Group Blog
 
 
สิงหาคม 2556
 123
45678910
11121314151617
18192021222324
25262728293031
 
28 สิงหาคม 2556
 
All Blogs
 
อุบายร้อนซ่อนกลรัก - 2 > เจ้าชาย (อยู่) ในฝัน




มธุชางัวเงียตื่นเพราะเสียงโทรศัพท์ที่กระหน่ำดังไม่หยุดหย่อน ทั้งโทรศัพท์บ้านและมือถือต่างก็พร้อมใจกันแผดเสียงรบกวนคนนอนดึกอย่างน่าโมโห ร่างบางโผเผลุกขึ้นนั่งกลางเตียง หลับตาควานมือหาต้นเสียงอย่างนึกรำคาญ เมื่อพบต้นตอแห่งความน่ารำคาญจึงรีบกดรับโดยไม่ได้ดูหน้าจอ

“มธุชาค่ะ แป๊บนึงนะคะ” เธอกรอกเสียงแหบๆ ลงไปก่อนจะโน้มตัวไปดึงโทรศัพท์บ้านมาแนบใบหู “ฮัลโหล...”

“ทำไมรับช้าจังเลยเจ้ มดโทร. ตั้งหลายครั้งแล้วนะ” เสียงโวยวายของมธุมาสดังมาตามสาย

“มีเรื่องอะไรเนี่ยยายมด โทร. มาทำไมแต่เช้า เจ้ยังนอนไม่พอเลยนะ เดี๋ยวผิวก็เหี่ยวก่อนวัยกันพอดี รอแป๊บนึง เดี๋ยวโทรกลับ มีสายอื่นรออยู่”

มธุชาบ่นน้องสาวอย่างหงุดหงิด ก่อนจะวางหูโทรศัพท์ลงบนแป้นแล้วหันมารับสายจากมือถือด้วยสุ้มเสียงที่ฟังดูสดชื่นขึ้นนิดหน่อย “สวัสดีค่ะ”

“นี่ซ้อเองน้องมัด” เสียงวิชนี พี่สะใภ้ของเธอตอบมาอย่างร้อนรน

หญิงสาวเริ่มขมวดคิ้วนิ่วหน้า ใจคอไม่สู้ดีเมื่อพี่สะใภ้กับน้องสาวพร้อมใจกันโทร. หา จากประสบการณ์ที่ผ่านมาร้อยละเก้าสิบเก้าจุดเก้าเก้าเปอร์เซ็นต์มีแต่ข่าวไม่ดีทั้งนั้น

“หวัดดีค่ะซ้อ โทร. หามัดพร้อมยายมดเลยนะคะ สังหรณ์ใจว่าจะเป็นข่าวร้าย”

“อ้อ เหรอจ๊ะ น้องมดก็คงจะพูดเรื่องเดียวกันนี่แหละ มัดมีเซ้นส์เสมอเลยนะ”

“เซ็งเลยอ้ะซ้อ ตกลงว่ามีเรื่องอะไรกันแน่เนี่ย มัดใจคอไม่ดีนะ”

“ฟังแล้วใจเย็นๆ นะมัด ซ้อไม่อยากให้มัดใจร้อนเลยรีบโทร. มาส่งข่าวก่อน”

“พูดงี้มัดยิ่งอยากรู้ใหญ่เลยซ้อ รีบบอกมาเร็วเข้า เดี๋ยวมัดก็ลงแดงหรอก” หญิงสาวเร่งเร้าด้วยความสนใจยิ่ง

“งานแซยิดอาม่าเล็กกลางเดือนหน้านี้เตี่ยจะพาผู้ชายมาดูตัวน้องมัดน่ะสิ”

“อีกแล้ว?” มธุชากลอกตา ก่อนจะล้มตัวลงบนเตียง ตีขาในอากาศด้วยอารมณ์เซ็งจับจิต

“อย่าเพิ่งเอะอะไปนะมัด ซ้อแอบได้ยินเฮียเมธคุยกับเตี่ยเมื่อวานนี้ก็เลยโทร. มาเตือนให้มัดเตรียมตัวรับมือไว้ก่อน” เสียงพี่สะใภ้ของมธุชาเบาลงเรื่อยๆ

หญิงสาวถอนใจเฮือกใหญ่ ประชดเสียงขุ่น “คราวนี้ลูกชายตระกูลไหนอีกล่ะซ้อ มัดเบื่อเรื่องนี้จริงๆ เลย ทำไมมันไม่จบไม่สิ้นซะทีนะ ก็อีแค่โสดมันจะอะไรนักหนา คนโสดไม่ได้เป็นโรคติดต่อซะหน่อย ทำไมเตี่ยต้องทำท่าเหมือนมัดเป็นตัวน่ารังเกียจจนต้องผลักไสไปให้ห่างแบบนี้ด้วย”

