|
เมื่อพระโพธิสัตว์ได้รับคําพยากรณ์จากพระสุมังคละสัมมาสัมพุทธเจ้า : Prophecy of Buddha
หลังจากนั้นมาเป็น สูญอสงไขย ไม่มีพระพุทธเจ้าบังเกิดขึ้นเลยถึง 1 อสงไขย พระนิยตโพธิสัตว์ก็เวียนเกิดตายอย่างนับไม่ถ้วน แล้วอยู่มากัปหนึ่ง เป็นสารมัณฑกัป คือจะมีพุทธเจ้าบังเกิดขึ้น 4 พระองค์ 1.พระสุมังคละสัมมาสัมพุทธเจ้า 2.พระสุมนะสัมมาสัมพุทธเจ้า 3.พระเรวตะสัมมาสัมพุทธเจ้า 4.พระโสภิตะสัมมาสัมพุทธเจ้า สมัย พระสุมังคละสัมมาสัมพุทธเจ้า พระองค์ประกาศพระสัทธรรม ให้แก่หมู่มวลสัตว์ทั้งหลายได้รู้แจ้ง ไปทั่วทั้งไตรภพ ในตอนนั้นพระนิยตโพธิสัตว์ ถือกำเนิดในตระกูลพราหมณ์มหาศาล มีนามว่า สุรุจิพราหมณ์ ซึ่งศรัทธาเลื่อมใส ในพระพุทธ พระธรรม พระสงฆ์เป็นอย่างมาก วันหนึ่ง สุรุจิพราหมณ์ ได้ไปยังสำนักของพระพุทธเจ้า ได้พังพระธรรมเทศนา จากพระพุทธองค์ ด้วยความปีติและศรัทธา จึงได้อาราธนาว่า "ข้าแต่พระพุทธองค์ วันพรุ้งนี้ ข้าพระบาทของอาราธนา พระพุทธองค์พร้อมทั้งเหล่าพระภิกษุสงฆ์ ทั้งปวงไปรับอาหารบิณฑบาตของข้าพระบาท พระเจ้าข้า" พระสุมังคละศาสดาทรงรับอาราธนา
เมื่อสุรุจิพราหมณ์กลับมาถึงเรือน ก็คิดขึ้นว่า " ของไทยทานต่างๆ ทั้งภัตตาหาร และไตรจิวร ที่จะถวายแด่พระภิกษุสงฆ์เป็นจำนวนมาก อันมีพระพุทธองค์เป็นประธาน เราก็มีพอถวายได้ทั่วทุกองค์ แต่อาสนะ ที่รับพระภิกษุแสนกว่ารูป รู้สึกว่าจะคับแคบ จะทำอย่างไรดี ?" ทำให้สุรุจิพราหมณ์ครุ่นคิดวิตกกังวลอยู่
แต่ด้วยอำนาจอภินิหารทานบารมีของพระโพธิสัตว์ ทำให้พระอินทร์ร้อนอาสน์ เมื่อพระอินทร์ตรวจดูก็ทรงรู้ว่า "พระบรมโพธิสัตว์สุรุจิพราหมณ์ วิตกว่า อาสระรองรับพระภิกษุสงฆ์เรือนแสนไม่เพี่ยงพอในกาลนี้ เราจะต้องไปอนุเคราะห์ในบุญนั้น"
พระอินทร์ก็แปลงเพศเป็นนายช่าง ถือขวานเดินมาข้างหน้าพระโพธิสัตว์ แล้วพูดว่า " ท่านมีความต้องการจ้างทำงานสิ่งใดบ้าง เราเป็นช่างกำลังหางานทำ"
สุรุจิโพธิสัตว์ กำลังวิตกอยู่จึงกล่าวว่า "ท่านทำอะไรได้บ้าง?"
พระอินทร์แปลงตอบว่า " เราทำการส่องสร้างได้ทั้งหมด"
สุรุจิโพธิสัตว์คลายวิตกไปหน่อยหนึ่ง จึงถามว่า "ท่านสร้างศาลา และอาสานะ รองรับพระแสนกว่ารูปได้หรือเปล่า ?"
