รู้มา..เห็นมา..ก็ว่ากันไป
space
space
space
 
มกราคม 2562
 12345
6789101112
13141516171819
20212223242526
2728293031 
space
space
31 มกราคม 2562
space
space
space

"ขอโทษ"


        วันนี้และ ณ เวลานี้ ผมคิดถึงเหตุการณ์ที่เคยเกิดขึ้นในอดีตกับตัวผมเอง ย้อนเวลาไปตอนที่ผมกำลังจอดรถติดไฟแดงอยู่ที่ใกล้สี่แยกแห่งหนึงในต่างจังหวัด ซึ่งปริมาณรถยังไม่มากเหมือนกับกรุงเทพฯ ผมกำลังเพลิดเพลินกับการรอคอยไฟเขียวอยู่เชียว จู่ๆ ก็ได้ยินเสียงตรึมและรถผมก็โยกไปข้างหน้านิดหน่อย (ผมใส่เบรคมืออยู่ในขณะนั้นนะครับ) ผมเอะใจว่า เออหนา!! รถเราโดนชนหรือเปล่า (วะ) แต่มองไปที่กระจกหลัง ก็ไม่เห็นมีรถจอดอยู่ด้านหลัซักคัน ผมลังเลอยุู่ชั่วอึดใจ แต่สุดท้ายเพื่อให้แน่ใจว่ารถของผมน่าจะไม่เกิดเหตุร้ายแน่ๆ  ผมก็เลยจำเป็นต้องเปิดประตูรถ เพื่อออกเดินสำรวจท้ายรถเสียหน่อย แล้วภาพที่เห็นก็ชวนให้ตกใจได้ไม่เบา เพราะมีน้องวัยรุ่นผู้ชายคนหนึ่งแต่งตัวเรียบร้อยทีเดียว กำลังยักแย่ยักยันกับการยกรถจักรยานยนต์ที่นอนตะแคงแอ้งแม๊งอยู่บนพื้นถนน ให้ตั้งตรงขึ้นมา ทั้งๆ ที่เครื่องยังติดอยู่ ผมดูแล้วว่าน้องไม่เป็นไรแน่ๆ  แต่ภาพที่เห็นอย่างนี้ เป็นเสมือนเครื่องส่งสัญญาณให้ลูกตาผมเหลือบมองไปที่ท้ายรถแบบห้ามไม่ได้เลย อ้าว!! กันชนท้ายผมยุบไป จะว่านิดหนึ่งก็ไม่ใช่จะว่ามากก็ไม่เชิง เอาเป็นว่าภาพที่เห็นมันกระตุ้นให้อุณหภูมิของอารมณ์ไต่ระดับสูงขึ้นแบบน่าตกใจเลย แต่เพือความสุภาพผมต้องคุมอารมณ์แล้วค่อยๆ ถามน้องไปว่า ทำไมน้องขี่มาชนรถพี่ได้ทั้งๆ ที่พี่จอดคอยไฟแดงตั้งนานแล้ว (พูดแบบเอาความถูกต้องข้าตัวเองไว้ก่อน เพราะมันทำให้ตัวเองดูดีและดูเป็นต่อประมาณนั้น) น้องรีบยกมือขึ้นไหว้แล้วบอกว่า "ผมขอโทษครับพี่"  
        ผมเริ่มใจอ่อนมาหน่อยหนึ่งแล้วนะ พอน้องเขาพูดขอโทษขึ้นมาเอง แต่เรื่องยังไม่จบแค่นั้น เพราะอารมณ์ใจยังไม่ยอมให้หยุด ก้าวต่อไปของผมคือ ถามเหตุผลที่เขามาชนท้ายรถผม (อย่างแรง เพราะกันชนผมบุบเห็นๆ) คำอธิบาย คือ "ผมเห็นรถพี่จอดอยู่จริงๆ ผมยอมรับ แต่ผมขี่มอเตอร์ไซค์มาเร็วไปหน่อย มันเบรคไม่อยู่ ผมเลยจะหักรถออกไปทางเลนขวา แต่บังเอิญมีรถเบนซ์วิ่งตีขนานขึ้นมา ผมก็เลยต้องหักกลับมาที่เดิม ตั้งใจเลือกชนท้ายรถพี่แทน เพราะผมคงไม่มีเงินจ่ายถ้าต้องไปชนกับรถเบนซ์" โห..