ดีใจจริงๆ เพื่อนอยู่เนสซิ่ง​โฮมส์ ช่วยกันลุ้นจนได้กลับเมืองไทยแล้ว


ดีใจจริงๆ
เพื่อนอยู่เนสซิ่งโฮมส์
ช่วยกันลุ้นจนเพื่อนได้กลับเมืองไทย แล้ว


 


เพื่อนไม่สบาย อยู่บ้านหลายเดือน มีทั้งโรคความดัน โรคหัวใจ อยู่บ้านกับเพื่อนและพี่สาว
แต่ก็สว.กันทั้งสามคน อายุจะ 80 แล้ว เป็นช่วงปลายปีที่แล้ว 2020 ระยะโควิดระบาดด้วย
ที่จริงสุขภาพของเพื่อนก็ไม่ค่อยดีตั้งหลายเดือนแล้ว ไปหาหมอ หมอก็แนะนำให้เข้ารพ.
รับการตรวจและรักษาให้ครบ แต่เพื่อนก็ได้แต่บอกว่าไม่ไปรพ.กลัวโควิด 

เพื่อนอยู่บ้านกับพี่สาวอายุ 80 กว่า กับเพื่อนสนิทอายุก็จะ 80 ด้วยกัน เพื่อนอีกคน
และพี่สาวก็ช่วยกันดูแลเพือน ระยะที่ลำบากมาก เพราะโควิดระบาดมากที่นิวยอร์ก
ไปซื้อกับข้าวก็ลำบาก ส่วนมากคนจะสั่งให้มาส่งที่บ้าน ไปหาหมอก็ลำบาก

เพื่อนเรื่มอาการอ่อนแอมากขี้น ตั้งแต่เดือนสิงหาคม เดินไม่ค่อยไหว เนื่องจากโรคหัวใจด้วย
ลุกไปไหนก็ไม่ได้ เข้าห้องน้ำก็ไม่ไหว ต้องพยุงขับถ่ายข้างเตียง แต่ก็ลำบากเพราะเพื่อนเอง
ไม่มีแรง คนช่วยต้องใช้แรงอุ้ม คนอุ้มสองคนก็สว. เรียกว่าสาหัสอยู่ ระยะนั้นไม่ต้องคิดว่าจะ
จ้างคนมาช่วย เพราะไม่อยากให้ใครเข้าบ้านเลย  .... กลัวโควิดกันมาก

อาการเพื่อนอ่อนเพลียลงมาก เพื่อนอีกคนก็โทรมาคุยกับจขบ.บ่อยๆ
เพราะตอนนั้นไม่มีการไปเยี่ยมกัน ปรีกษาว่าจะทำไงดี แนะนำว่า
ต้องให้เพื่อนไปอยู่รพ. หมอก็เคยแนะนำแล้ว แต่คนป่วยเองก็ไม่ยอมไป
ไม่รู้จะทำไง ก็คุยกันอยู่หลายอาทิตย์ ก็เรื่องเดิมๆ ว่าต้องไปรพ.
เพราะพีสาวและเพื่อนก็ดูแลไม่ไหว 

วันหนี่งเพื่อนที่ดูแลก็โทรมาบอกว่า อยากให้ไปช่วยคุยให้เพื่อนที่ป่วยยอม
ไปรพ.เถอะ เพราะถ่ายเป็นเลือด และดูอ่อนเพลียแต่คนป่วยก็ยังกลัว
ไม่อยากไปรพ. บอกเพื่อนว่าวันรุ่งขี้นจะชวนเพื่อนอีกคน
(เราเป็นเพื่อนพยาบาลศิริราช เรียนมาด้วยกัน) จะไปเช้าเลย
เพื่อนก็บอกว่ากลัวจะไม่ทันนะซี เพราะเพื่อนอ่อนเพลียมาก


เช้าวันรุ่งขี้นเตรียมตัวไปบ้านเพื่อนจะไปเชียร์ให้ไปรพ.
เพื่อนโทรมาบอกว่าตอนนี้อยู่ที่ห้องฉุกเฉินของรพ.แล้ว
รอเตียงจะพาเพื่อนที่ป่วยไปที่ห้อง เพือนเล่าว่าอาการเพื่อนที่ป่วยไม่ดี
เลยตัดสินใจโทรศัพท์เรียกรถพยาบาล ( Amblance) พอรถพยาบาลมา
เพื่อนก็ไม่ยอมไปอีก แต่เขาไม่ยอม บอกว่าอาการของเพือนไม่ดีแล้วต้องไปรพ.
เพื่อนต้องไปรพ.ทั้งๆที่ไม่อยากไปเรื่องยาวมาก สรุป เพื่อนมีแผลที
กระเพาะอาหารด้วย ถึงถ่ายเป็นเลือด ต้องให้เลือด สี่ถุง
อาการเดีขี้น แต่ก็ยังอ่อนแอ  อยู่รพ.เป็นโรคปอดอักเสบอีก
( Pneumonia ) ต้องรักษาอีกคิดว่าไปอยู่รพ.เป็นอาทิตย์ กลายเป์น
2-3 อาทิตย์ และกลายเป็นว่าต้องย้ายไปอยู่ NursingHome
เพราะอาการอ่อนเพลีย และพยายามจะให้คนป่วยหัดเดิน
กลับบ้านจะได้ช่วยต้วเองได้

