คืนฝัน วันเหงา ตัวเรา และความเดียวดาย
Group Blog
 
<<
กันยายน 2552
 
 12345
6789101112
13141516171819
20212223242526
27282930 
 
9 กันยายน 2552
 
All Blogs
 
แด่....เพื่อนรัก


ตั้งแต่ฉันจำความได้เธอก็อยู่ตรงนั้น...

น่าแปลกไหมถ้าฉันจะบอกว่า
ฉันจำวันที่เราพบกันครั้งแรกได้

ไม่รู้ว่าเธอจะเชื่อฉันหรือเปล่า
แต่ฉันคิดว่าฉันจำมันได้ดี

ตอนนั้นฉันเพิ่งจะอายุได้ 2 ขวบ
ฉันนั่งอยู่ข้างๆแม่ของฉันใต้ต้นมะขามใหญ่ในบ้าน
แล้วก็มีรถเก๋งคันหนึ่งมาจอดอยู่หน้าบ้าน

แม่เดินไปการุคันนั้นแล้วพูดคุยอย่างสนิทสนม
แม่บอกฉันว่าเพื่อนของแม่มาเที่ยวหา มาจากกรุงเทพฯ

แล้วเราก็พบกันครั้งแรก….

เธอกระโดดลงมาจากรถพร้อมกับเพื่อนของเธอ
เธอวิ่งเล่นกับเพื่อนของเธอในลานบ้านของฉัน

ฉันยังจำได้ดีว่าการวิ่งตามเธอทั้งสองนั้นเหนื่อยมากๆ
แต่ก็ยังวิ่งไม่ทันสักที

เพื่อนของแม่ตบมือสองครั้ง
ราวกับว่ารู้กัน เธอทั้งสองก็วิ่งไปหาเขา
ซึ่งฉันก็วิ่งตามไปด้วย

เพื่อนของแม่ถามฉันว่าชอบเธอทั้งสองหรือเปล่า
ฉันตอบโดยไม่ต้องคิดเลยจากการที่เราวิ่งเล่นกัน
“ชอบครับคุณน้า”

เพื่อนของคุณแม่ยังถามฉันต่อว่าถ้ายกให้ฉัน ฉันจะดูแลเธอใช่ไหม
ฉันตอบว่า “ใช่”

และนั่นคือ เหตุการณ์ที่ทำให้เราได้มาอยู่ด้วยกัน
เธอจำมันได้ใช่ไหม…





สิ่งแรกที่ฉันกับคุณตาคิดว่าต้องทำ
ในการรับสมาชิกใหม่เข้ามาในครอบครัว
นั่นก็คือ การตั้งชื่อให้กับสามาชิกใหม่ไว้เรียกขานกัน

ฉันกับคุณตาตกลงกันอยู่นานในที่สุดก็ได้ชื่อของเธอกับเพื่อนเธอ
ฉันจะเรียกเธอว่า “น้ำตาล” และเพื่อนของเธอ “หลังอาน” นะ
ดีใจใช่ไหมล่ะเธอกับเพื่อนถึงได้กระดิกหางกันขนาดนั้น

น่าเสียดายที่ว่าหลังจากเธอทั้งสองมาอยู่ได้ไม่นาน
เพื่อนของเธอก็ซุกซน และดื้อมากไม่ยอมฟังเรา
ไปเล่นกับเพื่อนอยู่กลางถนน

และนี่ก็เป็นเหตุการณ์ที่ทำให้เพื่อนของเธอจากพวกเราทั้งหมดไป
และคงจะไม่กลับมาอีกแล้ว

ฉันรู้...เธอเสียใจมากใช่ไหมล่ะ
ฉันก็เสียใจเหมือนกัน

จากวันนั้นมาเธอก็เป็นสมาชิก 4 ขาหนึ่งเดียวในครอบครัวของเรา





เมื่อฉันอยู่ ป.4
วันหนึ่งฉันได้ซื้อไก่ทอดเสียบไม้
ที่ขายอยู่หน้าโรงเรียน ไม้ละ 3 บาท กลับมาที่บ้าน
และนั่งกันอยู่ที่ลานบ้าน

ตอนนั้นเธอก็ได้วิ่งเข้ามาหาฉัน
ฉันโยนไก่ทอดให้เธอ 1 ไม้
ก่อนที่จะคิดได้ว่า ไก่ทอดนั้นมีไม้เสียบอยู่

