ติดตาม twitter ได้ที่ @karnoi กด
ติดตามข้อมูลเว็บทาง FaceBook กด
<<
มีนาคม 2555
 123
45678910
11121314151617
18192021222324
25262728293031
3 มีนาคม 2555

ลองขับ อีโคคาร์ ซูซูกิ


มาแล้วครับ ผลการลองขับอีโคคาร์ รุ่นที่ 3 ของเมืองไทย
จากจากค่ายซูซูกิ ซึ่งในวันนี้ ใช้ชื่อรุ่นว่า
สวิฟท์ และจะเปิดตัวอย่างเป็นทางการในวันที่ 21 มี.ค.ที่จะถึงนี้
 


โดย....นิธิ ท้วมประถม



โฉมหน้า ซูซูกิ สวิฟท์ ใหม่

ในที่สุด บริษัทซูซูกิ มอเตอร์ ประเทศ‌ไทย ก็ตัดสินใจ เผยโฉมหน้า ซูซูกิ
สวิฟท์ รถยนต์‌อีโคคาร์
คันแรกของตัวเองให้กับสื่อ‌มวลชนได้เห็นหน้ากันแบบจะๆ
ก่อนจะ‌เปิดตัวในวันที่ 21 มีนาคมนี้ โดยตั้งเป้ายอดขายไว้ในปีแรกที่ 1
หมื่นคันทีเดียว


ซูซูกิ สวิฟท์ ใหม่
นี้มีรูปร่างหน้าตาที่‌โฉบเฉี่ยวไปจากรุ่นเดิมมากที่เดียว ทั้งไฟ‌หน้า
และไฟหลังที่ดูทันสมัยขึ้นมากทีเดียว
‌แต่ในส่วนของขนาดตัวถังนั้นใหญ่กว่ารุ่น‌เดิมเล็กน้อย โดยกว้าง 3850 มม.
ยาว ‌1695 มม. ถือว่าไม่แตกต่างกันเท่าไหร่ครับ สวยแหล่มจริงๆ



ไฟหน้าสวยๆ

สำหรับสวิฟท์ ใหม่นั้น ในช่วงแรกจะ‌เปิดตัวทั้งหมด 3 รุ่นคือ GA ,GL และ
‌GLX ซึ่งทั้ง 3 รุ่นนี้เป็นเกียร์อัตโนมัติทั้ง‌หมดครับ
ส่วนรุ่นเกียร์ธรรมดานั้นคาดว่า‌จะเปิดตัวประมาณกลางเดือน เม.ย.นี้
ซึ่ง‌ความแตกต่างของทั้ง 3 รุ่นนี้ ขึ้นอยู่กับ ‌ออปชั่น
ของตัวรถเป็นหลักครับ แต่เครื่อง‌ยนต์เหมือนกันทุกประการ


แถมออปชั่นโดยรวมใส่มาเพียบ
‌เพราะหวังว่าจะเอามาถล่มกับคู่แข่งอย่าง‌เต็มที่
จะไม่ให้บอกว่าเพียบได้ยังไงครับ ‌เพราะทั้ง 3
รุ่นมีออปชั่นพื้นฐานร่วมกันตั้ง‌แต่
เบาะนั่งด้านคนขับสามารถปรับระดับ‌สูงต่ำได้ พวงมาลัยปรับระดับสูงต่ำ
กระจก‌ไฟฟ้า เซ็นทรัลล็อก มาตรวัดอัตราสิ้น‌เปลืองน้ำมันเชื้อเพลิง
ระบบแสดง‌ตำแหน่งเกียร์ ระบบเปิดปิดประตูท้ายแบบ‌ไฟฟ้า



ภายในรุ่น GLX

แต่ที่น่าเสียใจคือ รุ่น GA ซึ่งเป็นรุ่น‌เกียร์อัตโนมัติรุ่นต่ำสุด
ซึ่งคาดว่าราคาน่า‌จะอยู่ที่ 4. แสนบาทต้นๆ นั้นต้องบอกว่า ‌ออปชั่น
น้อยทีเดียว เรียกว่ารุ่นประหยัด ‌เริ่มตั้งแต่แผงหน้าปัด
ที่ไม่มีมาตรวัดรอบ ‌มีแต่มาตรวัดความเร็วเท่านั้น ไม่มีปุ่ม‌สตาร์ท
มีแต่รีโมทเซ็นทรัลล็อก แต่ที่ดูแย่‌ที่สุด คือไม่มี "วิทยุ" ครับ เรียกว่าขับกัน‌ไปแบบเงียบๆ คนเดียวไปเลย


