++Santorini park (ซานโตรินี่ พาร์ค) ชะอำ ... เที่ยวเมืองไทย สไตล์เมืองนอก++
Santorini เป็นชื่อเกาะที่อยู่ทางตอนใต้ของทะเลอีเจียน ประเทศกรีซ เกาะแห่งนี้นับเป็นแหล่งท่องเที่ยวที่มีความสวยงามติดอันดับโลก หลายๆ คนอาจจะเคยได้เห็นภาพบ้านสีขาวหลังคาโดมสีฟ้า แทรกตัวอยู่ในหมู่อาคารสีขาวที่สร้างลดหลั่นกันไปริมหน้าผา เห็นทะเลสีครามเข้มเป็นฉากหลัง ภาพนั้นก็คือภาพจาก "หมู่บ้านเอีย" (Oia Village) บนเกาะซานโตรินี่นั่นเอง .....
คนที่ได้เคยผ่านตากับภาพสวยๆ ของหมู่บ้านสีขาวแห่งนั้นมาแล้ว หากคิดอยากจะไปเยือนสักครั้ง ก็คงต้องอาศัยทั้งเวลาและทุนทรัพย์ที่มากพอ ด้วยเหตุนี้จึงมีนักธุรกิจหัวใส ลงทุนสร้าง "Santorini Park" แหล่งช้อปปิ้งขนาดใหญ่ริมถนนเพชรเกษมใกล้ๆ กับชะอำ โดยจำลองแบบมาจากบ้านเมืองบนเกาะซานโตรินี่ ตามกระแสเที่ยวเมืองไทยสไตล์เมืองนอก ที่กำลังเป็นที่นิยมในบ้านเราอยู่ในขณะนี้ .....
+++ Santorini Park ชะอำ แหล่งช้อปปิ้งขนาดใหญ่ที่ได้แรงบันดาลใจมาจากเมืองบนเกาะซานโตรินี่ ประเทศกรีซ +++
"Santorini Park ชะอำ" เปิดตัวอย่างเป็นทางการมาตั้งแต่เดือนพฤษภาคม ปี 2555 นับถึงวันที่ผมไปเที่ยวก็เปิดตัวมาได้หนึ่งปีเต็มแล้ว ผมแวะที่นี่ในช่วงขากลับจากหัวหิน เพราะตั้งอยู่ริมถนนเพชรเกษม ขาเข้ากรุงเทพฯ พอดี ถ้าขับรถมาเอง ผ่านตัวเมืองชะอำมาไม่ไกล ก็จะเห็นชิงช้าสวรรค์ขนาดใหญ่สะดุดตา นั่นแหละครับเป็นแลนด์มาร์คสำคัญที่ช่วยบอกให้รู้ว่าคุณมาถึง Santorini Park แล้ว .....
"ซานโตรินี่ พาร์ค ชะอำ" เป็นแหล่งช้อปปิ้งรูปแบบใหม่ที่มาพร้อมกับสโลแกน Amused Shopping Experience หรือ "สีสันใหม่แห่งประสบการณ์ความสนุก" บนพื้นที่กว่า 60 ไร่ ท่ามกลางสถาปัตยกรรมสีฟ้าขาวที่ได้แรงบันดาลใจมาจากบรรยากาศอันงดงามของเกาะซานโตรินี ภายในโครงการเป็นการรวมเอาร้านค้าชั้นนำที่มีสินค้าสไตล์เฉพาะตัว, งานศิลปะ และสวนสนุกเข้าไว้ด้วยกัน เรียกว่าไปที่เดียวก็เที่ยวได้ครบวงจรเลยทีเดียว .....