ระยะที่ป่วยนั้นเป็นช่วงโควิดระบาด เดือน พฤศจิกายน ธันวาคม
ไปเยียมก็ไม่ได้ เยี่ยมกันทางโทรศัพท์  ทางรพ.ให้เยียมได้แต่ญาติ
ต้องตรวจโควิด เอาผลไปให้เวลาไปเยียม เวลาเยี่ยมก็ไม่ได้
เจอคนป่วยจริงๆ เขาจะพามาที่ห้องกระจกและเยี่ยมกันทางห้องกระจก 
แต่ก็ลำบากมากกำลังทำเรื่องจะไปเยี่ยม เพื่อนก็ย้ายไปอยู่
เนสซิ่งโฮมส์ ที่นั้นเขาไม่ยอมให้เยี่ยมเลย คิดว่าทำไงดี
เพื่อนอยู่ Nursing Home ก็ลำบากมาก จะเข้าห้องน้ำก็ต้องรอ
คนมาช่วยนานมาก ข้อเสียของเพื่อนคือไม่ชินกับการใช้ Pampert
และไม่ยอมใช้ด้วย คนที่ทำงานก็น้อย กว่าจะพาเพื่อนไปเข้า
ห้องน้ำและกลับมาที่เตียงก็ใช้เวลาเยอะ มีเก้าอี้เข็นข้างเตียง ทุกวัน
ก็จะมีนักกายบำบัดมาพาเดินเป้าหมายให้เดินไป 90 ก้าว กลับอีก 90 ก้าว
แต่ก็ยังทำไม่ได้ อยู่ที่ Nursing Home ก็เป็นโรคแทรกบ่อย ๆ 

ทำไงจะช่วยเพื่อนดี ไหนๆก็เยี่ยมไม่ได้ เพื่อนก็ลำบากตอนเข้าห้องน้ำกลางคืน
ตัดสินใจจัางคนไปดูแลเพื่อนที่ Nursing Home บ้างก็ยังดี กฎของ
Nursing Home คนเฝ้าต้องตรวจ Covid Test อาทิตย์ละสองครั้ง
เอาผลไปให้เขาจึงยอมให้มีคนเฝ้าได้. นับว่าโชคยังดี มีคนที่ทำงานเขาแนะนำ
คุณ Debra ให้ ตกลงก็ให้คุณ Debra เฝ้า 5 โมงเย็นถึง  5 โมงเช้า
เขาคิดขมละ $ 18 เหรียญวันหนี่งก็คง $216 สิบวันก็ $2160 ราคาแพง
แต่ยังพอจ่ายได้ เพราะเพื่อนเกษียณจากพยาบาลพอมีเงินเกษียญราย
เดือนพอสมควร แต่เราเพือนๆ คิดแล้วไม่ไหว ต้องหาทางกลับมาเมืองไทย
ดีกว่า เพราะจะได้รับการดูแลที่ดีกว่า เคยถามเพื่อนว่าเป็นไงบ้าง
เพื่อนก็จะบอกว่าลำบากมากกดกริ่งเรียกก็ไม่มีคนมา กว่าจะมาก็นานจนลืม
เมื่อไปเยี่ยมไม่ได้ ก็กลายเป็นว่าเวลาเพือนกดกริ่งไม่มีคนมา เพื่อนจะโทรมาที่บ้าน
ให้เพื่อนอีกคนโทรไที่โต๊ะพยาบาล พูดกับพยาบาลห้วหน้าเวร
หรือบางที่ต้องโทรไปหา Supervisor ว่าเพื่อนที่ป่วย กดกริ่งเรียก
ไม่มีใครไป อยากเข้าห้องน้ำกว่าจะได้ บางที่คนที่โทรไปเขาบอกรอหน่อย
รอไปจนสายโทรศัพท์หลุด จริงๆคนทำงานก็น้อยเวลาเขาไปดูแลคนไข้แต่ละคน
ก็ช่วยตัวเองไม่ค่อยได้ กว่าจะเสร็จก็ใช้เวลาเยอะ กว่าจะวนมาถึง
แต่ละคน การทีเพื่อนจ้างคนมาช่วยตอนบ่ายก็ช่วยได้เยอะ ระยะนั้น
เพื่อนก็อ่อนเพลียมากด้วยแค่เปิดฝากล่องนม หรือน้ำส้มที่เขาให้มา
ก็ยังไม่มีแรง คนที่จ้างก็จะมาดูแลเรื่องอาหารเย็นและช่วยอาบน้ำเช็ดตัวให้ 
ปกติที่ Nursing Home เขาจะทำทุกอย่างเป็นระบบ
เช่นเดินวนเปลี่ยนPampert ทุกสี่ชม อาบน้ำให้คนไข้ ทุกสามวัน  