“เอาน่า ใจเย็นๆ ก่อน คู่ดูตัวของมัดน่ะซ้อก็ไม่รู้จักหรอก แต่ได้ยินว่าเป็นลูกชายเจ้าของโรงงานน้ำปลาในจังหวัดน่ะแหละ มัดก็ค่อยๆ คิด ค่อยๆ แก้ปัญหา อย่าใช้อารมณ์ เตี่ยก็แค่เป็นห่วงมัดเท่านั้นเอง ถ้าไม่อยากให้เตี่ยยุ่งเรื่องนี้มัดก็รีบๆ มีแฟนสิจ๊ะ ซ้อต้องวางแล้วนะ เฮียเมธมาแล้ว เดี๋ยวค่อยคุยกันจ้ะ”

มธุชาเห็นภาพที่พี่สะใภ้แอบโทร. มาส่งข่าวแล้วต้องคอยเหลียวซ้ายแลขวาอย่างระมัดระวังเพื่อไม่ให้บิดาและพี่ชายของเธอเห็นได้ชัดเจนราวกับอยู่ในเหตุการณ์เชียวล่ะ

หญิงสาวพ่นลมหายใจหนักหน่วง ความง่วงงุนหายเป็นปลิดทิ้ง ก่อนจะโทร. กลับไปหาน้องสาวเพื่อบอกว่าเธอรู้เรื่องแล้ว

“อ้อ ซ้อโทรบอกเจ้แล้วเหรอ ยังไงก็ใจเย็นๆ ก่อนนะเจ้ เตี่ยหวังดีกับเจ้หรอกถึงได้ทำแบบนี้” มธุมาสพยายามใช้น้ำเย็นเข้าลูบด้วยรู้ดีว่าพี่สาวต่อต้านการแต่งงานแบบคลุมถุงชน และการเป็นสะใภ้คนจีนมากแค่ไหน

มธุชาเปิดม่านริมระเบียงข้างห้อง เดินออกไปสูดอากาศบริสุทธิ์เข้าเต็มปอด แต่ถึงอย่างนั้นเธอก็ยังไม่หายหงุดหงิดและอดที่จะกลอกตามองท้องฟ้าอย่างเบื่อหน่ายไม่ได้

“หวังดีประสงค์ร้ายน่ะสิ เจ้ไม่ยอมแน่!”

“ไม่ยอม งั้นเจ้จะทำยังไงล่ะ คราวนี้เตี่ยท่าจะเอาจริงนะ เห็นซ้อบอกว่าเตี่ยแอบคุยกับเฮียเมธแค่สองคน คงคิดจะจับเจ้คลุมถุงชนแบบไม่ถามความเห็นแหงๆ ก็เจ้น่ะเคยแสดงอิทธิฤทธิ์มาตั้งกี่ครั้งแล้ว คราวนี้เตี่ยคงกะไม่ให้เจ้หาวิธีรับมือได้ทันน่ะสิ” มธุมาสให้ความเห็นอย่างไม่สบายใจ

ใช่ว่าไม่เคยมีใครมาจีบพี่สาวของเธอ แต่มธุชาเองนั่นแหละ ที่ปฏิเสธอย่างไม่ไว้หน้าไปเสียทุกราย แถมเวลาที่บิดาพาหนุ่มๆ มาแนะนำ มธุชายังงัดสารพัดมุกเด็ดในนิยายที่เขียนเองออกมารับมือชนิดที่ไม่มีใครคาดถึง บิดาต้องเป็นฝ่ายเพลี่ยงพล้ำมาตลอด แต่ก็ไม่เคยยอมแพ้จริงๆ เสียที ท่านยังคงหาโอกาสที่จะจับพี่สาวเธอแต่งงานให้ได้

แรกๆ มธุมาสก็เข้าข้างพี่สาวดีอยู่หรอก แต่ตอนนี้มธุชาอายุสามสิบเอ็ดปีแล้วยังไม่มีวี่แววว่าจะตกลงปลงใจกับใคร ถ้าบิดาไม่บีบบังคับก็มีแนวโน้มสูงว่าอาจจะต้องอยู่คนเดียวไปจนตาย เธอไม่คิดว่าคนเราจะสามารถอยู่คนเดียวได้จึงอยากให้พี่สาวแต่งงานกับผู้ชายดีๆ สักคน แต่ก็ไม่เห็นด้วยกับวิธีคลุมถุงชนเช่นกันจึงต้องโทร. มาเตือนพี่สาวเสียหน่อย

