All the girls standing in the line for the bathroom !!!

*** หมายเหตุ : สงวนลิขสิทธิ์ บทความและผลงาน ใน Blog นี้ครับ ***
Group Blog
 
<<
กรกฏาคม 2555
1234567
891011121314
15161718192021
22232425262728
293031 
 
25 กรกฏาคม 2555
 
All Blogs
 

*** The Dark Knight Rises *** การขับเคี่ยวระหว่าง “เงิน” และ “จิตวิญญาณ”

*** The Dark Knight Rises ***






สี่ปีหลังจากความสำเร็จของ The Dark Knight ทั้งด้านรายรับ และเสียงวิจารณ์ ในที่สุดผู้กำกับ Christopher Nolan และทีมงานก็กลับมาปิดตำนาน Batman ในแบบฉบับของตัวเองลง


และแน่นอนว่าการกลับมาครั้งนี้จะต้องเต็มไปด้วยความคาดหวังของผู้ชม



The Dark Knight Rises เล่าเรื่องราวในอีก 8 ปี หลังจากเหตุการณ์ใน The Dark Knight ซึ่ง Gotham ในเวลานี้เป็นช่วงเวลาแห่งความสงบสุข หลังจาก Harvey Dent กลายเป็นทั้งสัญลักษณ์ เป็นทั้งแรงจูงใจ และเป็นกระทั่งกฏหมาย คอยควบคุมให้เมืองสงบ


ขณะที่ Bruce Wayne (Christian Bale) เกษียณตัวเองจากการเป็น Batman แล้ว และเอาแต่ขังตัวเองอยู่ในคฤหาสน์ราวกับ Howard Hughes เนื่องด้วยสภาพจิตใจอันย่ำแย่หลังจากการสูญเสียคนรักเมื่อ 8 ปีก่อน



แต่แล้วการปรากฏตัวของ Bane (Tom Hardy) วายร้ายคนใหม่ กับแผนการไม่ชอบมาพากล ทำให้ Batman ต้องกลับมาผงาดอีกครั้ง







The Dark Knight Rises ถือเป็นภาคปิดตำนาน Batman อย่างแท้จริง เพราะหนังมีประเด็นและแง่มุมที่เน้นไปที่ตัวละคร Bruce Wayne/Batman แบบเต็มๆ (หลังจากที่ The Dark Knight เทน้ำหนักไปที่ Joker ในระดับที่เท่าเทียมกัน)



เมื่อพิจารณาไตรภาค Batman ของ Nolan เราพอจะให้นิยามของหนังผ่านการตั้งคำถามได้คร่าวๆดังนี้





Batman Begins คือการตั้งคำถามว่า Batman คือใคร? (Who is Batman?)

(ใครและเพราะอะไรที่ทำให้เขาก้าวมาเป็น Batman)





The Dark Knight คือการตั้งคำถามว่า Batman ทำอะไร? (What does Batman do?)

(Batman รับมือกับเหล่าร้ายอย่างไร เขามีอุดมการณ์อย่างไร)





และใน The Dark Knight Rises หนังนำเสนอประเด็นที่ว่า Batman คืออะไร ? (What is Batman?)

(ความหมายของ Batman คืออะไร และสัญลักษณ์ของ Batman มีความหมายอย่างไร)






ท่ามกลางความสงบสุขของเมือง Gotham Bruce Wayne คือชายที่ไร้ตัวตน เขาเปรียบเสมือนคนที่ไร้ซึ่งอนาคต ไร้ซึ่งความหวัง เอาแต่จมอยู่กับเรื่องราวในอดีต Bruce เปรียบเสมือนคนที่ตายไปแล้วในโลกปัจุบัน


แต่แล้วเมื่อเค้าลางแห่งความชั่วร้ายเริ่มมาเยือน Batman ต้องกลับมาทำหน้าที่อีกครั้ง Bruce ก็กลับมามีชีวิตชีวา มีจุดมุ่งหมาย และมีตัวตนใหม่อีกครั้ง

