รุ่นนี้ไม่ใช่รุ่นปกติ!!!
|
|||
วิธีค้าขายแบบไทย ๆ ( T T ) วันนี้ตอนที่นั่งรถไปบ้านเด็กที่ต้องไปเป็นพี่เลี้ยง (เพื่อนเล่น) รถก็ผ่านเข้ามาในซอยจรัญ 13 มองไปก็เห็นป้ายโฆษณาขายแท๊กซี่ รายละเอียดจำได้ไม่มาก แต่จำราคาได้ว่าดังนี้ เงินดาวน์ประมาณ 1 แสนเศษ ๆ ราว ๆ 1 แสน 4 เห็นจะได้ ผ่อนเดือนละเกือบ ๆ 2 หมื่น 4 ปี อ่านแล้วก็สะดุ้งโหยง เพราะวันนี้ที่นั่งคุยเรื่องรถกับอาจารย์ มันยังผ่อนเดือนละประมาณ 4-5 พันนี่หว่า แล้วทำไมไอ้นี่เดือนละตั้ง 2 หมื่นวะ เดือนละเกือบ 2 หมื่น 4 ปี ก็ประมาณ 9 แสน 6 กว่า บวกเงินดาวน์ประมาณแสน 4 ก็ประมาณล้านหนึ่งแสน ทำไมมันแพงนักวะ...รถแท๊กซี่นะเว๊ย อย่างดี ๆ ก็อัลติส ซึ่งเท่าที่เช็คราคามา ตัวท๊อปของมัน ยังอยู่ที่แสนกับหนึ่งหมื่นเอง แล้วรถแท๊กซี่ อย่างมากก็ตัวกลาง ๆ ประมาณ 8 แสนเท่านั้น มันคงไม่เอาตัวท๊อปมาวิ่งแน่ ๆ แล้วเดือนละ 2 หมื่น หาร 30 ตกวันละประมาณ 700 ซึ่งแน่นอน ต้องวิ่งให้ได้วันละพันเศษ ๆ เป็นขั้นต่ำ ก็เหลือวันละ 300 ค่าก๊าซ + น้ำมันติดถังนิดหน่อย กับค่ากิน จะพอเหรอวะนั่น แล้ววันนึงวิ่งให้ได้ 1,000 วิ่งทั้งวันจะได้ถึง 700 รึเปล่ายังไม่รู้เลย เห็นราคาแล้วก็นึกถึงวิธีค้าขายของคนไทย ชาติไทยเป็นชนชาติที่ไม่มีทางค้าขายได้เจริญเลย สาเหตุง่าย ๆ เลย ราคา สินค้าไทย คุณภาพเท่าไหร่ไม่รู้ (ซึ่งส่วนใหญ่ไม่ดี) แต่ราคา...ระดับท๊อป วิธีค้าขายของคนไทย ขายน้อย แต่ต้องฟันกำไรเยอะ ๆ เอาทีให้หัวแบะไปเลย แล้วอย่าไปถามถึงการรับผิดชอบหลังการขายนะ ไม่มี ไม่เคยคิดที่จะทำให้คนที่เคยซื้อแล้วกลับมาซื้ออีก พูดง่าย ๆ ตีหัวเข้าบ้านนั่นแหละ ขณะที่จีน คุณภาพปานกลางถึงต่ำ แต่...เน้นถูก เอาถูก ๆ ไว้ก่อน เวลาคนเราซื้อของถูก ถึงมันจะพัง ก็ไม่เสียดายเท่าไหร่ เน้นขายปริมาณเยอะ ๆ พังมาเปลี่ยนให้ก็ไม่เสียดาย ซื้อใจลูกค้าได้ด้วย คนซื้อเองก็ไม่เสียดายเพราะราคามันถูก แต่อาจเสียอารมณ์เล็กน้อยเพราะมันใช้ไม่ได้ดังใจ สมัยที่เคยทำงานที่เก่า ก็เห็นกลยุทธ์ตีหัวเข้าบ้านนี่แหละ แต่สุดท้ายดาบนั้นคืนสนองเอง เพราะความฉลาดน้อยของเจ้าของบริษัท ซึ่งมักจะคิดว่าตัวเองฉลาดมาก คำพูดที่พูดใส่ทุกคนประจำคือ "คุณคิดไม่ทันผมหรอก" ใช่ คิดไม่ทันว่าจะคิดได้ฉลาดน้อยขนาดนั้นน่ะสิ บริษัทนี้ ทำเกี่ยวกับวัตถุมงคล (แต่เราไปทำงานอาร์ตหนังสือนะ วัตถุมงคลไม่ยุ่ง มันอัปมงคล...