เพจลานพิกุล ครบรอบ 3 ปี - ศิราชพยาบาล
ขอแสดงความยินดีกับ เพจลานพิกุลครอบ 3 ปี ด้วยค่ะ
ก่อนอื่นต้องขอขอบคุณน้องปุ๋ก แอดมิน ที่ให้เกียรติพี่เขียนเกี่ยวกับเพจลานพิกุล ครบรอบ 3 ปี ขอบคุณน้องๆที่เป็นผู้ริเริ่มเพจลานพิกุล ทำให้เราได้อ่าน เรื่องต่างๆ ของพี่ๆน้องๆของลานพิกุลกัน
ชื่อแน่งน้อย ศรีวัฒนา ศิริราชรุ่น 62 เลขรหัส 0809026 (รุ่นเก่าคือรุ่น 7 พศ 2511)
พี่จบพยาบาล เดือนพฤศจิกายน บรรจุทำงานวันที่ 2 ธันวาคม 2511 เรียนพยาบาล 3 ปีและผดุงครรภ์อีก 6 เดือน จบพยาบาลได้ทำงานที่แผนกศัลย์ ศช.3 เป็นแผนกศัลย์ชาย คนไข้หลังผ่าตัด ช่วงทำงานมีเวร เช้า บ่าย ดึก สลับกัน เราทำงานกันแทบทุกวัน หยุดอาทิตย์ละ สองวัน ไม่มีวันป่วย บางที่ป่วยก็ต้องโทรให้คนอื่นขี้นแทน แลกเวรให้คนในตึก มาทำแทนแล้วไปทำใช้ ช่วงที่จบนั้น เราไม่เคยรู้ว่ามีสวัสดิการ มีอะไรบ้าง ที่จริงเราสามารถหยุดเวลาป่วย ไม่ต้องมีคนทำแทนหรอก ราชการมีวันหยุดกันปีละกี่วัน ก็ไม่เคยรู้
เมื่อมาทำงานที่นิวยอร์ก เวลาสมัครงานเขาจะ ว่าทำงานจะได้เงินเดือนเท่าไร มีสวัสดิการอะไร เช่นป่วยได้ปีละ 12 วัน หยุดวันสำคัญต่างๆรวมปีละ 12วัน พักร้อนปีละสองอาทิตย์ สามารถ ลาไปเรียนได้ เวลาเรียนทางสาขาพยาบาลเบิกค่าเล่าเรียนได้ด้วย
ช่วงนั้นมีพี่ๆ เพื่อนๆลาเรียนกัน ส่วนมากไปเรียนแผนกสาธารณสุข เราเองอยาก ไปเรียนเหมือนกัน แต่ไม่รู้ว่าจะติดต่ออย่างไร แถมเป็นคนมาจากต่างจังหวัด กลัวว่าลาเรียนแล้วต้องออกนอกหอต้องหาที่พักเอง ค่าเล่าเรียนทำอย่างไร ไม่รู้ว่าเราสามารถอยู่ที่หอต่อได้ช่วงที่ลาเรียน และเสาร์อาทิตย์ ก็เฝ้าไข้ ที่พูดนี้ก็จะเปรียบเที่ยบให้เห็นว่าสมัยก่อนไม่ค่อยมีความรู้ว่าจะเรียนจะทำอะไร ทั้งที่มีสวัสดิการต่างๆ แต่มีบางคนเท่านั้นที่รู้ เดี๋ยวนี้รุ่นใหม่ๆจะมีความรู้ต่างๆ ดีกว่าสมัยก่อนๆมาก
ทำงานที่ศิริราชประมาณสามปีกว่า ตามๆกันว่าพยาบาลจบก็ไปอเมริกากัน เดือนมิถุนายน 2515 ก็ออกจากงานไปทำงานที่นิวยอร์ก มาทำงานที่นิวยอร์ก เริ่มด้วยแผนกศัลย์กรรมหนี่งปี ย้ายไปทำห้องคลอดจนเกษียณ ประสบการ์ณงาน ที่ศัลย์ชาย 3 ดูแลคนไข้ฉุกเฉิน และที่สำคัญคือมีเจาะเลือดคนไข้ทุกเช้า คนละหลายๆหลอด และStartเส้นให้น้ำเกลือวันละหลายสิบครั้ง ความชำนาญทางเจาะเลือดและหาเส้นให้น้ำเกลือมีประโยชน์ กับการทำงานมาก คนไข้ที่เจาะเลือดยากๆก็ทำได้ เพื่อนๆที่ทำงาน ที่นิวยอร์กหาเส้นไม่เจอหรือเจาะเลือดไม่ได้ ก็ตามให้ไปช่วย ขณะที่ทำงานแผนกศัลย์กรรม ที่รพ. St Luke's Hospital เดี่ยวนี้เปลี่ยนชื่อเป็น Mt Sanai uptown Hospital
