 |
 |
 |
 |
 |
|
 |
 |
|
|
| | 1 | 2 | 3 | 4 | 5 | 6 |
| 7 | 8 | 9 | 10 | 11 | 12 | 13 |
| 14 | 15 | 16 | 17 | 18 | 19 | 20 |
| 21 | 22 | 23 | 24 | 25 | 26 | 27 |
| 28 | |
|
|
| |
|
 |
| 5 กุมภาพันธ์ 2553 |
|
 |
 |
|
|
 |
|
|
| |
|
 |
 |
 |
 |
|
 |
 |
 |
 |
| |
ภูตแม่น้ำโขง
ในน่านน้ำนั้นเหน็บหนาว
ความปวดร้าวไม่เหือดหาย.. ความเครียดแค้นแสนแสบใจ
จองจำฉันไว้ทำไมเดียวดายใต้น้ำวังวน
คนที่รักพรากจากไกลมันโหดร้ายเกินจะทน.. จองเวรฟ้าท้าเบื้องบนจดจำไว้ทุกๆคนที่เคยร้ายกับเรา
ก็ใจของฉันคือเธอมีเธอคนเดียวในใจรอเธอทุกลมหายใจ ชาตินี้ชาติไหนก็ยังเป็นเธอไม่มีเหตุผลไดๆเพียงชั้นนั้นต้องมีเธอ เคียงคู่กันไปเสมอจนหมดสิ้นลมหายใจ
*หมดใจของฉันคือเธอมีเธอคนเดียวในใจรอเธอทุกลมหายใจ ชาตินี้ชาติไหนก็ยังเป็นเธอไม่มีเหตุผลใดๆเพียงฉันนั้นต้องมีเธอ เคียงคู่กันไปเสมอจนตหมดสิ้นลมหายใจ
อยู่กับฉันไม่ไปไหนจองจำให้ฉันและเธอได้ครองเคียงคู่กัน
อยู่กับฉันไม่ไปไหนจองจำเรื่องไว้ด้วยกันในน่านน้ำลำโขง .....................................................................................
เรื่องย่อ ละคร ภูตแม่น้ำโขง
บทประพันธ์ สิทธา เชตวัน บทโทรทัศน์ประไพรศรี ศรีนาทม กำกับการแสดงสำรวย รัก ชาติออกอากาศ ทุกวันศุกร์ เสาร์และอาทิตย์ หลังข่าวภาคค่ำ ทางช่อง 7 เสนอเป็นตอนแรกวันเสาร์ที่ 4 ตุลาคมนี้
บัวผัน(วรัทยา นิลคูหา) หญิงสาวชาวบ้านพบไข่ประหลาดฟองโตสีขาวนวลกลิ้งอยู่บนพืนทราย ริมแม่น้ำโขง จึงเก็บไข่ฟองนั้นกลับบ้าน โดยไม่รู้ว่าอะไรดลใจให้กินไข่ประหลาดนั้น เมื่อทองมี(ปัทมาภรณ์ รัตนภักดี)เพื่อน รักแวะมาหาที่บ้านจึงชวนกินไข่ประหลาดด้วยกัน แต่ทองมีไม่กินเพราะกินข้าวมาแล้ว บัวผันจึงกินคนเดียวจนหมดฟอง และเกิดอาการท้องร้อนวูบวาบ บัวผันบอกทองมีว่าจะต้องไปดื่มน้ำในลำน้ำโขงจึงหาย ทองมีตกใจจึงตะโกนร้องให้คนช่วย ทิดเคน(กฤษฏี พวงประยงค์)หนุ่มชาวบ้านกระโดดล็อกตัวไว้แต่บัวผันก็สะบัดหลุดออกอย่างง่ายดาย ทุกคนลงความเห็นว่าผีเข้าบัวผันแน่ เฒ่าเชียงหล้า(แรม วรธรรม)จึงรีบขอขมาผู้สิงร่างบัวผัน แต่ผู้สิงร่างไม่ยอมแล้วก็ลุยน้ำออกไปกลางลำน้ำโขง