โตเดี่ยว ... แล้วแต่อิสระจะพาไป
Group Blog
Group ตัวอย่าง
โตเดี่ยว ... เที่ยวหมด
โต...หยังเขียด
โต ... เป็น
เขียนจนโต
ส-กู๊ด-เต เนปาล
โมโม่
สิบปี .. วีซ่า ... อเมริกา
6 เดือน วีซ่าอังกฤษ
เดินสายขอวีซ่า เนปาล-อินเดีย-จีน
สุดท้ายก็ไปขอวีซ่า..เชงเก้น
กรกฏาคม 2550
>>
1
2
3
4
5
6
7
8
9
10
11
12
13
14
15
16
17
18
19
20
21
22
23
24
25
26
27
28
29
30
31
16 กรกฏาคม 2550
ส-กู๊ด-เต เนปาล ตอน 9 : Nirvana บ้านหลังที่สอง
ส-กู๊ด-เต เนปาล ตอน 8 : นาการ์ก็อต .. นมัสเต!!!
ส-กู๊ด-เต เนปาล ตอน 7 : เนื้อควาย-หลังคา-โมโม่
All Blogs
ส-กู๊ด-เต เนปาล ตอน 26 : crazy and beautiful Nepal ตอนจบ
ส-กู๊ด-เต เนปาล ตอน 25 : คืนสุดท้าย
ส-กู๊ด-เต เนปาล ตอน 24 : เดรันดร้า มิตรภาพจากคนเก็บขยะ
ส-กู๊ด-เต เนปาล ตอน 23 : ไซโลเเอนด์เดอะเเก๊ง
ส-กู๊ด-เต เนปาล ตอน 22 : Entertainer
ส-กู๊ด-เต เนปาล ตอน 21 : พระสันตาปูและเราทั้งคู่
ส-กู๊ด-เต เนปาล ตอน 20 : วุ่นวายจริงๆ
ส-กู๊ด-เต เนปาล ตอน 19 : Goodbye Nirvana
ส-กู๊ด-เต เนปาล ตอน 18 : ปาร์ตี้ ดาร์บัท
ส-กู๊ด-เต เนปาล ตอน 17 : Everything is possible but love
ส-กู๊ด-เต เนปาล ตอน 16 : ไปตลาด
ส-กู๊ด-เต เนปาล ตอน 15 : ชีวาโชเมน!!!
ส-กู๊ด-เต เนปาล ตอน 14 : ช็อคโกเเลตเค้กจากเด็กสวิส
ส-กู๊ด-เต เนปาล ตอน 13 : เนอร์วาน่า..ข้ารักเอ็ง โว้โฮ
ส-กู๊ด-เต เนปาล ตอน 12 : ซาคือ ผู้รักศิวิไลซ์
ส-กู๊ด-เต เนปาล ตอน 11 : สามภาษา
ส-กู๊ด-เต เนปาล ตอน 10 : BABA บาบ้า
ส-กู๊ด-เต เนปาล ตอน 9 : Nirvana บ้านหลังที่สอง
ส-กู๊ด-เต เนปาล ตอน 8 : นาการ์ก็อต .. นมัสเต!!!
ส-กู๊ด-เต เนปาล ตอน 7 : เนื้อควาย-หลังคา-โมโม่
ส-กู๊ด-เต เนปาล ตอน 6 : หน้าไม่ให้ เเต่ใจดี
ส-กู๊ด-เต เนปาล ตอน 5 : เดินตามใจ
ส-กู๊ด-เต เนปาล ตอน 4 : ตามหา Friendly Home
ส-กู๊ด-เต เนปาล ตอน 3 : ดู่ชา
ส-กู๊ด-เต เนปาล ตอน 2 : เพื่อนเดินทาง
ส-กู๊ด-เต เนปาล ตอน 1 : นมัสเต
ส-กู๊ด-เต เนปาล ปฐมฤกษ์
ส-กู๊ด-เต เนปาล ตอน 8 : นาการ์ก็อต .. นมัสเต!!!