แผนกนี้ยุ่งมาก ward หนี่งจะมีพยาบาลคนเดียว มีผู้ช่วยพยาบาล (License Practical Nurse)สามารถให้ยาได้ ให้เลือดไม่ได้ ทำงานได้แทบทุกอย่างเกือบเหมือนพยาบาลเงินเดือน 80% ของพยาบาล และมี Nurse Aid ซี่งก็สามารถช่วยวัดความดัน และ ทำ Intake output ได้ มีคนไข้ 24-26 คน เวรบ่าย ถ้าเราได้ลูกน้องสองคนที่ขยันงานก็จะเสร็จดี แต่ถ้าได้ลูกน้องขี้เกียจ วันนั้นเราเหนื่อยแน่ๆทำงานแผนกศัลย์กรรมปีกว่า ง านแผนกนี้ยุ่งแต่ก็ชอบแต่ไม่ชอบคือมีคนไข้หลังผ่าตัด Mastectomy ข้างหนี่ง อีกไม่นานก็มาหลังผ่าตัดอีกข้าง และไม่นานก็กลับมาแล้วก็ไม่ได้กลับบ้าน ช่วงนั้นปี 2527 มัง การรักษาทางมะเร็งเต้านมไม่ค่อย จะรอด แต่ปีนี้ 2023 จะเห็นว่าคนเป็นมะเร็งเต้านมรั กษาหายกันเกือบ 100%มีเพื่อนๆที่รู้จักหลายคนรักษาหาย เรียกว่า Cancer Free กันแล้ว น่าดีใจกับ การพัฒนาทางการรักษาคนไข้มะเร็งเต้านมและการรักษา ทางเคมีบำบัดคนไข้ ไม่แพ้ยาด้วย
ทำงานแผนกศัลยกรรมปีกว่าๆได้พบพี่จารุณี ชื่นศิริ(เขมราช) พี่เคยทำสูติพิเศษศิริราช)ทำงานที่รพ.เดียวกัน แผนกหลังคลอด ที่จริงอยู่รพ.เดียวกันก็ไม่เจอกันเพราะอยู่คนละตึก เราอยู่ตึกศัลยกรรม พี่อยู่ตึกสูติกรรม แต่คนไทยทำงานดี ผู้ตรวจการก็ชอบทั้งพี่และพี่จารุณี ผู้ตรวจการบอกพี่จารุณีว่า มีพยาบาลไทยทำงานแผนกศัลยกรรม วันหนี่งพี่พักทานอาหาร เดินไปที่ตึกศัลยกรรมดูว่าน้องคนไทยเป็นใคร
โชคดีได้พบกัน คุยกันยิ่งรู้ว่าเป็นน้องศิริราช พี่จารุณียิ่งดีใจ และชวนให้ไปทำงาน แผนกห้องคลอด พอพี่ได้ข่าวว่าแผนกห้องคลอดจะมีคนออกก็บอกให้ไปสมัครย้ายไป ทำงานแผนกห้องคลอด ก็โชคดีได้ย้าย และช่วงนั้นก็ได้กลับไปเรียนปริญญาตรีด้วย ทางรพ.