ในวงการเพลงไทยสมัยก่อน เวลาเขาเอาเพลงลูกกรุงเก่าๆ มาทำขายใหม่ มักจะมีการใช้คำว่า "อภิมหาอมตะนิรันดร์กาล" มาขยายความถึงคุณค่าของเพลงเก่าๆ เหล่านั้นว่ามีความเป็นอมตะ แม้เวลาผ่านไปนานแค่ไหนก็ยังฟังไพเราะ แต่ถ้าเอาคำนี้มาใช้พูดถึงสถานที่ท่องเที่ยวประเภทน้ำตก ผมว่า "น้ำตกสาริกาและนางรอง" สองน้ำตกชื่อดังแห่งเมืองนครนายก น่าจะใกล้เคียงกับการเป็นน้ำตกอภิมหาอมตะนิรันดร์กาลอยู่มากเลยล่ะครับ ..... เพราะทั้งสองแห่งเป็นน้ำตกเก่าแก่ซึ่งเคยเป็นที่นิยมมากในสมัยก่อน แม้ในช่วงหลังๆ ดูเหมือนจะไม่เป็นที่กล่าวถึงกันมากนัก แต่ก็ยังคงคุณค่าในการท่องเที่ยว และยังมีนักท่องเที่ยวทุกเพศทุกวัย เดินทางไปเที่ยวกันอย่างสม่ำเสมอโดยเฉพาะในช่วงวันหยุดสุดสัปดาห์ ผมเองเคยไปเที่ยวน้ำตกสองแห่งนี้มาแล้วเมื่อหลายปีก่อน แต่หลังจากนั้นก็ยังไม่มีโอกาสได้กลับไปอีกเลย พอดีวันเสาร์ปลายเดือนกันยายนที่ผ่านมาผมมีเวลาว่าง ก็เลยถือโอกาสพาสองเด็กดื้อไปเที่ยวรำลึกถึงความหลังกันที่น้ำตกสาริกาและนางรองครับ .....+++ วันนี้ไปเที่ยวสองน้ำตกอภิมหาอมตะนิรันดร์กาลด้วยกันนะครับ +++ เราออกเดินทางกันตั้งแต่เช้า เพราะผมตั้งใจจะไปเก็บภาพสายน้ำตกสวยๆ แบบพริ้วนุ่ม ซึ่งถ้าไปช่วงสายมากๆ แสงแดดจะแรง และบริเวณน้ำตกก็จะเต็มไปด้วยนักท่องเที่ยว ทำให้ถ่ายภาพได้ยาก ไปถึงเช้าๆ หน่อยน่าจะดีกว่า จากปราจีนบุรีบ้านผมไปถึงนครนายกใช้เวลาเดินทางแค่เพียงครึ่งชั่วโมง เราก็มาถึงน้ำตกแห่งแรกกันแล้ว วันนี้เราจะแวะเที่ยวที่ "น้ำตกสาริกา" กันก่อน เสร็จแล้วช่วงบ่ายจึงจะไปเที่ยวน้ำตกนางรองกันต่อ ..... ไปถึงน้ำตกสาริกาประมาณสิบโมงเช้า ยังมีนักท่องเที่ยวมาเที่ยวกันไม่มากนัก เราจอดรถไว้ที่ลานจอดรถในพื้นที่ของเอกชนเพราะอยู่ใกล้ทางเข้าน้ำตกมากที่สุด ต้องเสียค่าจอดรถคันละ 40 บาท ถ้าใครไม่อยากเสียเงินก็สามารถจอดรถในพื้นที่ด้านนอกๆ ได้ แต่ก็ต้องเดินไกลหน่อย และเนื่องจากน้ำตกสาริกาอยู่ในเขตอุทยานแห่งชาติเขาใหญ่ ก่อนเข้าไปเที่ยวจะต้องเสียค่าธรรมเนียมคนละ 40 บาท เหมือนเวลาผ่านขึ้นไปเที่ยวเขาใหญ่ .....