เพื่อนไปรพ.ตั้งแต่เดือนพฤศจิกายน 2020 จนถึงต้นเดือนเมษายน
เพื่อนกลับบ้านวันที่ 9 เมษายนอาการยังไม่ดี แต่ก็ต้องกลับบ้านแล้ว
เพราะประกันสุขภาพ Medicare เขามีกติกาเหมือนกัน ไม่ใช่
ว่าจะป่วยได้ตลอดไป ปีหนี่งเขาให้ใช้ได้ประมาณ 100 วัน
ถ้าใช้ครบ 100 วันแล้ว เราต้องจ่ายเองค่าใช้จ่ายแต่ละวันแล้วแต่
Nursing Home ที่ไหน ราคาวันละ 300 - 600 เหรียญ
ตกลงเพื่อนต้องจ่ายเองเกือบ20 วัน วันละ $ 480 คิดเป็น
เงินไทยแล้ว ใจหาย แต่ก็ต้องทำเพราะเพื่อนยังไม่แข็งแรง
จะรับกลับบ้าน สว.ใกล้ 80 ที่บ้านก็ดูแลไม่ไหว จนมีน้องสาวของ
เพื่อนบินมาจากต่างรัฐมาช่วยส่วนเรื่องประกันหมดอายุ
สำหรับคนทั่วไปที่ไม่คิดจะไปไหน เขาก็จะจัดการประกันให้เป็นแบบ
Medicaid คือคนไข้ต้องเซ็นต์มอบทรัพย์สินและเงินเกษียณให้ทาง
Nursing home ให้หมด และจะสามารถอยู่ได้จนตาย คนที่ไม่คิดไปไหน
เขาก็ทำกัน ส่วนเพื่อน  เราเพื่อนๆ คิดว่ากลับไปเมืองไทยดีกว่า
เพราะถึงจะยอมยกเงินสมบัติให้เขาหมด แต่ก็ไม่ได้รับการดูแลที่ดี
กลับเมืองไทยจะได้รับการดูแลดีกว่าที่นี่แน่นอน  ตกลงญาติและเพื่อน
ก็ตัดสินใจว่ากลับเมืองไทยดีกว่า  แต่ช่วงนี้เดือนพฤษภาคม เมืองไทยก็
กำลังมีโรคระบาด กลับเมืองไทยก็ไม่ใช่จะง่ายแต่ก็ยังไม่หมดหวังทีเดียว

สรุปเพื่อนอยู่ Nursing home และ รพ. เวลาป่วยมาก
เป็นเวลาห้าเดือนกว่า ไม่ได้เจอญาติป่วยเป็นปอดบวมห้าครั้ง
ตกเดียงแบบไม่กระดูกหัก เพราะเรียกคนไม่มา ก็พยายามจะไปเอง
5 ครั้ง ป่วยเยอะต้องไปรักษาทีรพ.​3 ครั้ง กว่าจะได้กลับบ้าน
ต้นเดือนเมษายน และเตรียมกลับ
เมืองไทย ต้องเดินเรื่องลำบากพอสมควร....