จ่ายค่าเล่าเรียนให้ จากอนุปริญญามาเรียนปริญญาตรีที่นี่ เรียนแบบ part time สองปีกว่าจบทาง BS Health care Manangement ได้รับปริญญา ก็ได้เงินเดือนเพิ่มอีกปีละ $600 ทำงานแผนกห้องคลอดที่เคยเรียนสูติมา 6เดือน ทางนี้ก็สอนให้รู้จ้กการอ่าน Fetal Monitor ตรวจคนไข้ ว่าปากมดลูกเปิดเท่าไร และดูแลเด็กแรกเกิดในห้องคลอดกับหมอสูติ เป็นงานที่เราทำทั้งหมดไม่ต้องมีคนช่วย ไม่เหมือนงานแผนก Med Surg ก็สบายใจ และทำงานแผนกนี้ พ่อแม่มีความสุข กับลูกแรกเกิด ก็มีบางที่ก็มีเรื่องให้เศร้าเหมือนกัน เช่นเด็กไม่รอด แม่เสียชีวิต แต่นานๆเกิดที ทำให้พวกเราเสียใจกันมากทีเดียว พี่ทำงานที่แผนกนี้จนเกษียณ ปกติที่นี่เขาไม่บังคับให้เกษียณอายุเท่าไร ถ้าหากยังทำงานไหว แต่ส่วนมากคนก็ จะเกษียณอายุ 60 ที่จะได้รับเงินบำนาญได้ และอายุ 62 รับเงินทางรัฐเรียก social security เป็นเงินที่รัฐหักจากเงินเดือนเราทุกเดือน แล้วมาจ่ายให้เรา ตอนเกษียณจนตาย ตามอัตราที่เขาคิดออกมา เริ่มรับได้ตั่งแต่อายุ 62 แต่จริงๆอายุที่ เขาจะให้รับคือ 67 เรารับก่อนก็จะไม่ได้ 100% เพราะฉนั้นคนจะไม่อยากออกเร็ว
สรุปพี่ทำงานที่รพ.นี้ 32 ปี สวัสดิการหลังเกษียณคือได้รับเงินเกษียณทุกเดือน และได้รับเงินจากรัฐ เป็นเงินที่เราเสียภาษีทุกปีตอลดเวลาทำงาน เรียกว่า เงิน Social Security เงินสองอย่างนี้ได้รับตลอดชีวิต จะได้เท่าไร อยู่กับระยะทำงาน แต่เงิน Social Security ต้องทำงานอย่างน้อย 10 ปีจึงจะมีสิทธิได้รับ นอกจากนี้ขณะทีทำงานทางรัฐอนุญาติให้ บุคคลากรออมทรัพย์ขี้นทุกปีสมัยพีทำงานประมาณปีละ หมื่นกว่าเหรียญ หักจากเงินเดือนทุกเดือนก่อนภาษี เราสามารถเอาไปลงทุนกองทุนหรือ จะฝากออมทรัพย์แต่ถอนเงินนี้ไม่ได้จนอายุ 591/2 ไม่ถอนก็ได้ แต่อายุ 701/2 ต้องถอนอย่างน้อย.3% เงินที่ถอนออกตอนนั้นก็ ต้องเสียภาษีตามสัดส่วนของรายได้เราขณะนั้น เล่ามาเพื่อน้องๆจะมาทำงานที่อเมริกาทราบถึงสวัสดิการ
ช่วงนี้พี่เกษียณมาสิบกว่าปีแล้ว อยู่นิวยอร์กช่วงหน้าร้อน หน้าหนาวจะกลับมาเมืองไทยราวๆเดือนพฤศจิกายน ถึงต้นเดือนมีนาคม เวลากลับมาเมืองไทยก็นัดเจอเพื่อนๆไปกินข้าว ไปเที่ยวใกล้ๆ หรือบางที่ก็ไปประเทศข้างๆบ้านเราบ้าง กลับมานิวยอร์กราวๆ เดือนมีนาคม หรือต้นเดือนเมษายน เป็นช่วงที่คนอเมริกันต้องทำภาษี พี่ๆเพื่อนๆที่เกษียณ มาอยู่เมืองไทยก็จะกลับอเมริกาไปทำภาษีและก็เยี่ยมเพื่อนๆด้วย
