยความขี้เกียจแบกว่างั้นเหอะค่ะ เมื่อทุกคนพร้อมหน้าพร้อมตากัน เราก็เดินตามไกด์ไปขึ้นเรือค่ะ บรรดาฝีพายรอเรากันอยู่แล้ว ฝีพายทั้งหมดเป็นผู้หญิงนะคะ เท่าที่ทราบมา เป็นอาชีพที่ทำกันทั้งหมู่บ้าน และจะมีแต่ผู้หญิงทำ เขาว่าเป็นอาชีพเสริมของแม่บ้านหรือสาวๆ แถวนี้ แต่ละคนไม่ใช่ว่าจะได้พายกันทุกวัน เพราะเรือที่นี่กันเป็นร้อย เราเริ่มออกเดินทางกันสักประมาณสิบโมงเศษๆ แรกๆ ลงเรือนั้นก็ตามเคยค่ะ นังเจ็งฯ หน้าซีดขาสั่น จนอีกสองสาวต้องถามว่า ก็รู้ว่าต้องล่องเรือ แล้วทำไมถึงเลือกทริปแบบนี้ล่ะ ก็มันอยากมานี่หว่า ไม่อยากไปฮาลองบก คนไปเยอะแล้ว พอนั่งเรือได้ก็ค่อยเริ่มรู้สึกดีค่ะ รู้สึกว่าสาวๆ แถวนี้แข็งแรงกันน่าดู เพราะเรือแต่ละลำนี่แบกน้ำหนักกันใช่ย่อยนะคะ เรือลำที่เรานั่ง นั่งกันสามคน รวมคนพายด้วยเป็นสี่ แต่ลำอื่นๆ ผู้โดยสาร 4 คนค่ะ แล้วเป็นฝรั่งกันเสียเกือบจะทั้งหมด
เรือที่รอเราอยู่ โค้งน้ำยังอีกไกลค่ะ

น้ำและน้ำ

เรือของเราลำนี้

อ๊ะตามเขาไปค่ะ

การเดินทางทางเรือใช้เวลาประมาณ ชม.เศษๆ ซึ่งออกจะน่าเบื่อสักหน่อยเพราะต้องนั่งอยู่เฉยๆ แต่ด้วยบรรยากาศสองข้างทาง ถึงแดดจะแรงไปสักนิด แต่เรามีหมวกกันอยู่แล้ว ก็เลยไม่ใช่ปัญหาแต่อย่างไรค่ะ น้ำก็ใสมาก ทุกอย่างประกอบกันทำให้เราเพลินจนลืมเบื่อได้พอสมควร อาจจะเมื่อยบ้างที่ถูกจำกัดให้อยู่บนพื้นที่บนเรือแคบๆ ขยับตัวกันไม่ได้สะดวกนัก แต่ก็สบายๆ ค่ะ
เล่นน้ำไปเรื่อย

ยังตามไม่ทัน

ไม่รู้ว่าอะไร

นี่ก็ไม่รู้ว่าใครเหมือนกัน แฮ่

ไม่นานนักเรือก็พาเราเทียบท่าตรงริมเชิงเขา ถึงตรงนี้เราก็ต้องลงจากเรือ แล้วก็เดินกันละค่ะ โชคดีหน่อยที่ไกด์ของเราคราวนี้ไม่ได้ทำควายหายไปเช่นไกด์ที่ฮาลองเมื่อวาน ไม่งั้นคงตายกันที่เชิงเขานั่นเป็นแน่แท้ค่ะ เราถึงที่นั่นกันในเวลาประมาณสิบเอ็ดโมงนิดๆ ไกด์พาเราเดินลัดเลาะไปตามทางลาดชันสักพัก เหนื่อยพอสมควรเลยค่ะ ยังไม่ทันขึ้นถึงยอดเขาก็แฮ่กกันเสียแล้ว แม่เจ้า แอบนึกในใจจะขึ้นไปถึงไหมน้อตรู แล้วไกด์ของเราก็แจ้งกับเราว่า มีวิธีที่จะเดินขึ้นไปถึงวัดข้างบนอยู่สองวิธีด้วยกัน คือ เดินขึ้นเขา กับเคเบิ้ลคาร์ ซึ่งแน่นอนค่ะ กลุ่มสามสาวของเราเลือกวิธีหลังอย่างแน่นอน เพราะระยะทาง 3 กิโลเมตรในการเดินขึ้นเขา จะให้เราเดิน เราเกรงว่าจะขาดใจตายอยู่ระหว่างทาง เป็นภาระลำบากให้กับคนอื่นๆ เสียเปล่าๆ เราเลยเลือกทางสะดวกค่ะ สนนราคาเคเบิ้ลคาร์คือ รอบละ 30,000 ด่อง ทีแรกเราตั้งใจว่าจะขึ้นทางเคเบิ้ล และเดินกลับลงมาแต่สุดท้ายก็ไม่ได้ทำตามใจค่ะ - -“