Sprianbrook Miner Nursing Home




Laerence Hospital , New York


********


ก่อนเพื่อนจะเข้าโรงพยาบาล เราและเพื่อนๆอีกสองสามคนก็แนะนำเพื่อนว่า
กลับเมืองไทยดีกว่า แต่เพื่อนก็ยังไม่ตัดสินใจที่จะกลับเมืองไทย สาเหตุก็คง
เรื่องโรคโควิดระบาด และไม่อยากเดินทางขี้นเครื่องบินด้วย รอ รอ รอ
จนกลายเป็นเรื่องใหญ่ เพื่อนต้องเข้ารพ.​ต้องอยู่ Nursing Home ห้าเดือน
กว่า จนประกันสุขภาพไม่จ่ายแล้ว ถ้าอยู่ต่อต้องจ่ายเองทั้งหมด ทั้งค่าใช้จ่าย
์Nursing home วันละเกือบห้าร้อยเหรียญ​ ประมาณ 15,000 บาท เป็นเดือน
เป็นเงิน 450,000 บาท แถมต้องจ้างคนดูพิเศษอีกวันละ 200 เหรียญ
เดือนหนี่ง ก็ 6,000 เหรียญ เป็นเงินไทย 180,000 ค่าหมอ เดือนหนี่งๆ
คร่าวๆ เกือบล้านบาทต่อเดิือน ถ้าจ่ายเอง หรือให้เขายึดเงินต่างๆทั้งหมด
ก็อยู่ได้ตลอดจนตาย เราก็คิดกันว่ายอมให้เขาเอาเงินไป แล้วอยู่จนตาย
แต่ก็อยู่แบบทนรอวันตาย เพราะเขาไม่ดูแลเท่าที่ควร งานก็ล้นมือ ทำไม่ทัน
และคนก็เหมือนมนุษย์ทั้่วไป มีทั้งคนมีเมตตา และคนที่ไม่มีน้ำใจ และส่วนมาก
จะเป็นคนประเภทหลัง เคยโทรหาเพื่อนตอนอยู่ Nursing Home ถามเพื่อน
ว่าอยู่ Nursing Home เป็นไง เพื่อนบอก เคยเห็นนรกไหม เหมือนอยู่นรก
ฟังแล้วหดหู และส่งสารเพื่อนมาก เพราะนอกจากไม่ค่อยรับการดูแลและ
ญาติก็ไปเยี่ยมก็ไม่ได้อีกด้วย


สรุปเพื่อนตกลงกลับเมืองไทย แต่สุขภาพก็ไม่ค่อยแข็งแรง ตอนนี้ก็เลยกลัวว่า
หมอจะเซนต์ใบรับรองแพทย์ ให้กลับเมืองไทยหรือเปล่า เพื่อนอีกคนลอง
โทรหาหมอจะขอใบรับรองแพทย์ให้เดินทางกลับเมืองไทย
ก่อนจะพาไปหาหมอ หมอบอกว่า ท่าทางจะไม่ปลอดภัยที่จะ
เดินทางไปเมืองไทยแต่ก็ไม่ง่ายเพราะสุขภาพของเพื่อน
ก็ไม่ค่อยแข็งแรงเหมือนก่อน

จขบ.(เจ้าของบล็อก) บอกเพื่อนสงสัยต้องยอมเสียเงินแล้ว เพื่อนก็อยู่ 
Nursing Home จะกลับเมืองไทยคงจะยากมาก ติดต่อให้กลับแบบ
เป็นคนป่วย (เหมือนเชพแต่ง) โทรไปถาม Air Ambulance
ว่าจะให้รับเพื่อนกลับเมืองไทยราคาเท่าไร ทางบริษัทบอก
ประมาณ $200,000( หกล้านบาท ...) คิดว่าจะคุ้มไหม
หรือทนอยู่ที่นี่ให้เขาเอาเงินสมบัติไปให้หมด เราคิดกันเองว่า
ถ้าอายุยาวก็คุ้ม ถ้ากลับเมืองไทยไม่นานก็ไม่คุ้ม ....
บอกเขาว่าเพื่อนไม่ได้อาการหนักขนาดต้องเอา Air Ambulance 
มีวิธีอื่นใหม? เขาแนะนำบริษัทที่รัฐ​Pensylvania
เรียก Angel AirTransport เขาบอกจะมีพยาบาลให้ไปด้วย
คนไข้นอน stretcher
ราคาประมาณ​ $120,000 - $130,000 
เห็นราคาก็ตกใจพอควร แสนกว่าบาท ต้องมานั่งคิดว่า
จะอยู่ต่อหรือกลับเมืองไทยดี แต่ก็ยังคิดว่าอยากกลับเมืองไทย


ต้นเดือนเมษายน เพื่อนได้กลับบ้านเพราะมีน้องสาวมาช่วยดูแลที่บ้าน
ก่อนรับคนไข้กลับบ้านทาง Nursing Home ให้เซ็นต์รับรองว่า
คนไข้มาบ้านต้องมีคนดูแล 24 ชั่วโมงและมีคนดูแลให้ยาด้วย
(ถามว่าทำไมต้องเซ็นต์ด้วย เพราะเขาต้องการให้คนไข้กลับบ้านปลอดภัย
ถ้าทำไม่ได้ก็ต้องอยู่ต่อและจ่ายเงินหรือให้เขาจัดการทำเป็นเรื่อง
ประกัน Medicaid คือต้องเซ็นต์มอบพวกเงินเกษียณและเงินเก็บ
รวมถึงทรัพย์สินต่างให้เขา รวมทั้งบ้านด้วยตอนขาย การคิดของเขาก็คิด
เป็นรายเดือนจนเราตาย เอาของที่มีหักค่าใช้จ่ายไปเรื่อยๆ
และติดลบก็รวบรวมจนเราตายแล้วไปเอาจากเงินที่ขายบ้านด้วย
ซื่งคนส่วนมากไม่ค่อยอยากให้ไปถึงขั้นตอนนี้ ฝรั่งส่วนมากเลือกมาเกษียณกัน
ที่เมืองไทย รายได้เงินเกษียณของเขา สามารถมาอยู่เมืองไทยได้สบายๆ