ช่วงสามปีที่ผ่านมาโควิดระบาดไม่ได้กลับเมืองไทยเลย ไม่ได้ไปไหนต้องอยู่แต่ที่บ้าน จะซื้อของก็สั่งออนไลน์ แต่ต้องสั่งเยอะๆด้วย เพื่อนๆรวมสั่งซื้อ แล้วมาแบ่งกัน เราจะแวะไปรับของที่หน้าประตูบ้านไม่ต้องเจอกัน เอาเงินใส่ซองหรือโอนเข้าบช.เลยผลัดกันสั่งของ ทั้งผักผลไม้ เนื้อต่างๆ กุ้งปลา ... เราใช้เวลาในบ้านตลอดเกือบสองปี พอเริ่มฉีดวัคซีนกัน ก็เริ่มออกไปซื้อของที่ซุบเป้อร์มาร์เกตได้บ้าง เขาเปิดช่วงเช้าราวๆ 7 - 10 โมงสำหรับ สว.เท่านั้น ก็สะดวกขี้นหน่อย
ช่วงนี้เดือนเมษายน 2023 ที่นิวยอร์กไม่ใส่แมสกันแล้ว แต่ไปรพ. ยังใส่แมสกันอยู่ ทางเข้ารพ.จะมีแมสให้ถ้าไม่ได้เอามา แต่ที่ต่างๆ คนไม่ใส่แมสกันหมดแล้ว เหลือแต่พี่ๆและเพื่อน บางคนยังใส่กันบ้าง
ชีวิตประจำวันของพี่หลังเกษียณก่อนๆก็กลับเมืองไทยหน้าหนาว หน้าร้อนก็กลับ นิวยอร์กทำภาษีทำสวนครัวปลูกผักนิดหน่อย และเป็นสมาชิก 24 hrs Fitness เข้า Class ต่างๆเช่น Senior class, Zumba ,Pop Pilates และว่ายน้ำ ไปวันละ 2-3 ชม กลับบ้านตอนบ่ายพักผ่อน เล่นไลน์บ้าง อ่านเฟสบุ้คบ้าง และเขียนบล็อกต่างๆ ส่วนมากเล่าถึงประสบการณ์ที่นิวยอร์ก (ก่อนเกษียณเพื่อนแนะนำให้รู้จัก Pantip และสมัครเขียนบล็อกของ Bloggang ใช้นามปากกา newyorknurse เขียนประสบการณ์ชีวิตที่นิวยอร์ก ,เกี่ยวกับสุขภาพ ,ท่องเที่ยว)
ช่วงนี้สนใจอยากเรียนปฎิบัติธรรม เคยไปปฎิบัติธรรมกับศูนย์โกเอนก้า สองครั้ง เริ่มฝีกปฎิบัติธรรมสดเดินจิต ของพระมหาวรพรต กิติวโร พระอจ.สุชาติ และ พระอจ.ปราโมทย์ https://fb.watch/isYo-6ZnKk/
สนทนาธรรมพระอจ.สุชาติ และฟังสนทนาธรรม ธรรมะบนภูเขา https://www.youtube.com/watch?v=du_nS6HZoPE
https://fb.watch/isYF4J7-V6/
ฟังธรรมหลวงพ่อปราโมทย์ ปราโมทโช https://www.youtube.com/live/ZNcxBd6lAMk?feature=share
**** ช่วงที่เพจลานพิกุลเริ่มใหม่ๆ ไม่แน่ใจว่าต้องมีคนชวนเข้ากลุ่มหรือเปล่า จำได้ว่าอ่านแล้วสนใจเลยสมัครเข้ากลุ่มมีโอกาสได้อ่านข่าวสารของ พยาบาล เริ่มชวนเพื่อนๆอีกหลายคนเข้ากลุ่ม และอ่านเรื่องต่างๆ ที่ชอบมากคืออ่านเรื่องราวของดอกพิกุล ชื่นชมน้องๆรุ่นใหม่ๆที่ไม่ใช่ จบพยาบาลแล้วทำงานพยาบาล บางคนเปลี่ยนอาชีพไปทำอย่างอื่น ประสบความสำเร็จกันมากมาย
พี่ชอบเพจลานพิกุลมากและชอบอ่านน้องๆดอกพิกุลมาเล่าประสบการณ์ ชีวิตที่ทำงานพยาบาลแต่ขวนขวายไปทำอย่างอื่นจนประสบความสำเร็จ ก้าวหน้า ทำงานอื่นๆประสบความสำเร็จกัน