“ก็ไม่ทำไงหรอก เจ้ก็แค่...ไปงานแซยิดอาม่าเล็กพร้อมว่าที่ลูกเขยของเตี่ยน่ะสิ” หญิงสาวตอบด้วยแววตามุ่งมั่นเต็มที่

ตั้งแต่ถูกสิตางศุ์ตัดหน้าควงหนุ่มหล่อล่ำมาเกทับเมื่อคืนนี้ เธอก็ตั้งใจแล้วว่าจะต้องค้นหาผู้ชายที่สมบูรณ์แบบตามอุดมคติของตนอย่างจริงจังเสียที จะรอให้พรหมลิขิตสำแดงเดชนั้นคงจะไม่ทันกาล จากเดิมที่ตั้งเป้าเอาไว้ว่างานเลี้ยงรุ่นปีหน้าจะควงเจ้าชายในฝันไปอวดสิตางศุ์ให้หงายเงิบบ้างก็คงจะต้องร่นระยะเวลาเข้ามาอีก

มันคงถึงเวลาที่เธอต้องบอกลาความโสดจริงๆ แล้วล่ะ!

มธุมาสนิ่งอึ้งไปหลายอึดใจ ก่อนจะตะกุกตะกักถามด้วยความตื่นเต้น “จริงเหรอเจ้ นี่เจ้มีแฟนแล้วใช่มั้ย มดดีใจด้วยจริงๆ นะ ในที่สุดเจ้ก็ไม่ต้องเป็นสาวทึนทึกแล้ว อุ๊บ!”

“ยายมด!” คนเป็นพี่เรียกเสียงเข้ม สีหน้าบึ้งตึงขึ้นทันควัน

‘สาวทึนทึก’ เป็นคำที่ฟังแล้วจี๊ดเข้าไปถึงเส้นเลือด ทำไมสาวโสดจึงต้องถูกเรียกขานด้วยคำที่มีความหมายในเชิงลบหลู่ดูหมิ่นด้วย มันเหมือนมีใครสักคนเอาป้ายบิลบอร์ดใหญ่ๆ มาตราหน้าประจานกันว่าสาวคนนั้นคือผู้หญิงที่ไม่มีผู้ชายคนไหนเอา

ไม่ยุติธรรมเลย บางทีสาวโสดแสนสวยอย่างเธอก็อยากเป็นฝ่ายเลือกผู้ชายที่ถูกใจบ้าง ใช่ว่าผู้หญิงต้องเป็นฝ่ายถูกเลือกเสมอไป นี่มันยุคที่รัฐบาลต้องมองหาพลังงานสำรองจากนอกโลกแล้ว เธอนี่แหละจะเลือกผู้ชายที่จะมาเป็นคู่ชีวิตด้วยตัวเองให้ดู

ถ้าไม่หล่อ ไม่รวย ไม่เริด และไม่แสนดีเหมือนพระเอกในนิยายของเธอล่ะก็ อย่ามาเสนอหน้าให้ระคายใจเชียว คนสวยไม่สนหรอก เชอะ!

“โทษทีเจ้ มดตื่นเต้นแทนเจ้น่ะ แค่นี้ก่อนนะ เฮียพลมาแล้ว มดต้องไปดูแลเขาก่อน”

มธุชาเบ้ปาก กลอกตา ถอนใจเฮือกใหญ่ “เห็นสามีดีกว่าพี่เชื้อเสมอแหละ ชิ!”

หญิงสาวมุ่ยหน้า หย่อนมือถือลงในกระเป๋ากางเกงขายาวเนื้อหนาที่เธอชอบใส่นอน ก่อนจะยืดแขนบิดขี้เกียจอย่างเมื่อยล้า แต่พอนึกได้ว่าต้องออกกำลังกายหลังตื่นนอนทุกเช้าจึงวิ่งจี๋กลับเข้าไปในห้อง เปิดเครื่องเล่นซีดี หยิบแผ่นรวมฮิตเพลงแดนซ์ใส่เข้าไปแล้วกดเพลย์

จากนั้นร่างเพรียวก็เริ่มวาดแขนวาดขาโชว์ลีลาแม่สาวเท้าไฟเพื่อสุขภาพร่างกายที่ฟิตแอนด์เฟิร์มอย่างไม่สนหน้าอินทร์หน้าพรหมที่ไหนทั้งนั้น ด้วยทำงานแบบไม่มีวันหยุดราชการจนเคยชิน แถมอารมณ์ยังขุ่นมัวแต่เช้า อารามอยากหาที่ระบายจัด มธุชาเลยลืมไปว่าวันหยุดสุดสัปดาห์แบบนี้คนอื่นเขายังนอนหลับอยู่บนเตียง