ระหว่างทางขึ้นค่ะ

เหมือนๆ จะเป็นวัด

ตกลงกันเรียบร้อย กลุ่มที่จะเดินขึ้นพี่ไกด์ก็บอกทางให้ว่าต้องขึ้นทางไหน ไปเจอกันที่ตรงไหน และกลุ่มที่รักความสบายเยี่ยงเรา ก็ยืนรอให้พี่ไกด์ไปซื้อตั๋วขึ้นเคเบิ้ลคาร์ให้ แล้วเราก็ออกเดินทางค่ะ กระทั่งเส้นทางไปขึ้นเคเบิ้ลคาร์พี่แกยังทำเสียไกล เดินกันแอบเหนื่อยนิดหน่อย คงเพราะอากาศมันร้อนด้วยแหละค่ะ เดินไม่เท่าไหร่ก็อาบเหงื่อกันเสียแล้ว แล้วก็ได้แต่แอบนินทาไอ้เจ้าทางที่ให้เดินขึ้นเคเบิ้ลคาร์ ใครนะช่างคิดทำให้เป็นเขาวงกตเดินให้เสียเวลาแบบนี้ ถ้าอยากให้เดินเรียงแถวหนึ่ง แค่ทำเป็นแถวยาวๆ ทีเดียวก็จบ นี่อะไร้ ทำยังกับเขาวงกตเสียเวลาเดินชะมัด แถมเปลืองพลังงานโดยใช่เหตุ พอเราขึ้นไปนั่งในเคเบิ้ลคาร์ ซึ่งเขาจำกัดให้นั่งได้ไม่เกิน 4 คน นั่งไปก็หวิวๆ น่าดูค่ะ แค่วูบแรกที่เคลื่อนตัวใจก็หายแว้บไปแหมะที่ตาตุ่มแล้วค่ะ แหมช่างเสียวได้แบบไม่ต้องพึ่งใครจริงๆ - -“ สงสัยจะเป็นอาการของพวกกลัวความสูง ^^” ไม่กี่นาทีที่ห้อยต่องแต่งอยู่บนอากาศ เราก็ถึงที่หมายสถานีเคเบิ้ลคาร์ปลายทาง แล้วเราก็ต้องปีน เอ้ย เดินขึ้นไปบนยอดเขาอีกนิดหนึ่งเพื่อจะเตรียมตัวลงไปในถ้ำ (อะไรมันจะลำบากขนาดนี้เนี่ย ขึ้นรถ ลงเรือ ปีนเขา ขึ้นเคเบิ้ลคาร์ ปีนเขา และปีนถ้ำ) เหนื่อยกันอีกแล้วค่ะ ตอนขาเดินลงไปในถ้ำเราไม่รู้สึกอะไรกันมากเท่าไหร่ ไกด์หยุดบอกเราเป็นระยะๆ ไกด์บอกกับเราว่า จากจุดที่ยืนอยู่นี้ถ้ำจะเหมือนกับปากมังกร ช่วยกันดูทีเถอะค่ะว่าเหมือนไหม ส่วนเจ็งลี่เอง มองไงก็ไม่เหมือนค่ะ ช่างเป็นพวกด้อยจินตนาการแท้ๆ เทียว ช่วงที่เรารอให้ทุกคนมาครบกัน เราก็อึ้งกันไปรอบ เพราะขณะที่เรามารอที่ปากถ้ำ พี่ฝรั่งสองคนที่เดินขึ้นมาก็มาถึง แทบจะเป็นจังหวะเดียวกัน พวกเราขึ้นเคเบิ้ลคาร์มา แต่พี่แกเดินขึ้นเขามา ช่างทำเวลาได้ดีทันใจแท้ๆ เชียว เห็นพี่แกจ้ำขึ้นมาได้เร็วขนาดนี้ ทำเอาเราละอายใจมิใช่น้อยเลยค่ะ

เดี๋ยวขึ้นไปกับคันนี้แหละค่ะ (เขาใช้สรรพนามว่าอะไรนะ เคเบิ้ลคาร์เนี่ย??)

