space
space
space
 
สิงหาคม 2559
 
 123456
78910111213
14151617181920
21222324252627
28293031 
space
space
2 สิงหาคม 2559
space
space
space

IELTS Reading -top 5 tips พิชิต ielts



IELTS Reading -top 5 tips พิชิต ielts







ในคลิปนี้เราจะมาพูดถึง เทคนิคในการเพิ่มคะแนนในการสอบ IELTS ในพาร์ท Reading กันค่ะ แต่ก่อนที่เราจะไปเรียนรู้เทคนิคยากๆ ที่ต้องใช้ความพยายามในการจำศัพท์ หรือ เรียนรู้ไวยากรณ์ที่ซับซ้อน เราควรทำความรู้จักกับ “กับดัก 5 ข้อ ในการทำข้อสอบ IELTS  Reading” ซึ่งถ้าเรารู้ทัน คะแนน IELTS ของ Part Reading ก็จะเพิ่มขึ้นโดยที่แทบจะไม่ต้องทำอะไรเลยค่ะ

กับดักข้อแรก “อ่านใจเย็น” ในการอ่าน เราต้องใช้ทักษะในการอ่านทั้ง การอ่านคร่าวๆ หรือแม้กระทั่งการอ่านเพื่อเก็บรายละเอียด

การอ่านใจเย็นเกินไป ในที่นี้ก็คือ ค่อยๆ อ่านทีละบรรทัด โดยที่เราลืมว่าเราใช้เวลาในการอ่านไปมากแค่ไหน หรืออ่านไปเรื่อยๆ ไม่ได้โฟกัสว่าต้องการข้อมูลอะไรจากการอ่าน หรือบางคนอาจทำข้อสอบไล่ไปทีละข้อคำถาม แล้วไปหาคำตอบ แต่ตอบคำถามนั้นไม่ได้ ก็ติดอยู่กับข้อนั้นจนเสียเวลาไปเปล่าๆ

อย่าลืมนะคะว่า การสอบพาร์ท Reading จะไม่ได้มีเวลาให้เรา Transfer คำตอบเหมือนการทำข้อสอบในพาร์ท Listening นะคะ ดังนั้นเราควนเผื่อเวลาในส่วนนั้นด้วยค่ะ

ข้อต่อไป “ข้อแรกง่าย ข้อหลังยาก” บางคนอาจเสียเวลากับข้อสอบข้อแรกไปเยอะแล้ว พอทำข้อสอบข้อหลังๆ ซึ่งควรใช้เวลาในการทำนานกว่า เพราะข้อสอบยากกว่า กลับต้องทิ้งเวลาไปเปล่าๆ โดยไม่ได้คะแนน ซึ่งหากมีเวลา เราก็จะทำคะแนนทันพอดีค่ะ

โดยเฉลี่ยแล้ว การสอบจะให้เวลาเราสำหรับพาร์ทนี้คือ 60 นาที ข้อสอบมี 3 Section เฉลี่ย Section ละ 20 นาที ค่ะ หากข้อสอบข้อแรกๆ ง่ายกว่า เราควรทำให้เสร็จก่อน 20 นาที จะได้มีเวลาทบไปทำในข้อหลังๆ มากขึ้น และมีเวลามากกว่า 20 นาทีในการทำข้อสอบค่ะ ซึ่งถ้าเราสามารถทำข้อสอบครบทุกข้อ คะแนนก็จะเพิ่มขึ้นแน่นอนค่ะ

กับดักข้อที่สาม จะอยู่ในคำถามประเภทว่า ให้เติมคำตอบแล้วบอกคำสั่ง เช่น “no more than two words” หรือ “no more than three words” หรือ “Three words or less” ซึ่งคำสั่งบอกมาว่า ห้ามเขียนคำตอบเกิน 3 คำ ดังนั้น เราต้องตอบตามที่ข้อสอบสั่งค่ะ โดยคำศัพท์ที่เราจะเอามาใช้เป็นคำตอบก็มาจากใน Passage ที่ข้อสอบให้มานี่แหละค่ะ แต่เปลี่ยนรูปแบบ เช่น ใน Passage อาจเป็นประธานของประโยค แต่พอเราจะเอามาเป็นคำตอบอาจต้องเปลี่ยนรูปเป็นกรรม หรือ อาจอยู่ในรูปแสดงความเป็นเจ้าของ แต่คำศัพท์ส่วนใหญ่ก็จะอยู่ใน Passage เราเพียงแค่เลือกคำศัพท์มาและใช้จำนวนคำไม่เกินที่คำสั่งระบุ และอย่าลืมว่า Article a, an, the จะนับเป็นหนึ่งคำด้วยนะคะ

