ทริปประจวบฯ ภาค 2..........................
ความเดิมตอนที่แล้ว
หาดู>>> ที่นี่ <<<ครับ
แล้วขับรถต่อไปยังอุทยานวิทยาศาสตร์ หว้ากอ เป็นสถานที่ประวัติศาสตร์ที่พระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 4 เสด็จพระราชดำเนินเพื่อทรงพิสูจน์การเกิดสุริยุปราคาเต็มดวง ในวันที 18 สิงหาคม 2411 ซึ่งทรงคำนวนไว้ล่วงหน้าถึง 2 ปี
สัมผัสกับมหัศจรรย์โลกใต้น้ำ ที่นี่เปิดให้ประชาชนเข้าชมทุกวัน ไม่เว้นวันหยุดราชการ ตั้งแต่เวลา 09.00-16.00 น.
อุทยานวิทยาศาสตร์พระจอมเกล้า ณ หว้ากอ ตั้งอยู่ริมอ่าวหว้ากอ บริเวณกิโลเมตรที่ 335 ถนนเพชรเกษม ห่างจากตัวเมืองประจวบคีรีขันธ์ ไปทางทิศใต้ ประมาณ 10 กิโลเมตร ห่างจากกรุงเทพมหานครประมาณ 314 กิโลเมตร บริเวณอ่าวหว้ากอ มีชายหาดยาว 2.7 กิโลเมตร ขนานทางรถไฟสายใต้
สีสันความสวยงามของสัตว์น้ำหลากหลายชนิด ทั้งน้ำจืดและน้ำเค็ม พิพิธภัณฑ์สัตว์น้ำหว้ากอ ภายในแบ่งพื้นที่เป็น 6 ส่วน คือ 1. ส่วนอัศจรรย์โลกสีคราม 2. ส่วนจากขุนเขาสู่สายน้ำ 3. ส่วนสีสันแห่งท้องทะเล 4. ส่วนเปิดโลกใต้ทะเล 5. ส่วนพิพิธภัณฑ์สัตว์น้ำและ 6. ส่วนกิจกรรมปฏิบัติการ
ใกล้ทางออก จะเจอกับของพวกนี้ครับ
พิพิธภัณฑ์สัตว์น้ำแห่งนี้ มีวัตถุประสงค์เพื่อให้การศึกษา สิ่งมีชีวิตในน้ำทั้งน้ำจืดและน้ำเค็ม ในประเทศและต่างประเทศ โดยได้รับความร่วมมือ อย่างดีจากกรมประมงและสถาบัน วิทยาศาสตร์ทางทะเล มหาวิทยาลัยบูรพา
จากนั้นออกมาดูชายหาดด้านนอก และแวะไหว้อนุสาวรีย์พระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว ก่อนกลับไปหาห้องพักที่อ่าวประจวบ
ได้แล้วครับ เอาโรงแรมนี้ล่ะครับ
บริการด้วยห้องพักถึง 142 ห้อง ซึ่งสามารถชมวิวทิวทัศน์ ของอ่าวประจวบ
ซึ่งที่เข้าพักนั้นมีสิ่งอำนวยความสะดวกในห้องเช่น เครื่องปรับอากาศ, โทรทัศน์พร้อม เคเบิล, ตู้เย็น, น้ำอุ่น และโทรศัพท์ภายในห้อง สำหรับห้องพักของโรงแรมจะแบ่งออกเป็น 2 ด้านคือ ด้านฝั่งทะเล (Sea View) และด้านฝั่งภูเขา (Mountain View)
ดูซะหน่อยว่า...มีอะไรให้เรากินฟรีได้มั่ง
มาดูห้องพักโดยรวมครับ จากนั้นเราก็ออกไปหาอะไรที่มันอร่อยๆ ทานครับ เพราะตั้งกะเช้าอาหารยังไม่ตกถึงท้องเลย
เอาร้านนี้ล่ะครับ......
เฉี่ยวโอชา..... ทีแรกไปหาร้านที่พี่เคยไปทาน แต่ดันย้ายร้านหนีซะงั้น (สงสัยย้ายหนีพี่ผมอ่ะ) มาเจออีกที...ร้านย้ายมาอยู่นี่.....ตรงถนนปิ่นอนุสรณ์ครับ....
อาหารที่สั่งไปวันนั้นมี ห่อหมกทะเล ปลาหมึกทอดกระเทียมและปลาหมึกนึ่งมะนาวครับ
โฮ่ะ ๆ ๆ ตงจะไม่ทานปลาหมึกไปอีกนานครับ เพราะมีแต่ปลาหมึก.........T_T
หลังจากทานอาหารเช้าตอนบ่ายแก่ๆ ไปแล้ว... ป่ะ....เราไปต่อกันที่ ด่านสิงขรครับ......
ตั้งอยู่ในเขต ต.คลองวาฬ อ.เมือง วัดระยะทางจากชายทะเลอ่าวไทยถึงชายแดนพม่าประมาณ 12 กิโลเมตร
เป็นช่องผ่านแดนที่ไทยและพม่าใช้ติดต่อไปมาหากันแต่โบราณ เป็นศูนย์การค้าชายแดน โดยปัจจุบัน มีร้านค้าจำหน่ายสินค้าจำพวก อัญมณี เช่น หยก พลอยเจียระไน
ในวันเสาร์- อาทิตย์ยังมีตลาดนัดขายกล้วยไม้นานาชนิดอีกด้วย
งานนี้....โดนแม่ค้าพม่าหลอกขายกล้วยไม้ เสียตังค์ไป ประมาณ 120 บาทครับ ได้แกลดิโอลัสมา 7 ต้น 40 บาท และเขากวางอ่อน Phalaenopsis cornu-cervi 1 ต้น ราคา 50 บาทมั่ง กับนางตายน้อย 3 ต้น 30 บาท
ตอนไปถึงตลาดเริ่ม Y แล้ว....เลยไม่ค่อยมีอะไรให้ดูนอกจากกล้วยไม่ (เอ...รึว่ามันมีแค่นี้ก็ไม่รู้ครับ)
หลังจากนั้นก็กลับห้องพักครับ
เริ่มเย็นแล้ว.....อ่าวประจวบยิ่งสวยครับ ดูเรือที่โดนแสงอาทิตย์ส่องกระทบสิครับ....
ตกเย็นออกไปหาอะไรทานกัน แต่ไม่มีรูปให้ดูนะครับ เพราะหิวจัด ไปทานเนื้อเกาหลีบุฟเฟ่มาครับ เป็นที่น่าแปลกใจเพราะว่าทั้งจังหวัด หาร้านเนื้อย่างมีแค่ร้านเดียว
ตอนทานอยู่ สักพักคำที่แม่พูดก็เป็นจริงครับ ฝนตกกระหน่ำเลยล่ะ ต้องรีบเปลี่ยนโต๊ะเข้าไปข้างใน ร้านนี้เล็กครับน่าจะมีไม่ถึง 20 โต๊ะครับ.......
และแล้วก็จบทริปวันนี้ไปครับ.......
เดี๋ยวมาต่อภาค 3 นะครับ วันที่เดินทางกลับและแวะเที่ยวที่ อุทยานเขาสามร้อยยอด....
Create Date : 04 กรกฎาคม 2551 |
Last Update : 4 กรกฎาคม 2551 8:27:48 น. |
|
6 comments
|
Counter : 851 Pageviews. |
|
|
อาหารก็น่ากิน
น่าไปเที่ยวจัง