+++ Santorini Park ตั้งอยู่ริมถนนเพชรเกษม ขาเข้ากรุงเทพฯ เลยทางแยกไปชะอำมาไม่ไกล +++
+++ รูปแบบสถาปัตยกรรมในโครงการ จะเน้นโทนสีขาว-ฟ้า เป็นส่วนใหญ่ +++
+++ ในวันที่ผมไปเที่ยว ที่นี่เขาก็เปิดบริการอย่างเป็นทางการมาได้ครบ 1 ปีเต็มพอดี +++
+++ ภายในโครงการมีทั้งร้านค้า สวนสนุก และงานศิลปะ อย่างครบวงจร +++
+++ หน้าต่างสีสันสดใส สมกับสโลแกนที่ว่า "สีสันใหม่แห่งประสบการณ์ความสนุก" +++
นอกจาก "ตัวอาคารสีขาว-ฟ้า" แล้ว ภายในโครงการยังมีกิมมิคต่างๆ ซึ่งเป็นเอกลักษณ์ที่พบเห็นได้บนเกาะซานโตรินี่ เช่น ทางเดินลายก้อนหินที่จะแทรกตัวอยู่ทั่วทั้งโครงการ ผสานเข้ากับลูกเล่นหลากหลายที่เสริมเข้าไป ไม่ว่าจะเป็นน้ำพุ งานประติมากรรมที่ใช้สอยได้ ทำให้นักท่องเที่ยวสามารถเพลิดเพลินไปกับการบันทึกภาพประทับใจอย่างมีความสุขในทุกบริเวณ โดยก่อนจะเข้าไปชมด้านใน เราก็ต้องซื้อบัตรเข้าชมเหมือนกับที่เที่ยวแห่งอื่นๆ ในราคาผู้ใหญ่คนละ 50 บาท เด็กสูงไม่เกิน 1 เมตรเข้าชมฟรี .....
+++ หลังจากเสียค่าเข้าคนละ 50 บาทแล้ว ก็ต้องแวะถ่ายภาพกับป้าย Logo ซานโตรินี่ พาร์คกันก่อน +++
+++ "Ferris Wheel" ชิงช้าสวรรค์ เป็นแลนด์มาร์คสำคัญและใช้เป็น Logo ของ Santorini Park ด้วย +++
+++ ชิงช้าสวรรค์แห่งนี้ นำเข้าจากประเทศอิตาลี มีความสูงถึง 40 เมตร +++
+++ ค่าขึ้นชิงช้าสวรรค์ คนละ 120 บาท หมุนประมาณ 3 รอบ +++
+++ น้ำตกจำลอง ใกล้ๆ ชิงช้าสวรรค์ ช่วยเพิ่มความสดชื่นได้มากเลยทีเดียว +++
+++ ตู้ไปรษณีย์สีแดงสด รูปทรงสวยงามสะดุดตามาก +++
+++ สองเด็กดื้อยังสนุกได้ แม้อากาศในวันนั้นจะค่อนข้างร้อนจัด +++
+++ ราคาอาหารที่นี่จัดว่าแพงเอาเรื่อง อย่างเช่น "ข้าวหมูย่าง" อาหารกลางวันของผมจานนี้ราคา 85 บาท +++
ภายในซานโตรินี่ พาร์ค แบ่งพื้นที่ออกเป็น 5 โซนหลัก ได้แก่ โซนวิลเลจ (Village) ซึ่งได้รวบรวมร้านค้าที่ตอบสนองความต้องการและความชอบได้ทุกเพศทุกวัย, โซนพาร์ค (Park) ที่ยกเอาสวนสนุกขนาดย่อมมาไว้บนพื้นที่สีเขียว เครื่องเล่นทุกชิ้นผ่านการคัดสรรมาอย่างดีในแง่ความสนุก ความแปลกใหม่ และความปลอดภัย, โซนอีเว้นท์ (Event) ซึ่งจัดให้เป็นพื้นที่สำหรับจัดกิจกรรมผลัดเปลี่ยนหมุนเวียนตลอดปี ทั้งกิจกรรมพิเศษ โชว์ต่าง ๆ บนพื้นที่กว่า 3,000 ตารางเมตร หรือคอนเสิร์ตที่จุผู้ชมได้ถึง 2,000 ที่นั่ง และ 5,000 คนยืน .....