***********

ที่จริงเราต้องการให้เพื่อนเดินทางกลับเอง ถ้าหมอออกใบรับรองแพทย์ให้
ได้ติดต่อกับสายการบิน สายการบินบอกว่าต้องให้มีพยาบาลไปด้วย และต้อง
ซื้อตั๋วเครื่องบินชั้นพิเศษ และต้องติดต่อทางเมืองไทยเรื่องการกักกันต้วอีกด้วย
ตกลงก็พาเพื่อนเพื่อนกลับบ้านต้นเดือนเมษายน ก็ได้ไปพบหมอ และ
บอกคุณหมอว่าตอนนี้เตรียมจะให้เพื่อนกลับเมืองไทย และจะมีพยาบาลไปด้วย
ไปกับน้องสาวของเพื่อนเป็นสามคน ตกลงคุณหมอก็ออกใบรับรองให้
เพื่อนเดินทางได้ถ้ามีพยาบาลไปด้วย

 

การเดินทางของเพื่อนกลับบ้านเมืองไทยครั้งนี้ ต้องขอบคุณเพื่อน
คุณมานิดา วัฒนพนม อย่างมากที่ติดต่อทุกๆเรื่องเกี่ยวกับการเดินทาง
ของเพื่อนที่จะได้กลับมาเมืองไทย และช่วยติดต่อ
น้องนิรมล ศิริวงษ์​( Niramon Siriwong- Zucker )
พยาบาลรุ่นน้องเดินทางไปกับเพื่อนด้วย


เพื่อน คุณมานิดา วัฒนพนม ช่วยติดต่อหาข้อมูลสำหรับที่กักกันตัวให้เพื่อน
และให้ทางรพ.ไปรับเพื่อนที่รพ.ด้วย ติดต่อก่อนที่โควิดระบาดช่วงนี้
การกักกันอาจจะเพิ่มวันอีกก็ได้ ค่าใช้จ่ายก็คงเปลี่ยนไป แต่ก็คงไม่ถึง
$12,000-  $20,000 แน่นอน ดีใจกับเพื่อนด้วยจริงๆ ตอนแรกคิดว่า
การกลับเมืองไทยของเพื่อนคงเป็นได้แค่ความฝัน แต่เพื่อนได้เดินทาง
กลับเมืองไทยจริงๆแล้ว เพื่อนๆที่นิวยอร์กดีใจกันมาก เพื่อนจะ
ได้กลับมาเมืองไทยได้รับการดูแลดีกว่า Nursing Home  ที่นี่แน่นอน


เพื่อนกลับบ้านจาก Nursing Homeได้ไม่กี่วันก็
ได้ฉีดโควิดวัคซีนและ​ฉีดครั้งที่สองวันที่ 9 พฤษภาคมนี้ เตรียมเดินทาง
คืนวันที่ 14หลังเที่ยงคืน คือเช้ามืดของวันที่ 15 พฤษภาคม ...
เพื่อนเดินทางพร้อมน้องสาวและพยาบาล
สายการบิน EVA AIR


ออกจากสนามบิน JFK แล้ว




ถึงสนามบินไทเป






รอต่อเครื่องบินเข้ากรุงเทพแล้ว
หน้าตาสดใสกันทุกคนเลย














ถึงห้องที่รพ. ปิยะเวท แล้ว






เพื่อนกลับถึงเมืองไทยเรียบร้อยได้รับการต้อนรับและดูแลอย่างดี
ที่รพ.ปิยะเวท

ขอบคุณคุณมานิดา วัฒนพนม
และพยาบาลคุณนิรมล ศิริวงค์​( Zucker)
และทุกๆท่านที่ช่วยกันสนับสนุนจนเพื่อน
ได้กลับมาอยู่เมืองไทยอย่างมีความสุขค่ะ
น้องสาวของเพื่อนชื่นชมน้องพยาบาลมากบอกว่า
"She is God sent, down to earth
She is an angle walk among us"

