เรื่องเล่าจาก..เมืองกาญจนบุรี และเหมืองแร่สองท่อ ตอนที่ 1
เรื่องเล่าจาก..เมืองกาญจนบุรี และเหมืองแร่สองท่อ ตอนที่ 1กรี๊ดดดดดด และแล้วก็มีเวลามานั่งเล่าเรื่องการไปผจญภัย เอ๊ย...ไปทำงานแบบกึ่งๆท่องเที่ยวอีกครั้ง เรื่องราวที่จะเล่าครั้งนี้ จริงๆแล้วมันผ่านมา ปีกว่าๆแล้ว เรื่องของเรื่องคือเมื่อประมาณกลางปี 2553 ตอนนั้นยังทำงานเป็นผู้ช่วยนักวิจัยอยู่ที่คณะวิศวกรรมศาสตร์ มช. ได้มีโอกาสทำงานร่วมกับทีมของศูนย์วิจัยการจัดการทรัพยากรธรรมชาติ โครงสร้างพื้นฐาน และภัยพิบัติ (Natural Resources, Infrastructures and Disasters Management Center - NID Center) ได้เข้าร่วมเป็นส่วนหนึ่งของโครงการศึกษาเพื่อจัดตั้งแหล่งเรียนรู้ทางประวัติศาสตร์เหมืองแร่และการท่องเที่ยวเหมืองแร่สองท่อ จังหวัดกาญจนบุรี โครงการนี้เป็นการทำงานร่วมกันระหว่างคณะวิศวกรรมศาสตร์ มช.และ กรมอุตสาหกรรมพื้นฐานและการเมืองแร่ ซึ่งวัตถุประสงค์ของโครงการคือเพื่อกำหนดแนวทางการพัฒนาพื้นที่ให้เป็นแหล่งเรียนรู้ การส่งเสริมการท่องเที่ยวเชิงอนุรักษ์ การสร้างรายได้และสร้างงานให้กับชุมชนโดยรอบ และการสร้างแหล่งเรียนรู้และแหล่งท่องเที่ยวแปลกใหม่ระดับประเทศ พอรู้ว่าได้อยู่ในทีมทำวิจัยเรื่องนี้ ในใจก็ลิงโลดมาก เพราะจะได้ไปเที่ยวอีกแล้ว 555+ ทีนี้ในการทำงานวิจัย มันก็ต้องมีการลงพื้นที่ เพื่อให้ไปเห็นสภาพในปัจจุบันของเหมืองแร่ ความเป็นอยู่ของชาวบ้านรอบๆพื้นที่เหมืองแร่ สถานที่ท่องเที่ยวที่อยู่ใกล้เคียงว่าเป็นอย่างไร (...ได้ไปเที่ยวเมืองกาญจน์แน่ๆละคราวนี้) หลังจากเริ่มทำโครงการและมีการวางแผนการทำงานกันเรียบร้อยแล้ว เราก็ได้ฤกษ์เดินทางไปกาญจนบุรีกันคือช่วงปลายเดือนตุลาคมถึงต้นเดือนพฤศจิกายน 2553 (วางแผนไว้ว่าจะไปทำความรู้จักกับสถานที่และคนในพื้นที่ 4 วันก็น่าจะพอละ) และแล้ววันเดินทางก็มาถึง.....ทีมทำงานทีมใหญ่จะเดินทางโดยรถตู้มาจากเชียงใหม่ แต่พอดีว่าช่วงนั้นเราไปทำธุระอยู่ที่กรุงเทพพอดี และมีทีมทำงานอยู่ที่กรุงเทพจะไปเมืองกาญจน์ด้วยพร้อมกันอีก 2 ท่าน เราก็เลยไปขออาศัยไปด้วยจากกรุงเทพ และนัดหมายกับทีมใหญ่จากเชียงใหม่ ที่อ.ทองผาภูมิ จ.กาญจนบุรี (คาดว่าจะมาเจอกันประมาณ 6 โมงเย็นถึงทุ่ม โดยประมาณ)ไอ้เราอยู่กรุงเทพใช้เวลาเดินทางน้อยกว่าทางเชียงใหม่แน่ๆ แต่ก็ยังนัดและออกจากกทม.ประมาณ 11 โมง ไปทานข้าวเที่ยงที่นครปฐม หลังจากทานข้าวเสร็จแล้ว แวะซื้อเสบียงตุนไว้เผื่อทีมจากเชียงใหม่ด้วย มีทั้งข้าวหลาม ฝรั่ง ข้าวเหนียวปิ้ง จัดกันให้เต็มที่เสบียงพร้อมแล้ว เราก็เดินทางต่อไปยังกาญจนบุรี ไปถึงตัวเมืองประมาณ บ่าย 3 โมงกว่าๆ และเห็นว่ายังมีเวลาเหลืออีกเยอะเราก็แวะทานกาแฟแบบชิลๆ ริมแม่น้ำแคว (เพราะเราเป็นคนไม่กินกาแฟ เลยสั่ง Mango Smooties มา...