น้องพูดแบบนี้ มันเป็นการแบ่งแยกเกรดรถกันชัดๆ ผมคิดในใจ อุณหภูมิอารมณ์ผมกลับพุ่งขึ้นอีกแล้วและเร็วกว่าตอนแรกด้วย แต่อีกใจหนึ่งก็ยังนึกขำว่า เขาอุตส่าห์มีสติที่จะเลือกชนท้ายรถเรา (หมายเหตุรถผมอายุได้ประมาณ 12 ปี สภาพไม่ค่อยได้ล้างน้ำเท่าไร) ผมก็เลยระบายความโมโหด้วยการอบรมน้องเขาไปสัก 1 นาที  เห็นจะได้ เกี่ยวกับการเป็นนักขับรถที่ดี เพื่อเป็นการแลกเปลี่ยนกับค่าเสียหายที่ผมตั้งใจจะไม่เรียกร้องจากเขา เพราะสภาพอย่างนี้คงไม่มีจ่ายแน่ เกือบจะอบรมเสร็จอยู่รอมมะร่อแล้ว ผมดันพักหายใจนานไปนิด น้องเลยถือโอกาสพูดขึ้นบ้างว่า "ผมขอโทษพี่แล้วพี่ยังจะต่อว่าผมอยู่อีกหรือครับ" เอ้อ!! ก็จริงของเขาแฮะ เขาขอโทษและยอมนรับผิดแล้ว และไม่เถึยงซักกะคำ แล้วเรายังจะไปว่าอะไรเขาอีก มันหมดเรื่องต่อว่าไปตั้งแต่ตอนได้ยินคำว่า "ขอโทษ" ไปแล้วจริงๆ เพราะถ้าจะเรียกค่าเสียหาย ก็ไม่ต้องไปเทศนาให้เสียเวลา ผมเลยต้องแสดงความเป็นแมนออกมา "พี่ไม่เรียกค่าเสียหายเราหรอก แต่อย่าขี่รถเร็วแบบนี้อีก" (ขอเทศน์ปิดท้ายอีกนิด) เขารีบยกมือไหว้ด้วยสีหน้าเหมือนคนถูกลอตเตอร์รี่รางวัลที่หนึ่ง ผมรับไหว้และกลับขึ้นรถพร้อมกับบทเรียนที่มีค่ามากกว่าค่าซ่อมรอยบุบของกันชนรถเสียอีก สำหรับผม..มันคุ้มสุดคุ้ม..  เพราะในชีวิตที่ต้องพบปะและเกี่ยวพันกับผู้คนมากมาย ผมใช้คำว่า "ขอโทษ" เพื่อยุติเรื่องราวต่างๆ ได้ค่อนข้างจะหลายเรื่องทีเดียว แม้หลายกรณี..ผมจะไม่ได้เป็นฝ่ายผิดก็ตาม คุณผู้อ่านลองเอาไปใช้ดูกันบ้างก็ได้นะครับ แสนจะได้เปรียบชีวิตเพราะไม่ต้องเอากันชนรถไปแลกมาอย่างผม... 



Create Date : 31 มกราคม 2562
Last Update : 7 กุมภาพันธ์ 2562 21:05:01 น. 0 comments
Counter : 312 Pageviews.

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 
space

สมาชิกหมายเลข 5085365
Location :


[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]






space
space
[Add สมาชิกหมายเลข 5085365's blog to your web]
space
space
space
space
space