ก็เลยเอื้อมมือจะไปคว้ามันเพื่อที่จะดึงไม้ออกให้
แต่กระนั้นเธอคงเข้าใจผิด
คิดว่าฉันจะไปแย่งไก่ไม้นั้นของเธอ

เธอกัดฉัน....
แต่ก็ยังไม่เข้าเนื้อหรอกนะ

ฉันตกใจและโกรธเธอมาก
ฉันโยนไก่ไม้นั้นคืนให้เธอ

เธอมองมัน .....
แล้วอารมณ์โกรธของเธอก็เปลี่ยนไป
เธอละสายตาจากไก่ทอดไม้นั้น เดินหางตกมาหาฉัน

เมื่อนั้นเองฉันก็เข้าใจแล้วว่า …
เธอไม่ได้ตั้งใจ

อาจเป็นฉันเองที่ผิดไปหยิบไก่ของเธอ
อาจเป็นเธอเองที่ผิดใช้อารมณ์และสัญชาติญาณของเธอ
หรือเราก็อาจจะผิดด้วยกันทั้งคู่

แต่ก็ช่างมันเถอะ ฉันลูบหัวเธอเพื่อบอกเธอว่า…
ฉันไม่เป็นไร

แล้วเธอก็เดินกลับไปกินไก่ทอดของเธอ

และเท่าที่ฉันจำได้
จากวันนั้นมา เธอก็ไม่เคยกัด ไม่เคยขู่
ฉันกับครอบครัวอีกเลย....ใช่ไหม เพื่อนรัก







ตั้งแต่เธอเป็นสมาชิกในครอบครัวของฉัน
ฉันจำได้ว่าเธอเคยถูกรถชนมาสามถึงสี่ครั้ง
มันมากพอดูเลยใช่ไหมล่ะ

ครั้งแรกมีเสียงรถเบรกยาวมาก
แล้วก็มีเสียงร้องครวญครางตามมา

ฉันไม่รู้หรอกนะ ว่าเป็นเสียงของเธอ

จนกระทั่ง เจ้าของเสียงร้องนั้น
ค่อยๆเดินกะเผรกเข้ามาในบ้าน
และนอนร้องครวญครางอยู่นาน
พรางเคี้ยวหญ้าที่อยู่ใกล้ๆ แล้วคายออกมากองไว้

ฉันรู้นะว่าเธอเจ็บมาก
ฉันสงสารและปวดใจมากที่เห็นเธอเป็นอย่างนี้

แต่ขณะเดียวกัน ก็อดรู้สึกโล่งใจไม่ได้
ที่เธอยังมีชีวิตอยู่…
ยังไม่จากไปไหน

แล้วจากวันนั้น
เธอก็วิ่งโดยที่ขาข้างนั้นแทบจะไม่ได้วางลงกับพื้นเลย

อีกครั้งหนึ่งนั้น
ฉันไม่รู้หรอกว่าใช่อุบัติเหตุรถชนหรือเปล่า
หรือว่ามีใครรังแกเธอมา

แต่ฉันเห็นได้จาก กองหญ้าที่ถูกเคี้ยวและคายไว้
และอาการของเธอที่ขาข้างที่กะเผรกนั้น เปลี่ยนไป
เป็นอีกข้างหนึ่งแทน

แต่ก็ถือว่าฟาดเคราะห์ไปอีกครั้งหนึ่งแล้วล่ะนะ

ส่วนครั้งที่ฉันจำได้ดีที่สุด
เพราะเห็นกับตาของตัวเองเลยก็คือ

วันนั้นฉันซ้อนรถมอเตอร์ไซด์ของคุณยาย
แล้วเธอวิ่งตามมาจากบ้าน
วิ่งไล่หลังรถมาเรื่อยๆ

พอฉันหันหนังไปอีกที
ก็เห็นเธอนอนหงายท้องอยู่กลางถนน

ในขณะที่รถมอเตอร์ไซด์อีกคันกำลังวิ่งซึ่ง
ล้อหน้าและล้อหลังทับกลางลำตัวของเธอ
และค่อยๆเคลื่อนที่ผ่านกลางลำตัวของเธอไป

โชคดีนะที่ไม่ใช่รถยนต์ เธอว่าไหม...