******

การรับผู้ป่วยเข้าAHQ
- ส่งpassport และใบรับรองแพทย์ผู้ป่วยและผู้ติดตาม ให้แพทย์พิจารณาการรักษาก่อน 
- ส่งเอกสารทำนัด confirmation letter ให้กระทรวง สาธารณสุขประทับตรา
- นำเอกสาร confirmation letter ไปทำเรื่องขอ COE ที่สถานทูตไทย 
- ส่งตั๋วเครื่องบินมาที่ รพ ทางโรงพยาบาลจะแจ้งที่ที่กระทรวงสาธารณสุข
เพื่อรับคนไข้ที่สนามบิน โดยมีรถโรงพยาบาลรออยู่ด้านนอก 
- มาพักในห้องที่โรงพยาบาล 10 วัน 
(ระยะนี้โรคระบาดเพิ่ม การพักตัวคงต้องเพิ่มวัน)


******


ขอเรียนแจ้ง เรื่องการเดินทางมากักตัว ที่ รพ.ปิยะเวท 
ทางโรงพยาบาลได้เตรียมการรับจากสนามบิน กับ
กรมสนับสนุนบริการสุขภาพแล้ว 
เมื่อมาถึง ทาง เจ้าหน้าที่ สธ จะรับจากด้านใน
มาส่งที่รถโรงพยาบาล ค่ะ 
 ห้องพัก เตรียมไว้ 2 ห้อง ค่ะ เป็น
ห้อง connecting room 







*********









👆package AHQ โรงพยาบาลปิยะเวท ค่ะ 
คนไข้ 37,000 บาท 
ผู้ติดตาม 23,500 บาท ค่ะ


การรับผู้ป่วยเข้าAHQ
- ส่งpassport และใบรับรองแพทย์ผู้ป่วยและผู้ติดตาม ให้แพทย์พิจารณาการรักษาก่อน 
- ส่งเอกสารทำนัด confirmation letter ให้กระทรวง สาธารณสุขประทับตรา
- นำเอกสาร confirmation letter ไปทำเรื่องขอ COE ที่สถานทูตไทย 
- ส่งตั๋วเครื่องบินมาที่ รพ ทางโรงพยาบาลจะแจ้งที่ที่กระทรวงสาธารณสุข
เพื่อรับคนไข้ที่สนามบิน โดยมีรถโรงพยาบาลรออยู่ด้านนอก 
- มาพักในห้องที่โรงพยาบาล 10 วัน


*****

 
เพื่อนจากนิวยอร์ก เดินทางกลับมาประเทศไทยพร้อมพยาบาลและน้องสาว
กักกันตัวที่รพ.ปิยเวท  21 วัน

วันที่ 4 มิถุนายน 2021 เพื่อนออกจากรพ.ปิยะเวท
(กักกันตัวตั้งแต่มาจากนิวยอร์ควันที่ 15 พฤษภาคม 2021)
เพื่อนมีปัญหาเรื่องสุขภาพด้วย ได้รับการดูแลรักษาที่รพ.
ปิยะเวท อย่างดีและพร้อมที่จะไปอยู่เนิสซิ่งโฮมได้
เพื่อนต้องมีพยาบาลดูแลตลอดเวลา 24 ชม.ระยะนี้
การไปอยู่เนิสซิ่งโฮม จะสะดวกและปลอดภัยที่สุด
และเป็นระยะที่โรคโควิดยังระบาดด้วย การที่จะกลับบ้าน
และหาคนไปดูที่บ้าน จะมีปัญหาที่จะหาคนมาดูแล และ
ถ้าไม่สบายอาจจะหาทางไปรพ.ลำบากพอสมควร แพทย์
และครอบครัวประชุมกันและมีความเห็นว่าช่วงนี้เพื่อน
ควรไปอยู่เนิสซิ่งโฮมก่อน
หลานชายของเพื่อน หาขัอมูลเนิสซิ่งโฮมและ
พาเพื่อนไปอยู่ที่ My Home Nursing Care

เพื่อนได้รับการดูแลจากแพทย์พยาบาลและบุคคลากร
ที่รพ.ปิยะเวทเป็นอย่างดี น้องสาวของเพื่อน
เขียนถึงทุกๆท่านที่รพ.ปิยะเวท

 


จากคุณ Suezie (น้องสาวเพื่อนค่ะ)
ชื่นชมและขอบคุณ แพทย์พยาบาลและบุคคลากร รพ.ปิยะเวท
(คุณSuzie Gore / คุณสุดาวรรณ วงษ์ใหญ่)

So nice to meet you, yr hospitality in Piyavate.
We enjoy our stay daily here .
I will miss the amenities you have here remind me
like home sweet home in Aloha land. Would like to
let you know since we have been here until
we leave at noon I haven’t found any person,
employee that I don’t like especially
Ward  9 and  11 as well as The politeness and
professional caring of yr ambulance driver and
assistant most of all your Conceige who show me
around your heavenly ground.

I am very impressed Priyavate willbe highly recommend
thru our co- worker at United Airline, As well as
Lufthansa we have many Alliance Airlines . 

