น่าน...สุดแผ่นดินล้านนาตะวันออก อีกครั้งกับการเดินทางออกต่างจังหวัดด้วยบริการของการรถไฟแห่งประเทศไทย หลังจากที่เดินทางด้วยรถทัวร์แล้วรู้สึกไม่ปลอดภัย (เพราะมันพาไปวัดถนนมาเลยกลั๊ว...กลัว) วันนี้ออกจากที่ทำงานก่อนเวลา เพราะเกรงว่าการเดินทางจากห้องแถวสะพานสูง มายังสถานีรถไฟสามเสน มันจะไม่ทันการ ตั๋วโดยสารรถไฟครั้งนี้ ที่จองไว้เป็นตู้นอนปรับอากาศชั้นสอง สนนราคาก็ แน่นอน..ว่าต้องแพงกว่ารถทัวร์แน่แน่..ไม่มีอาหาร น้ำดื่มให้กินอีกต่างหาก (ยังสงสัย...ว่าทำไมแพงจัง) แล้วการรถไฟก็ไม่ทำให้เราผิดหวัง เวลารถออกตามตั๋วโดยสาร สองทุ่มครึ่ง แต่........ มาจริงๆเกือบสี่ทุ่ม แล้วก้อ......... แล่นไปได้หน่อย.....หัวรถจักรเสีย...จอดซ่อมอยู่สถานีบางซื่อ ได้ออกจริงๆ.....หกทุ่มก่าก่า.... กว่าจะถึงปลายทางที่เด่นชัยเวลาก็ล่วงไปเกือบเที่ยง แล้วก็ต่อรถไปน่าน.......เป้าหมายปลายทางของเรา.... ครั้งนี่เป็นครั้งที่สามแล้วมั๊ง...ที่มาเมืองน่าน เมืองน่านมีอะไรให้ต้องมาหลายครั้งขนาดนี้เหรอ... ไม่เลย...ก็แค่...ที่พักฟรี..เลยมาบ่อย... อ่ะล้อเล่น...เมืองน่าน..เมืองเล็กๆที่เปี่ยมด้วยประวัติศาสตร์ และธรรมชาติที่งดงาม น่ามาสัมผัส....จริงๆนะ... จากครั้งก่อนก็เที่ยวในเมืองจนมดแล้ว มาคราวนี้เลยมีโอกาสไดออกไปต่างอำเภอ... วัดแรกที่ไปกราบนมัสการคือวัดบุญยืน วัดบุญยืน พระอารามหลวง... ตั้งอยู่ที่ หมู่ ๔ ต.กลางเวียง อ.เวียงสา จ.น่าน สร้างเมื่อ วันพุธ ขึ้น ๗ ค่ำ เดือน ๘ พุทธศักราช ๒๓๔๓ โดยสมเด็จเจ้าฟ้าอัตถวรปัญโย เจ้าผู้ครองนครน่าน ลักษณะรูปทรงพระอุโบสถหลังคาลดหลั่น ทรงม้าต่างแพร และที่แตกต่างจากวัดอื่นคือ องค์พระประธาน ที่วัดบุญยืน พระประธานในพระอุโบสถเป็นพระพุทธรูปปั้น ปางประทับยืน สูง ๘ ศอก บานประตูไม้สัก แกะสลักรูป พระอินทร์ พระพรหม องค์พระเจดีย์ สร้างติดด้านหลังพระอุโบสถ ทรงพุ่มข้าวบิณฑ์ สถานที่ถัดมา ข้ามไปอีกฝากที่อ.ท่าวังผา ไปนมัสการพระพุทธรูปที่อุโบสถวัดหนองบัว เยี่ยมชมศิลปะไทลื้อ... วัดหนองบัว ตั้งอยู่ที่บ้านหนองบัว ตำบลป่าคา อำเภอท่าวังผา เป็นวัดเก่าแก่สร้างด้วยฝีมือของช่างชาวไทลื้อ เป็นวัดที่สร้างขึ้นในรูปแบบของสถาปัตยกรรมแบบไทยลื้อในยุดเริ่มแรก สร้างประมาณปี พ.ศ. ๒๓๑๕ ปัจจุบัน วิหารวัดหนองบัว แห่งนี้ได้มีการบูรณะ ปฎิสังขรณ์ และปรับเปลี่ยนรูปแบบดั้งเดิม ของสถาปัตยกรรมแบบไทยลื้อ มาผสมผสานกับสถาปัตยกรรมแบบล้านนา คล้ายกับวัดบุญยืน ที่อำเภอเวียงสา นอกจากความโดดเด่นของ รูปทรงของตัวอาคารวิหารแล้ว ภายในวิหารมีจิตรกรรมผาฝนัง อันทรงคุณค่าทางศิลปะ และความสมบูรณ์ของภาพใกล้เคียงกับจิตกรรมฝาหนังวัดภูมินทร์ ตามประวัติกล่าวว่าภาพเหล่านี้เขียนขึ้นในสมัยรัชกาลที่ ๕ จากนั้นก็ไปต่อที่เภอปัว... ไปวัดเป็งสกัด วัดเป็งสกัดตั้งอยู่บ้านแก้ม หมู่ที่ ๕ ตำบลปัว อำเภอปัว จังหวัดน่าน สร้างในสมัยพญาภูคาเจ้าผู้ครองนครเมืองย่าง พญาภูคา