เอ๊ะยังไง) เจ้าของก็มีไอเดียกระฉูด ทำนาฬิกาลงยันต์ไว้ข้างหลังออกมาขาย ขอโทษเถอะ ยันนั้นก็ลอกของเพื่อนเราที่เขียนลงหนังสือมาหน้าตาเฉย ไม่บอกซักคำ ปรากฏว่าทำมารุ่นแรก ขายดี แต่เรามองดูแล้วแบบว่า... คนทำก็...คนซื้อก็... นาฬิกาทำออกมา เหมือนดีนะ เป็นแบบโครโนกราฟด้วย แต่อย่าถามยี่ห้อนะ ยี่ห้ออะไรไม่รู้จำไม่ได้แล้ว...คือ เกิดมาไม่เคยได้ยินชื่อนาฬิกายี่ห้อนี้อ่ะเอาง่าย ๆ แต่นาฬิการุ่นนี้ดังมาก ดังขนาดดารายังมาซื้อ วันที่มาซื้อสาว ๆ ในสำนักงานวิ่งลงไปดูกันใหญ่ แล้วก็ดังขนาดหนังสือ Maxim ยังเอาไปลงเลย เปิดดูในร้านเช่าหนังสือทีถึงกับสะดุ้งโหยง (แต่จะขอบคุณเขาน่ะรึ ไม่มีทาง) พอขายไปแป๊บเดียว เสียงก่นด่าก็ตามมาทันที นาฬิกาที่เพิ่งซื้อไป เดี้ยง นาฬิกาสนิมขึ้น...ฮ่วย เกิดมาเพิ่งเคยเจอนาฬิกาสนิมขึ้น ที่เวรมาก ๆ เม็ดมะยมหลุด ถ้ามันราคา 800 บาทคงไม่มีใครใส่ใจ แต่นี่ราคา 2 หมื่นปลาย ๆ เกือบ 3 หมื่น มองมาที่ไซโก้ที่พ่อซื้อให้เป็นของขวัญวันเกิดในปีนั้น สวยกว่า ยี่ห้อดีกว่า ไม่มีปัญหา สนิมไม่กิน เม็ดมะยมไม่หลุด...3 พัน เข้าใจรึยัง คนทำก็...คนซื้อก็...(นิยามคำที่จะใช้กันเองแล้วกัน) แล้วไม่มีการรับผิดชอบใด ๆ ทั้งสิ้น ลูกค้าส่งของมาเคลม ก็เก็บไว้ไม่ส่งของใหม่ให้ เพราะไม่มีของสำรองไว้ ขายหมดไปแล้ว ปรากฏว่า ประมาณปลายปีต่อมา คงคิดว่านาฬิกาเดิมมันขายได้...ทำรุ่นใหม่ออกมา ก็น่าจะมีคนซื้อเหมือนเดิม ตามหลักตรรกศาสตร์ P แล้ว Q ไม่ได้หมายความว่า Q แล้ว P นะ แต่ P แล้ว Q มันจะเท่ากับ Q แล้ว not P...ก็หมายถึง รุ่นแรกขายได้ แต่การขายได้ มันใช้ไม่ได้กะรุ่น 2 น่ะสิ แล้วก็เป็นตามหลักตรรกศาสตร์...เจ๊งสนิท มันก็สมควรเจ๊งหรอก ราคาเท่าโหดเดิม เปลี่ยนบริษัท...บริษัทอะไรไม่รู้อีกนั่นแหละ รูปแบบ...