วันนี้มีอารมณ์เกิดอยากเขียนบล็อกขึ้นมา เลยไม่รีรอ รีบล็อกอินเข้ามาทันที ประจวบกับวันนี้งานเบามือ วันนี้อยากเขียนเรื่องที่เกี่ยวกับอาชีพทหาร ว่าจริงๆ แล้ว อาชีพนี้ มันดี หรือไม่ดียังไง แต่ก่อนอื่นต้องขอบอกก่อนว่า ผมจะไม่ฟันธงว่าดี หรือไม่ดี แต่จะเล่าว่ามันเป็นยังไง ผู้อ่านต้องตัดสินใจเองว่าดีหรือไม่ดี ซึ่งมันก็แล้วแต่สถานะภาพแต่ละคน ว่าจะตัดสินใจยังไง

ท้าวความ  เหตุผลที่อยากเขียนบล็อกนี้ เพราะว่า ผมเกิดมีความคิดที่จะโอนย้ายการทำงานจากอาชีพทหาร ไปเป็นพนักงาน อบต. 

ถามว่าอะไรคือ แรงจูงใจที่คิดแบบนี้ ตอบว่า หลายอย่างครับ ทั้งความก้าวหน้า ค่าตอบแทน เป็นต้น

มาทำความเข้าใจทหารก่อน (ในที่นี้พูดถึง ทหารบกนะครับ)......

ทหารที่เราเห็นๆ กันนั้น แบ่งออกได้เป็น 3 ประเภท

1.พลทหาร  

มาจากการเกณฑ์ ประชาชนชาวไทย ตามกฎหมาย

2.นายทหารชั้นประทวน (ยศ สิบตรี - จ่าสิบเอก(พ.))

มาจากการรับสมัครเข้าเรียนเป็นนักเรียนนายสิบทหารบก ซึ่งเป็นสถาบันหลักของระดับ น.ประทวน แต่ก็ยังมีอีกหลายช่องทาง ที่จะเป็น น.ประทวน เช่น การสอบโดยตรงตามตำแหน่งที่เปิด การบรรจุต่อเนื่อง เป็นต้น

3.นายทหารชั้นสัญญาบัตร (ยศ ร้อยตรี - พลเอก)

มาจากการเข้าเรียนในสถาบันหลักของโรงเรียนเตรียมทหาร (จปร.) และอีกหลายช่องทาง ไม่ว่าจะเป็นการสอบโดยใช้วุฒิ ป.ตรี ของ ยศ.ทบ.  การสอบแข่งขันภายในของ น.ประทวน เพื่อปรับเป็น น.สัญญาบัตร เป็นต้น

เมื่อเรารู้จักทหารแล้ว ต่อไปมาดูเรื่องของเงินเดือน

ถามว่าเงินเดือนทหารดีไหม อันนี้ต้องตอบเป็นกรณีๆ ไปครับ

1. ชั้น น.ประทวน ตอบได้เลยว่า ไม่ค่อยดี ครับ เพราะเงินเดือนน้อยมาก บรรจุครั้งแรก แค่ 6 กว่า แต่ปัจจุบันนี้มีการปรับขึ้นมาแล้ว เป็น หมื่นนิดๆ 

2. ชั้น น.สัญญาบัตร ตอบได้เลย ว่าเงินดีมากๆ อนาคตดีมากๆ ยิ่งถ้ากำเนิดมาจาก รร.จปร. รับประกันเลยว่าอนาคตสดใส 

แนะนำว่า ถ้าอยากให้ลูกหลานเป็นทหาร ก็ควรสนับสนุนให้สอบเข้า รร.จปร. เลย 

เพราะคนที่จบจาก รร.  นี้ จะเป็นกำลังพลหลักที่จะมีอำนาจในการเข้าเป็นผู้บริหารในหน่วยงานทหาร

คนที่เป็น น.สัญญาบัตร ที่ไม่ได้มาจาก รร.จปร. ก็ยากที่จะเข้าเป็นผู้บริหาร

เข้าเรื่องว่า ทำไม อยู่ดีๆ ถึงอยากโอนไปทำงาน อบต. 

เหตุผลก็เพราะว่าความก้าวหน้าในอาชีพการงานดีกว่าครับ

แต่ตอนนี้ มีงานเข้าแล้ว เด่วว่างๆ มาเขียนต่อให้ครับ