โซนวีคเอนด์ อาร์ต มาร์เก็ต (Weekend Art Market) จัดขึ้นทุกวันเสาร์-อาทิตย์ คนรักงานศิลปะจะได้เพลิดเพลินไปกับการเลือกซื้อสินค้าแฮนด์เมดที่ไม่เหมือนใคร ในบรรยากาศตลาดนัดในสวน และท้ายสุดกับ โซนเรสต์ แอเรีย (Rest Area) ที่ออกแบบมาเพื่อรองรับความต้องการของผู้มาใช้บริการภายในพาร์ค และผู้ที่สัญจรจากจังหวัดทางภาคใต้มุ่งหน้าสู่กรุงเทพฯ ด้วยร้านอาหารที่รอพร้อมเสิร์ฟกว่า 10 ร้าน ทั้งยังมีร้านสะดวกซื้อ ร้านขายของฝาก ร้านขายยา และปั๊มน้ำมันขนาด 8 หัวจ่ายไว้บริการด้วย .....
+++ โซนวิลเลจ เป็นโซนที่รวบรวมร้านค้าไว้หลากหลายชนิด สำหรับทุกเพศทุกวัย +++
+++ ตัวอาคารสีขาว กับประตูและหน้าต่างสีฟ้า ดูสวยงามลงตัวมากๆ +++
+++ น่าเสียดายที่ไม่ค่อยมีต้นไม้ใหญ่ไว้ให้หลบร้อนเท่าไหร่ +++
+++ ถ้าไปเดินเที่ยวในวันที่แดดแรงๆ อากาศจะร้อนเอาเรื่องเลยทีเดียว +++
+++ มีงานศิลปะสวยๆ แทรกตัวอยู่ท่ามกลางหมู่อาคารด้วย +++
+++ หน้าร้าน Converse เพ้นท์สีเป็นรูปรองเท้าผ้าใบ สวยดีเหมือนกัน +++
+++ ทางเดินลายก้อนหินแบบนี้ ถือเป็นเอกลักษณ์หนึ่งที่พบเห็นได้บนเกาะซานโตรินี +++
+++ แม้คนจะไปเที่ยวกันเยอะ แต่เพราะพื้นที่เขากว้างขวาง ทำให้เที่ยวได้สบายไม่แน่นอึดอัดจนเกินไป +++
+++ อีกหนึ่งงานศิลปะแบบแนวๆ ในโครงการ +++
+++ ตามผนังอาคาร จะตกแต่งเป็นมุมสวยๆ ไว้ให้นักท่องเที่ยวถ่ายภาพกันด้วย +++
+++ มุมนี้มีคนมารอถ่ายภาพกันเยอะมาก +++
+++ ใครชอบถ่ายภาพ มาที่นี่รับรองถูกใจแน่ๆ +++
+++ ผนังตึกสวยๆ แบบนี้ มีให้เห็นได้ทั่วไปในซานโตรินี่ พาร์ค +++
+++ หลายๆ คนก็สนุกกับการหามุมถ่ายภาพเก๋ๆ +++
+++ มุมนั้นก็สวย มุมนี้ก็น่ารัก +++
+++ ดื้อเล็กขอเลือกมุมถ่ายภาพของตัวเอง +++
+++ ตุ๊กตาแมวบิน อยู่บริเวณทางเข้าห้องน้ำแห่งหนึ่ง +++
+++ ภายในห้องน้ำชาย ออกแบบมาได้สวยหรูดูดีมากๆ +++
ถ้าใครเดินช็อปปิ้งจนเบื่อแล้ว อยากจะสนุกกับ "เครื่องเล่น" ต่างๆ ที่นี่ก็มีให้เลือกเล่นหลากหลายชนิด ตั้งแต่ Ferris Wheel ชิงช้าสวรรค์ที่สูงถึง 40 เมตร ให้นักท่องเที่ยวได้เห็นโครงการในมุม Birds eye view อย่างจุใจ นอกจากนั้นยังมี Merry Go Round หรือ ม้าหมุน 2 ชั้น และ Ponycycles ม้าโยกสุดคลาสสิก ที่ต้องออกแรงโยกกันนิดหน่อยเพื่อให้ม้าเคลื่อนที่ไปได้ .....