เสียงเพลงดังทะลุกระจกริมระเบียงเข้ามาภายในห้องนอนที่เงียบสงบ ชินดนัยเอาหมอนข้างขึ้นมาปิดหูด้วยความรำคาญ ก่อนจะพลิกกายไปมาอย่างหงุดหงิด เพราะไม่ว่ายังไงเสียงนั่นก็ดังหนวกหูจนหลับต่อไม่ได้

ร่างสูงในชุดกางเกงขายาวเนื้อหนาเปลือยอกตึงแน่นอวดมัดกล้ามสวยงามอย่างคนออกกำลังกายเป็นประจำผุดลุกนั่งกลางเตียงที่ยับยู่ยี่ด้วยอาการง่วงงุนปนโมโห ลืมตาข้างหนึ่งขึ้นมองหน้าปัดนาฬิกาบนโต๊ะข้างเตียง พบว่าตอนนี้เพิ่งจะแปดโมงสี่สิบห้านาทีก็ยิ่งพื้นเสีย

นี่มันวันหยุดของเขานะ กะจะนอนให้เต็มอิ่มซะหน่อยแล้วค่อยตื่นไปรับพี่ชายที่สนามบินตอนบ่าย แต่นี่อะไร เขาต้องมาแหกขี้ตาตื่นก่อนเวลาตั้งเป็นชั่วโมง มีเพื่อนบ้านไร้มารยาทแบบนี้ต้องสั่งสอนให้เข็ด!

มือหนาสะบัดผ้าห่มออกให้พ้นตัวพร้อมกับหมอนข้างถูกโยนลงบนพื้นเพื่อระบายอารมณ์ ก่อนจะเดินไปแหวกม่านมองหาต้นเสียงน่ารำคาญนั่นให้พบแล้วจัดการซะ

ชายหนุ่มมุ่งไปที่ระเบียงหน้าบ้านก่อนแต่ดูเหมือนเสียงเพลงไม่ได้มาจากด้านหน้า คล้ายว่าจะมาจากด้านข้างมากกว่า จึงเดินไปแหวกผ้าม่านริมระเบียงข้างห้องออกด้วยโทสะที่พลุ่งพล่าน แต่ภาพที่เห็นทำให้เขาต้องขยี้ตามองซ้ำ

ที่ริมระเบียงด้านข้างของบ้านหลังติดกันมีหญิงสาวรูปร่างเพรียวบางสมส่วนในชุดเสื้อกล้ามสีขาวพอดีตัวกับกางเกงขายาวสีเทาแบบใส่นอนกำลังยืดแข้งยืดขาบิดกายให้เข้าจังหวะอย่างน่ามอง เธอหันไปทางหน้าบ้านจึงมองไม่เห็นเขาซึ่งอยู่ในมุมด้านข้าง

“ยังไม่แก่แฮะ” ชายหนุ่มพูดกับตัวเองอย่างคาดไม่ถึง

จังหวะหนึ่งที่แม่สาวเท้าไฟสะบัดผมจนเปิดให้เห็นใบหน้ารูปไข่กับเครื่องหน้าจิ้มลิ้มพริ้มเพรา เขารู้สึกว่าจังหวะหัวใจผิดปกติ

เสียงเพลงหยุดลง เธอหยุดเต้น ยืดแขนขึ้นและสูดลมหายใจเข้าปอดลึก พอดีกับที่สายลมเย็นๆ พัดมาวูบหนึ่ง แล้วใบหน้ารูปไข่ก็แหงนเงยขึ้น ดวงตาหลับพริ้ม เส้นผมปลิวไสวรับจังหวะเอื่อยอ่อนของสายลม

ภาพนั้นสะกดชินดนัยไว้จนไม่อาจถอนสายตาได้ อาจจะเป็นเพราะรูปร่างสวยงามไร้ที่ติ หรือเป็นที่ผิวพรรณขาวผ่องอมชมพูดูเปล่งปลั่งกลางแสงแดดอ่อนยามเช้า หรือไม่ก็อาจจะเป็นเพราะเส้นผมยาวสยายราวคลื่นทะเลสีน้ำตาลที่เต้นระบำพลิ้วไหวไปตามสายลมนั่นก็ได้ เขาเองก็ไม่แน่ใจนัก รู้เพียงว่าไม่เคยรู้สึกถึงแรงดึงดูดมหาศาลจากผู้หญิงคนไหนมากเท่านี้มาก่อน

แล้วหญิงสาวก็หมุนตัวเดินกลับเข้าไปในห้อง ชายหนุ่มไม่ได้ยินเสียงเพลงอีก และนั่นก็ทำให้เขารู้สึกเสียดายขึ้นมา

ชินดนัยยืนนิ่งอยู่ตรงนั้นเป็นนาน ก่อนจะหัวเราะเบาๆ อย่างขบขันตัวเอง เมื่อรู้ตัวว่านอกจากจะไม่ได้จัดการคนไร้มารยาทให้รู้สำนึกแล้ว เขายังเพลิดเพลินไปกับการรบกวนของเธออีก

“ท่าจะเพี้ยนแฮะเรา!”

