. . . เรื่องของคนขี้บ่น กับผีในโรงหนัง . . .
.
บล็อกของคนขี้บ่น จะมีอะไรนอกเหนือไปจากการบ่นงึมๆ งำๆ ตามประสาล่ะ นี่ถ้าไม่มีเรื่องบ่น คงเตะเจ้าปีศาจขี้เกียจออกไปจากตัวแล้วมาอัพบล็อกไม่ได้แน่ๆ เลยค่ะ ^^" เมื่อวานมีโอกาสไปดูหนัง หลังจากไม่ได้เข้าโรงหนังมาเกือบสองเดือนได้กระมัง เจ็งลี่ชอบดูหนังคนเดียวค่ะ ถ้ามีเวลาว่างนะ จะไปนั่งดูหนัง เคยมีคนไปดูหนังเป็นเพื่อน เขาหันมามองหน้าบ่อยๆ พอออกจากโรงถึงถามว่ามองหน้าทำไมหรือ เขากลับบอกว่าคนอะไรนั่งดูหนังแล้วนั่งเงียบเชียว เหมือนสมาธิทั้งหมดไปอยู่กับหนังหมด อ้าว ก็คนมาดูหนัง ไม่ได้เข้ามานั่งคุย ถ้าอยากนั่งคุยกันก็ไม่มาดูหนังแล้วสิ จริงๆ เป็นคนขี้รำคาญมากๆ ยิ่งเวลาอยู่ในโรงหนัง เราเองไม่ชอบที่จะยุกยิก นั่งคุย เลยพาลไม่ชอบพฤติกรรมแบบนั้นในโรงไปด้วย จริงๆ ต้องบอกว่าเข้าขั้นเกลียดเลยละค่ะ
แล้วคราวซวยก็มาถึงเจ็งลี่เมื่อวานนี้เอง ฝนก็ตก อุตส่าห์กางร่มออกจากบ้านนั่งรถสองแถวไปโรงหนัง เพราะอยากดูหนังมากๆ กอปรกับเรื่องนี้ได้ยินเสียงชื่นชมปนกระแสมาหลายฝ่าย รวมถึงแม่มดฯ ด้วย ไปถึงก็ไม่ได้ผิดหวังกับตัวหนังเลยสักนิดเดียว ถึงจะขัดเคืองอะไรบางอย่างบ้างในตัวหนัง ก็ไม่ใช่ประเด็น แต่เห็นแล้วมันตลกเสียมากกว่า ตลกจนเคือง หนังเรื่องที่เลือกไปดูคือ "300" ชื่อภาษาไทยว่ากระไร จำไม่ได้ ชื่อภาษาอังกฤษก็ 300 นี่แหละ เป็นคนถนัดจำชื่อเรื่องภาษาอังกฤษมากกว่า เพราะชื่อที่แปลเป็นไทยแต่ละชื่อ เห็นแล้วมันจั๊กกะเดียม แถมยาวจนเกินจำอีกต่างหาก
300 เป็นเรื่องราวของเหล่านักรบที่กล้าหาญ 300 นายที่ยืนเคียงบ่าเคียงไหล่กษัตริย์ของตนในสมรภูมิรบเพื่ออิสรภาพ เพื่อบ้านเกิด และปกป้องแผ่นดินแม่ของตน เรื่องราวได้ใจไปเต็มๆ ค่ะ ถึงบทจะอ่อนไปบ้างก็ไม่ใช่ประเด็น เพราะสิ่งที่เจ็งลี่ชื่นชอบอยู่ที่ภาพ และเนื้อหา ใครอยากไปดูภาพสวยๆ เชิญเรื่องนี้ได้เลยค่ะไม่ผิดหวัง แต่เนื้อหานี่รุนแรงมากทีเดียวนะคะ เพราะเลือดสาดเต็มจอ แขนขากระจาย หัวหลุดกันแบบหลายฉากเลย แต่แปลกที่ไม่น่ากลัวไม่น่าเกลียด อย่างที่บอกหนังเรื่องนี้การถ่ายทำภาพสวยมากๆ มีขัดข้องใจอยู่หน่อยเดียว เรื่องการเซ็นเซอร์ เสียเงิน 100 บาท (ค่าตั๋วหนังแถวนี้ วันจันทร์ถึงพุธ 100 บาทค่ะ) เข้ามาดูหนังแล้ว ยังต้องมาผจญกับการเซ็นเซอร์ที่งี่เง่าอีก แม่เจ้าให้เต่าตายเหอะ อีตอนดาบฟาด ดาบฟันลงมา จนเห็นแขนขาด ขาขาด คอขาดกันจะๆ ไม่เซ็นเซอร์ แต่โทษที คุณเธอเซ็นเซอร์ที่นม -"- จะอะไรกันนักหนา นมแค่นั้นไปเห็นแล้วมันจะยั่วยุกามารมณ์ได้ขนาดนั้นเชียวรึ นี่เซ็นเซอร์นม เฮ้อ คุณพระคุณเจ้ากองเซ็นเซอร์เมืองไทย ทีเลือดกระจายเต็มจอทำไมไม่เซ็น หรือมันเยอะเกินไปจนเซ็นไม่ไหว เซ็นนมนี่แหละง่ายดี มีไม่กี่ฉาก งั้นรึ จริงๆ ก็ไม่ได้เดือดร้อนอะไรหรอกค่ะ กะอีแค่นม แต่ดูแล้วมันเคืองๆ เพราะดูหนังเพลินๆ สายตาต้องสะดุดกับโมเสค ตลกดีกองเซ็นเซอร์เมืองไทย