ต้องการจะสร้างเมืองใหม่ และได้พบบริเวณแห่ง หนึ่ง เป็นชัยภูมิที่เหมาะสมสำหรับสร้างเมืองและอยู่ห่างจากเมืองย่าง ประมาณ ๖ กิโลเมตร พญาภูคาจึงได้สร้างเมืองใหม่ ณ สถานที่แห่งนั้น พร้อมทั้งขนานนามว่า "เมืองวรนคร" ซึ่ง หมายถึง เมืองดี หลังจากได้สร้าง เมืองให้ขุนฟองปกครองแล้ว พระองค์ศรัทธาในพระพุทธศาสนา จึงมีพระประสงค์ที่จะสร้าง พระเจดีย์ไว้ใกล้เมืองใหม่ จึงให้ชาวเมืองไปหาสถานที่สร้างพระเจดีย์และไปพบสถานที่แห่ง หนึ่งอยู่ห่างจากตัวเมืองประมาณ ๒๐๐ เมตร มีพื้นที่ดินเป็นลานกว้าง มีบ่ออยู่ตรงกลาง ผู้คน เหล่านั้นจึงได้นำเอาไม้แหย่ลงไปในบ่อ ปรากฏว่าไม้ที่แหย่ลงไปขาดขาดเป็นท่อน ๆ จนไม้หมดไปหลายเล่ม พญาภูคาจึงให้ชาวเมืองแผ้วถางป่าบริเวณรอบ ๆ บ่อแล้วช่วยกันปั้นอิฐ ก่อ เป็นพระเจดีย์ครอบบ่อแห่งนั้นไว้เป็นแบบเจดีย์ธรรมดา ไม่มีลวดลายอะไรมากนัก มีความ กว้าง ๗ เมตร สูง ๒๐ เมตร พร้อมสร้างวิหารให้อยู่ในแนวเดียวกับพระเจดีย์ สร้างเสร็จในปี พ.ศ.๑๘๒๖ วัดเป็งสกัดเป็นสถาปัตยกรรมไทยลื้อ ที่ได้มีการปรับเปลี่ยน รูปแบบหลายครั้ง ลักษณะวิหารเป็นรูปวิหารทรงสูง แต่หลังคาจะกดต่ำแบบช่างล้านนาเดิม มีลาดบัวที่ฐานตอนล่างของพระวิหาร ด้านข้างของวิหาร เจาะหน้าต่าง เป็นบานเล็ก ๆ แคบ ๆ หน้าวิหารมีลักษณะเป็นมุขโถงโล่ง ๆ ขึ้นบันไดด้านหน้า จะถึงโถงมุขหน้าเข้าสู่ภายในวิหาร ซึ่งภายใน ประกอบด้วยเสา รายเรียงสองแถว ตรงสู่แท่นฐานชุกชี ประตูด้านหน้าวิหาร เป็นประตูใหญ่กว้างและสูง ประกอบด้วยลวดลายปูนปั้น ผสมผสานระหว่างศิลปะเก่ากับใหม่ จากวัดเป็งสกัดก็ไปต่อกันที่วัดต้นแหลง. วัดต้นแหลงตั้งอยู่ เลขที่ ๒๐ บ้านต้นแหลง หมู่ที่ ๒ ตำบลไชยวัฒนา อำเภอปัว จังหวัดน่าน เป็นวัดโบราณสร้างขึ้นเมื่อราวปี พ.ศ.๒๑๒๗ หรือประมาณ ๔๒๒ ปีมาแล้ว โดยช่างชาวไทลื้อ ถือเป็นศิลปกรรมสกุลไทลื้อในยุคแรกๆ ตัววิหารถูกรื้อแล้วสร้างใหม่ เนื่องจากสร้างอยู่ริมตลิ่งทำให้ในฤดูน้ำหลากจึงถูกท่วมและพังทลายลง สันนิษฐานว่าวัดต้นแหลงน่าจะสร้างขึ้นสมัยกรุงสุโขทัยตอนปลาย เพราะลักษณะของหลังคาเป็นทรงสามชั้นมุงด้วยไม้ทั้งหมด นาคบนหลังคาเป็นนาคสามเศียรคล้าย ๆ กับนาคของประเทศลาว ซึ่งลักษณะเด่นชัดของวิหารวัดต้นแหลง คือการวางหลังคารูปทรงตะคุ่ม ลาดต่ำและลดหลั่นกันลงมาทีละชั้นจนถึงชั้นล่าง รูปทรงวิหารเตี้ยแจ้ โดยใช้บัวที่ฐานประดับตกแต่งลดความสูงรูปด้านลง พร้อมกับเจาะซ่องหน้าต่างเล็ก ๆ แคบ ๆ ปัจจุบันวัดต้นแหลง ถือเป็นวัดเก่าแก่ที่ยังคงสภาพของวัดไทลื้อที่สมบูรณ์ที่สุดและหาชมได้ยาก และเนื่องจากวันที่ไปเป็นวันสำคัญทางศาสนา แทบทุกวัดจึงได้พบเจอป้ออุ๊ยแม่อุ๊ย มาฟังเทศน์ฟังธรรมกันมากมาย... อิ่มบุญจริงๆ..... ยาวอ่ะ...เดี๋ยวมาต่อภาคสองดีกว่า.... เก็บไว้หากินนานๆ....   Create Date : 09 กรกฎาคม 2552 17 comments Last Update : 9 กรกฎาคม 2552 12:44:37 น. Counter : 3655 Pageviews. Share Tweet