เวลาผ่านไปนานมากที่เราอยู่ด้วยกันอย่างนี้

จนวันหนึ่ง

มีลูกน้องของคุณตาให้เพื่อนใหม่มาอีกหนึ่ง
เป็นพันธุ์ชิสุลูกผสม

เกิดปัญหาขึ้นมาว่า
แล้วเธอกับเพื่อใหม่จะอยู่ด้วยกันได้อย่างไร

ใช่ๆ...
ช่วงแรกเธอก็ทำท่าจะไล่กันเขาอยู่เหมือนกัน
แต่ช่วงหลังๆฉันก็เห็นเธอนั่งมองเฉยๆ
ก็ไม่ได้ทำอะไรเขา

มันเป็นเรื่องที่ดีมากเลยนะที่พวกเธออยู่ด้วยกันได้
แต่ความรู้สึกเธอล่ะเป็นยังไงบ้าง
น้อยใจบ้างไหมที่พวกเราพาเขามาอยู่ด้วยน่ะ

แต่ก็นะ....
เขาก็มาอยู่ได้แค่ปีเดียวเท่านั้น

ตอนนั้นถ้าเธอจำได้
คุณตาของฉันไปผ่าตัดโรคหัวใจ
จึงพาเจ้าเพื่อนชิสุไปฝากเลี้ยงไว้ที่ร้านขายสุนัข

หลังจากที่เขากลับมาไม่นาน
เขาก็เป็นโรคลำไส้แล้วก็จากเราไป...ที่คลินิก

พวกเราพาเรือนร่างอันว่างเปล่าของเขา
ใส่รถกลับมา

ฉันจำได้เมื่อรถเข้ามาในบ้าน
เธอเห่าสองครั้งแล้วเงียบไป

ซึ่งปกติเธอจะไม่เห่ารถของเรา
รถคันเดิมที่วิ่งเข้าออกทุกวัน
เธอคงจะเอ่ยคำลาให้กับเขาใช่ไหม “น้ำตาล”







จากวันนั้นมาฉันก็ห่างกับเธอมากขึ้น
เราแทบจะไม่ได้เล่นกันอีก
และฉันต้องเรียนหนังสือ
และทำอะไรอีกหลายๆอย่างที่ฉันอยากจะทำ

แต่ถึงจะอย่างนั้น
เมื่อมีเวลาว่าง ฉันก็ยังมานั่งลูบหัวเกาคางให้เธอ
ทุกครั้งที่ฉันว่า’

ถึงเราจะไม่ได้วิ่งเล่นกันเหมือนแต่ก่อน
แต่เธอคงจะเข้าใจฉันใช่ไหม

เวลาผ่านไปฉันก็ต้องหาที่เรียนใหม่

คราวนี้…
เราต้องห่างกันเป็นเวลานานๆ

ฉันได้ไปเรียนที่ต่างจังหวัด
ในที่ๆแสนไกลจากบ้านเรามากมายนัก

หนึ่งปีฉันได้กลับมาที่บ้านเราแค่ไม่เกิน 4 ครั้ง
ครั้งหนึ่งก็ไม่เกินสี่ถึงห้าวัน ...แค่นั้น

แต่ถึงแม้ว่านานๆครั้งฉันจะกลับบ้านสักครั้ง
.....เธอก็ยังจำฉันได้

ถึงแม้เธอจะเห่าฉันในช่วงแรกๆที่เห็นระยะไกล
แต่พอเธอวิ่งเข้ามาใกล้ๆฉัน
เสียงเห่าก็กลายเป็นเสียงครางออดอ้อนทันที
...ยังจำกันได้ใช่ไหมล่ะ

มีครั้งหนึ่ง
ฉันอยากให้คุณตาคุณยายแปลกใจ
ฉันก็ปีนกำแพงเข้าบ้านมา

เธอนอนอยู่แต่ก็ลุกขึ้นมองมาที่ฉัน
แล้วเธอก็นั่งลง
ฉันลูบหัวเธอแล้วแอบย่องเข้าบ้าน

เธอก็เหมือนจะรู้...
ไม่มีเสียงเห่า ไม่มีเสียงขู่ ไม่มีแม้เสียงคราง
เช้าตรู่วันนั้นเงียบกริบสมใจฉันปรารถนา...