ร่างสูงหมุนตัวกลับเข้าห้อง สงสัยว่าต่อไปนี้เขาคงจะต้องตื่นเช้าทุกวันพร้อมแม่สาวเท้าไฟข้างบ้านเสียแล้วล่ะ



มธุชากลับเข้าไปอาบน้ำให้สดชื่นหลังเสียการเหงื่อ การออกกำลังกายนอกจากจะทำให้สุขภาพแข็งแรงและมีรูปร่างที่ฟิตแอนด์เฟิร์มแล้ว ยังทำให้เธอรู้สึกกระปรี้กระเปร่าและหายง่วงได้อีกด้วย หญิงสาวจึงชอบออกกำลังกายในตอนเช้าเป็นประจำ เพื่อจะได้เริ่มต้นวันใหม่อย่างกระฉับกระเฉง โดยเฉพาะวันนี้มีภารกิจสำคัญรอคอยอยู่ด้วย

ปกติแล้วเธอชอบออกไปวิ่งมากกว่า แต่วันนี้สมองต้องเคร่งเครียดกับปฏิบัติการสลัดโสดให้ได้ภายในยี่สิบเก้าวัน ก่อนจะถึงงานแซยิดของอาม่าเล็ก...ภรรยาคนที่สองของอากง เธอแค่อยากปลดปล่อยความเครียดออกไปกับการเต้นเท่านั้น และมันก็ได้ผลดีทุกครั้งด้วย

ร่างเพรียวบางทรุดนั่งหน้าโต๊ะเครื่องแป้ง จ้องมองใบหน้าตัวเองผ่านกระจกเงาอย่างพินิจพิจารณา เอียงซ้ายเอียงขวาหาริ้วรอยแห่งวัยอย่างจริงจัง ก่อนจะยิ้มด้วยความพึงพอใจกับภาพที่เห็น

“ไม่เห็นจะเหี่ยวตรงไหนเลย ยายตังนี่มั่วชัดๆ สายตายาวแล้วล่ะสิ คนแก่ก็งี้แหละ เชอะ”

ว่าแล้วก็ย่นจมูกนิด ก่อนจะใช้ครีมบำรุงผิวสารพัดยี่ห้อมาชโลมทั้งใบหน้าและร่างกาย ซึ่งเป็นกิจวัตรประจำวันที่เธอจะละเลยไม่ได้เด็ดขาด เพราะต้องใช้ชีวิตอยู่หน้าจอคอมพิวเตอร์แทบทั้งวัน

ในขณะเดียวกันก็ขบคิดไปด้วยว่า เธอจะไปตามหาเจ้าชายในฝันได้ที่ไหน แล้วใบหน้าสดใสอิ่มเอิบเมื่อครู่ก็แห้งเหี่ยวลงทันตา

มธุชาได้รับการเลี้ยงดูมาในครอบครัวคนไทยเชื้อสายจีนหัวโบราณที่ยังคงให้ความสำคัญกับลูกชายมากกว่าลูกสาว ขณะที่เธอเกิดและเติบโตในยุคประชาธิปไตย ได้รับการศึกษาเล่าเรียนที่ดีและมีวิสัยทัศน์ที่เปิดกว้าง จึงไม่เห็นด้วยกับการปกครองระบอบเผด็จการในบ้าน และเห็นด้วยอย่างยิ่งกับค่านิยมที่ว่าผู้ชายเป็นเพศที่แข็งแรงกว่า เป็นฝ่ายที่ควรดูแลปกป้องเพศหญิง ไม่ใช่ใช้ความแข็งแรงมารังแกหรือเอาเปรียบผู้หญิง

นั่นแหละ คือนิยามของคำว่า ‘สุภาพบุรุษ’ ในความคิดของเธอ

มนตรี บิดาของเธอเป็นลูกชายคนโตของตระกูล ได้รับการอบรมเลี้ยงดูมาอย่างตามใจเพราะเป็นลูกชาย และได้รับการปลูกฝังค่านิยมแบบผู้ชายเป็นใหญ่ไว้ในหัวจนความเชื่อนั้นเจริญเติบโตรวดเร็วยิ่งกว่ามะเร็งร้าย

มธุรส มารดาของเธอเป็นอาจารย์สอนในมหาวิทยาลัย นับเป็นผู้หญิงแกร่งที่สามารถรับผิดชอบงานทั้งในบ้านและนอกบ้านได้เป็นอย่างดี แต่ก็ยังดีไม่พอสำหรับการเป็นลูกสะใภ้คนจีน