พี่จะอ่านเรื่องๆน้องๆ และคุยกับเพื่อน บางทียังถามเพื่อนว่าได้อ่านเรื่องของน้องคนนั้นคนนี้หรือยัง และชมว่าน้องรุ่นหลังๆเก่งกว่าสมัยเราเยอะเลย และยังได้ไปหาอ่าน ได้ใน e-book อีกด้วย เพจลานพิกุลมีมากมาย เรื่องเล่าชาวลานพิกุล ตามหาดอกพิกุล รำลึกความหลังในลานพิกุล ลานกิจกรรม ลานวิชาการ ห้องสมุดe_books เปิดบ้านงานลานพิกุล
ขอบคุณน้องปุ้กแอดมินเพจลานพิกุล และน้องๆที่ดูแลเพจลานพิกุล ทำให้พี่ๆน้องๆได้ความรู้ รู้ข่าวลานพิกุล กิจกรรมของน้องๆและทำให้เพื่อนๆที่บางคนแทบไม่ได้ ติดต่อกันเลย ได้มาพบกันที่ลานพิกุลแห่งนี้ ขอให้เพจลานพิกุลอยู่ต่อตลอดไปนะคะ
ขอบคุณน้องปุ้ก(แอดมินเพจลานพิกุล) ให้เกียรติให้เขียน ในลานพิกุล(ตามหาดอกพิกุล) เขียนเรื่องการทำงานที่นิวยอร์กและได้มีโอกาส ได้ลงในอีบุ้กด้วย ทุกวันนี้ก็ชอบอ่านเรื่องของน้องๆที่ลานพิกุล ซี่งรุ่นหลังๆมีความสามารถกัน จริงๆ และได้ความรู้เรื่องต่างๆด้วย
น้องปุ้ก(แอดมินเพจลานพิกุล)ชวนให้ เขียนเรื่องลงในเพจลานพิกุล เลยเอาบล็อกที่เขียน บางบล็อกมาแชร์ที่เพจลานพิกุลอ่านกัน
****
พี่สนับสนุนน้องๆที่สนใจ มาทำงานที่อเมริกา มีข้อมูลในการติดต่อ การสอบและการหางานของน้องๆ พี่จะรวบรวมแล้วเขียนบล็อกไว้ให้น้องๆที่สนใจอ่าน เป็นแนวทางในการสอบ การหางาน รู้ถึงสวัสดิการการทำงานทีอเมริกาด้วย
สำหรับน้องๆที่สนใจมาทำงานที่อเมริกา ขั้นตอนการเตรียมสอบ NCLEX RN EXAM เพื่อทำงานพยาบาลที่อเมริกา https://www.bloggang.com/m/mainblog.php?id=newyorknurse&month=15-12-2022&group=8&gblog=516
********
เงินเดือนและสวัสดิการณ์ของรพ.ที่พีทำงานก่อนออกปี 2009/2552 เงินเดือนจ่ายเป็นชม.จะจ่ายตาม Base salary และเพิ่มกับประสบการณ์ ที่ทำงาน ทำมากี่ปีก็ได้เพิ่มตามเบอร์เซ็นต์ และมีปริญญาตรี ได้เพิ่มปีลt $300 จบปริญญาโท ได้เพิ่มปีละ $600 คนที่จบปริญญาโท เอง ส่วนมากก็ไม่ค่อยได้ ทำงานพยาบาล ไปอยู่แผนกผู้บริหาร และพยาบาลแต่ละแผนกมีการสอบ เป็น certificate ของแต่ละสาขา เช่นพีอยู่ห้องคลอด จะมีสอบ Cirtificate ทาง Inpatient Obstetric สาขา New Born NICU Med surg มีทุกสาขา ถ้าสอบผ่านจะได้เงินเพิ่มอีกปีละ $300 และเวลาเซืนต์ชื่อหลัง nurse note ด้วยชื่อืn.srivatana rnc รพ.