Group Blog
 
 
กรกฏาคม 2552
 1234
567891011
12131415161718
19202122232425
262728293031 
 
23 กรกฏาคม 2552
 
All Blogs
 
สุข สนุก เบิกบาน เครียด หลังคลอด 3 วัน ณ รพ.



วันที่ 1
หลังจากที่เค้าเอาเรามาส่งที่ห้องพักแล้วก็ต้องมานอนสนทนากับ
ญาติๆ ตา ยาย คนผ่าก็นอนฟัง คนเยี่ยมแย่งกันพูดปายยยย
เค้าก็ถามๆกันว่าเป็นไงบ้างเจ็บแผลป่าว
ไม่อ่ะ ไม่เจ็บเลยยังชาอยู่ที แต่ที่แน่ๆ หิวข้าวววววว
ม๊ากกกกกกกก มากกกกกก

เมื่อตา ยาย และญาติๆพากันกลับ ก็เหลือแต่เราและ สามี 2 คน
ความจริงเริ่มปรากฏ ยังมีอีกหลายอย่างต้องเผชิญ
ความปวดเริ่มทะยอยมาอย่างกระชั้นชิด เนื่องจากเริ่มหายชาแล้ว
จะขยับตัวก็ลำบาก จะนั่งก็ไม่ได้ ติดสายน้ำเกลือระโยงระยางเต็มไปหมด
แถมยังมีสายสวนปัสสาวะอีกต่างหาก
ผ่านไป 2 ชม. หลายทุ่มแล้วหล่ะไวเหมือนโกหก เค้าก็เอาน้องแคลฟี่มาให้ดูดกระตุ้นอีกรอบหลังจากที่ดูดกระตุ้นไปแล้วในห้องพักฟื้น
ตอนนี้มาเค้าห่อมาให้อย่างดี แน่นหนาเชียว เหมือนดักแด้เลย
ทีนี้สิ อีแม่มันก็ลุกไม่ได้ ต้องนอนให้นม นมก็ไม่รู้มีป่าว
เนอสรี่เค้าก็บอกว่าวันแรกกระตุ้นไปก่อน ไม่มีนมน้องเค้าก็อยู่ได้
แล้วห้องเนอสเค้าก็มีนมขวดให้กิน โอ้ววว ชั้นไม่อยากให้กินนมขวดอ่ะ
แต่นมเรายังไม่มี ก็ไม่มีทางเลือก พ่อก็ตื่นตลอดทุกครั้งที่เค้าเอาลูกมาดูดกระตุ้น จากที่เป็นคนอุ้มเด็กไม่เป็น งานนี้พ่อสู้ตาย ช่วยอุ้มสลับข้าง
เพราะแม่มันขยับตัวลำบาก แค่นอนตะแคงข้างซ้ายขวายังต้องใช้เวลาเลย
นับภาษาอะไรจะอุ้มลูกสลับข้างเอง
...เฮ้อออ...ท้องก็หิว..เจ็บแผลก็เจ็บ...ชีวิตชั้นมันเกิดอะไรกันขึ้นน๊อออ

วันที่ 2 กลางคืนอันสั้นก็ผ่านพ้นไป
รุ่งเช้าที่ยาวนานก็ผ่านเข้ามา ทุกครั้งที่พยาบาลเค้าเปิดห้องเข้ามา
ก็มีความหวังว่าจะต้องเป็นอาหารรรรร
แต่ก็ไม่ใช่ซักครั้ง เค้ามาวัดชีพจร วัดไข้ วัดความดัน เอาน้องแคลฟี่มาดูดกระตุ้น
ไม่ใช่ข้าวเลยซักครั้ง
พอสายๆ หมอก็มาตรวจ แทนที่จะตรวจแบบปกติ ดันมากดหน้าท้องเราอีก
โอยยยย เจ็บก็เจ็บ ปวดก็ปวด แทนที่จะทุเลากลับเพิ่มดีกรีขึ้นไปอีก
หมอถามว่ายังปวดอยู่รึป่าว แหม จะไม่ปวดได้ไง กดซะขนาดนั้น