So nice to meet you, yr hospitality in Piyavate.
We enjoy our stay daily here . I will miss the
amenities you have here remind me like
home sweet home in Aloha land. Would like
to let you know since we have been here until
we leave at noon I haven’t found any person,
employee that I don’t like especially
Ward  9 and  11 as well as The politeness
and professional caring of yr ambulance
driver and assistant most of all your
Conceige who show me around your heavenly ground.

I am very impressed Priyavate will be highly
recommend thru our co- worker at United Airline,
As well as Lufthansa we have many Alliance Airlines . 


******

คุณมานิดา วัฒนพนม
เพื่อนทีมีน้ำใจงามมาก
ทำงานพยาบาลอยู่นิวยอร์ก
ช่วยเพื่อนๆทุกคนที่ต้องการความช่วยเหลือด้วยความเต็มใจ
ขณะนี้เกษียณมาอยู่เมืองไทย ก็ยังช่วยเพื่อนเสมอ

คุณมานิดา วัฒนพนม
รับเครื่องราชอิสรยาภรณ์ชั้นจตุดอดิเรกคุณาภรณ์
ปี 2021/2564
















 

ท่านที่จะเดินทางไปต่างประเทศ
นอกจากหนังสือเดินทาง หรือ Passport / VISA ตามปกติแล้ว
จะต้องมีเอกสาร International Vaccination Certificate
เพื่อแสดงต่อด่านตรวจโรคท่าอากาศยานปลายทาง
โดยจะต้องดำเนินการตามรายละเอียดนี้ครับ

เมื่อเรียบร้อยแล้ว
เอกสารการเดินทางจะเป็น ๒ เล่มนี้ครับ






















ขอขอบคุณภาพและข้อมูลจากอินเตอร์เนต


 
Health Blog / Education
  
newyorknurse



Create Date : 17 พฤษภาคม 2564
Last Update : 20 มิถุนายน 2565 20:45:03 น. 9 comments
Counter : 2769 Pageviews.

ผู้โหวตบล็อกนี้...
คุณอุ้มสี, คุณหอมกร, คุณทนายอ้วน, คุณโอพีย์, คุณzungzaa, คุณฟ้าใสวันใหม่, คุณคนผ่านทางมาเจอ, คุณInsignia_Museum, คุณร่มไม้เย็น, คุณtoor36, คุณสองแผ่นดิน, คุณกะว่าก๋า, คุณnonnoiGiwGiw, คุณปรศุราม, คุณสายหมอกและก้อนเมฆ, คุณนายแว่นขยันเที่ยว


 

จากคุณ Avaorn

อ่านเรียบร้อยแล้ว ดีมาก ให้ข้อคิด และความรู้
จะเป็นประโยชน์กับหลายๆคนในการเตรียมพร้อมว่าจะเตรียมตัว อย่างไร
เป็นบุญของ แอ๋วที่ทุกอย่างลงตัว สุขภาพพร้อม
เดินทาง มีน้องสาวมาช่วยทำให้มีกำลังใจ
ได้น้องมลทีพร้อมที่จะช่วย
สาธุๆ
ขอบคุณน้อย Job well done
Mission Impossible became
Mission Possible
ภูมิใจ


โดย: newyorknurse วันที่: 18 พฤษภาคม 2564 เวลา:7:03:18 น.  

 
ข้อมูลแน่นมากค่ะพี่น้อย


โดย: อุ้มสี วันที่: 18 พฤษภาคม 2564 เวลา:7:27:39 น.  

 
แวะมาอัพเดทข้อมูลสุขภาพค่ะพี่น้อย



โดย: หอมกร วันที่: 18 พฤษภาคม 2564 เวลา:7:38:21 น.  

 
ยินดีกับเพื่อนพี่น้อยด้วยนะครับ ที่ไหนๆก็ไม่สุขใจเหมือนบ้านเรานะครับ


โดย: ทนายอ้วน วันที่: 18 พฤษภาคม 2564 เวลา:7:54:57 น.  

 
เซียนกระบี่ลุ่มแม่น้ำวัง 
สวัสดีครับ

บัตรบันทึกข้อมูลการฉีดวัคซีน เกือบขยำทิ้งไปแล้วสิครับ คิดว่าแค่กระดาษเปล่า ๆซะอีก


โดย: เซียน_กีตาร์ วันที่: 18 พฤษภาคม 2564 เวลา:8:24:08 น.  

 
สวัสดีค่ะคุณพี่น้อย..

ยินดีกับเพื่อนพี่ที่ได้กลับสู่เมืองไทย

และได้รับการดูแลอย่างดี..