เเล้วเราก็มาถึงนาการ์ก็อต
ร้านดู่จา นาการ์ก็อต
บริเวณท่ารถมีร้านชา เราเลยนั่งรับลมหน้าร้าน พร้อมสั่งดู่จามากินอีกครั้ง เนปาลีกรูกันเข้ามาทักทาย เเละห้อมล้อมเรายังกะดาวล้อมเดือน เหมือนตอนป้าเบิร์ดไปเเจกลายเซ็นต์ยังไงยังงั้น เเล้วก็มีหนุ่ม เนปาลีคนเเรกของนาการ์ก็อตมาทักชั้น (ข้ามหัวเพื่อนไปเลยครับ) เค้าชื่อ พลับบลิน ทำงานที่ร้านอินเตอร์เน็ตใกล้ๆนี่ ภาษาอังกฤษของเค้าดีมากๆ ดีกว่าชั้นซะอีก 555 เค้าถามว่าชั้นจะนอนไหนคืนนี้ ชั้นก็บอกว่าก็คงนอนเเถวนี้เเหละ
คืองี้ .. มันมีศาลาอยู่บนเนินเขา นอนฟรี ไม่เสียตัง ลมเย็น สบายใจด้วย อย่างที่บอก สัมผัสชีวิตนอนดินกินทรายกันให้สุดๆ เพื่อนชั้นก็ถามว่าเอาไหม ชั้นเองก็ดันเผลอตอบว่าเอา ไปเเล้ว .. จริงๆก็อยากสัมผัสสิ่งเหล่านี้เหมือนกัน ก็เลยตกลงใจว่าจะนอนกันที่นี่ สำหรับเพื่อนชั้นมันเป็นเรื่องธรรมดาไปซะแล้วของการนอนนอกบ้าน ชีวิตปีหลังก่อนมาเมืองไทย ก็นอนใน Tipi จนเคยชิน เพื่อนชั้นไม่สนใจ อะไรก็ได้เเค่มีหลังคา .. เเต่สำหรับชั้นถือเป็นเรื่องใหม่เหมือนกัน เเต่ชั้นก็ว่าจะลอง
เเต่เเล้วก็มีสาวเยอรมันมาเปลี่ยนความคิดของเรา เธอกำลังจะกลับกาฐมัณฑุ โดยเธอเพิ่งมาจาก Nirvana hotel ที่ที่สามารถจะพักฟรีก็ได้ หรือจ่ายเพียงเเค่ 50 รูปีเท่านั้น เธอบอกเเค่นี้ ไม่ได้อธิบายเงื่อนไขอะไรอื่นเพิ่มเติม เเต่เเค่นี้เพื่อนชั้นก็ตาลุกวาวเหมือนเห็นสวรรค์ (ชั้นว่าจริงๆแล้วไอ้อ้วนก็คงอยากจะนอนอะไรที่มันดีกว่าไม้เเข็งๆละมั้ง 5555 เปล่าหรอก เราอยากอยู่ทุกที่ที่ไม่ต้องเสียตัง เพราะเรากำลังทำตัวไม่มีตังกันแบบสุดๆ ดูสิว่าจะอยู่เหมือนที่พวกเค้าอยู่กันได้ไหม) ว่าเเต่ .. โรงเเรมอะไร ฟรีก็ได้ หรือจ่ายก็จ่ายนิดเดียว มีแบบนี้ที่นี่ด้วยเหรอ
เราคุยกันพออิ่ม เเล้วก็เดินทางต่อเพื่อหาที่พัก ผ่านตลาดนาการ์ก็อต เเหม ทุกคนมองเหมือนเดมี่มัวร์ กะเเอชตัน มาเที่ยวเมืองเลย 555 ป็อปปูล่าเรียกพี่ เฟมัสเรียกน้อง ครับพี่น้อง ไม่ได้โม้ .. เค้ากรูกันเข้ามาประสานเสียงนมัสเตจนเราตกใจ .. พอดีระหว่างทางมีร้านชา เพื่อนชั้นเลยขอเเวะนั่งกินน้ำกินหนม (กินอีกแล้ว) ดู่จานี่ไม่เเพง เเก้วขนาดเล็กกว่าเเก้วโอเลี้ยงบ้านเราหน่อย