ที่พี่ทำเป็นสมาชิกชองสมาคมพยาบาลของนิวยอร์ก NYSNA - New York State Nurse Association จะมีการเซ็นต์สัญญากับโรงพยาบาล ทุกสามปี มีการตกลงขี้นเงินเดิอน และเรื่องต่างๆที่พยาบาลทำงานที่แต่ละแผนกจำนวน พยาบาลต่อคนไข้ การ Float พยาบาลไปนอกสาขาและเรื่องต่างๆ เพื่อผลประโยชน์ของพยาบาล พยาบาลทุกคนต้องเป็นสมาชิกทุกคน ถ้าทำรพ.นี้ ปีละ $900-$1000 กว่าเหรียญ ค่าสมาชิกต่างแต่ละรพ.ที่อยู่ส่วนใหนของรัฐนิวยอร์ก https://www.nysna.org/member-dues-rates-2021-2022#.ZELsNezMI4Y
อัตราเงินเดือนก็แล้วแต่ละคน รวมทั้งปริญญา และประสบการณ์การทำงาน สมัยพีทำงานเงินเดือนชมละ$50 ถ้าทำ OT ชม.ละ $75 ทำ OT หลังจากทำงาน เกิน 75 ชม ภายในสองอาทิตย์ ที่นี่ส่วนมากจะจ่ายเงินเดิือนทุกสองอาทิตย์
วันหยุดประจำปี มี 12 วันสำหรับวันหยุด Holidays วันพักร้อน เริ่มด้วย ปีละ 2 อาทิตย์ มีเพิ่มเรื่อยๆ ตามเวลาที่ทำงาน ก่อนเกษียณ พี่ได้หยุดปีละ 22 วัน
คลิกฟังได้ที่เวปข้างล่างค่ะ
""
*****
พี่สนใจ Nursing Home ต่างๆที่เมืองไทย ที่มีคุณภาพ ราคาพอสมควร เพื่อจะได้มาเขียนบล็อกให้เพื่อนๆคนไทยทั่วโลกได้อ่านในบล็อกพี่ เวลาจะกลับมาอยู่เมืองไทยจะได้สะดวกในการเลือกว่าจะไปอยู่ที่ไหน
ความฝันของพี่ืคืออยากให้น้องที่สนใจ ตั้งเป็นบริษัทหาคนดูแลคนสว. เรียกว่าบริษัท Health Care Manager for family เป็นเหมือนตัวแทนสว.ที่อยากกลับมาอยู่เมืองไทย แต่อาจจะต้องหา Nursing home หรือ บริษัทหาคนจากศุนย์ส่งไปดูที่บ้าน หรือที่สถานพยาบาล และบริษัทรับผิดชอบคุณภาพของคนที่ส่งไป คือบริษัทมีคน ไปตรวจดูคนที่ส่งไปว่าทำงานด้วยว่าคนดูแล มีความเมตตามีคุณธรรม ดูแลคนไข้เหมาะสม โดยทางบริษัททำหน้าที่เหมือนญาติของคนไข้ หรือของครอบครัวที่ให้ทางบริษัท จัดหาคนไป ทำเหมือนเป็นตัวแทนของผู้สูงอายุ หรือเป็นตัวแทนของครอบครัว เหมือนเป็นญาติ ซี่งทางญาติหรือคนไข้ จะจ่ายค่าบริการนี้ด้วยกับบริษัทเป็น รายเดือน หรือรายเคส แล้วแต่จะมีข้อตกลงกัน เรียกว่าบริษัท Family Healthcare Manangement คงจะดี
สำหรับพี่เองคิดว่าถ้าพี่อยู่บ้านมีญาติที่คอยดุแลหาคนมาดูแล และจ่ายค่าใช้จ่ายติดต่อเรื่องต่างๆให้โดยตกลงค่าตอบแทน เหมือนจ้างให้ดูแลเรื่องทุกอย่างเกี่ยวกันการดูแล หาคน มีปัญหาหาทางแก้ไขดูแลไปรพ..