ครั้งสุดท้ายที่ฉันจากเธอมา…

เธอดูมีอายุขึ้นมาก
ความสง่าในวัยคึกคะนองของเธอดูลดลง
แต่เธอก็ยังเป็นเพื่อนที่ไว้ใจได้และสง่าในใจฉันเสมอ

ช่วงหลังนี้ เธอไม่ค่อยทานข้าว
ได้แต่เดินไปเดินมา
แล้วฉันก็ต้องจากเธอมาเพื่อทำภารกิจของฉันต่อไป

~~ หนึ่งเดือนผ่านไป ~~

หลังจากที่เราพบกันครั้งล่าสุด
ฉันก็กลับมาที่บ้านอีกครั้ง

ในคราวนี้เธอไม่เหมือนเดิม
เธอไม่แข็งแรงมากๆ

คุณตาบอกว่า
เธอยืนไม่ไหวแล้ว
ได้แต่นอนอยู่กับที่เท่านั้น

เมื่อเธออยากลุกขึ้นยืน
เธอจะออกเสียงครางเบาๆ
คุณตาก็จะจับเธอลุกขึ้น
เธอเดินโซเซเหมือนไร้ซึ่งเรี่ยวแรง

คุณตาบอกฉันว่า
เธอเป็นอย่างนี้มาหลายวันแล้ว

ตื่นเช้ามาฉันมานั่งดูเธอ...
เพื่อนเก่า เพื่อนที่รักมากของฉัน

หน้าตาของเธอเขรอะไปด้วยขี้ตาที่แห้งบ้างเปียกบ้าง
เธอนอนอยู่โดยที่แม้ดวงตาก็ไม่สามารถจะกระพริบได้

เวลาผ่านไปไม่นาน….
คุณน้าของฉันก็เรียกฉันและคุณตาคุณยาย

มาดูเธอ....

และคาดว่าคงจะเป็นการที่ราจะอยู่พร้อมหน้าพร้อมตากันอย่างนี้
เป็นครั้งสุดท้ายแล้ว...

เธอยังคงลืมตา
แต่การหายใจของเธอเริ่มไม่ปกติ

เธอนอนอ้าปาก ลิ้นห้อย และกระตุก ตัวเกร็ง...ชัก
คุณตาคุณยายบอกกับเธอว่า

“ไปเถอะ เจ้าน้ำตาล
ไม่เป็นไร ไม่ต้องห่วงทางนี้
ไปหาที่กินที่อยู่ใหม่เถอะนะ

ตอนนี้เจ้าก็ได้เจอครบทุกคนที่เจ้าอยากเจอแล้ว
คุณตาก็อยู่ คุณยายก็อยู่
พี่ของเจ้าที่เจ้าอยากจะเจอ
นอนรอมาหลายวันก็กลับมาอยู่ตรงนี้แล้ว
ไม่เป็นไรนะ....ไปเถอะ”

เธอก็ยังเป็นอย่างนั้น ….
อาการเกร็งบิดซ้ายบิดขวาเริ่มหายไป

เธอนอนนิ่งแล้วกระตุกเป็นระยะๆ
ฉันบอกเธอว่า
“ไปดีเถอะนะ..เพื่อนรัก”

อาการกระตุกของเธอหายไปแล้ว
ดวงตาของเธอลืมตาค้างอยู่
ในขณะที่ท้องยังยุบขึ้นยุบลง
แต่..รวยรินเหลือเกิน....เบาลง....เบาลง....

แล้วความเคลื่อนไหวก็หยุดนิ่ง
เธอนอนอยู่ตรงนี้...ตรงข้างหน้าฉัน

แต่คงเป็นเพียงเรือนร่างเท่านั้น

ภาพเก่าๆของเธอย้อมเข้ามาทีละภาพ...ทีละภาพ
เท่าที่ฉันยังจำได้...

~…เจ้าตัวเล็กน่ารักที่ไล่กัดรองเท้า....~

~…เจ้าตัวโตที่สง่าผ่าเผยคอยดูแลบ้าน...~

...และ...

เจ้าน้ำตาลตัวเดิม...ก็ยังนอนอยู่ตรงนี้....ข้างหน้าฉัน

นี่เธอคงรอฉันอยู่จริงๆใช่ไหม...
ที่คุณตาบอกว่าเธอนอนอย่างนี้มาหลายวัน
.
.
.
ขอบใจนะ....
ที่ยังรอกันอยู่ตรงนี้...
....ในที่แห่งนี้

ทุกๆครั้งที่เปิดประตูบ้าน...
เธอก็ยังวิ่งมา...