หงุดหงิดพอเป็นกระสัยกับภาพเบลอๆ มัวๆ ตรงนมที่คาดว่าจะเล็กแล้ว เริ่มหงุดหงิดกับบรรดาผีในโรงหนังละค่ะ คุณๆ น่าจะเคยเจอกันนะ พวกบรรดาผีๆ ในโรงหนัง เหมือนเป็นผีไม่ได้รับการสั่งสอน เป็นผีไร้มารยาท โฆษณาในโรงหนังก็มีบอกอยู่โครมๆ กรุณาปิดมือถือก่อนดูหนัง ปิดไม่ได้ก็เปิดสั่นซะ (จะตายมะ) เมื่อวานคงเป็นคราวซวยของเจ็งลี่โดยแท้ เพราะผจญกับผีหลายสปีชีย์มาก ทั้งผีแม่ลูกอ่อน ผีโทรศัพท์ ผียกตีง ผีคู่รัก ผีเจาะปากมาคุย โอ้ยยยยยย แทบจะบ้าตาย แรกๆ ก็พี่มืดที่นั่งถัดไป 2 ที่นั่ง พี่เล่นควักโทรศัพท์ แกก็พอจะมีมารยาทเพราะไม่เปิดเสียงโทรศัพท์ แต่แสงโทรศัพท์เฮียแยงตาเฟ้ย ควักออกมาโชว์อยู่สองสามรอบ ดีนะเนี่ยที่ไม่ควักอย่างอื่นออกมาด้วย -"- ยัง ยังไม่พอ วิบากกรรมของนังเจ็งมีรึจะหมดแค่นั้น จะดูหนังทั้งทีต้องมีมารมาคอยขวางเป็นระยะๆ จะได้สนุก นั่งดูไปมาสักพัก มีตีงค่ะตีง โผล่มาตรงเก้าอี้ตัวข้างๆ ตีงจะมาจากไหนล่ะ ด้านหลังนะสิ ไม่รู้คุณเธอคิดอะไรอยู่ เท่าที่ดูด้วยหางตา ตัวหล่อนก็ใช่จะสูงเป็นเปรตที่เก็บขาตัวเองไว้ที่นั่งตัวเองไม่ได้ ไม่น่าเชื่อว่าขาหล่อนจะยาวพอที่จะยื่นเหยียดออกมาพาดเก้าอี้ด้านหน้าได้ หันไปชำเลืองมองหล่อนไปที หล่อนเลยยกตีงหล่อนกลับ ยัง ยังไม่พอ นอกจากหล่อนจะเป็นผีตีงสูงแล้ว หล่อนยังมากันเป็นคู่ เป็นผีคู่รักค่ะ แถมเป็นผีคู่รักไม่พอ ชะรอยจะโดนเจาะปากให้มาพูดด้วย ผีคู่นี้มันคุยกันยาวค่ะ เกิดมามันไม่เคยคุยกันเลยใช่ไหมเนี่ย แกเข้ามาดูหนังไม่ใช่เหรอ ทำไมต้องมานั่งคุยกันในโรงหนัง ถึงจะคุยกันเบาๆ ก็เหอะ แต่ไอ้เสียงคุยสูงๆ ต่ำๆ สัก 10 นาทีต่อกันเนี่ย สร้างความรำคาญได้อย่างเหลือเชื่อเลยละคุณขา ต้องมีหันไปมองหน้าอยู่สองสามรอบ คาดว่าคงรู้ตัว เลยพากันย้ายไปนั่งหวีดสยองกันแถวอื่น เฮ้อ บุญของนังเจ็งฯ นับว่าเจอผีที่ยังพอมีสำนึกอยู่บ้าง นั่งดูหนังเพลินไปไม่เท่าไหร่ ก็เอาอีกล่ะ ผีแม่ลูกอ่อน โอ้ยยยย คุณเอ้ย ไม่อยากจะเชื่อ หนังที่เปี่ยมไปด้วยความรุนแรง ดูเอามันส์ เลือดเลิด แขนขาเต็มจอกันแบบนี้ มีคนพาลูกมาดูหนัง -"- เป็นอิฉันถ้ามีโอกาสมีลูกไม่พาลูกเข้ามาดูหนังแบบนี้แน่ๆ ถึงแม่มันจะฝักใฝ่ความรุนแรงแค่ไหนก็ตามเถอะ ไว้ให้ลูกโตกว่านี้ค่อยว่ากัน นี่สักพักเสียงเด็กคุยกัน เสียงเด็กร้อง เฮ้อ แทบจะหมดอารมณ์ดูหนัง กว่าจะดูหนังจบเครียดไปหลายรอบ แทบจะตีตั๋วใหม่เข้าไปดูหนังอีกรอบ สงสัยคราวหน้าต้องดูรอบแรกสุดที่ห้างเปิดเสียดีกว่าละมั้งเนี่ย
.
Create Date : 21 มีนาคม 2550 |
|
29 comments |
Last Update : 21 มีนาคม 2550 13:47:29 น. |
Counter : 577 Pageviews. |
|
|
|