ราคา 5 รูปีในต่างจังหวัด 6 รูปีในกาฐมัณฑุ ก็ประมาณ 3-4 บาทไทย ชั้นสงสัยว่าวันๆนึง เพื่อนชั้นจ่ายค่าดู่จาไปเท่าไหร่ เธอเล่นกินไม่ต่ำกว่า 15 เเก้วต่อวัน เเอบถามพี่ๆเเถวนั้นว่าใส่กัญชาหรือเปล่า ทำไมมันติดใจนัก ก็ไม่ได้ใส่ อ้ะๆ ไม่สงสัยก็ได้ กินไป กินไป
เเต่มันมีอีกเรื่องให้น่าสงสัยกว่า คือ ทำไมทุกที่ที่เราไปนั่ง ไปเดิน ไปยืน ชั้นไม่เข้าใจเลยว่าทำไมเรากลายเป็นจุดเด่นทุกที เหมือนเเม่เหล็กดึงดูดให้เนปาลีวิ่งเข้าหา
คราวนี้ เริ่มต้นด้วยลุงเนปาลีคนนึงเข้ามาทัก หลังจากที่คุยกับเราอย่างเพลิดเพลิน เนปาลีที่เเอบซ่อนตามตรอกซอกประตู ก็เริ่มใจกล้าค่อยๆก้าวเข้ามาหาเราทีละคนสองคน จนกลายเป็นวงใหญ่ ชั้นอดหัวเราะไม่ได้ทุกครั้งที่เห็นภาพแบบนี้ เพราะเพื่อนชั้นไม่ใส่รองเท้า เพราะ Djimbe เพราะชั้นหน้าเหมือนเนปาลีเเต่ไม่ใช่เนปาลี หรือเพราะว่าเราสองคนมาด้วยกัน
ไม่น่าเชื่อว่าจะมีผู้คนให้ความสนใจในการเดินทางมาของเราครั้งนี้มากขนาดนี้ คำถามจากพวกเค้าคือ ทำไมต้องนาการ์ก็อต มันก็ไม่ใช่เมืองที่จะคนจะมาเที่ยวกันมากๆซะหน่อย ทำไมพวกเธอไม่ไปโพครา เราก็เลยบอกว่า หัวใจมันบอกให้มา (เนปาลีเเทบอ้วก 555) ชั้นบอกว่าเราสองคนไม่ชอบคนเยอะ โพคราเราก็ว่าจะเเวะไปอีกวันสองวันน่ะ เราจะเดินกลับกาฐมัณฑุกัน เเก๊งเนปาลีทำตาโต เดินเขากับเป้ใบเขื่องเนี่ยนะ เเน่ใจนะว่าจะเดินทางไปเเบบนี้ ชั้นเองไม่รู้อะไรมาก เเต่ชั้นไม่เคยหวั่นเรื่องการเดินอยู่แล้ว เลยหัวเราะเเหะๆ สบาย สบาย
ระหว่างที่รอเพื่อนซื้อดอกไม้ในตลาด เพื่อเอามาทำกับข้าวให้ชั้นกินตอนดึก (มันเป็นดอกไม้เอาไว้ทำอาหาร) ก็มีเด็กหญิงชาวเนปาลคนนึงวิ่งเข้ามาทักด้วยความสนิทสนม เธอพูดภาษาอังกฤษได้ยอดเยี่ยมมาก อายุเเค่ 11 ปีเท่านั้น
ดีป้า
คือชื่อของเธอ
ดีป้า
ดีป้า เป็นเด็กผู้หญิงเนปาลคนเเรกที่สวยที่สุดที่ชั้นเคยเจอ ดีป้าพาชั้นไปเจอกับพี่สะใภ้เเละหลานของเธอ เธอชวนชั้นไปนั่งเล่นในบ้านเหมือนเรารู้จักกันมานานเเล้ว พูดคุยกันได้พักใหญ่ชั้นก็ขอตัวเพื่อไปเดินหาที่พักต่อ อิ่มจริงๆ ตั้งเเต่เดินมายังไม่ได้หยุดพูดเลย เเต่รู้สึกอบอุ่นบอกไม่ถูกกับการต้อนรับจากเนปาลีในเมืองนี้ มันต่างกับวันวุ่นๆที่กาฐมัณฑุลิบลับ