พอหมอออกไปเค้าก็เอาน้องมาดูดกระตุ้นอีก แม่มันก็ง่วงเพราะเมื่อคืนไม่ได้นอน
เพราะต้องให้ดูดกระตุ้นทุกครั้งที่เค้าเอามาให้ แถมยังไม่ได้กินข้าวเลย แผลก็ปวดมากขึ้น จริงๆแล้วมียาฉีกเพื่อลดการปวดแผล แต่ความที่แม่มันแอบ งก ! กลัวเค้าคิดตังค์เพิ่มก็เลยไม่ขอ แต่ก็นะ....สุดท้ายพอให้ดูดกระตุ้นเสร็จ แผลก็ปวดมากขึ้นจนจะเป็นลม คุณยายเลยบอกว่าขอยาพยาบาลเถอะลูก....เอาวะ...ขอก็ขอ เลยให้สามีกดเรียกพยาบาลให้ แต่ยายบอกว่าอย่าเลย กดเรียกทีครั้งละ 200 แม่เดินไปเอง (งก กว่า...แต่จริงๆก็ค่าเท่ากันแหล่ะเพราะเรียกเค้ามาเหมือนกัน) พอฉีดเสร็จก็ทุเลาลงแล้วง่วงก็เลยหลับไป
ทีนี้พอหมอเด็กเข้ามา ก็ไม่ได้คุยมาคุยๆๆๆกับสามีเราแล้วก็ออกไป

มหกรรมเยี่ยมไข้
หลังจากนี้ก็เป็นมหกรรมเยี่ยมไข้ เริ่มช่วงสายๆ คือเพื่อนมาค่ะ
พกเอาสามีและลูกมาด้วย เห็นว่ามาตั้งแต่เรายังหลับอยู่ ยังนั่งรอจนเราตื่นเลย น่ารักจริงๆ เพราะถ้าเป็นคนอื่นคงไม่รอหรอกมาเยี่ยมเป็นพิธีก็กลับ
แล้วก็อยู่คุยกันไม่นานเพราะเห็นว่าจะไปทานข้าวและซื้อของกันต่อ...เอออ...เนาะ เราก็ยังไม่ได้ทานข้าวนี่...ยังมีแอบรอลุ้นข้าวอีก สรุปได้กินจริง...โว้ววววว เหมือนสวรรค์ประทาน พอเปิดดูปุ๊บ...แป่วววว
กลายเป็นซุปใสกับน้ำต้มข้าว....กรี๊ดดด...ชั้นจะกินข้าววววว..ขอข้าวกินหน่อย
และถามพยาบาลว่ายังกินข้าวไม่ได้เหรอคะ พยาบาลเค้าบอกว่ากลัวท้องอืดก็เลยให้กินแบบนี้ก่อน เพราะเรายังลุกเดินไม่ได้ เดี๋ยวบ่ายๆจะมาเอาสายที่ระโยงระยางออกค่ะ......กรรม...
พอบ่ายๆ...ญาติๆ เพื่อนๆก็เริ่มทะยอยเข้ามา...พอเย็นๆ ตา ยาย และพี่ชาย(ลุง)ก็มาเยี่ยม อีลุงเห็นหน้าหลานแล้วบอกว่าหน้าตาโอเคแล้ว เหลือเลี้ยงหัวให้ยาวๆเป็นอีที (ฮ่วยย) ปากแบบนี้ท่าทางปากจะจัด (เหมือนอีลุงมัน)



แล้วก็พากันไปทานข้าวเย็น ส่วนเราก็มีหน้าทีรับแขก กับให้ลูกดูดกระตุ้นต่อปายยย พอตกกลางคืนประมาณซัก ทุ่ม - 2 ทุ่ม ก็มีญาติๆ มากันอีก เพื่อนมาด้วย คุยกันสนุกสนานเลยเราก็พอลุกได้บ้างพอเดินได้บ้าง แต่ก็นะ เดินทีปวดแผลจนจะเป็นลม พอใครถามว่าเจ็บมั๊ย....นิดหน่อย...ทนได้ (ดูเหมือนแข็งแรง 5555) วันนี้กว่าจะเยี่ยมกันเสร็จก็เกือบ 4 ทุ่มกว่า เค้าปิดเยี่ยมพอดี 5555 เฮ้อ...เหนื่อยจริงๆ

วันที่ 3 น้องตัวเหลือต้องส่องไฟ
วันนี้เนอสเค้าเอาน้องมาให้ตอน 6 โมงเช้า เห็นบอกว่าเมื่อคืนตอนเอากลับไปน้องกินนมรวดเดียว 2 ออนส์เลย (ในใจเราก็คิดว่าเยอะจัง) สงสัยหิว เพราะแม่มันน้ำนมยังไม่มาเลย แค่ซึมๆ น้องเค้าก็ตัวเล็ก ดูดก็เบาๆ กลัวว่าจะไม่ได้เหมือนกัน เนอสเค้าก็บอกว่าวันนี้น้องเค้าดูซึมๆค่ะ วันนี้คุณแม่อยากเอาน้องมาเลี้ยงที่ห้องมั๊ย เราก็โอเค เค้าก็บอกว่าสายๆจะเอามาให้ใหม่ แต่ระหว่างที่เราให้ดูดกระตุ้นตอนเช้าเราก็สังเกตว่าลูกตัวออกเหลืองๆ ตาดูเหลืองๆ ไม่แน่ใจก็เปิดม่านให้แสงอาทิตย์ส่องเข้ามา ก็เห็นว่าตัวออกเหลือง แต่ก็ไม่คิดอะไรมาก แต่บอกสามีว่า ลูกดูตัวเหลืองนะ...สามีก็บอกว่าไม่น่าเป็นไรหรอกคงคิดไปเอง แล้ววันนี้สามีต้องไปเข้าเวรด้วย ฉะนั้นคืนนี้ยายจะต้องมาอยู่กับเราแทนสามี พอเอาน้องกลับห้องเนอส เราก็บอกแม่อย่างดีใจว่าเดี๋ยวเค้าเอาน้องมาให้เลี้ยงนะ อยู๋นี่จนกลับบ้านเลย สามีก็ยังแซวเลยว่าจะไหวมั๊ยเนี่ยยย