โดย: อ้อมแอ้ม (คนผ่านทางมาเจอ ) วันที่: 18 พฤษภาคม 2564 เวลา:9:44:42 น.  

 
ขอบคุณสำหรับกำลังใจในบล็อก - เขาแผงม้า ออร์คิด ด้วยครับ


โดย: ทนายอ้วน วันที่: 18 พฤษภาคม 2564 เวลา:20:21:04 น.  

 
ยังไงก็คิดถึงเมืองไทยล่ะครับ ไม่ว่าใครก็ตามที่ไม่ได้อยู่ไทย


โดย: คุณต่อ (toor36 ) วันที่: 18 พฤษภาคม 2564 เวลา:21:54:19 น.  

 
อรุณสวัสดิ์ครับพี่น้อย

ค่ารักษา
ยังไงบ้านเราก็ถูกกว่ามากเลยนะครับ
และผมคิดว่าการดูแลของหมอและพยาบาลในบ้านเรา
ก็ไม่แพ้ใครอยู่แล้ว
ค่าดูแลของเอกชนที่อเมริการาคาสูงมากๆเลยนะครับพี่
คิดเป็นชั่วโมงเลย



โดย: กะว่าก๋า วันที่: 19 พฤษภาคม 2564 เวลา:6:39:51 น.  

ชื่อ : * blog นี้ comment ได้เฉพาะสมาชิก
Comment :
  *ส่วน comment ไม่สามารถใช้ javascript และ style sheet
 

newyorknurse
Location :
ราชบุรี .. New York ... United States

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 164 คน [?]






เริ่มเขียนBlog
เมื่อวันที่ 21 พฤศจิกายน 2553

ยินดีต้อนรับค่ะ

จขบ.บันทึกประสบการณ์ต่างๆ
ระยะเวลาทำงานและระยะเกษียณ
เพื่อเก็บไว้เป็นความทรงจำ

จขบ.พยายามใช้ชีวิตเกษียณให้มีคุณค่า
รักษาสุขภาพใจและกาย ท่องเที่ยวกับเพื่อนๆ
ทำสวนดอกไม้ ออกกำลังกาย
สมัครเป็นสมาชิก 24 Hrs Fitness
เพื่อให้ชีวิตที่เหลืออยู่มีคุณภาพ
จะได้ไม่เป็นภาระกับคนที่รักและห่วงใย

จขบ.เพิ่มบล็อกสุขภาพ
เพื่อจะได้นำสาระที่มีประโยชน์
เกี่ยวกับสุขภาพทั่วๆไป

จขบ.หวังว่าข้อมูลต่างๆช่วยให้
ทุกท่านที่มาอ่าน รักษาสุขภาพ
ไปตรวจเพื่อเป็นการป้องกัน
และได้รับการรักษาเนิ่นๆ เพื่อ
ชีวิตที่แข็งแรงและมีคุณภาพ

"A time to enjoy,
a time to spend time with your family
and a time to be with your friends
all comes with retirement"


*****


"Live The Moment"

อยู่กับปัจจุบันขณะ หยุดเสียใจกับสิ่งที่เกิดขี้น
ในอดีตและกลัวหรือกังวล
สิ่งทีเกิดขี้นในอนาคต "วันนี้" และ "ขณะนี้"
คือช่วงเวลาที่ดีที่สุดของคุณ !!
ใช้มันให้ดีที่สุดให้เป็นช่วงเวลาทีมีคุณค่า
น่าจดจำเพราะว่าเวลาเป็นสิ่งที่ผ่านมา
และผ่านเลยไป เอาคืนไม่ได้และ
หาเพิ่มก็ไม่ได้เช่นกัน

ขอบคุณทุกท่านที่แวะมาค่ะ


*********


ขอบคุณ Bloggang ทำให้เราได้เขียนบล็อกต่างๆ
ขอบคุณสำหรับคะแนนโหวด
ทุกๆคะแนน นะคะ

BG Popular Award # 19


BG Popular Award # 18


BG Popular Award # 17


BG Popular Award # 16


BG Popular Award # 15


BG Popular Award # 14


BG Popular Award # 13


BG Popular Award # 12


BG Popular Award # 11


BG Popular Award # 10


BG Popular Award # 9


BG Popular Award # 8

**********



ขอบคุณทุกหัวใจวาเลนไทน์ 2561
ที่เพื่อนๆมอบให้ค่ะ


ขอบคุณทุกหัวใจวาเลนไทน์ 2560
ที่เพื่อนๆมอบให้ค่ะ
Flag Counter
New Comments
Group Blog
 
<<
พฤษภาคม 2564
 1
2345678
9101112131415
16171819202122
23242526272829
3031 
 
17 พฤษภาคม 2564
 
All Blogs
 
Friends' blogs
[Add newyorknurse's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.