ส่วนรุ่น GL กับ GLX นั้นค่อนข้าง‌จะใกล้เคียงกันครับ
คือมีระบบปุ่มสตาร์ท ‌แต่ GLX ซ่ึงเป็นรุ่นท็อป ของสวิฟท์ ใหม่‌นั้น
มีออปชั่นมาเพียบ ทั้งระบบปรับอากาศ‌แบบอัตโนมัติ พวงมาลัย 3
ก้านหุ้มหนังมัล‌ติฟังก์ชั่น กระจกมองข้างพร้อมไฟเลี้ยวใน‌ตัว และล้อแม็กซ์
ขนาด 16 นิ้ว ส่วนรุ่น ‌GA กับ GL นั้นเป็นล้อกระทะขนาด 15 ‌นิ้ว



ลายล้องามๆ ของรุ่น GLX

ส่วนระบบเครื่องเสียงของ GL และ ‌GLX นั้นไม่มีปัญหาครับ
คือเป็นเครื่อง‌เสียงแบบ 2 DIN MP3 ,CD ,USB ‌แต่ไม่มี AUX
พร้อมลำโพงคู่หน้า-หลัง


ก้าวเข้ามาภายในตัวรถ บอกได้คำเดียว‌เลยครับว่า สุดยอด มาก
ทั้งในเรื่องของ‌ความสวยงาม คุณภาพของวัสดุภายใน
‌รวมถึงคุณภาพในการประกอบดูดีมากที‌เดียว เหนือกว่า นิสสันมาร์ช และ ฮอนด้า
‌บรีโอ้ ค่อนข้างมากทีเดียว
คุณภาพอุปกรณ์‌ภายในนั้นแทบจะเรียกได้ว่าใกล้เคียงกับ‌รถยนต์นั่งขนาดกลาง
เลยทีเดียวครับ ถือว่า‌เป็นเรื่องที่ดีครับ เพราะจะได้ทำให้รถใน‌ระดับนี้
"พัฒนา" คุณภาพวัสดุ และการ‌ประกอบดีขึ้นไปเรื่อยๆ



พวงมาลัยหุ้มหนัง โดนใจมาก!!

พวงมาลัยหนัง 3 ก้าน ของรุ่น GLX ‌หรือรุ่นท็อป นั้นดูดี มีสกุลมากครับ
ด้าม‌เกียร์ คันเกียร์ ก็หุ้มหนัง ที่แม้ว่าจะเป็น‌หนังเทียม
แต่ก็ทำให้รถดูหรู มีราคาขึ้นมา‌มากทีเดียว เอาเป็นว่าผมชอบครับ
แถม‌ชอบมากเสียด้วย


ขยับตัวให้เข้าที่เข้าทาง ทำให้รู้ว่า‌เบาะของสวิฟท์ใหม่
นั้นมีขนาดหนาไม่‌น้อยทีเดียวครับ
แน่นอนว่าจะช่วยให้ไม่‌เมื่อยล้าในขณะที่ขับ และนั่งโดยสาร
ปรับ‌ตำแหน่งพวงมาลัย ที่สามารถปรับระดับได้ ‌4 ทิศทาง
กระจกมองข้างแบบไฟฟ้า ‌กระจกมองหลังขยับให้เหมาะกับระดับ‌สายตา
ก็เริ่มลองขับกันเลยดีกว่า


กดปุ่มสตาร์ทเลยครับ ส่วนตัวกุญแจก็‌เก็บไว้ในกระเป๋าให้ดี
เสียงเครื่องยนต์‌กระหึ่มขึ้นมาทันที ขยับเกียร์ไปอยู่ตำแหน่ง ‌D
สวิฟท์ใหม่ เคลื่อนตัวออกไปแบบนุ่ม‌นวลและราบรื่น