อากงกับอาม่าต้องการให้มารดาของเธอลาออกจากงานมาดูแลบ้านและสามีอย่างเต็มตัว พวกท่านมีความเชื่อว่าสะใภ้เมื่อแต่งงานแล้วก็ต้องเป็นคนของบ้านสามี มีหน้าที่ดูแลสามีและพ่อแม่พี่น้องของสามีด้วย แถมยังปลูกฝังให้มนตรีมีความเชื่อว่าผู้ชายต้องได้รับการดูแลจากภรรยา ไม่ใช่เป็นฝ่ายที่ต้องดูแลภรรยา ผู้ชายคือผู้นำ ผู้หญิงต้องทำตามคำสั่งของสามีจึงจะเป็นภรรยาที่ดี และมนตรีเองก็เป็นลูกชายที่กตัญญูกตเวทีต่อบุพการีมาก จนไม่อาจเพิกเฉยต่อคำสอนและความต้องการของบิดามารดาได้

สุดท้ายด้วยความรักที่มีต่อสามี มารดาของเธอก็ต้องลาออกจากงาน ทิ้งความภาคภูมิใจในการเป็นแม่พิมพ์ของชาติเพื่อมาดูแลสามีและญาติๆ ตั้งแต่มธุชาเข้าเรียนมัธยมต้น ตอนนั้นมธุชาโตมากพอจะเข้าใจเรื่องราวทุกอย่างและเริ่มมีความคิดที่ขัดแย้ง

ทัศนคติในแง่ลบที่มีต่อเพศชายของมธุชาได้รับการตอกย้ำมากขึ้น เมื่อเมธัช พี่ชายคนโตของเธอถอดแบบผู้เป็นบิดาออกมาแบบสำเนาถูกต้อง พี่สะใภ้ของเธอจึงมีสภาพไม่ต่างจากมารดาของเธอนัก แต่วิชนีโชคดีกว่า ตรงที่แม่สามีไม่เหมือนอาม่าของเธอ ส่วนมธุมาส น้องสาวของเธอก็แต่งไปเป็นสะใภ้คนจีน มีชีวิตไม่ต่างจากมารดาและพี่สะใภ้ของเธอนัก ผู้หญิงทั้งสามคนต่างพูดเป็นเสียงเดียวกันว่า ที่อดทนกับทุกอย่างได้ก็เพราะความรักที่มีต่อสามี

มธุชาไม่โทษความรักที่ทำให้ผู้หญิงคนหนึ่งต้องทิ้งงาน ทิ้งความภาคภูมิใจ ทิ้งความเป็นตัวของตัวเอง และนั่นอาจหมายถึงการสูญเสียจิตวิญญาณ...เพื่อครอบครัวและคนที่รัก แต่บาดแผลเล็กๆ ที่ไม่ได้รับการเยียวยานั่นเองที่เป็นจุดเริ่มต้นให้หญิงสาวขาดศรัทธาในตัวผู้ชาย

เธอคิดว่าผู้หญิงยังยอมอดทนทุกอย่างได้เพื่อผู้ชายที่รัก ฉะนั้นผู้ชายก็ควรต้องปกป้องผู้หญิงที่ตนรักได้เช่นกัน แต่เห็นได้ชัดเจนว่าผู้ชายส่วนใหญ่ไม่เป็นอย่างที่ควรจะเป็น เธอจึงไม่อาจทำใจคบหาหรือแต่งงานกับใครก็ตามที่ทำให้เธอยอมรับนับถือไม่ได้

ใช่ว่ามธุชาจะปิดกั้นตัวเองเพราะอคติที่ฝังใจ คนที่มองไม่เห็นความสวยงามของคำว่า ‘รัก’ ย่อมไม่มีทางเขียนนิยายรักให้จบได้ มธุชาก็เหมือนผู้หญิงทั่วไปคือมีเจ้าชายในฝันที่เฝ้ารอ เพียงแต่เจ้าชายของผู้หญิงแต่ละคนย่อมไม่เหมือนกัน และแน่นอนว่าเธอกำลังรอคอยเจ้าชายในฝันของตัวเอง ด้วยความหวังว่าสักวันหนึ่งเขาจะปรากฏตัว และทำให้ความฝันของเธอเป็นจริง

แต่ปัญหามีอยู่นิดเดียวว่าเจ้าชายของมธุชาจะต้องมีคุณสมบัติครบถ้วนตามที่เธอวางไว้ทั้งหมด 9 ประการ ขาดแม้แต่ข้อเดียวก็หมดสิทธิ์ นี่แหละ ปัญหาเล็กๆ ที่เป็นอุปสรรคของรักแท้ ไม่รู้ทำไมผู้ชายที่มีคุณสมบัติครบ 9 ประการถึงได้หายากหาเย็นนัก มันก็แค่...