พระอินทร์แปลงตอบว่า "เราทำได้ตามที่ท่านสั่ง"
สุรุจิโพธิสัตว์กล่าวว่า "ท่านคงทำให้เสร็จภายว้นเดียวไม่ได้ เพราะพรุ้งนี้เช้า พระพุทธองค์และเหล่าพระภิกษุสงฆ์เป็นแสนรูปมารับบิณฑบาต ที่เรือนนี้ อาสานะในเรือนนี้คงไม่พอกับพระภิกษุสงฆ์"
พระอินทร์แปลงจึงกล่าวว่า "ถ้าเราทำได้ท่านจะให้ค่าจ้างอะไรกับเรา ?" สุรุจิโพธิสัตว์ตอบทั่นที่ว่า "ท่านประสงค์ค่าจ้างเท่าใด เราไม่ขัดข้อง แม้ชีวิตของเรา เราสละให้ได้หาขัดข้องไม่ ขอให้ทำบุญนี้ให้สำเร็จ"
พระอินทร์แปลงจึงตอบรับว่า "เรารับทำงานให้ท่าน แล้วท่านอย่าลืมจ่ายค่าจ้างให้กับเรา"
สุรุจิโพธิสัตว์โล่งใจกล่าวว่า "อย่างนั้นเชิญท่าน เร่งทำให้เลย " แล้วสุรุจิโพธิสัตว์ชี้อาณาบริเวณที่จะสร้าง และกล่าวว่า "เราจะไปสั่งการกับบริวาร ให้จัดเตรียมเครื่องถวายทานในพรุ่งนี้" แล้วสุรุจิก็เข้าไปในเรือน
ฝ่ายพระอินทร์แปลงพอทราบบริเวณ ก็เนรมิต ศาลาอาสานะจัดทุกอย่างครบถ้วนบริบูรณ์ ด้วยอำนาจเทวา
จึงเข้าไปบอกสุรุจิโพธิสัตว์ว่า "เราสร้าง อาสานะ และศาลาเสร็จแล้ว"
สุรุจิโพธิสัตว์ พอเห็นศาลาและอาสานะพร้อมก็ยินดีเป็นอย่างยิ่งจึงกล่าวว่า "ท่านรอที่นี้ก่อนเราจะเข้าไปเอาทรัพย์เท่าที่เรามี มอบให้แก่ท่าน" พระโพธิสัตว์จึงเข้าไปในเรือน แล้วหยิบทรัพย์มาเพื่อให้กับนายช่าง เมื่อหันกลับมา นายช่างคนนั้นหายไปแล้ว จึงรู้ได้ทันที่ด้วยปัญญาของพระโพธิสัตว์ว่า พระอินทร์ทรงมาอนุเคราะห์ในกองบุญกองกุศล
วันรุ่งขึ้น พระพุทธองค์และเหล่าพระสงฆ์เรือนแสนก็ รับบิณฑบาตที่เรื่อนของท่านสุรุจิพราหมณ์ ท่านก็อาราธนาพระพุทธองค์และพระภิกษุสงฆ์ ประทับที่ศาลา อันวิจิตรงดงาม ที่พระอินทร์เนดรมิตไว้ ถวายไทยทาน และจีวรครบทุกรูป แล้วอาราธนา พระพุทธองค์และเหล่าภิกษุ ให้ประทับอยู่ต่อ เพื่อถวายทาน ให้ครบ 7 วัน
เมื่อกาลครบ 7 วัน พระพุทธองค์ทรงประทานภัตตานุโมทนากถา แล้วทรงพิจารณาด้วยสัพพัญญูตาญาณ ถึงผลบุญของสุรุจิพราหมณ์ จงทรงทราบด้วยพระญาณทันที่ แล้วตรัสพุทธพยากรณ์ ว่า "ท่านสุรุจิพราหมณ์ท่านนี้ กาลล่วงไปในอนาคตกำหนดได้ 2 อสงไขยเศษอีกแสนกัป จะได้ตรัสเป็นสัมมาสัมพุทธเจ้า ทรงนามว่าพระศรีศากยมุนีโคดม ในภัทรกัปนั้น"
เมื่อสุรุจิโพธิสัตว์ทราบถานะตนเองก็มีความปีติยินดีเป็นอย่างมาก หลังจากนั้นไม่นานพระโพธิสัตว์คำนึงถึง การสร้างเนกขัมมบารี จึงออกบวชในพระพุทธศาสนา ศึกษาพระไตรปีฏก และเจรีญพระกรรมฐาน จนสำเร็จอภิญญา หลังสิ้นอายุขัย ไปเกิดเป็นพระพรหมอยู่บนพรหมโลก
หลังจากนั้น พระโพธิสัตว์ได้ทำอธิมุตจากพรหมโลก เพื่อสร้างสมบารมี ที่มา //www.geocities.com/ss12345_th
Create Date : 29 เมษายน 2551 |
Last Update : 30 ธันวาคม 2553 20:02:26 น. |
|
0 comments
|
Counter : 1274 Pageviews. |
|
|
|
|
| |
|
Mr.Terran |
|
|
Location :
[ดู Profile ทั้งหมด]
|
ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember ผู้ติดตามบล็อก : 39 คน [?]
|
ซิดนี่ย์ เจ.แฮร์ริส เคยกล่าวไว้ว่า "อันตรายที่แท้จริง ไม่ใช่อยู่ที่ว่า Computer จะเริ่มคิดเหมือนมนุษย์ แต่อยู่ที่ว่า มนุษย์ จะเริ่มคิดเหมือน Computer"
ผลงานทุกชิ้นใน BLOG ขอสงวนลิขสิทธิ์ตามพระราชบัญญัติลิขสิทธิ์ พ.ศ. 2537 ห้ามมิให้ดัดแปลง ลอกเลียน หรือนำส่วนหนึ่งส่วนใดไปใช้โดยไม่ได้รับอนุญาต ยกเว้นบทความที่เกี่ยวข้องกับพุทธศาสนา
New Document
|
|
|
|
|