+++ จุดเริ่มต้นทางเดินขึ้นไปชมน้ำตกสาริกา มองเห็นตัวน้ำตกอยู่ไกลลิบๆ ++++++ ลำธารน้ำตกด้านล่าง ถูกแสงแดดตกกระทบเป็นหย่อมๆ มีความเปรียบต่างของแสงมาก เลยถ่ายภาพแล้วไม่สวย +++ "น้ำตกสาริกา" เป็นน้ำตกขนาดใหญ่ที่ได้ชื่อว่าสูงและสวยที่สุดในภาคกลาง มีความสูงถึง 9 ชั้น ชั้นล่างสุดเป็นน้ำตกชั้นเตี้ยๆ ตกลงสู่อ่างน้ำธรรมชาติ นักท่องเที่ยวนิยมลงเล่นน้ำที่ชั้นนี้ ส่วนชั้นที่สูงที่สุดคือชั้นสองซึ่งจะเห็นสายน้ำ ตกจากหน้าผาสูงประมาณ 200 เมตร ทางเดินขึ้นไปสู่น้ำตกชั้นสอง จะทำเป็นเป็นบันไดปูน เดินขึ้นได้อย่างสะดวกสบาย นักท่องเที่ยวสามารถเดินขึ้นไปเที่ยวได้ตั้งแต่ชั้นที่ 1-4 ส่วนชั้นบนๆ ขึ้นไปกว่านั้นทางเดินเป็นป่ารกชัฏ ต้องมีคนนำทาง เลยไม่ค่อยมีใครนิยมเดินต่อไปชม ผมเองก็ขึ้นไปถึงแค่น้ำตกชั้นที่สองเท่านั้นเอง .....+++ น้ำตกสาริกาชั้นหนึ่ง สายน้ำไหลลงมารวมกันเป็นแอ่งน้ำน่าเล่น ++++++ อีกมุมหนึ่งของน้ำตกสาริกา ++++++ ดื้อเล็กระหว่างทางเดินขึ้นไปชมน้ำตกสาริกาชั้นสอง ++++++ ในที่สุดเราก็มาถึงน้ำตกสาริกาชั้นสอง ซึ่งเป็นชั้นที่สวยและสูงที่สุด ++++++ เก็บภาพเป็นที่ระลึกกันหน่อย ++++++ อีกภาพครับ +++ ออกจากน้ำตกสาริกาก็ใกล้เที่ยงแล้ว เราแวะทานอาหารกลางวันกันที่ร้านก๋วยเตี๋ยวชื่อดังในย่านนี้ นั่นก็คือ "ร้านก๋วยเตี๋ยวเรือกะลาลุงเผ่า" การเดินทางใช้เส้นทางที่จะมุ่งหน้าไปน้ำตกนางรอง แต่ให้เลี้ยวขวาไปทางเขื่อนขุนด่านปราการชล แล้วแยกเข้าซอยเล็กๆ ที่จะเข้าสู่หญ้างามรีสอร์ต ร้านก๋วยเตี๋ยวอยู่สุดทาง จุดเด่นของร้านนี้คือ จะใช้กะลามะพร้าวมาดัดแปลงทำเป็นภาชนะใส่ก๋วยเตี๋ยวและเครื่องปรุง ดูสวยงามแปลกตาและประหยัดค่าใช้จ่ายได้เป็นอย่างดี ..... ร้านนี้มีขายทั้งก๋วยเตี๋ยวเนื้อและก๋วยเตี๋ยวหมู รวมทั้งพวกลวกจิ้มเนื้อรวม จิ้มกับน้ำจิ้มแจ่วสูตรเด็ด นอกจากนี้ยังมีอาหารอื่นๆ ให้เลือกทานเช่น ยำรวมมิตรทะเล ยำผลไม้ ส้มตำปูดอง และขนมหวาน บรรยากาศในร้าน จะเป็นแบบบ้านในสวน ปลูกไม้ดอกไม้ผลร่มรื่น มีศาลาให้นั่งทานอาหารสร้างคร่อมอยู่บนบ่อที่เลี้ยงปลาคาร์ฟสีสวยไว้เต็มบ่อ เด็กๆ ตื่นเต้นกับเจ้าปลาสีสวยพวกนี้กันมากเลยล่ะครับ .....+++ สองเด็กดื้อหน้าทางเข้าร้านก๋วยเตี๋ยวเรือกะลาลุงเผ่า ++++++ วันนี้จะพามาชิมก๋วยเตี๋ยวเรือกะลาลุงเผ่ากันครับ ++++++ เราเลือกทำเลนั่งทานก๋วยเตี๋ยวบริเวณริมบ่อปลาคาร์ฟ ++++++ นั่งทานก๋วยเตี๋ยวไปดูปลาคาร์ฟสีสวยๆ ไป ก็เพลินดีเหมือนกัน ++++++ จุดเด่นของร้านนี้ก็คือชามก๋วยเตี๋ยวทำด้วยกะลามะพร้าวแบบนี้ ++++++ เริ่มเมนูแรกเป็นออเดิร์ฟกันก่อนกับอาหารหาทานยากอย่าง "ถุงทอง" ++++++ ตามด้วยปอเปี๊ยะทอดกรอบอร่อย ++++++ ลวกจิ้มเนื้อรวม พร้อมน้ำจิ้มแจ่วสูตรเด็ด ++++++ อาหารจานหลักมาแล้ว กับก๋วยเตี๋ยวเรือกะลารสเด็ด ++++++ เชิญนั่งล้อมวงมาทานด้วยกันเลยครับ +++ ช่วงบ่ายหลังทานอาหารกลางวันกันเรียบร้อยแล้ว ผมก็พาสองเด็กดื้อไปเที่ยวกันต่อที่ "น้ำตกนางรอง" อีกหนึ่งน้ำตกดังประจำเมืองนครนายก เป็นน้ำตกขนาดกลางที่ไหลลดหลั่นลงมาเป็นชั้นๆ ไม่สูงนัก แต่ละชั้นมีแอ่งน้ำขนาดใหญ่และเล็กรองรับน้ำที่ไหลลงมา มีความสวยงามเป็นธรรมชาติ มีน้ำมากในช่วงฤดูฝน น้ำตกแห่งนี้ดูแลและบริหารจัดการโดยองค์การบริหารส่วนจังหวัดนครนายก เราต้องเสียค่าบำรุงสถานที่เป็นค่ารถยนต์พร้อมคนขับรวม 50 บาทและผู้โดยสารอีกคนละ 10 บาท ..... วันหยุดสุดสัปดาห์แบบนี้ มีนักท่องเที่ยวมาเที่ยวและเล่นน้ำที่น้ำตกนางรองกันเป็นจำนวนมาก แต่จะเล่นได้เฉพาะด้านล่างๆ ของน้ำตก ส่วนบริเวณน้ำตกชั้นบนสุดตรงจุดชมวิวจะไม่ให้ลงเล่นเพราะช่วงหน้าฝนแบบนี้กระแสน้ำค่อนข้างแรง จะไม่ปลอดภัยกับตัวนักท่องเที่ยวเอง จากบริเวณลานจอดรถ ต้องออกแรงเดินขึ้นไปตามทางราดยางอีกประมาณ 300 เมตร จึงจะถึงตัวน้ำตกชั้นบนสุด ซึ่งที่จุดนี้จะมีสะพานเหล็กทอดตัวข้ามไปเหนือสายน้ำตกด้านหน้า ให้นักท่องเที่ยวได้ชื่นชมความงามของน้ำตกกันอย่างเต็มๆ ตาด้วย .....+++ ระหว่างทางเดินขึ้นไปยังจุดชมวิวน้ำตกนางรอง จะเห็นมอสและเฟิร์นต้นเล็กๆ ขึ้นปกคลุมแนวกำแพงดูชุ่มฉ่ำดี ++++++ น้ำตกนางรองชั้นบนสุด มุมมหาชนจากจุดชมวิวบนสะพานเหล็กที่ทอดข้ามลำธารน้ำตก ++++++ อยากเห็นวิวน้ำตกสวยๆ แบบนี้ ต้องเดินขึ้นมาจากลานจอดรถอีกประมาณ 300 เมตร ++++++ หน้าฝนแบบนี้ กระแสน้ำตกค่อนข้างไหลแรงมากทีเดียว ดังนั้นจึงห้ามลงเล่นน้ำที่น้ำตกชั้นบนสุดจุดนี้ ++++++ เรือนจอมพล ป.พิบูลสงคราม บริเวณจุดชมวิวน้ำตกด้านบน +++ นอกจากที่นี่จะมีน้ำตกสวยๆ ให้ได้ชมกันแล้ว ก็ยังมีดอกไม้ป่านานาพันธุ์และผีเสื้อสีสวยหลากหลายชนิดให้ชมกันด้วย เท่าที่ผมพอจะถ่ายภาพมาได้ก็มีผีเสื้อสะพายขาวปีกโค้ง ผีเสื้อบารอนมลายู ผีเสื้อตาแมวม่วง ผีเสื้อหนอนมะพร้าวธรรมดา ผีเสื้อฟ้าดอกถั่วสีเงิน และยังมีชนิดอื่นๆ ที่ผมถ่ายภาพไม่ทันอีกหลายอย่าง นอกจากนี้ยังมีแมลงปอน้ำตกสีสวยๆ บินไปมาบริเวณลำธารเต็มไปหมด ถ้าใครชอบถ่ายภาพมาโคร มาที่นี่น่าจะพอหา subject ถ่ายภาพได้หลากหลายพอสมควร ตัวผมเองขนาดยังไม่มีเลนส์มาโครก็ยังได้ถ่ายภาพผีเสื้อจนเพลินไปเลยครับ .....