ปุ่มสตาร์ท

การขับในช่วงแรกเป็นการขับช่วงใน‌เมืองครับ เครื่องยนต์ K12B/4 สูบ 16
‌วาล์ว VVT ขนาด 1,242 ซีซี 91 แรง‌ม้า ที่รอบเครื่องยนต์ 6000 รอบต่อนาที
‌และระบบเกียร์ CVT ทำงานได้ดีทีเดียว‌ครับ
อัตราเร่งช่วงต้นโดยเฉพาะในช่วง‌ออกตัว โดดเด่นไม่น้อยทีเดียว
เรียกว่าปรู้ด‌ปร้าดทีเดียว ไม่รู้สึกเลยว่านี่คือ รถอีโคคาร์


ความคล่องตัวในการขับในเมือง "ผ่าน‌" แบบสบายๆ เลยครับ ไม่ต้องกลัวว่าจะ‌อืดอาด หรือด้อยกว่ารถที่มีขนาดเครื่องที่‌ใหญ่กว่า หรือ อีโคคาร์ จากค่ายคู่แข่ง


ผมมุดไปมุดมา อย่างสนุกมือสนุกเท้า ‌เลยทีเดียว
ขนาดตัวรถที่ไม่เล็กไม่ใหญ่ ‌เพราะจะว่าไปแล้วขนาดเดียวกับ ฮอนด้า ‌แจ๊ซ
กับแรงบิดขนาด 118 นิวตันเมตร ที่‌รอบเครื่องยนต์ 4800 รอบต่อนาที
ลงตัว‌มากครั บ เหยียบแล้วพุ่งได้ใจเหมือนกัน



ที่นั่งผู้โดยสารตอนหลัง

พวงมาลัยแบบแร็คแอนด์พีเนี่ยน เบา‌แรงดีครับ แต่รู้สึกว่าเบาไปหน่อย
เมื่อ‌ความเร็วรถเพิ่มขึ้นเป็นความเร็วเกินระดับ ‌120 กม./ ชม.
แต่ก็ยังอยู่ในระดับที่ไว้ใจได้ ‌แต่หากเทียบกับ สวิฟท์ ตัวเก่า ต้องบอกว่า
‌ตัวเก่าพวงมาลัยแม่นกว่าครับ


อัตราเร่งในการใช้งานนอกเมือง หรือ‌ในช่วงความเร็วสูงไม่มีปัญหาใดๆ ครับ
เร่ง‌ขึ้นได้แบบสบายๆ ความเร็วเฉลี่ยที่ผมขับอยู่ก็ระดับ 140 กม./ชม.
พวงมาลัย ช่วงล่าง "นิ่ง" ดีมาก เรียกว่าไว้ใจได้เลยครับ
แต่หากความเร็วเกิน 150 กม./ ชม.แล้ว
อาการร่อนเริ่มแสดงออกมาให้เห็นแล้วครับ


เรื่องอัตราเร่งอยู่ในเกณฑ์ใช้ได้ครับ แต่ที่งงๆ
คือเวลาเร่งเครื่องที่รอบเครื่องยนต์อยู่ที่ประมาณ 4000 รอบต่อนาที
ความเย็นของระบบปรับอากาศจะลดลงทันที
เหมือนกับกำลังเครื่องยนต์มาดึงกำลังของคอมเพรสเซอร์แอร์
ทำให้เวลาขับด้วยความเร็วสูงที่เกินกว่า 140 กม./ ชม. แอร์ไม่ค่อยเย็นครับ
รวมถึงเวลาเร่งแซง ที่จะรู้สึกได้เลยว่าแอร์ จะวูบไปเลย
ซึ่งเรื่องนี้หากเป็นนิสัยของ สวิฟท์ ใหม่ ก็ต้องถือว่าเป็นนิสัยเสียครับ
เพราะคู่แข่งไม่มีใครที่เกิดปัญหานี้