โดย: คนไม่เจียม.. 9 กรกฎาคม 2552 13:14:42 น.

ไปน่าน... ไปไหว้พ่อตาแม่ยายอ่ะดิ รู้น่ะ   โดย: คนไม่เจียม.. 9 กรกฎาคม 2552 13:17:08 น.

หน้าตาดีเจิมวุ้ย   โดย: คนไม่เจียม.. 9 กรกฎาคม 2552 13:19:46 น.

ูเคยลงรูปที่ว่าเป็นพุหญิงพุชายคู่กันป่าวตะเอง เห็นเค้าร่ำลือว่า เป็นภาพเขียนที่ใครไปแล้วไม่ถ่ายเหมือนไม่ถึงน่านง่ะ สงสัยว่ามันมีที่มายังไง.. เวลาถ่ายรูปวัดตัดกับสีหญ้าเขียวเลี้ยวในังามจริง... ไหน ท้องนาหลังบ้านพุบ่าวง่ะ   โดย: ซซ 9 กรกฎาคม 2552 13:22:11 น.

เคยไปครั้งเดียวเอง เพราะไม่มีที่พักฟรีนี่แหละ   โดย: tuk-tuk@korat 9 กรกฎาคม 2552 15:01:46 น.

โอยยยย อิจฉาตาร้อนนนนนสวยจัง   โดย: butbbj 9 กรกฎาคม 2552 15:15:51 น.

ไปมาเหมือนกันเลยคะ แต่ไปไม่ถึงท่าวังผา แค่อยู่ในตัวเมืองน่านอ่ะ คราวหน้าจะไปอีก   โดย: Rabbit_Filter 9 กรกฎาคม 2552 16:41:50 น.

อยากไปแอ่วตวยเหลือเกิน   โดย: กะว่าก๋า 9 กรกฎาคม 2552 16:55:18 น.