+++ "ดอกเทียนน้ำ" สีสวยแบบนี้มีให้ชมกันอยู่ทั่วไปบริเวณใกล้ๆ น้ำตก ++++++ ต้นนี้ไม่ทราบชื่ออะไร แต่มีดอกเล็กๆ สวยดีเหมือนกัน ++++++ ดอกกล้วยไม้ชมพูนครินทร์ ในโครงการคืนกล้วยไม้นามพระราชทานสู่ธรรมชาติ ที่น้ำตกนางรอง ++++++ ผีเสื้อสะพายขาวปีกโค้ง พบอยู่บริเวณริมถนนขึ้นจุดชมวิวน้ำตก ++++++ ผีเสื้อบารอนมลายู กำลังดูดกินผลไม้สุกบนพื้นหญ้าใกล้น้ำตก ++++++ ผีเสื้อหนอนมะพร้าวธรรมดา สีสันสวยแปลกตาดี ++++++ ผีเสื้อฟ้าดอกถั่วสีเงิน เจ้านี่ตัวเล็กจิ๋วมาก ต้องสังเกตดีๆ ถึงจะเจอตัว ++++++ ผีเสื้อตาแมวม่วง เจ้าตัวนี้เจอกันหลายรอบ ไม่ค่อยตื่นคนเท่าไหร่ ++++++ นอกจากผีเสื้อแล้ว ก็ยังมีแมลงปอตัวน้อยให้ชมกันด้วย ++++++ แมลงปอน้ำตกอีกชนิดหนึ่ง +++ ขณะที่ผมเดินถ่ายภาพแมลงและดอกไม้อยู่นั้น สองเด็กดื้อก็กำลังเพลิดเพลินกับการเล่นน้ำตกกันอย่างสนุกสนาน ลำธารด้านล่างๆ ของน้ำตกนางรองน้ำเย็นสบาย เป็นลำธารตื้นๆ และน้ำไหลไม่แรงมากนัก เด็กๆ สามารถลงเล่นน้ำกันได้อย่างปลอดภัย แม้จะเป็นช่วงกลางฤดูฝนแต่วันที่เราไปเที่ยวเป็นวันอากาศดีแดดแรง ค่อนข้างร้อนอบอ้าว ได้เล่นน้ำเย็นชื่นใจแบบนี้สองเด็กดื้อก็เลยสนุกกันจนแทบไม่อยากเลิกเล่น .....+++ สองเด็กดื้อ ลงเล่นน้ำตกกันอย่างสนุกสนาน ++++++ ดื้อเล็กแช่น้ำเล่นเย็นสบาย ++++++ ดื้อใหญ่ก็ชอบมากที่ได้มาเล่นน้ำตกแบบนี้ ++++++ น้ำในลำธารไม่ลึก เด็กๆ เล่นกันได้อย่างปลอดภัย +++ จากการที่ผมได้ไปสัมผัสกับบรยากาศของน้ำตกสาริกาและนางรองในคราวนี้ ก็พบว่าน้ำตกทั้งสองแห่งยังเป็นที่นิยมของบรรดานักท่องเที่ยวที่ต้องการมาเที่ยวพักผ่อนใกล้ชิดธรรมชาติ เห็นได้จากจำนวนคนที่ผมพบที่น้ำตกทั้งสองแห่งช่างมากมายเหลือเกิน และผมคิดว่าคงจะไม่เป็นการกล่าวเกินเลยไป ถ้าจะบอกว่าน้ำตกสองแห่งนี้เป็น "น้ำตกอภิมหาอมตะนิรันดร์กาล" ซึ่งจะยังคงความเป็นอมตะในแวดวงการท่องเที่ยวไปอีกนานแสนนาน สำหรับทริปนี้ของผมก็คงต้องขอจบเพียงเท่านี้ ไว้พบกันใหม่ทริปหน้า สวัสดีครับ .....
ขอตามเที่ยวสาริกา-นางรอง สองน้ำตกอภิมหาอมตะนิรันดร์กาล ด้วยคนค่ะ
บรรยากาศดี อาหารน่าทาน ถ่ายภาพได้สวยค่ะ
คืนนี้นอนหลับฝันดีนะค่ะ