ห่วยกว่าของเดิมนะ คือรุ่นแรก มันเป็นโครโนกราฟ แบกะดินขายยังน่าจะซัก 500 ขึ้น แต่รุ่นนี้อ่ะ เหมือนนาฬิกาผู้หญิงที่แบกะดินขายซัก 199 รุ่นนี้ลงยันต์เสือ (อาที่เรารู้จักบอกว่ายันต์แมว...เมี๊ยว) แต่รุ่นที่แล้ว ยันต์มงกุฏพระเจ้า โห จากพระเจ้าลงมาสัตว์เดรัจฉานซะงั้น ลดเกรดตัวเองโคตร ๆ แล้วนาฬิกา ก็ต้องมีใบโบชัวร์ใช่มะ ก็ใช้เราทำ ไอ้เราก็คิดว่าจะส่งเข้าโรงพิมพ์ ทำเพลต แล้วพิมพ์ 4 สีสวย ๆ...เปล่าเลย ใช้เครื่องปรินท์เลเซอร์สีในสำนักงานพิมพ์ แล้วก็ให้คนในสำนักงานช่วยกันตัดขอบ ซึ่งเครื่องปรินท์ถ้าไม่ใช่เครื่องดีจริง ๆ มันปรินท์ 2 หน้าได้ที่ไหน เล่นซะเครื่องเกือบพัง คนก็แทบอ๊วกแตก แถมยังมีการใช้ให้เราออกแบบโบชัวร์ต่อ จะเอาไปออกทีวีอะไรไม่รู้ แต่เราชิ่งลาออกซะก่อนก็เลยไม่ต้องทำต่อ ผลก็คือ นาฬิการุ่นสองที่ตั้งความหวังไว้ว่ายอดขายต้องถล่มทลาย รับโทรศัพท์กันแทบไม่ทันเหมือนรุ่นแรก...เงียบสนิท ขายออกไป 2 เรือนมั๊ง นี่แหละ ตัวอย่างเด่นชัดของการค้าขายแบบไทย ๆ ที่ทำให้บ้านเรามันเจริญลง ๆ ทุกวัน ๆ ตีหัวลูกค้าแล้วหนีเข้าบ้าน แต่ไม่ได้คิดหรอกว่าถ้าลูกค้ารวมตัวล้อมบ้าน ออกจากบ้านไม่ได้ จะทำยังไง... โดย: quilt วันที่: 1 ธันวาคม 2550 เวลา:3:31:39 น.
สมแล้วนะ....
ว่า..แต่..เออ...."คุณคิดไม่ทันหรอก".....เหมือนหัวหน้าผม ก็ชอบพูดนะ.... แต่...ปีหน้าผมก็จะออกแล้ว.....เหมือนกัน... โดย: ชายพายเรือ วันที่: 1 ธันวาคม 2550 เวลา:4:55:31 น.
โดย: หน่อยอิง วันที่: 1 ธันวาคม 2550 เวลา:13:18:57 น.
โดย: ~ Rain Or Shine ~ วันที่: 1 ธันวาคม 2550 เวลา:15:23:46 น.
เหอๆ พูดไม่ออกอ่ะ
แต่ทำไมผ่อนแพงจังเลยอ่ะ ที่บ้านก็รุ่นท็อป แค่แปดพันเองนะผ่อน โดย: มัยดีนาห์ วันที่: 1 ธันวาคม 2550 เวลา:23:06:15 น.
เข้าใจ สิ่งที่เอ็มพูดมา คนที่ไม่ค่อยฉลาด
แบบเห็นแก่ตัว เห็นแก่ได้ มักคิดว่า คนอื่นฉลาดไม่เท่าตัวหรอก พบเห็นได้ถมไปจ้ะ บางทีก็น่าขำ ที่เวลาเขามองอะไรซักอย่างหนึ่ง เขามองเพียงด้านดีด้านเดียว มองแต่จะได้ด้านเดียว ไม่มองทางลบหรือเสียไว้บ้าง ก็สมแล้วล่ะที่ขายไม่ได้ โดย: แม่น้องนิก IP: 4.232.144.4 วันที่: 2 ธันวาคม 2550 เวลา:7:09:18 น.