จากคอมเมนต์ที่ 1 เดาว่าน่าจะใช่คนนั้น เมืองน่าน ผมไปมาหลายรอบแล้ว ทำงานเสร็จก็มีแต่ลงสระว่ายน้ำของโรงแรม สระก็แสนจะเล็ก ว่ายเสร็จแล้วก็ไปทานอาหารเย็น ทำอย่างนี้ประจำ ไม่เคยไปวัดสวยๆกะเขาครับ เพราะว่าไม่มีคนนำทาง ซุงกัง มีมุมการถ่ายรูปสวยเยี่ยม ชอบแทบทุกรูปครับ เอ่อ ห้องน้ำรถไฟ มีการพัฒนาบ้างหรือยัง ผมใช้บริการที กลัวจะหลุดตกลงไปขณะรถวิ่ง..   โดย: yyswim 9 กรกฎาคม 2552 17:39:51 น.

ทำไมเราสิได้ไปวัดเยอะๆแบบเจ้าน๊อ??มั่งน๊า..กิเลสสส์หนาเจงเจง...หุหุ..   โดย: ทะลึ่งเบ่เบ๋ 9 กรกฎาคม 2552 17:47:52 น.

น่าไปบ้างจริงๆ ว่าแต่ทำไมนั่งชั้นสองนอนไม่มีข้าวให้กินอ่ะพี่ นาห์นั่งชั้นสองแอร์เก้าอี้ปรับนอนยังมีข้าวบวกกับกาแฟอีกสองมื้อเลยนา หรือว่าขึ้นเหนือกะล่องใต้มันไม่เหมือนกัน แต่เรื่องเสียเวลานี้เป็นเรื่องปกติกะรถไฟท่านพี่   โดย: มัยดีนาห์ 9 กรกฎาคม 2552 20:34:01 น.

รูปสวยมากเลยครับพี่   โดย: นายแมมมอส 9 กรกฎาคม 2552 23:32:17 น.

+ กร๊ากกก เจอป้าเจียมทำใจแดง ดักคอไว้ตั้งกะหัวบ๊อกๆ เยี่ยงเน้ คนอ่านคนต่อๆ มารู้หมดเยยอ่าว่าซังกุงไปหาฤกษ์วิวาหะ กร๊ากๆๆ + กะอยู่ เห็นอาบรูดบอกว่าซื้อตั๋วอะไรสักอย่าง ที่แต๊ก็ไปแอ่วเมืองน่านเน่เอง ... เด๋วเน้ ไปกับแก๊งเน้ กลายเป็นทัวร์วัดอย่างสมบูรณ์แบบแล้วเนาะ ไปที่ไหนก็ต้องไปเยือนวัดงามๆ อ่า + แต่วัดเมืองน่าน ดูสวยงามและมีเอกลักษณ์กว่าที่อื่นเจงๆ นะครับ น่าไปเยือนจังเลยอ่า + ว่าแต่โรค "กลัวรถทัวร์" เน่ แก๊งเน้จาเป็นกันไปตลอดชูวิทย์เลยชิมิเนี่ย? เหอๆๆ   โดย: บลูยอชท์ 10 กรกฎาคม 2552 0:30:08 น.

ทำไมมันไปทักแต่พุบ่าวฟระ   โดย: butbbj 10 กรกฎาคม 2552 7:16:01 น.

ไปน่านมาก็หลายปีแล้ว แต่เห็นแล้วก็อยากไปอีกครับ ขอบคุณสำหรับบรรยากาศดีๆ   โดย: DekDoiTung IP: 124.43.215.74 13 กรกฎาคม 2552 0:06:06 น.

ตามมาดูมุมภาพระดับเทพ อยากมีตาทิพย์แบบนี้บ้างจัง กินข้าวกับไรเนี้ย อิจฉาจังอะ   โดย: บั้ม IP: 125.27.225.35 6 พฤศจิกายน 2552 7:58:58 น.

กินข้าวกับน้ำพริครับ.... แหม...ชมกันเกินไปครับคุณ บั้ม เขิลลลลลลแย่เลย....   โดย: นายรถซุง 6 พฤศจิกายน 2552 8:36:10 น.