BlogGang.com : : navagan :

*** Prey *** เริ่มเรื่องแหวกขนบ ตอนจบแบบคลาสสิก

*** Prey ***

แม้จะไม่ได้ใช้ชื่อ Predator ที่แปลว่า "ผู้ล่า" เป็นองค์ประกอบของชื่อเรื่อง แล้วเปลี่ยนมาใช้ชื่อว่า "Prey" ที่แปลว่า "ผู้ถูกล่า" แต่ภาคต่อภาคนี้ น่าจะได้ชื่อว่ามีจิตวิญญานในความเป็น Predator ภาคแรกมากที่สุด

*** จากนี้ไปมีการเปิดเผยเนื้อหาสำคัญ ใครยังไม่ได้ดูไม่แนะนำให้อ่านครับ ***

หนังเล่าย้อนไปในช่วงล่าอานานิคมต้นศตวรรษที่ 18 ยุคที่คนขาวชาวยุโรปเริ่มเข้ามารุกรานชาวอินเดียนแดงในทวีปอเมริกาเหนือ

Naru (Amber Midthunder) หญิงสาวอินเดียนแดงเผ่า Comanche ที่ไม่ต้องการทำหน้าที่แค่หุงหาอาหารแบบผู้หญิงคนอื่น แต่เธออยากเป็นนักล่าเช่นเดียวกับผู้ชายในเผ่า Naru จึงต้องพิสูจน์ตัวเองด้วยการล่าสัตว์อันตรายให้สำเร็จ ซึ่งหลังจากทำไม่สำเร็จจนเกือบเอาชีวิตไม่รอดในการตามล่าสิงโต เธอก็มีเป้าหมายใหม่นั่นก็คือสิ่งลึกลับจากต่างดาว

Prey จึงว่าด้วยการแหวกขนบธรรมเนียมเดิม

- Naru ไม่อยากทำหน้าที่ของผู้หญิงตามขนบของเผ่า

- Predator ที่เป็น "ผู้ล่า" กลับกลายเป็น "ผู้ถูกตามล่า"

- ชื่อหนังที่เปลี่ยนจากการให้ความสำคัญไปที่ Predator (ผู้ล่า) เป็น Prey (ผู้ถูกล่า)

หนังยังมีประเด็นเปรียบเทียบไปถึงประวัติศาสตร์จริงที่ชนเผ่าดั้งเดิมในอเมริกาอย่างอินเดียนแดง (Prey) ถูกรุกรานโดยชนชาติที่มีวิทยาการดีกว่าอย่างชาวยุโรป (Predator)

ซึ่งนี่ไม่ต่างจากการรุกราน (แม้อาจจะเป็นแค่กีฬาหรือเพื่อความบันเทิง) ต่อสิ่งมีชีวิตบนโลก (Prey) โดยมนุษย์ต่างดาว (Predator) ที่มีวิทยาการที่สูงกว่า

Prey จึงเป็นเหมือนการอุทิศเรื่องราวให้เผ่าอินเดียนแดงในฐานะผู้ถูกล่า (อาณานิคม) ที่ยังอยู่รอดมาได้ถึงปัจจุบัน

แต่จะดีกว่านี้ถ้าให้ตัวละครพูดภาษาเผ่าไม่ใช่ภาษาอังกฤษ

การที่ Prey เป็นหนังที่ดูสนุกและน่าติดตามนั้น ส่วนสำคัญคือการให้ผู้ชมค่อยๆเข้าใจแรงขับในตัวละคร Naru ผู้ชมจึงพร้อมเอาใจช่วยเธอฝ่าฟันอุปสรรค

อย่างไรก็ตามการที่เธอเป็นตัวละครหลักเราจึงคาดเดาจุดจบของเธอได้ไม่ยาก หนังจึงใส่ตัวละครอื่นๆที่คาดเดาจุดจบได้ยากให้ผู้ชมเอาใจช่วย ไม่ว่าจะเป็น Taabe (Dakota Beavers) พี่ชายของ Naru หรือน้องหมา Sarii

อีกส่วนที่ทำได้ดีไม่แพ้กันก็คือการนำเสนอเรื่องราวการต่อสู้ที่ต้องใช้การวางแผนและไหวพริบในการเอาชนะคู่ต่อสู้ที่เหนือกว่า ซึ่งนี่คือหัวใจอันคลาสสิกของหนัง Predator ต้นฉบับ

ซึ่งต้องยกความดีความชอบไปที่ผู้กำกับ Dan Trachtenberg และมือเขียนบท Patrick Aison

โดยสรุปแล้ว Prey คือหนังที่มีความเป็น Predator แบบภาคแรก ที่ว่าด้วยการใช้ไหวพริบในการเอาชนะคู่ต่อสู้ที่เหนือกว่าและหนังขยายขอบเขตประเด็นที่ว่านี้ไปในหลายมิติไม่ว่าจะเป็น

- การต่อสู้กับมนุษย์ต่างดาวของมนุษย์โลกที่ด้อยกว่า

- การต่อสู้ของเพศหญิงที่ด้อยกว่าในขนบธรรมเนียมที่เพศชายได้เปรียบกว่า

- การต่อสู้ของพวกชนพื้นเมืองที่กำลังถูกบุกรุกโดยคนขาวจากยุโรปที่วิทยาการเหนือกว่า (ประเด็นนี้อาจถูกนำเสนอได้ไม่หนักแน่นนัก แต่การที่หนังเลือกอยู่ในยุคสมัยล่าอาณานิคม มันก็ชัดเจนโดยไม่ต้องพูดอะไรมาก)

สิ่งที่น่าสนใจเกี่ยวกับการเปลี่ยนชื่อหนังจาก Predator มาเป็น Prey ก็คือ ก่อนหน้านี้ในทุกภาคของ Predator ตัวละครฝ่ายมนุษย์ที่ต้องรับมือกับ Predator จะเปลี่ยนไปเรื่อยๆในแต่ละภาค

ดังนั้นการใช้ชื่อว่า Prey ที่หมายถึงผู้ถูกล่าอย่าง Naru บางที เราอาจได้เห็นภาคต่อในชื่อ Prey ที่มีตัวละคร Naru เป็นตัวละครหลักอีกครั้งก็ได้

8 / 10

หมายเหตุ: คลาสสิก หมายถึง สิ่งที่มีรูปแบบดั้งเดิม หรือต้นฉบับ

Create Date : 13 สิงหาคม 2565

0 comments

Last Update : 13 สิงหาคม 2565 2:53:21 น.

Counter : 1202 Pageviews.