ขณะนี้สว.รุ่น 70-80 อยากกลับมาอยู่เมืองไทย เขามีลูกๆ ครอบครัวกัน ก็อยาก กลับมาอยู่เมืองไทย จะได้ไม่เป็นภาระให้ลูกๆ แต่ก็ไม่ชินกับเรื่องต่างๆที่เมืองไทย ยินดีจ่ายค่าบริการที่มีคนจัดการให้ โดยประสานงานกับลูกๆ เช่นพ่อ หรือ แม่เป็น อัลไซเมอร์ ทำอะไรเองไม่ได้ ก็ต้องไปอยู่เนิสซิ่งโฮม ลูกๆอาจจะพามาส่งเมืองไทย แต่ไม่มี โอกาสจะไปเยี่ยมบ่อยๆ ถ้ามีบริษัทที่ช่วยดูแลไปเยี่ยม และตรวจดูว่าเนิสซิ่งโฮมหรือ คนดูแล ดูแลพ่อ แม่ของเขาดีหรือเปล่า ถ้าไม่ดีก็หาคนเปลี่ยนให้ด้วย โดยจะได้รับรายได้เป็นรายเดือน คิดว่าบริษัทแบบนี้จะเป็นที่นิยมสำหรับยุคนี้ และเมืองไทยเอง ลูกๆก็ต้องทำงาน ก็คงต้องจ้างคนดูแล คุณพ่อ คุณแม่ หรือคุณพ่อคุณแม่อาจจะต้องไปอยู่เนิสซิ่งโฮม บริษัทก็จัดการและแวะไปเยี่ยม แทนโดยคิดค่าบริการรายเดือน
ขณะนี้ได้ข่าวว่าการขอวีซ่ามาอเมริกาไม่ต้องสัมภาษณ์ ก็คงสะดวก และง่ายขี้น พี่ยังคิดว่าถ้าน้องๆอยากมาอเมริกาทำงานดูแลคนสว. ที่นี่ เป็นรายเดือนก็อาจจะได้ โดยหากลุ่มแล้วผลัดกันมาคนละเดือน หรือตามที่ทำได้ อาจจะมีหัวหน้ากลุ่มจัดการจัดเวร แล้วมาดูแลสว. ที่เมกา สว.ที่พอช่วยตัวเองได้ อยู่กันเองสองคน หรือคนเดียว เริ่มมีมากขี้น ยินดีจ่ายค่าใช้จ่าย เพราะไม่อยากไปอยู่กับลูก และยังไม่พร้อมกลับเมืองไทย คิดว่าจะเป็นงานเสริมที่อาจจะ ดีในอนาคต มีเพื่อนบางคนหาคนจากเมืองไทยมาดูแลญาติกันบ้าง แล้ว บางทีก็หานศ ที่ปิดเทอมมาอยู่และวางก็พาไปเที่ยวด้วย รายได้ก็แล้วแต่ตกลงกัน
สุดท้ายนี้ขอขอบคุณน้องปุ้กและผู้ร่วมงานกลุ่มลานพิกุล ทำให้เราได้รู้จักกันมากขี้นและได้อ่านประสบการณ์ ต่างๆ และทำให้ได้พบกันที่ต่างแดนด้วย
นำรายชื่อเพื่อนๆ รุ่น 62 มาให้ชม ว่าเลขประจำตัวอะไรนะคะ เลขประจำตัวจะขี้นด้วย 08090 และเลขหน้าชื่อนะคะ
*********
วันที่ 26 เมษายน 2566 โรงพยาบาลศิริราชมีอายุครบ 135 ปี วันคล้ายวันพระราชทานกำเนิดโรงพยาบาลศิริราช
Klaibann Blog/ Education Blog newyorknurse
Create Date : 26 เมษายน 2566 |
Last Update : 28 เมษายน 2566 17:36:53 น. |
|
8 comments
|
Counter : 752 Pageviews. |
|
|
|
ผู้โหวตบล็อกนี้... |
คุณhaiku, คุณสองแผ่นดิน, คุณปัญญา Dh, คุณกะว่าก๋า, คุณอุ้มสี, คุณฟ้าใสวันใหม่, คุณหอมกร, คุณปรศุราม, คุณแมวเซาผู้น่าสงสาร, คุณสายหมอกและก้อนเมฆ, คุณนายแว่นขยันเที่ยว, คุณSweet_pills, คุณดอยสะเก็ด, คุณทุเรียนกวน ป่วนรัก, คุณกิ่งฟ้า |
โดย: กะว่าก๋า วันที่: 28 เมษายน 2566 เวลา:5:24:14 น. |
|
|
|
โดย: อุ้มสี วันที่: 28 เมษายน 2566 เวลา:6:38:13 น. |
|
|
|
โดย: หอมกร วันที่: 28 เมษายน 2566 เวลา:7:37:17 น. |
|
|
|
โดย: Sweet_pills วันที่: 29 เมษายน 2566 เวลา:0:04:46 น. |
|
|
|
โดย: กะว่าก๋า วันที่: 30 เมษายน 2566 เวลา:6:11:13 น. |
|
|
|
โดย: กิ่งฟ้า วันที่: 30 เมษายน 2566 เวลา:6:55:00 น. |
|
|
|
|
|
|
|
Location :
ราชบุรี .. New York ... United States
[ดู Profile ทั้งหมด]
|
ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember ผู้ติดตามบล็อก : 164 คน [?]