เท่านั้นไม่นานเนอสเค้าก็มาบอกว่าคุณหมอตรวจดูอาการเบื้องต้น ดูว่าน้องตัวเหลือง เลยจะขอเจาะเลือดน้องเพื่อตรวจค่าตัวเหลือง แล้วจะมาบอกผลในอีก ครึ่งชั่วโมง.....เอาแล้ว แม่มันเริ่มเครียด..รอลุ้นผล ในใจก็ภาวนาไม่ให้เป็นไร

ครึ่งชั่วโมงผ่านไปไวมาก เนอสเค้ามาบอกว่าน้องตัวเหลือง ค่าตัวเหลืองน้องขึ้นมา 11 แต่ถือว่าไม่ซีเรียส น้องต้องส่องไฟนะคะ...ไม่ซีเรียสได้ไง ชั้นซีเรียสนะยะ เครียดแล้วเนี่ย
แล้วเราก็ถามว่าเกิดจากอะไร เค้าบอกว่าเกิดจากที่เลือดแม่กับน้องเข้ากันไม่ได้ เพราะเลือดน้องเป็นเลือดกรุ๊ป B ส่วนแม่เป็นกรุ๊ป O ซึ่งเป็นกรุ๊ปที่มีปัญหา ถ้าแม่เป็นกรุ๊ปอื่นก็จะไม่ชัดขนาดนี้ แล้วอีกอย่างแม่มีน้ำนมน้อยทำให้การขับสารเหลืองออกจากตัวลูกไม่ดี..เครียดอีกแล้วชั้น..ตอนนั้นในใจก็คิดว่าเหมือนเป็นความผิดของเราทั้งหมดเลย คิดไปสารพัดว่าถ้าเราเลือดกรุ๊ปอื่นก็คงไม่เป็น ถ้าเราน้ำนมเยอะเหมือนคนอื่นก็คงไม่เป็น
ยายก็เลยถามว่าจะไปดูมั๊ย ก็เลยตกลงไปดูกัน
.....
พอไปเห็นสภาพที่ต้องนอนถอดเสื้อผ้า ปิดตา แล้วต้องนอนใต้แสงหลอดไฟสีม่วง เป็นภาพที่เรารับไม่ได้เลย ก็เลยเดินออกมาแบบน้ำตาซึมๆ แต่ก็คิดว่าแค่วันเดียวเองเดี๋ยวก็ดีขึ้น
โธ่...คิดว่าวันนี้จะได้เลี้ยงเป็นวันแรก เลยไม่ได้เลี้ยงเลย กลับต้องมานอนใต้ไฟแบบนี้ ตอนนี้ความเครียดเริ่มทวีคูณ จนไม่ไหว ตอนกลางคืนนั่งร้องไห้กับยาย จนยายทนไม่ได้เลยไปตามเนอสมาคุยด้วย เค้าก็พยายามบอกว่าไม่ซีเรียส ส่องแค่วันเดียว แล้วก็คุยๆๆๆ ปลอบๆๆๆ อยู่หลายชั่วโมงเหมือนกัน แล้วก็ไม่ไหวแล้วก็เลยขอยืมเครื่องปั๊ม medela ของ รพ. มา จากนั้นก็บ้าตื่นมาปั๊มทุก 2 ชม. ตั้งนาฬิกาเลย แบบ panic ไปเลย ภาวนาว่าเมื่อไหร่จะเช้าซักทีจะได้ออกจากที่ส่องไฟ ส่วนยายก็เดินไปดูเรื่อยๆ ทั้งวันทั้งคืนเหมือนกัน เพราะแม่มันไปดูไม่ได้ เดี๋ยวร้องไห้ ถ้าไม่ได้ออกอย่างที่เค้าบอกก็จะอยู่ รพ.ต่อด้วย ไม่กลับบ้านแล้ว อยู่ด้วยกันดีกว่ากลับบ้าน