ตามพี่ไกด์ไปนะเคอะ

ไม่เข้าใจทำไมต้องออกแบบให้เป็นเขาวงกตเนี่ย

คิดว่ามันสูงไหมเนี่ย

สูงไม่สูง อย่าเผลอมองไปเชียวถ้าใครไม่นิยมความสูง แต่อีเจ็งฯ เผลอไปแล้ว - -"

เดี๋ยวลงไปตรงประตูทางเข้านี้แหละค่ะ

เหมือนปากมังกรไหมคะ

เดี๋ยวต่อตอนสองค่ะ ยาวแล้ว ^^

Create Date : 26 พฤศจิกายน 2549

Last Update : 26 พฤศจิกายน 2549 11:05:36 น.

19 comments

Counter : 1229 Pageviews.

..

ตามไปกินเฝอด้วย

หิว หิว หิว ..

โดย: ทิ .. (Ka - Ti

) วันที่: 26 พฤศจิกายน 2549 เวลา:12:05:14 น.

โห....ยังเหลือรูปในสต็อกอยู่อีก ท่าทางน้องจุ๊บจาถ่ายมาเยอะ

อิจฉาเจรงเจร๊งงงงง อยากไปเที่ยวมั่งจัง

โดย: -=.Gay-E-Cha.=-

วันที่: 26 พฤศจิกายน 2549 เวลา:12:22:05 น.

น่ารักเนาะ เคเบิ้ลคาร์ที่ว่าน่ะค่ะ
แอบเซฟรูปใครก็ไม่รู้เก็บไว้แล่ว
อ้อ ร้านเฝอได้ใจจริงๆ สีน่ารักมั่ก

แต่สรุปแล้วต้องมีภาคสาม 5555
ยาวจริงๆ เห็นจ่าหัวว่า .....
ใครไม่ชอบอะไรยาวๆ ข้ามเลยนะค๊า
หนูเลยต้องรีบเข้า เพราะช้อบชอบอ่ะ
^^ ไปละ ..
ปล.อีกนิด ..ไหนวันนี้กินข้าวยัง?

โดย: นางฟ้าสอบตก

วันที่: 26 พฤศจิกายน 2549 เวลา:12:58:01 น.

hi..how do u do ja my angel...

miz u ja

โดย: mirage IP: 61.7.174.207 วันที่: 26 พฤศจิกายน 2549 เวลา:13:08:28 น.

มาหนนี้ เที่ยวครบรสเลยนะค่ะ ทั้งรถ ทั้งเรือ เดิน แล้วก็มีเคเบิ้ลคาอีกด้วย บางทีสูงไปหน่อยเอาแบบสบายเราดีกว่า ไม่เหนื่อยมาก เพราะเหนื่อยๆ มาก็อดสนุกอีก เพราะเผื่อหายใจไม่ทันก็เป็นเรื่องเลยค่ะ (เพราะเราเคยเป็นมาแล้ว เล่นเอาคนอื่นตกใจน่าดูเลย)

ขอบคุณสำหรับการสังเกตนะค่ะ

โดย: JewNid

วันที่: 26 พฤศจิกายน 2549 เวลา:19:43:05 น.

เห็นแล้วคิดถึงจังเลยครับ อยากกินเฝอ อร่อยเหอะๆ..

โดย: ลิเบอร์ลัท (Austin Dash

) วันที่: 26 พฤศจิกายน 2549 เวลา:21:16:41 น.

หิวข้าวววววว

โดย: mirage~miracle

วันที่: 27 พฤศจิกายน 2549 เวลา:11:18:48 น.

แวะมาเม้นท์ครับ เน็ตพังอยู่ หายไปนาน พอดีมาร้านเน็ต

โดย: Zhion IP: 61.47.22.9 วันที่: 27 พฤศจิกายน 2549 เวลา:14:03:41 น.

แวะมาเม้นท์ครับ ยังใช้เน็ตไม่ได้ T^T มาร้าน

โดย: Zhion IP: 61.47.22.9 วันที่: 27 พฤศจิกายน 2549 เวลา:14:07:49 น.