ทิดเคนกระโจนลงไปช่วย ทั้ง2จมลงไปใต้น้ำด้วยกัน ทันใดนั้นก็เกิดก้อนสีดำขนาดใหญ่ลอยมาและเปลี่ยนเป็นฝูงผีเสื้อนับล้านตัว ไม่พอเท่านั้นยังมีฝูงคางคกนับล้านตัวว่ายน้ำอยู่ในลำน้ำโขงจนมืดสนิท เหมือนจะเกิดอาเพศ ทองมีกรีดร้องด้วยความดีใจที่เห็นบัวผันโผล่ขึ้นมาเหนือน้ำ และตะโกนเรียกให้กลับเข้าฝั่ง แต่บัวผันไม่กลับค่อยๆจมหายไป
อีกด้านหนึ่ง นายแพทย์อัคนี(ศุกลวัฒน์ คณารศ)ผู้เชี่ยวชาญและศึกษาวิชาจิตเวชศาสตร์ กำลังนั่งขัดสมาธิบนเรือกลางลำน้ำโขง กับสมัย อ่อนสา(ชูศรี เชิญยิ้ม)เพื่อพิสูจน์สิ่งลี้ลับ แต่อยู่ๆ สมัยก็หมดสติ ลุงจันดี(นึกคิด บุญทอง)คน พายเรือจึงตะโกนเรียกหมออัคนีแต่ก็นิ่งเฉยเหมือนไม่ได้ยิน แล้วลุงจันดีก็ร้องโวยวายออกมาด้วยความตกใจว่าเห็นผี และพยายามรีบพายเรือหนี แต่กลับเห็นเรือลำหนึ่งลอยมาใกล้ๆ ซึ่งในเรือมีหญิงสาวสวยชื่อบัวผัน ชวนให้ลุงจันดีลงเรือของเธอ เมื่อแกถูกตัวบัวผันก็รู้สึกถึงความเยียบเย็นแล้วร่างบัวผันก็กลายเป็นโครง กระดูก ซึ่งเป็นภาพนิมิตรของเจ้าแม่ทอหูก(มรกต กิตติสาระ)ลุงจันดีจึงรีบกราบขอขมาลาโทษที่ได้ล่วงเกินและขอให้เจ้าแม่ไว้ชีวิต
ส่วนบัวผันที่จมน้ำได้ 9 วันแต่ยังไม่พบศพ นางบุญเรือน(ขวัญฤดี กลมกล่อม)ผู้เป็นแม่และชาวบ้านและจึงให้คนทรงตรวจดู ซึ่งหมออัคนีก็มาร่วมพิธีด้วย คนทรงบอกว่าอีก3วันบัวผันจะกลับมา นายแพทย์อุ่นเงิน(อภิชาต วงศ์กาวี)เพื่อนรักของหมออัคนีแต่งงานกับเจ้านางโคมคำ(อุษณีย์ วัฒฐานะ)ซึ่ง เดิมเป็นคู่หมั้นของหมออัคนี มาขอพบหมออัคนีแต่หมออัคนีไม่อยากพบ เพราะไม่อยากเจอเจ้านางโคมคำ ซึ่งอุ่นเงินไม่ได้พามาด้วยแต่กลับพาเจ้าวรวงศ์(ภุชิสสะ ธนพัฒน์)พี่ชายของเจ้านางมาแทน
อุ่น เงินบอกกับหมออัคนีว่าพระธาตุขุนหลวงซึ่งเป็นพระธาตุประจำตระกูลของหมออัคนี พังแล้ว หมออัคนีจึงให้บูรณะปฏิสังขรณ์พระธาตุขึ้นใหม่ ซึ่งภายในพระธาตุมีของมีค่ามากโดยเฉพาะบุษบกทองคำประดับเพชรและผอบซ้อนกัน 5 ชั้นที่บรรจุพระบรมสารีริกธาตุ