เดินๆอยู่ ชั้นก็ปวดฉี่มาก ขอเเวะเข้าห้องน้ำ ห้องน้ำเค้าอยู่หลังบ้าน สิ่งที่ชั้นเห็นมันคือสิ่งที่น่าอิจฉาที่สุด หน้าบ้านที่เป็นร้านขายของชำไม่ได้ดูน่าพิศมัยเเม้เเต่น้อย เเต่วิวหลังบ้านคือสิ่งที่ชั้นอยากมีเป็นของตัวเองมานานเเล้ว เทือกเขาข้างหน้า หือ .. ต้องมาเห็นเอง บรรยายไม่เป็น มันเกินที่จะพูดออกมาได้ .. ถึงห้องน้ำที่เข้าไปจะเป็นเเบบส้วมหลุม นั่งฉี่จนเมื่อย เเต่ไอ้ทัศนียภาพสวยๆแบบนี้ มันทำให้เหน็บหายเป็นปลิดทิ้ง โอย บ้าไปแล้ว
Create Date : 16 กรกฎาคม 2550
Last Update : 16 กรกฎาคม 2550 14:31:41 น.
3 comments
Counter : 1596 Pageviews.
Share
Tweet
คุณโตเดี่ยว บรรยายซะจนเห็นภาพเลยละ สุดยอดไปเลยนะเที่ยวแบบเนี้ย
ได้สัมผัสกับชีวิตของชาวบ้านอย่างจริงๆๆเลย เราละนับถือคุณจริงๆๆ
โดย:
แมวขี้อ้อน
วันที่: 16 กรกฎาคม 2550 เวลา:16:25:57 น.
ขอบคุณค่ะ ดีใจ ได้พาคุณเเมวขี้อ้อนไปเที่ยวด้วย 5555
คนเนปาลน่ารักมาก ... และใจดี ที่เจอคือเเค่ส่วนหนึ่ง เดี๋ยวต้องหาเวลาไปจัดการทำความรู้จักกับอีกฟากของเนปาลต่อ ... :)
โดย: โตเดี่ยว (
doggieyanky
) วันที่: 17 กรกฎาคม 2550 เวลา:15:25:27 น.
พี่พูดภาษาอะไรคะ สื่อสารกับคนเนปาลพี่ใช้ภาษาอังกฤษหรือเปล่าคะ อยากรู้จริงๆ แล้วคนเนปาล มีพูดภาษาไทยได้ไหมอ่า แล้วภาษาเนปาล เหมือนหรือคล้ายภาษาอินเดียหรือเปล่า
โดย: เจนนิส IP: 14.207.232.11 วันที่: 18 สิงหาคม 2556 เวลา:17:15:34 น.
ชื่อ :
Comment :
*ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
doggieyanky
Location :
[ดู Profile ทั้งหมด]
ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
ผู้ติดตามบล็อก : 2 คน [
?
]
โตเดี่ยว เที่ยวหมด
I'm not rich but people who i have met have made my heart so rich!!!
Friends' blogs
Webmaster - BlogGang
[Add doggieyanky's blog to your web]
Links
BlogGang.com
MY VIP Friend
Pantip.com
|
PantipMarket.com
|
Pantown.com
| © 2004
BlogGang.com
allrights reserved.
ได้สัมผัสกับชีวิตของชาวบ้านอย่างจริงๆๆเลย เราละนับถือคุณจริงๆๆ