วันที่ 4 ออกจากตู้ส่องไฟแล้วววว กลับบ้านกันลูก
เช้าน้องแคลฟี่ก็ออกมาจากตู้ส่องไฟ พยาบาลมารายงานว่าค่าตัวเหลืองลดลงเหลือ 9 แต่ก็สามารถ rebound กลับมาได้ คุณแม่อย่ากังวลมาก น้องถ่ายขี้เทาออกมาแล้ว สารเหลืองออกมาแล้วดีขึ้นแล้ว อ้าวแล้วที่ผ่านมายังไม่ถ่ายเหรอ 3 วันแล้วนะ แต่แม่มันก็ไม่ฟังแล้ว รีบเดินไปดู โหยยย ตัวแดง ตรงรอยพับดูแดงโล่เลย ปากก็แห้งซีด ไม่เหลือเค้าพระเอกลิเกเลย ไม่อยู่แล้ว ชั้นจะเอาลูกกลับบ้าน แค่ให้ อึ ให้ฉี่เยอะๆใช่มั๊ย สามารถอยู่แล้ว สารเหลืองจะได้ออกเยอะๆ กลับมาที่ห้องเค้าเอาอาหารมาให้ ก็ไม่กง ไม่กินแล้ว จะกลับบ้าน ยายก็ช่วยเก็บของเดี๋ยวพ่อออกเวรมาเมื่อไหร่ก็กลับได้เลย แล้วก็บอกพยาบาลว่าวันนี้กลับบ้าน เที่ยงกลับนะคะ พยาบาลก็เลยไปบอกคุณหมอให้มาเอาแม๊คที่เย็บแผลออก เพราะผ่าโดยใช้แม๊คเย็บไม่ต้องรอถึง 7 วัน แค่ 3 วันก็เอาออกได้แล้ว แล้วหมอก็ทำแผลให้ติดพลาสเตอร์กันน้ำ ข้าวก็กินเป็นพิธี แบบว่าชั้นเสียตังค์มาแล้วอ่ะ เสียดาย ระหว่างรอพ่อ พยาบาลเค้าก็เอายามาให้ เอาของที่ระลึกมาให้ในส่วนของเรา ส่วนห้องเนอสเค้าก็เอาของขวัญมาให้น้อง แค่ของน้องแคลฟี่คนเดียวก็ใส่ถุงมาตั้ง 3 ใบแล้ว แบบเยอะมาก พอพ่อมาถึงเที่ยง (มาแบบรีบบึ่งรถมาเลย) ก็ให้ไปจ่ายตังค์แล้วก็ขนของกลับบ้าน ตอนนี้นั่งคิดๆดู เราก็ซีเรียสจริงๆแหล่ะ ยายยังบอกเลยว่าน้องแคลฟี่เนี่ยดังไปเลย 5555 (ใครไม่เจอ ก็ไม่รู้หรอกกกก)



Create Date : 23 กรกฎาคม 2552
Last Update : 23 กรกฎาคม 2552 21:42:13 น. 2 comments
Counter : 372 Pageviews.

 
เป็นเหมือนกัน หลังผ่าตัดแล้วหิวมาก
พอออกห้องผ่ามาห้องพักฟื้นปั๊บ ถามหมอทันทีว่า ขอดื่มน้ำได้ไหมคะ แล้วจะกินข้าวได้เมื่อไหร่ ดูตะกละมากๆเลย แต่หมอเห็นแข็งแรง ไม่เจ็บแผล เลยใหดื่มน้ำได้เร็ว แล้วเย็นนั้นก็เป็นอาหารเหลว (น้ำซุปนั่นเอง)

โรงพยาบาลอะไรคะเนี่ย กดเรียกพยาบาลทีนึ เสีย 200 จริงๆเหรอคะ แล้วค่าใช้จ่ายทั้งหมดเท่าไหร่อ่ะคะ

น้องจมูกโด้งโด่งจัง หล่อมั่กๆ คอนเฟริม!!



โดย: misspommy วันที่: 24 กรกฎาคม 2552 เวลา:8:53:33 น.  

 
เรื่องหิวเป็นเหตุผลหลักที่จะลองคลอดเองก่อน ฮ่า ฮ่า ฮ่า

ตอนนี้น้องแข็งแรงดีแล้วใช่ไหมค่ะ
ขอให้เลี้ยงง่ายๆ น้ำนมมาเยอะๆ น่ะค่ะ



โดย: จ้าว..จอม วันที่: 24 กรกฎาคม 2552 เวลา:12:03:03 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

Navy Family
Location :


[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]




Daisypath - Personal pictureDaisypath Happy Birthday tickers Daisypath Anniversary tickers
Friends' blogs
[Add Navy Family's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.