หมออัคนีตัดสินใจเดินทางไปดู แต่ระหว่างการเดินทางถูกลอบวางยาพิษจากอุ่นเงินและเจ้าวรวงศ์ แต่ หมออัคนีไหวตัวทันอมรางจืดยาแก้พิษเอาไว้ ทั้งสองคนไม่รู้ นำร่างหมออัคนี ใส่กระสอบถ่วงน้ำ หมออัคนีใช้มีดพับตัดกระสอบและว่ายฝ่าสายน้ำที่เย็นขึ้นสู่ผิวน้ำ แต่น้ำก็พัดจมลงอีก คราวนี้หมออัคนีไปพบกับพญาจันหัวจระเข้ ที่เป็นบริวารของเจ้าแม่ทอหูก จึงถูกนำตัวไปขังไว้ในคุก พญาหนองหารหลวง(ภูธฤทธิ์ พรหมบันดาล)ล่วง รู้เข้าจึงสั่งให้ อสุรกายนฤจักษ์ กับ นางมลินมุขี เข้าไปชิงตัวหมออัคนีมา ทั้ง2แปลงร่างเป็นพายุลมดำ หอบหมออัคนีไปให้พญาหนองหารหลวง แล้วสั่งต้มหมออัคนี หมออัคนีไม่เห็นทางรอดจึงกำหนดปณิธาณขอให้ดวงจิตสะอาด บริสุทธิ์ พอจบคำอธิฐานลมหนาวแห่งความตายก็พัดมา ก็เกิดแสงสว่างสีทองพันรอบตัวแล้วดึงลอยไปในอากาศ มารู้สึกตัวอีกครั้งว่าตัวเองกำลังว่ายน้ำอยู่ในความมืด แต่ชั่วแวบเดียวก็ต้องสะดุ้งเมื่อเห็นสาวงามแต่งกายชุดสาวพื้นเมืองเดินเข้า มาหาและชวนให้ไปพักผ่อนที่บ้านหมออัคนีปฏิเสธเธอบอกว่าชื่อบัวผัน ทำให้นึกถึงหญิงสาวที่จมแม่น้ำโขงหายไปหลังจากนั้นก็มุ่งหน้าเดินเข้าไปใน เมือง
ระหว่าง ทางก็เจอกับผีโครงกระดูกและสุนัขผีดำ แต่ก็รอดมาได้ ในที่สุดก็มาถึงที่พัก นางบุญเรือนยังโศกเศร้าคิดถึงบัวผันและยิ่งเศร้าเมื่อหลวงพ่อจูม(พงษ์ประยูร ราชอาภัย)อดีต สามีไปออกธุดงค์โดยไม่บอก แต่แล้วในที่สุดบัวผันก็กลับมา แต่ก็มีนางปิศาจตามมาส่งและมาหลอกหลอนเข้าสิงชาวบ้าน หมออัคนีรู้เรื่องบัวผันกลับมา จึงไปหาเพราะมั่นใจว่าบัวผันคือคนที่ช่วยชีวิตจากการจมน้ำ แต่บัวผันจำอัคนีไม่ได้ ไ ม่ทันที่จะถามต่อลุงเสาร์ก็วิ่งมาถามหา บอกว่าบัวผันเป็นคนฆ่าลุงงึมตาย และจะนำตัวไปเผาไฟ ซึ่งหมออัคนีพยายามที่จะช่วย โดยการขอตรวจศพลุงงึมก่อน ทันใดนั้นก็มีแมวดำกระโดดข้ามศพของลุงงึม จนฟื้นขึ้นมา
กำนันเล้ง(กลศ อัทธเสรี)กับเวียนแล(ปริษา ธนาวิวัฒน์)ตั้งใจ จะมางานศพลุงงึมแต่มาเจอหมออัคนี จึงตกใจมากนึกว่าโดนผีหลอก เพราะเจ้าวรวงศ์บอกว่าหมออัคนีตายแล้ว กำนันเล้งข้องใจจึงเรียกสารวัตรกองตามาปรึกษา แล้วรีบแจ้งข่าวกับเจ้าวรวงศ์และหมออุ่นเงินทั้ง2ตกใจกลัวความผิด กำนันเล้งจึงรับปากจะไม่บอกว่าอุ่นเงินกับเจ้าวรวงศ์ระเบิดพระธาตุขุนหลวง เพราะก็กลัวความ หมอ อัคนีต้องการพิสูจน์ว่าบัวผันเป็นตัวจริงหรือเปล่า เลยตามไปในหมู่บ้านลับแลและก็ได้พูดคุยกัน มารู้สึกตัวอีกครั้งก็พบว่าตนเองอยู่ในป่าช้า จึงเดินทางกลับไปที่โรงแรมและได้รับจดหมายจากเจ้านางโคมคำฝากไว้เพื่อขอพบ หมออัคนีไปเจอเจ้านางโคมคำเพื่อที่จะสอบถามรายละเอียดต่างๆ