กับดักข้อต่อไป เป็นสิ่งที่หลายๆ คนโดนตัดคะแนนกันเยอะ นั่นก็คือ การสะกดคำผิด หรือลืมเติม s เช่น คำตอบต้องอยู่ในรูปพหูพจน์ แต่เราเขียนคำตอบในรูปเอกพจน์ ซึ่งหากเราติดกับดักข้อนี้ก็เป็นสิ่งที่น่าเสียดายมาก เพราะว่า คำถามอาจไม่ยากเลย และเราก็รู้คำตอบ เพียงแค่สะกดคำผิดเท่านั้น

กับดักข้อสุดท้าย ข้อที่ห้า หรับกับดักข้อนี้จะดูง่ายมากๆ เลยค่ะ เป็นสิ่งที่เราไม่ควรจะผิดพลาดเลยนั่นก็คือ “ไม่อ่านคำสั่ง” ค่ะบางคนฝึกทำข้อสอบ IELTS กันค่อนข้างเยอะและคุ้นเคยกับข้อสอบ แต่วันที่สอบจริง มัวกังวลว่าจะทำข้อสอบไม่ทันจนไม่ได้อ่านคำสั่งให้ดี เราไม่ควรประมาท เพราะในการสอบ IELTS คำถามค่อนข้างที่จะละเอียดและมีหลายอย่างมาก เช่น คำสั่งให้เลือกมา 3 ข้อ แต่เราเลือกคำตอบที่ถูกต้องมาเพียงแค่ 2 ข้อ ก็จะถือว่าเราตอบผิด เพราะเราตอบไม่ครบ ถือว่าตอบไม่ตรงคำถามนั่นเองค่ะ หรือคำถาม IELTS มักจะถาม YES/ NO/  NOT GIVEN หรือ TRUE/ FALSE / NOT GIVEN หากเราไม่อ่านคำถามหรือคำสั่งของข้อสอบ ถาม YES/ NO/  NOT GIVEN แต่เราตอบ TRUE/ FALSE / NOT GIVEN ก็ถือว่าเราตอบผิด เช่นเดียวกันค่ะ

ดังนั้น ถ้าเรารู้ทันกับดัก 5 ข้อนี้ คะแนนในการทำข้อสอบ IELTS Part Reading ของเราก็จะเพิ่มขึ้นมาโดยที่เราไม่ยังไม่ต้องทำอะไรเลยค่ะ

ก่อนจะจบคลิปนี้เรามาสรุปกับดัก 5 ข้อ ดังนี้ค่ะ

1. อ่านใจเย็น
2. ข้อแรกง่าย ข้อหลังยาก
3. No more than three words , Three words or less อย่าลืมดูจำนวนคำแล้วตอบให้ตรงคำสั่ง
4. สะกดคำผิด, ลืมเติม s
5. ไม่อ่านคำสั่ง

เราทราบถึงกับดักแล้ว ดังนั้นก็อย่าพลาดเสียคะแนนไปเปล่าๆ นะคะ




 

Create Date : 02 สิงหาคม 2559
0 comments
Last Update : 2 สิงหาคม 2559 17:38:06 น.
Counter : 349 Pageviews.


สมาชิกหมายเลข 1121054
Location :
กรุงเทพฯ Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]




IELTS คือ ข้อสอบทดสอบภาษาอังกฤษครอบคลุมทั้ง 4 ทักษะ ได้แก่ การฟัง (Listening) การพูด (Speaking) การอ่าน (Reading) และการเขียน (Writing) คำว่า ไอเอลส์ ย่อมากจาก International English Language Testing System IELTS คะแนนเต็ม 9 โดยคะแนนจะแบ่งเป็นระดับต่าง ๆ เริ่มจากระดับ 1 คือไม่สามารถใช้ภาษาอังกฤษได้เลย ถึง ระดับ 9 คือความสามารถในการใช้ภาษาดีเลิศ ในปัจจุบันการสอบไอเอลส์ มีให้เลือกสอบอย่างหลายหลายตามวัตถุประสงค์ของการใช้คะแนน นอกจาก IELTS Academic และ General ที่เราได้ยินกันจนคุ้นหูและทราบดีว่าส่วนใหญ่มักใช้สำหรับการสมัครเรียนหรือสมัครงาน ยังมีการสอบ IELTS UKVI ซึ่งเป็นการสอบสำหรับทำวีซ่าเพื่อใช้เข้าประเทศในสหราชอาณาจักร หรือจะเป็น IELTS Life Skills เป็นการสอบสำหรับบุคคลที่ต้องพิสูจน์ให้เห็นว่าตนมีทักษะในการพูดและการฟังในระดับ A1 หรือ B1 ตามกรอบมาตรฐานการประเมินความสามารถทางภาษาจากประเทศในกลุ่มสหภาพยุโรป

space
space
[Add สมาชิกหมายเลข 1121054's blog to your web]
space
space
space
space
space