หนึ่ง...รูปร่างหน้าตาดี

แน่นอน ขึ้นชื่อว่าเจ้าชายจะเป็นคนขี้เหร่ได้ยังไง มันไม่แมทช์กันเลยนี่นา เธอไม่ได้ตัดสินคนที่รูปร่างหน้าตาหรอกนะ ไม่เล้ย...ไม่อย่างนั้นจะมีข้อสองถึงเก้าหรือ

สอง...ฐานะดี

ใช่ว่าเธอชอบตัดสินคนจากฐานะ เพียงแต่เธอรังเกียจผู้ชายที่เกาะผู้หญิงกินจึงต้องตั้งสเปกไว้ก่อนว่า เจ้าชายของเธอต้องมีฐานะดีพอที่จะดูแลเธอได้ แม้เธอจะดูแลตัวเองได้แต่ก็ชอบให้คนรักดูแลมากกว่าจะต้องเป็นฝ่ายดูแลเขาทุกอย่าง แบบนั้นมันจะขาดความเป็นสุภาพบุรุษไป เธอนับถือไม่ลง

สาม...หน้าที่การงานมั่นคง

ถ้าใช้เงินเป็นแต่หาไม่เป็น สักวันก็หมดตัวได้เหมือนกัน เธอไม่นิยมลูกคนรวยที่ไม่เอาไหน เหยียบขี้ไก่ไม่ฝ่อ ดีแต่อวดรวย เพราะนั่นแปลว่าแม้แต่ชีวิตเขาเองยังรับผิดชอบไม่ได้ แล้วเขาจะดูแลเธอได้ยังไง คนแบบนั้นคบกันไปก็เป็นภาระตัวเองเปล่าๆ

สี่...นิสัยดี

แม้สาวๆ สมัยนี้จะชอบผู้ชายเลว หรือชอบแบบดิบๆ เถื่อนๆ เพราะเห็นว่าเร้าใจดี แต่เธอยืนยันว่าชอบคนดี และเกลียดที่สุดคือผู้ชายเห็นแก่ตัว

ห้า...ฉลาด

ว่ากันว่าคนดีกับคนโง่นั้นต่างกันเพียงเส้นบางๆ กั้นไว้ ข้อนี้เธอตั้งเอาไว้คัดแยกคนดีที่ไม่ฉลาดออกไป เธอไม่อยากให้ลูกออกมาโง่นี่นา

หก...อายุมากกว่าเธออย่างน้อยห้าปี

เธอไม่ชอบเคี้ยวหญ้าอ่อนเพราะชอบคนที่เป็นผู้ใหญ่ ให้คำปรึกษาได้ อยู่ใกล้แล้วรู้สึกอบอุ่น ปลอดภัย มากกว่าอยู่ใกล้แล้วรู้สึกเหมือนมีน้องชายต้องดูแล บอกแล้วว่าเธอชอบให้ผู้ชายเป็นฝ่ายดูแลผู้หญิง แต่...ตอนนี้เธอก็สามสิบเอ็ดแล้ว ข้อนี้ลดๆ ลงมาหน่อยก็ได้ ไม่ต้องถึงห้าปี แต่ขอให้เป็นผู้ใหญ่

เจ็ด...ทำอาหารอร่อย

เธอเองก็ทำกับข้าวเป็น แต่ชอบให้ผลัดกันทำมากกว่า และผู้ชายสวมผ้ากันเปื้อนยืนอยู่หน้าเตาน่ะ มันดูน่ารักออกจะตายไป ข้อนี้เธอให้คะแนนบวก บวก บวก

แปด...โรแมนติก

ไม่ต้องมากมายอะไร แค่น้องๆ พระเอกในนิยายของเธอก็พอ อย่างน้อยยอมร้องเพลงรักให้เธอฟังสักเพลงก็ได้ใจไปเต็มๆ แล้ว ข้อนี้เธอให้คะแนนบวก บวก บวก จิตพิสัยเกินร้อยไปเลย

เก้า...รักเดียวใจเดียว

หญิงสาวเชื่อว่าความรักคือความรู้สึกแสนพิเศษและงดงามที่สุดที่เธอจะมอบให้ใครได้เพียงคนเดียวเท่านั้น และเธอก็ต้องการให้คนรักรู้สึกเช่นเดียวกัน รักที่ถูกแบ่งปันมันจะเป็นรักที่สวยงามได้ยังไง มีให้ก็แค่น้ำตาและความขมขื่นเท่านั้นแหละ

เห็นไหม แค่นี้เองคุณสมบัติเจ้าชายในฝันของเธอ

แต่ผู้ชายสมัยนี้ไม่ยักมีให้เห็น หรือมีบ้างแต่ก็ไม่ครบ 9 ประการ และสาวเพอร์เฟกต์ชั่นนิสต์ตัวแม่อย่างเธอก็ทนความไม่สมบูรณ์แบบไม่ได้ซะด้วย นี่แหละ ปัญหาเล็กๆ ที่ทำให้เธอยังโสดสนิท เวอร์จิ้นทั้งตัวและหัวใจมาได้จนอายุสามสิบเอ็ด!