และสำหรับผู้ที่รักความ "ตื่นเต้น" ก็มีเครื่องเล่นหลากหลาย ไม่ว่าจะเป็น G-Max Reverse Bungee แคปซูลดีดขึ้นฟ้า และ G-Max Giant Swing, Wallholla เครื่องเล่นปีนป่ายที่มีรางวัลการันตีจากประเทศเนเธอร์แลนด์ รวมถึง XD Dark Ride เครื่องเล่น7D สุดไฮเทค และ 4DX Rider โรงภาพยนตร์สุดยอดประสบการณ์ 4 มิติ น่าเสียดายที่ราคาค่าเล่นเครื่องเล่นแต่ละอย่างค่อนข้างจะสูงไปหน่อย โดยส่วนใหญ่จะเริ่มต้นที่ราคา 120 บาท และบางอย่างราคาสูงถึง 480 บาทก็มี .....
+++ Wallhola กำแพงตัวหนอน เครื่องเล่นนำเข้าจากเนเธอร์แลนด์ (เล่นฟรีไม่เสียค่าบริการ)+++
+++ Flying Swinger ม้าหมุนลอยฟ้า ค่าเล่น 120 บาท +++
+++ Marry-Go-Round ม้าหมุนสองชั้น ค่าเล่น 120 บาท หมุนนาน 5 นาที +++
+++ มุมถ่ายภาพสวยๆ ในโซนพาร์ค +++
+++ ดื้อใหญ่กับพร็อบสำหรับถ่ายภาพอีกแห่งหนึ่ง +++
+++ ปลาหมึกพ่นน้ำ งานประติมากรรมที่มีทั้งความสวยงามและประโยชน์ใช้สอย +++
+++ รูปปั้นงูหลายหัวตัวนี้ เดาว่าน่าจะเป็น "ไฮดรา" สัตว์ประหลาดในตำนานกรีก +++
"ซานโตรินี่ พาร์ค ชะอำ" เป็นอีกหนึ่งแหล่งท่องเที่ยวที่จำลองแบบมาจากเมืองสวยๆ ในต่างประเทศ ซึ่งเป็นแนวที่กำลังเป็นที่นิยมในบ้านเราอยู่ขณะนี้ และผมเชื่อว่าจะยังมีโครงการใหม่ๆ แนวนี้สร้างขึ้นมาอีกเรื่อยๆ หากใครยังไม่เบื่อเที่ยวเมืองไทยสไตล์เมืองนอกแบบนี้ ถ้าผ่านไปเที่ยวแถวชะอำ-หัวหิน ก็ลองแวะเข้าไปเที่ยว Santorini Park กันดูได้ แต่ภายในโครงการไม่ค่อยมีร่มเงาให้หลบร้อนกันเท่าไหร่ ถ้าจะให้ดีควรเตรียมร่มหรือหมวกปีกกว้าง และทาครีมกันแดดไว้ให้พร้อม จะได้เดินเที่ยวได้อย่างสบายใจสบายตัว สำหรับทริปนี้ก็คงคงต้องขอจบเพียงเท่านี้ ไว้พบกันใหม่ทริปหน้า สวัสดีครับ .....
+++ ลากันไปด้วยภาพมุมสวยๆ ใน Santorini Park ก็แล้วกันนะครับ สวัสดีครับ +++
สถานที่ตั้ง : "Santorini Park" ตั้งอยู่ริมถนนเพชรเกษมขาเข้ากรุงเทพฯ บริเวณหลักกิโลเมตรที่ 198 จ.เพชรบุรี ให้สังเกตุชิงช้าสวรรค์ขนาดใหญ่ซึ่งจะมองเห็นได้แต่ไกล โทร. (032)772997 เวลาเปิดบริการ : จันทร์ - ศุกร์ : 10.00 - 20.00 น. ,เสาร์ : 09.00 - 21.00 น., อาทิตย์ : 09.00 - 20.00 น.
ค่าเข้าชม : ผู้ใหญ่ 50 บาท (ทุกวัน), เด็กสูงไม่เกิน 1 เมตร เข้าฟรี
|
Create Date : 17 มิถุนายน 2556 |
|
95 comments |
Last Update : 26 มีนาคม 2557 0:33:36 น. |
Counter : 16121 Pageviews. |
|
|
|