มาตรวัดรุ่น GLX

ขณะที่ช่วงล่างบอกได้เลยว่า "เอาอยู่" ครับ กับความเร็วระดับ 120-140
กม./ชม. แต่ต้องบอกว่าช่วงล่างของสวิฟท์ ใหม่นี้ ค่อนข้างจะนิ่มครับ
ทำให้รู้เลยว่าต้องการเน้นการใช้งานในเมือง ที่ความเร็วไม่สูงนักเป็นหลัก
แต่ความนิ่มของสวิฟท์ ใหม่
นี้ไม่มีปัญหาต่อการใช้งานในระดับความเร็วสูงนะครับ
เพียงแต่ว่าต้องระมัดระวังหน่อย โดยเฉพาะช่วงเข้าโค้งออกจะร่อนๆ
ไปหน่อยครับ


แต่จะว่าไปแล้วเราก็ไม่ควรจะขับรถอีโคคาร์ด้วยความเร็วสูงอย่างนี้หรอก
ครับ แต่ด้วยขนาดตัวถังที่ใหญ่โตเอาการ ทำให้เราเผลอคิดว่าเจ้า สวิฟท์ใหม่
นี้เป็นรถขนาดกลางไปเสียแล้ว


หันมามองในเรื่องของอัตราสิ้นเปลืองกันบ้าง
ช่วงขับในเมืองรถติดๆ ขยับยุกยิกๆ อัตราการสิ้นเปลืองอยู่ระดับ 14 กม./ลิตร
หากขับแบบไปเรื่อยๆ ความเร็วเฉลี่ยประมาณ 100-120 กม./ชม.
อัตราสิ้นเปลืองอยู่ที่ 17-19 กม./ลิตร แต่หากขับแบบผมที่ความเร็วเฉลี่ยที่
140 กม./ชม. อัตราสิ้นเปลืองอยู่ที่ประมาณ 15 กม./ลิตร
ซึ่งก็ไม่ได้เด่นไปกว่าคู่แข่ง



สนนราคาตอนนี้ ยังไม่แน่นอนครับ แต่คาดว่ารุ่น GA จะอยู่ที่เกือบ
4.5 แสนบาท GL ก็ไหลไป 4.8 แสนบาท และ GLX ก็ 5 แสนกว่าบาท
ซึ่งน่าสนใจไม่น้อยครับ เมื่อเทียบกับคุณภาพ ออปชั่น
และสมรรถนะของเครื่องยนต์



หากให้สรุปในวันนี้ ผมว่า สวิฟท์ใหม่ นี้
ได้สร้างประวัติศาสตร์หน้าใหม่ให้กับวงการรถยนต์อีโคคาร์
บ้านเราได้เป็นอย่างดี ในเรื่องของคุณภาพของตัวรถ คุณภาพการผลิต การประกอบ
และคุณภาพของวัสดุ ที่เชือว่าจะทำให้ค่ายรถยนต์ค่ายอื่นๆ
ต้องปรับปรุงตัวเองอย่างเร่งด่วน


ถามว่าน่าใช้มั้ย ผมไม่รู้ครับ รู้แต่ว่า ผมต้องเตรียมที่จอดรถไว้ให้ สวิฟท์ ใหม่นี้แน่นอน.......








เครื่องยนต์ 1.2 ลิตร





พื้นที่เก็บสัมภาระด้านหลังไม่ใหญ่นัก





เบาะหลังพับได้ แต่ไม่ราบไปกับพื้น





ปุ่มกดเปิดล็อกประตู





ภายในรุ่น GA ไม่มีวิทยุ!!





ไม่มีมาตรวัดรอบกับรุ่น GA


//www.posttoday.com/


Create Date : 03 มีนาคม 2555
Last Update : 3 มีนาคม 2555 13:51:37 น. 0 comments
Counter : 5844 Pageviews.  

ชื่อ : * blog นี้ comment ได้เฉพาะสมาชิก
Comment :
  *ส่วน comment ไม่สามารถใช้ javascript และ style sheet
 

ข่าวดี
Location :


[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 55 คน [?]










ติดตามข้อมูลของเว็บทาง twitter ได้ที่ @karnoi กด
ติดตามข้อมูลเว็บทาง FaceBook กด







Online Users


New Comments
[Add ข่าวดี's blog to your web]