เมื่อพิจารณาในมุมนี้ จะพบว่า



Batman = Bruce Wayne





เรามาพิจารณาถึงสาเหตุสำคัญประการหนึ่งที่ทำให้ Bruce กลายเป็น Batman และวิธีการที่เขาเป็น Batman



พ่อแม่ของ Bruce ถูกฆ่าโดยโจรกระจอก ทื่ต้องการเงิน (ถูกฆ่าเพราะเงิน ด้วยอาวุธ)

Batman ปราบปรามเหล่าร้ายด้วยอาวุธราคาแพงมหาศาล (เก่งเพราะเงินทุน สำหรับสร้างอาวุธ)



จากความสัมพันธ์นี้ เราจะพบว่า Bruce ถูกทำร้ายเพราะเงิน เขาจึงตอบโต้กลับด้วยอาวุธที่ได้มาจากเงินมหาศาลของเขาเช่นกัน







ทีนี้มาพิจารณาถึงสาเหตุที่ Bruce เลือกค้างคาวมาเป็นสัญลักษณ์



Bruce กลัว “ค้างคาว” เขาจึงเอาชนะความกลัวด้วยการเป็น “ค้างคาว” (Batman)



ซึ่งนี่ก็สอดคล้องกับวิธีการเป็น Batman ของเขา



Bruce ถูกทำให้กลัวเพราะ “เงิน” เขาจึงชนะความกลัวด้วยการใช้ “เงิน”



ดังนั้น



Batman= เงิน






เหล่าวายร้ายทราบความจริงข้อนี้ดี ดังนั้นอาวุธที่พวกมันจะใช้โค่น Batman และเมือง Gotham ได้ก็คือเงินเช่นกัน



วายร้ายที่นำโดย Bane จึงวางแผนปล้น “เงิน” ของ Bruce ด้วยการทำให้มูลค่าหุ้นของ Bruce ในบริษัท Wayne Enterprise ของเขาเอง ด้อยค่าลงจนกระทั่งล้มละลาย

(ฉากปล้นตลาดหุ้นโดย Bane ทำให้ผมนึกไปถึง Ben Bernanke ประธาน FED หรือ ธนาคารกลางสหรัฐ ด้วยชื่อที่คล้ายกัน ซึ่งถ้าใครที่อยู่ในแวดวงเศรษฐกิจคงรู้จักดี ผมเองแม้จะเพิ่งเริ่มลงทุนมาแค่ปีกว่าแต่ก็เคยโดนปล้นเพราะ Ben คนนี้มาแล้ว )



ซึ่งเหตุผลสำคัญก็คือ กลุ่มผู้ร้ายต้องการใช้อาวุธของ Batman รวมถึงงานวิจัยของ Wayne Enterprise เป็นเครื่องมือหลักในการโจมตี Gotham นั่นเอง





จากสมการข้างบน หาก Batman = เงิน แล้ว


ตอนนี้ Bruce ที่ไร้ซึ่งเงิน และอาวุธ เขาก็ไม่ใช่ Batman อีกต่อไป






Bruce ถูกขังอยู่ในคุกที่มีลักษณะคล้ายบ่อน้ำขนาดใหญ่ เขาพยายามปีนกลับขึ้นไป แต่ก็ไม่สำเร็จ จนหมอในคุกได้สอนให้เขาเรียนรู้ว่า


“ไม่ใช่แค่เรื่องทางกายภาพเท่านั้นที่จะทำให้หนีได้ แต่มันต้องมาจากจิตวิญญาณด้วย”





คล้ายกับตอนที่ Bruce ตกลงไปในถ้ำภายในคฤหาสน์ของตัวเองในสมัยเด็ก คราวนี้เขาก็ตกลงไปในถ้ำ และได้รับโอกาสในการสร้างตัวตนของตัวเองใหม่อีกครั้ง ซึ่งคราวนี้เขาต้องกำจัดตัวตนดั้งเดิมในฐานะลูกเศรษฐี กลายเป็นแค่คนธรรมดาที่เปี่ยมไปด้วยความหวังและความกลัวแทน