หญิงสาวคอตก สีหน้าเหี่ยวแห้งเหมือนแตงขาดน้ำ “เพอร์เฟกต์แมนขนาดนั้นจะเหลือมาถึงมือเราเหรอ อยู่มาจนอายุเลยเลขสามแล้วก็ยังไม่เคยเจอ แค่เฉียดๆ ก็ยังไม่มี แล้วเวลาแค่ยี่สิบเก้าวันเราจะหาเจอได้ยังไง งมเข็มในมหาสมุทรจะง่ายกว่ามั้ยเนี่ย นี่มันบ้าบอชัดๆ เลยยายมัดเอ๊ย...แล้วจะทำยังไงดี เฮ้อ...”

มธุชากลอกตาขึ้นมองเพดานห้องพร้อมถอนใจอย่างหมดอาลัยตายอยาก ก่อนจะเดินคอตกไปนอนกลิ้งลงบนเตียงทั้งชุดคลุมอาบน้ำ เธอเริ่มรู้สึกนับถือสิตางศุ์ขึ้นมานิดหน่อยที่สามารถล่อลวงคุณหมอรูปหล่อมาควงได้สำเร็จ

เป็นห่วงก็แต่หมอชิน ตกเป็นเหยื่อนางมารร้ายแล้วยังไม่รู้ตัวอีก ชาติที่แล้วคงทำกรรมมาเยอะแน่ๆ เลยคุณหมอ โถ...น่าสงสาร

หญิงสาวนอนกลิ้งไปกลิ้งมาจนสายตาปะทะเข้ากับหนังสือนิยายเล่มหนึ่งที่วางอยู่บนโต๊ะกลมข้างเตียง มันเป็นเล่มล่าสุดที่เพิ่งวางแผงไป เธอหยิบออกมาจากกล่องที่สำนักพิมพ์ส่งมาให้เมื่อวันก่อนเพื่อตรวจเช็กว่ามีคำผิดหลุดมาบ้างหรือไม่

บอกแล้วว่ามธุชานิยมความสมบูรณ์แบบเป็นที่สุด ความผิดพลาดแม้จะเล็กน้อยก็ทำให้เธออารมณ์เสียได้ แต่เพราะมัวยุ่งกับการจัดบ้านใหม่มาหลายวันแล้ว พอหัวถึงหมอนจึงหลับปุ๋ย ไม่ทันได้เปิดหนังสือขึ้นมาดูแม้แต่หน้าเดียว

ร่างบางดีดตัวขึ้นราวติดสปริง กระโดดคว้านิยายเล่มนั้นมากอดด้วยความตื่นเต้นดีใจ สีหน้าแช่มชื่นขึ้นทันตา กลับมาลั้ลลาได้อีกครั้ง

“มีตั้งร้อยแปดพันเก้าสถานการณ์ที่ทำให้พระเอกกับนางเอกโคจรมาพบกัน รักกัน แล้วก็ลงเอย มันต้องมีซักวิธีที่เหมาะกับเราล่ะน่า ในที่สุดก็รอดแล้วยายมัด เยส!!”








Create Date : 28 สิงหาคม 2556
Last Update : 28 สิงหาคม 2556 0:55:42 น. 2 comments
Counter : 647 Pageviews.

 
ถ้าจะหาให้ได้ 9 ข้อ
สงสัยคงยากน่าดูเลยค่ะ เจ้าชาย อิอิ


โดย: lovereason วันที่: 29 สิงหาคม 2556 เวลา:20:17:19 น.  

 
ถ้ารักแล้วก็ลำเอียงเองแหละ 9 ข้อน่ะน้อยไป อิอิ


โดย: พี่หมูน้อย IP: 202.28.248.42 วันที่: 25 กันยายน 2556 เวลา:10:56:26 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

nawapat
Location :
กรุงเทพฯ Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 2 คน [?]




...เขียนเรื่อยๆ เหนื่อยก็พัก หนักก็หยุด สนองนี้ดมันไปตามอารมณ์ ^^"...
Friends' blogs
[Add nawapat's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.