อาหย่อยๆๆ //แพลบๆ)บ่าย 4 โมงกว่าๆเราก็ออกเดินทางต่อไปยังอำเภอทองผาภูมิ ไปถึงประมาณเกือบๆ 6 โมงเย็น ทีมทำงานตามมาสมทบตามเวลานัดหมาย ขาดเกินไม่มากนัก แล้วก็ทานข้าวกันก่อนจะเข้าที่พัก พักผ่อนเพื่อนเตรียมตัวสำหรับวันต่อไป.....เช้าวันถัดมา เราตื่นเช้ากว่าปกติ ไม่รู้เป็นอะไรไปต่างจังหวัดทีไร ตื่นเช้าทุกที ด้วยความที่ว่า..อยากไปตื่นมาเห็นบ้านเมืองเค้าที่เราไม่เคยเห็นว่าเป็นยังไง อากาศที่ทองผาภูมิตอนนั้นอากาศไม่ร้อนไม่หนาว กำลังเย็นสบาย ไหนๆก็มาต่างถิ่น ก็ไม่ลืมที่จะหยิบกล้องถ่ายรูปมาถ่ายบรรยากาศภายในรีสอร์ทที่พัก (จำไม่ได้ว่าชื่ออะไร มันผ่านมานาน จนลืม 555) บรรยากาศตอนกลางวันร่มรื่นดี มีต้นไม้เต็มไปหมด ถ่ายรูปเสร็จแล้วก็หิว ต้องไปหาอะไรกินหน่อยแล้ว ว่าแล้วก็เดินออกไปหน้าโรงแรม ตรงปากซอยหน้าโรงแรมมีน้ำเต้าหู้ปาท่องโก๋ขายอยู่เจ้านึง ตอนที่ไปเค้าขายใกล้หมดแล้วก็เลยจัดการเหมามาซะ 40 บาท เผื่อทีมงานคนอื่นๆแล้วด้วย แต่ไม่กล้าซื้อเยอะ กลัวกินไม่หมด เพราะไอ้สิ่งที่ตุนมาเมื่อวานยังมีอีกเพียบหลังจากหม่ำๆมื้อเช้ากันแล้วก็ออกเดินทาง กำหนดการวันนี้คือไปสำรวจสถานที่ท่องเที่ยวที่อยู่ไม่ไกลจากทองผาภูมิ ไหนๆก็ไหนๆแล้วเราก็ไปสังขละบุรีกันเลยละกัน ที่แรกที่เราจะไปก็คือ เจดีย์พุทธคยาจำลอง ตอนแรกว่าจะไปดูวัดใต้น้ำด้วย แต่เนื่องจากเป็นช่วงน้ำหลาก ทำให้ไปก็ไม่เห็นอะไรนอกจากน้ำ เราก็เลยไม่ไปกัน ออกจากเจดีย์พุทธคยา เราก็ไปสะพานมอญ หรือ สะพานอุตมานุสรณ์ ที่หลวงพ่ออุตมะพระเกจิชาวมอญได้พาชาวบ้านสร้างขึ้น เป็นสะพานไม้ที่ยาวที่สุดในประเทศไทยสร้างให้ประชาชนที่อยู่ตัวอำเภอสังขละบุรี กับหมู่บ้านชาวมอญได้ติดต่อกัน จากนั้นเราก็ไปด่านเจดีย์สามองค์กันต่อ ไปเดินไปดูเค้าขายผลิตภัณฑ์จากไม้ รวมถึงกล้วยไม้ป่าที่เอามาจากฝั่งพม่า เยอะมาก สำหรับคนรักคนชอบกล้วยไม้คงช็อปกันสนุก แต่เราดูไม่เป็นก็เลยได้แต่มองเฉยๆ ขากลับก่อนเข้าที่พัก แวะที่เขื่อนวชิราลงกรณ์ หรือที่ชาวบ้านเรียกว่า เขื่อนเขาแหลม ใช้ผลิตกระแสไฟฟ้าเป็นหลัก ที่นี่มีลิงป่าอยู่เยอะมากกกกก แล้วไม่กลัวคนด้วย ออกแนวดุอีกต่างหาก จนต้องมีป้ายเตือนนักท่องเที่ยวให้ระวังลิงทำร้ายก่อนเข้าที่พักแวะหม่ำๆอาหารเย็น หม่ำเสร็จก็เข้าที่พักแยกย้ายกันพักผ่อนตามอัธยาศัย เก็บแรงไว้ ผจญภัยวันพรุ่งนี้ เพราะพรุ่งนี้เราจะเข้าไปในเหมืองแล้วววววววว โย่วๆ (ว่าแต่ว่าโม้มาตั้งนานอ้อมเมืองกาญจน์ไปก็ตั้งเยอะ ยังไม่ได้เข้าเหมืองซักที ตอนนี้ขอแว๊บไปทำงานก่อนนะคะ เดี๋ยวคราวหน้ามาโม้ต่อให้ รับปากว่าจะพาไปเที่ยวในเหมืองแน่ๆค่ะ)