อ่านแล้วขำ..บล๊อกที่เขียนเรื่องเบื่อน่ะ
แม้ๆๆๆ..มีแกะรอยกันได้ด้วยนะ ตามมาถึงที่เลยเหรอเอ็ม พี่ก๊อปบทความจิตวิทยาที่เอ็มเขียนไว้แล้วนะ เดี๋ยวพี่ว่างพี่จะช่วยอ่านให้ ในฐานะที่เรียนเอก การประชาสัมพันธ์มา ก็น่าจะช่วยเอ็มได้บ้างเนาะ ว่าเขียนอย่างไรให้ผู้อ่านเข้าใจสิ่งที่เอ็มกำลังสื่อ วิชานี้ ตกซ้ำซากมาหลายรอบเลยล่ะ อาจารย์บอกว่า อาจารย์จะถือตัวเองประหนึ่งว่า ผู้ที่ไม่มีความรู้เรื่องนี้ มาก่อน และหากไม่รู้ ถ้าอ่านคำตอบของพวกเธอแล้ว เข้าใจ เธอก็จะผ่าน ถ้าอ่านแล้วไม่เข้าใจเธอก็ตก พี่ก็จะใช้วิธีนั้นอ่านบทความของเอ็มนะจ้ะ โดย: แม่น้องนิก IP: 4.232.144.4 วันที่: 2 ธันวาคม 2550 เวลา:7:23:29 น.
แฮะๆ แวะมาทักทายค่ะ บางทีนะคะ คนเราก็ซื้ออะไรสักอย่างมาเพียงเพราะความพอใจส่วนตัวโดยไม่คิดหน้าคิดหลังได้เหมือนกัน และเพราะไม่คิดหน้าคิดหลังนี่แหละค่ะ มันมักทำให้เราโดนหลอกและเสียใจทีหลังทุกที เหมือนเวลาไปซื้อของตามตลาดนัดตอนมืดๆอ่ะคะ ตอนนั้นจะอยากได้ม็กมาก พอกลับมาจะรู้สึกเซ้งว่าซื้อมาทำไมวะ แพง ไม่เห็นชอบเลย ตอนนี้ก็พยายามมีสติให้มากที่สุดอ่ะค่ะ
โดย: simple_xxx วันที่: 3 ธันวาคม 2550 เวลา:14:48:07 น.
สุขสันต์วันเกิดครับ มีความสุขมากๆทุกๆวัน โรคภัยอย่าได้ แพ่วพาน การงานรุ่งโรจน์ ไม่เจ็บไม่จนครับ และเพื่อเป็นการเลี้ยงฉลองวันคล้ายวันเกิด ผมขอเชิญแวะเข้ามาที่ blog เพื่อดื่ม mocktail ครับ
โดย: veerar วันที่: 5 ธันวาคม 2550 เวลา:0:25:25 น.
ขอเชิญร่วมกันถวายพระพร พ่อของแผ่นดิน ของปวงชนชาวไทยกันครับ (ภาพประทับใจ ในหลวง กับ คุณทองแดง) HBD ให้กับเจ้าของ Blog ด้วยนะครับ คลิกที่รูปเพื่อ เข้า Blog ได้นะครับ โดย: มิสเตอร์ฮอง วันที่: 5 ธันวาคม 2550 เวลา:1:11:10 น.
สวัสดีครับ ขอบคุณที่แวะเข้ามาที่ blog ผมหวังว่าคุณน่าจะชอบและในโอกาสหน้าคุณคงจะแวะเข้ามาอีกครั้งหลายๆครั้งนะครับ
โดย: veerar วันที่: 5 ธันวาคม 2550 เวลา:1:33:01 น.
::::::: H A P P Y :: B I R T H D A Y ::::::: ขอให้มีความสุขมากๆนะคะ โดย: หนีแม่มาอาร์ซีเอ วันที่: 5 ธันวาคม 2550 เวลา:12:58:01 น.
เอาดอกไม้สวยๆแวะมาขอบคุณที่แวะเข้าไปเยี่ยมเยือนและทักทายเจนนี่ที่บล็อคไดอารี่ค่ะ
ขอบคุณสำหรับมิตรไมตรีที่มอบให้ครอบครัวของเจนนี่ค่ะ ไว้เจนนี่ว่างๆเจนนี่จะแวะเข้ามาทักทายในบล็อคนี้บ่อยๆน่ะคะ ขอให้วันนี้และวันต่อๆไป เป็นวันดีดีของเจ้าของบล็อคค่ะ โดย: สาวอิตาลี วันที่: 9 ธันวาคม 2550 เวลา:14:19:29 น.
โดย: สวยใสไร้สติ IP: 125.27.113.16 วันที่: 19 มิถุนายน 2552 เวลา:15:26:53 น.
|
DarthTrowa
Rss Feed Smember ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?] Group Blog All Blog
Friends Blog
Link |
||
Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved. |