|
เริ่มเขียนBlog เมื่อวันที่ 21 พฤศจิกายน 2553
ยินดีต้อนรับค่ะ
จขบ.บันทึกประสบการณ์ต่างๆ ระยะเวลาทำงานและระยะเกษียณ เพื่อเก็บไว้เป็นความทรงจำ ้ จขบ.พยายามใช้ชีวิตเกษียณให้มีคุณค่า รักษาสุขภาพใจและกาย ท่องเที่ยวกับเพื่อนๆ ทำสวนดอกไม้ ออกกำลังกาย สมัครเป็นสมาชิก 24 Hrs Fitness เพื่อให้ชีวิตที่เหลืออยู่มีคุณภาพ จะได้ไม่เป็นภาระกับคนที่รักและห่วงใย
จขบ.เพิ่มบล็อกสุขภาพ เพื่อจะได้นำสาระที่มีประโยชน์ เกี่ยวกับสุขภาพทั่วๆไป
จขบ.หวังว่าข้อมูลต่างๆช่วยให้ ทุกท่านที่มาอ่าน รักษาสุขภาพ ไปตรวจเพื่อเป็นการป้องกัน และได้รับการรักษาเนิ่นๆ เพื่อ ชีวิตที่แข็งแรงและมีคุณภาพ
"A time to enjoy, a time to spend time with your family and a time to be with your friends all comes with retirement"
*****
"Live The Moment"
อยู่กับปัจจุบันขณะ หยุดเสียใจกับสิ่งที่เกิดขี้น ในอดีตและกลัวหรือกังวล สิ่งทีเกิดขี้นในอนาคต "วันนี้" และ "ขณะนี้" คือช่วงเวลาที่ดีที่สุดของคุณ !! ใช้มันให้ดีที่สุดให้เป็นช่วงเวลาทีมีคุณค่า น่าจดจำเพราะว่าเวลาเป็นสิ่งที่ผ่านมา และผ่านเลยไป เอาคืนไม่ได้และ หาเพิ่มก็ไม่ได้เช่นกัน
ขอบคุณทุกท่านที่แวะมาค่ะ
*********
ขอบคุณ Bloggang ทำให้เราได้เขียนบล็อกต่างๆ ขอบคุณสำหรับคะแนนโหวด ทุกๆคะแนน นะคะ
BG Popular Award # 19
BG Popular Award # 18
BG Popular Award # 17
BG Popular Award # 16
BG Popular Award # 15
BG Popular Award # 14
BG Popular Award # 13
BG Popular Award # 12
BG Popular Award # 11
BG Popular Award # 10
BG Popular Award # 9
BG Popular Award # 8
**********
ขอบคุณทุกหัวใจวาเลนไทน์ 2561 ที่เพื่อนๆมอบให้ค่ะ
ขอบคุณทุกหัวใจวาเลนไทน์ 2560 ที่เพื่อนๆมอบให้ค่ะ
|
|
| |
อรุณสวัสดิ์ครับพี่น้อย
อ่านแล้วทำให้รู้สึกว่าหมอและพยาบาลในอเมริกา
น่าจะเริ่มขาดแคลนนะครับ
ยิ่งหลังจากโควิด
คนคงเริ่มไม่อยากทำงานด้านสาธารณสุข
เพราะเป็นงานที่เหนื่อยแต่ก็เสี่ยงมากด้วยเช่นกัน
อาจจะยิ่งทำให้รายได้สูงมากขึ้น
เพราะเริ่มเป็นที่ขาดแคลนนะครับ