หลังจากนั้นหนานหล้า(ทองขาว ภัทรโชคชัย)เอาจดหมายที่มีข้อควมสั้นๆจากสัปเหร่อหนูที่มีข่าวด่วนให้มาพบที่ป่าช้า
หมอ อัคนีสงสัยว่าเจ้าแม่ทอหูกมีปัญหาอะไรกับเขา เจ้าแม่ทอหูกไปจับตัวเจ้านางโคมคำมาเป็นตัวประกัน และสั่งให้หนานหล้าไปบอกหมออัคนีให้มาพบ ไม่งั้นเจ้านางโคมคำตาย หนานหล้าพาไหมสี(สิชา ศรีทองสุข)ไป หาหมออัคนี เพื่อบอกความจริงทั้งหมด แล้วก็ขอร้องให้บัวผันช่วยพาไปหาเจ้าแม่ทอหูก ซึ่งเจ้าแม่ทอหูกสิงร่างบัวผันอยู่แล้วสบโอกาสจึงพาลงไปเมืองบาดาล แล้วมาพบกับพ่อปู่ฤษี พ่อปู่ให้หมออัคนีถอดแหวนปะการังออก
แต่หมออัคนีไม่ถอดเพราะพระภิกษุให้สวมไว้ที่นิ้วกลางข้างซ้ายตลอดชีวิต เจ้าแม่ทอหูกในร่างบัวผันก็ช่วยเสริมแกมบังคับ หมออัคนีจึงยอมถอดและโยนทิ้งลงไปในสระน้ำไฟจึงลุกขึ้น พ่อปู่โกรธมากที่มาทำลายบ่อเพลิงกรดศักดิ์สิทธิ์ พ่อปู่จึงสั่งให้เจ้าแม่ทอหูกโยนหมออัคนีลงสระไฟกรด
หมอ อัคนีรู้ทันทีว่านี่ไม่ใช่บัวผัน จึงดิ้นสุดแรงทำให้เจ้าแม่ทอหูกพลัดตกลงไปในสระไฟกรดแทน ซึ่งจริงๆแล้วคนที่ตายก็คือบัวผันนั่นเอง แต่สุดท้ายบัวผันก็ฟื้นขึ้นมาใหม่ เพราะหลวงพ่อจูมมาช่วยไว้ หลวงพ่อจูมปรากฏกายทิพย์ออกมาเพื่อช่วยทั้งหมดเอาไว้ได้สำเร็จ สุดท้ายเจ้าแม่ทอหูกก็ต้องไปเวรกรรมที่สร้างไว้กับผู้อื่น หมออัคนีพาบัวผันกลับมาที่เมืองมนุษย์ ชาวบ้านรู้ความจริงทั้งหมดก็มั่นใจแล้วว่าเหตุการณ์ร้ายๆที่ผ่านมาไม่ใช่ ฝีมือบัวผัน หมออัคนีกับบัวผันได้ครองรักกันสมกับที่รอคอยกันมานาน ขณะเดียวกันหมออุ่นเงินกับเจ้านางโคมคำก็ปรับความเข้าใจและครองรักกันเช่น กัน ส่วนเจ้าวรวงศ์ตัดสินใจออกบวชในที่สุด
| Create Date : 05 กุมภาพันธ์ 2553 |
| Last Update : 5 กุมภาพันธ์ 2553 14:39:02 น. |
|
1 comments
|
| Counter : 1265 Pageviews. |
 |
|
|
| โดย: ใบเตย IP: 58.9.51.188 วันที่: 18 เมษายน 2553 เวลา:10:50:24 น. |
|
|
|
| |
| |
|
 |
 |
 |
 |
|
|