ร อ ย ยิ้ ม ร ะ ห ว่ า ง ท า ง
เคยมาพัทยากันไหมคะ หลายคนอาจจะเห็นว่าพัทยาเป็นเมืองที่เหมาะแก่การพักผ่อนระยะเวลาสั้นๆ ไปเช้าเย็นกลับจากเมืองกรุงฯ ได้สบายๆ ฝรั่งเต็มเมือง สาวๆ แบบนั้นเต็มไปหมด แถมไปด้วยธุรกิจกลางคืนอีกสารพัด
แต่สำหรับคนที่อยู่กับพัทยาแบบฉัน กลับมองมันอีกอย่าง พัทยาเป็นสวรรค์ของชาวต่างชาติจริงๆ เลยค่ะ หลายต่อหลายอย่างที่สร้างที่มีเพื่อรองรับชาวต่างชาติ ไม่ว่าจะเป็นความบันเทิง ธุรกิจ โรงแรม เกสต์เฮาส์ อสังหาริมทรัพย์หรือจะเป็นผู้หญิง จริงๆ ถ้าอยู่ที่พัทยา นานๆ เข้าจะเห็นได้ว่า ชาวต่างชาติที่มาอยู่ที่นี่ หรือมาเที่ยวที่พัทยานานๆ จะแทบไม่มีผู้หญิงเลย เว้นแต่จะมาพร้อมกับประดาสามีหรือแฟนของเจ้าหล่อน นอกนั้นก็มีแต่ชายหนุ่มล้วนๆ แหละค่ะ สาวๆ แถวนี้ถึงขายดีกันไงคะ อย่างว่าแหละพัทยาไม่เหมาะกับผู้หญิงเท่าไหร่หรอกค่ะ
อย่างไรก็ดี ใช่ว่าจะมีแต่คนหนุ่มๆหรอกนะคะ ที่จะชอบอยู่ที่พัทยา คนแก่ๆ ที่เกษียณจากการทำงานที่บ้านเกิดเมืองนอนของตัวเองแล้วก็ชอบที่จะมาอยู่ที่พัทยาเช่นกัน คาดว่าน่าจะเป็นเพราะค่าครองชีพ ที่ทำให้ชาวต่างชาติทั้งหัวหงอกหัวแดงหัวทองนิยมย้ายนิวาสถานมาอยู่พัทยากันเป็นล่ำเป็นสัน ชนิดที่ว่าธุรกิจอสังหาริมทรัพย์แถวนี้เฟื่องฟูกันเป็นแถวนั่นแหละค่ะ ส่วนหนึ่งเพราะค่าครองชีพเป็นปัจจัยหลัก ที่ทำให้ประชากรของพัทยาเพิ่มขึ้นได้ทุกปี ค่ากินอยู่ไม่ได้แพงอะไรมากมายเมื่อเทียบกับประเทศที่ตนอยู่ (อย่าเอาไปเทียบกับมาตรฐานการครองชีพอื่นๆ ของไทยล่ะ ถ้าเทียบแบบนั้นถือว่าพัทยาค่าครองชีพสูงพอตัวทีเดียว) ส่วนหนึ่งเป็นเพราะอากาศด้วย อากาศที่เมืองไทย ถือว่าดีสำหรับชาวต่างชาติ เพราะจากที่เขาต้องทรมานกับความหนาว ก็ต้องมาผจญนรกเพราะความร้อน เอ้ยไม่ใช่ อิอิ ถึงจะร้อนที่นี่ก็ไม่ได้ร้อนมากมายอะไร เพราะมีลมทะเลคอยพัดมา ไหนจะเรื่องสาวๆ ที่จะจ้างให้มาปรนนิบัติพัดวี ก็หาง่ายพอๆ กับหาร้านสะดวกซื้อแถวนี้เสียด้วยสิ คนแก่ๆ ที่อยู่กันระยะยาวแถวนี้เลยมากกว่าหนุ่มๆ
อีกอย่างหนึ่งคงเพราะนิสัยคนไทยละมัง เพราะจะอย่างไร ความเอื้อเฟื้อก็เป็นนิสัยของคนไทยอยู่แล้ว วันนี้ฉันได้มีโอกาสเห็นสิ่งที่ไม่คิดว่าจะได้เห็น จะว่าไปคนไทยเราก็น่ารักนะ น้ำจิตน้ำใจมีให้เห็นเสมอ ถึงแถวนี้จะหายากสักหน่อยสำหรับคนไทยด้วยกันก็ตามเถอะ
บ่ายแก่ๆ วันนี้ฉันลงจากรถสองแถวหลังจากไปหาหมอมา เวลากลับจากหาหมอ ฉันต้องนั่งรถสองแถวมาลงเส้นชายหาดเพื่อเดินตัดขึ้นมาอีกหน่อยเพื่อจะมาถึงบ้าน แล้วซอยที่ฉันต้องเดินผ่านเนี่ย จะอุดมไปด้วยอพาร์ทเมนต์ และโรงแรมอยู่ทั้งสองทาง มีบาร์ไม่มาก ถือว่าเป็นซอยที่มีบรรยากาศดีทีเดียวแหละ (เว้นตอนฝนตกหนักๆไว้สักหน่อยแล้วกัน) ขณะที่ฉันกำลังเดินเรื่อยเจื้อย ตาก็มองเห็นว่า ด้านหน้าของฉันมีชายพิการคนหนึ่งกำลังเข็นรถเข็นของเขาไปตามทาง แล้วเขาก็ไปหยุดอยู่ตรงทางลาดที่เขามีไว้สำหรับให้รถขึ้นไปในอพาร์ทเมนต์แห่งหนึ่งอย่างครุ่นคิดว่าจะหาทางส่งตัวเองพร้อมรถเข็นขึ้นไปได้อย่างไรดี สำหรับคนพิการแล้ว การขึ้นที่ลาดแบบนี้ยากนะ แล้วสิ่งที่ฉันได้เห็นพร้อมกับรอยยิ้มที่ตามมาก็คือภาพของ ชายคนหนึ่งที่ขับรถมอเตอร์ไซต์มาจอดอยู่ตรงชายคนนั้น เขาเข็นรถเข็นของชายพิการคนนั้นขึ้นไปให้โดยที่เขาไม่ได้ร้องขอความช่วยเหลือเลยสักนิด แล้วพี่คนนั้นก็กลับไปขึ้นรถตัวเอง พร้อมขับจากไป ฉันเดินมาเรื่อยๆ ทันเห็นรอยยิ้มของชาวต่างชาติคนนั้น พร้อมกับเสียง ขอบคุณครับ เป็นภาษาไทยชัดเจน มันเป็นภาพที่ฉันไม่ได้เห็นทุกวัน จริงๆ มันอาจจะเป็นเรื่องเล็กน้อยมากสำหรับหลายๆ คน แต่สำหรับฉันแล้วมันคือความอิ่มใจอย่างหนึ่งในเมืองนี้ อย่างน้อยมันก็ทำให้ฉันยิ้มได้ที่รู้ว่าคำว่าน้ำใจยังไม่หายไปจากคนไทยเสียหมด....
Create Date : 27 มิถุนายน 2549 |
|
12 comments |
Last Update : 28 มิถุนายน 2549 0:00:21 น. |
Counter : 856 Pageviews. |
|
|
|
ความดีไม่มีขาย
อยากได้ต้องทำเอง
ปล.สีตัวหนังสืออ่านยากสำหรับป้านะเคอะ