Ka-Ti
- เฝออร่อยมากจ๊ะทิ นึกแล้วอยากหม่ำ

ป้าเกย์
- ป้าขา ถ่ายมาหลายร้อยรูปค่ะ มัวขี้เกียจย่อขี้เกียจเล่าเรื่องเลยไม่จบสักที แหะๆ

นางฟ้าสอบตก
- เซฟได้ 5 บาทนะ เรื่องมันเยอะและยาวน่ะ แต่ต่อไปอาจไม่เขียนแล้วเอารูปแปะอย่างเดียวดีกว่า แบบว่าขี้เกียจ อิอิ

mirage~miracle
- สบายดี หิวแล้วด้วยแหละค่ะ

JewNid
- โอ้ย คุณนิดขา ไอ้เรื่องหายใจไม่ทันนี่เกือบจะเป็นแล้วค่ะ ตอนขึ้นจากถ้ำ มันแบบจะตายเอามากๆ เหนื่อยมาก ไม่คิดว่าทางขึ้นมันจะชันโคตรแบบนั้น - -"

Austin Dash
- เห็นภาพทีไรก็คิดถึงทุกทีไปค่ะ อยากกลับไปอีก ไปอยู่นานกว่าเดิม แต่ยังหาเวลา และหาเงินไม่ได้ แฮ่

Zhion
- หายไปนานเลยนะคะ ไม่เห็นตอบทู้ด้วย ที่แท้เนตเดี้ยงนี่เอง มาใช้ที่ร้านไหมคะ ให้ใช้ฟรี อิอิ

โดย: jengly

วันที่: 27 พฤศจิกายน 2549 เวลา:14:20:06 น.

โอ๊ย..หิวจัง...อยากกินเฝออ่ะ

โดย: หวัน (หวันยิหวา

) วันที่: 27 พฤศจิกายน 2549 เวลา:19:58:23 น.

ว๊ายยย กว่าเจ๊จะมา โดนยัยทิ ซัดเฝอหมดไปแล้วมัง
เห็น เคเบิล แล้ว เจ๊ว่า เจ๊เลือกเดินดีกว่า กลัวตกลงไปตรงปากมังกรค่ะ

โดย: นางกอแบกเป้

วันที่: 27 พฤศจิกายน 2549 เวลา:20:32:22 น.

สงสัยจะทำทางเป็นเขาวงกตไว้เผื่อเวลาคิวยาว เหมือนทางเข้าช่องจำหน่ายตั๋วที่โรงหนังช่วงวันหยุดมั้งครับ

โดย: 9A

วันที่: 27 พฤศจิกายน 2549 เวลา:23:06:03 น.

แจงงงง
พี่มาสวัสดีตอนเช้า
ทำงานรึยังจ้ะ

โดย: ตากลม (mirage~miracle

) วันที่: 28 พฤศจิกายน 2549 เวลา:9:32:01 น.

หวันยิหวา
- เฝออร่อยจริง ๆ นะคะเจ้านี้ น้ำซุปหอมหวานมากเลย

นางกอแบกเป้
- ยังค่าเจ๊ ยังมีที่ให้เบียดค่ะ อิอิ

9A
- แหม สงสัยจะเป็นเช่นนั้นแหละค่ะ ช่างคิดจริงๆ -"-

ตากลม
- ได้หม่ำตอน 4 โมงเย็นค่ะ วันนี้ยุ่งนรก ฮือๆ

โดย: jengly

วันที่: 28 พฤศจิกายน 2549 เวลา:18:55:52 น.

วนเวียนอยู่ในถนนฯ มานาน

เพิ่งรู้ว่าน้าสือคือแม่โสม ^^"

ฮาค่ะฮา อิอิ

โดย: jengly

อุ้ยต๊ายว๊ายกรี้ด คุณjengly รู้จักน้าสือด้วยหรือคะ

โอ...ยอดมากเลยค๊า

โดย: น้าสือสาว/โสมรัศมี (โสมรัศมี

) วันที่: 28 พฤศจิกายน 2549 เวลา:23:32:53 น.

คนสวยของพี่ตากลม
ยังมะอัพอีกเหรอต๊ะ

ที่พี่ตากลมมีเรื่องอัพทุกวันเพราะขี้บ่นน่ะจิ - - - หนูคงเถียงแบบนี้ใช่ป่ะ ฮี่

โดย: mirage~miracle

วันที่: 3 ธันวาคม 2549 เวลา:10:59:20 น.

"บางคนก็หลับเอาแรง หลังจากหมดเรี่ยวแรงไม่ยอมนอนเมื่อคืนนี้แล้ว ..."

พูดถึงใครอยู่เหรอคะ สงสัยจัง

โดย: แกะ IP: 124.120.17.186 วันที่: 4 ธันวาคม 2549 เวลา:1:01:06 น.

สวัสดีน๊าาา ทักทายจ้า

โดย: สมาชิกหมายเลข 6386494

วันที่: 31 พฤษภาคม 2564 เวลา:16:06:20 น.