ทุกครั้งที่ฉันวิ่งมาเหนื่อยๆ
เธอจะมานั่งข้างฉัน
เอาคางของเธอมาวางไว้บนตักฉัน
หัวเธอนุ่มมากเลยนะ...รู้ไหม

ไม่ว่าฉันจะไปที่ไหนมา
ไม่ว่าจะออกไปนานแค่ไหน
ไม่ว่าจะกลับบ้านมาด้วยอารมณ์ไหน ความรู้สึกไหน
ความคิดแบบไหน

เธอก็จะอยู่ตรงนั้น วิ่งมากระดิกหาง
มาคอยเลียมือเลียขา...ฉันไม่ชอบเลย
แต่ต่อจากนี้ไปฉันคงคิดถึงมันน่าดู....

ทุกสิ่งทุกอย่างที่เกิดมาในโลกนี้
ล้วนแต่เกิดจาก “กรรม” มาปรุงแต่ง

การที่เราได้มาอยู่ด้วยกัน
เราก็คงจะเคยเจอกันมาก่อนแล้ว
เราจึงได้มาเจอกันอีก
ได้มาอยู่ด้วยกัน

บัดนี้...
เธอจากฉันไป

แต่ฉันก็ยังเชื่อว่า
เราจะได้เจอกันอีกในที่ไหนสักที่หนึ่ง
อาจจะเร็วๆนี้
หรือจะอีกนานแค่ไหน

แต่ฉันเชื่อว่า….
ฉันกับเธอ จะต้องได้พบกันอีกแน่ๆ

และเมื่อถึงวันนั้น
เราจะเป็นเพื่อนกันอีก...ใช่ไหม






หลังจากเธอไป
ฉันและคุณตา พาร่างอันไร้วิญญาณของเธอ
ไปยังที่แห่งหนึ่ง
ซึ่งไม่ต้องห่วงนะ มันอยู่ไม่ไกลจากบ้านหลังนี้หรอก
อยู่ใกล้ๆกับบ้านของเธอ...บ้านของฉัน นั่นแหละ

ฉันและคุณตาช่วยกันขุดหลุม
และวางร่างของเธอลงไป
ค่อยๆกลบดินทีละนิด..ทีละนิด จนไม่สามารถมองเธอได้อีก

ฉันและคุณตาจุดธูปและวางดอกไม้ไว้ข้างหน้านะ
ตรงที่เธอนอนอยู่...


หลับให้สบายนะเพื่อนรัก

...ไม่ต้องกลัว....ไม่ต้องกังวล...
จงไปในที่ๆเธออยากจะไป....ที่ๆดีกว่านี้....
ไม่ต้องห่วง....ฉันไม่ลืมเธอแน่นอน...

ยังไงเราก็คือเพื่อนกัน....
เล่นกันมาตั้ง 18 ปีแล้วไม่ใช่เหรอ...

แล้วเราจะได้เจอกันใหม่....ที่ไหนสักที่หนึ่ง
เพราะเราคือเพื่อนกัน...

ใช่ไหม.......เพื่อนรัก







T.B.tower




Create Date : 09 กันยายน 2552
Last Update : 9 กันยายน 2552 21:41:25 น. 3 comments
Counter : 442 Pageviews.

 
อืม ม

อ่านแล้วทำเราน้ำตาซึมเลยนะเนี่ย

เศร้าจัง ง น่าสงสารมันเนอะ


"การที่เราได้มาอยู่ด้วยกัน
เราก็คงจะเคยเจอกันมาก่อนแล้ว
เราจึงได้มาเจอกันอีก"

เชื่อในคำพูดนี้มากมากเลยอ่า ว่าจิงมะ




โดย: hdz IP: 124.121.156.49 วันที่: 10 กันยายน 2552 เวลา:12:17:23 น.  

 
ไม่ได้เม้นเปนคนแรกกกกก


เรยยยยยยย

555


เศร้าได้อีกนะเทอออ


โดย: หยดน้าม IP: 61.90.15.7 วันที่: 19 กันยายน 2552 เวลา:0:19:36 น.  

 
ร้างแร้ว ว นะ



อัพเดทหน่อยๆ


โดย: hdzza IP: 125.27.221.92 วันที่: 17 พฤศจิกายน 2552 เวลา:22:40:25 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

T.B.tower
Location :
ลำปาง Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]




สวัสดีครับ
พ่อแม่พี่น้องลุงป้าน้าอา อาม่า อาแปะ อากง อา.... อา.....(คิดไม่ออกแล้วล่ะ)
ถ้าว่างๆก็ช่วยอ่านที่แต่งไว้ด้วยนะครับ
อยากลองเขียนหนังสือดูน่ะครับ
ติชมได้ตามใจชอบ แต่ขอกันว่าอย่าหยาบคายนะครับ
Friends' blogs
[Add T.B.tower's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.