ในที่สุด Bruce ก็กลายร่างเป็น Batman คนใหม่ ผู้ผงาดขึ้นมาจากถ้ำ ไร้ซึ่งชุดยูนิฟอร์ม ปราศจากอาวุธไฮเทค แต่เปี่ยมไปด้วยจิตวิญญาณของ Batman




Batman คือจิตวิญญาณใหม่ที่เปี่ยมไปด้วยอุดมการณ์ ที่สลัดแล้วซึ่งตัวตนของ Bruce Wayne สมการใหม่ที่เกิดขึ้นคือ



Batman = จิตวิญญาณ






ในที่สุดการปะทะกันระหว่างเหล่าผู้ร้ายและ Batman ก็เกิดขึ้น



แม้ผู้ร้ายจะไม่ได้ทำเพื่อเงินและมีอุดมการณ์ที่แน่วแน่ แต่ผู้ร้ายก็ใช้ “เงิน” เป็นอาวุธหลัก ไม่ต่างจาก Batman ในสมัยก่อน
(ปฏิเสธไม่ได้ว่าในตอนนี้ Batman ก็ยังคงใช้ “เงิน” เป็นอาวุธเหมือนกัน แต่ก็ไม่ใช่ปัจจัยหลักในการเอาชนะแล้ว เพราะถ้าวัดกันที่เงินจะเห็นว่า ผู้ร้ายทุนหนามากกว่า มีอาวุธมากกว่า)





แต่ก่อน Batman เคยใช้เงินในการแก้ปัญหา แต่เขาก็พบว่ามันยังไม่ประสบความสำเร็จ นั่นก็เพราะสาเหตุของปัญหาทั้งหลายมาจากเงินนั่นเอง เงินเป็นทั้งตัวการสร้างความเหลื่อมล้ำทางสังคม เป็นทั้งตัวสร้างความโลภ เป็นทั้งอาวุธในการโจมตีผู้อื่น



ลองพิจารณาถึงเด็กๆในบ้านเด็กกำพร้าที่หนังกล่าวถึง แม้ Bruce จะใช้ “เงิน” ในการอุปถัมภ์ แต่พอพวกเขาโตขึ้นมา พวกเขาก็ยังหนีไม่พ้นวังวนเดิม ในสังคมเดิม เพราะพวกเขาไม่ได้รับการขัดเกลาที่จิตใจ



แต่ในกรณีของ Blake (Joseph Gordon-Levitt) อดีตเด็กในบ้านเด็กกำพร้า ที่โตขึ้นมากลายเป็นพลเมืองดีของสังคมได้นั้น ไม่ใช่เพราะว่าเงินอุปถัมภ์ของ Bruce หากแต่เป็นจิตวิญญาณของ Batman ที่ได้เข้าไปอุปถัมภ์จิตใจของเขาต่างหาก







จากสถานการณ์ในตอนนี้



ผู้ร้าย = เงิน


Batman = จิตวิญญาณ



การต่อสู้ระหว่าง Batman และ ผู้ร้าย ก็คือ การต่อสู้กันโดยใช้ “เงิน” และ “จิตวิญญาณ” เป็นอาวุธเข้าปะทะกัน





ในบทสรุป



Bruce สลัดตัวเองออกจาก Batman ได้สำเร็จ และเริ่มต้นชีวิตใหม่ได้อีกครั้ง

ส่วน Batman ก็สลัดหลุดจาก Bruce Wayne และได้กลายมาเป็นสัญลักษณ์ประจำเมือง Gotham





ซึ่ง Batman จะเป็นสัญลักษณ์ของอะไรนั้น ก็ขึ้นอยู่กับว่า ชาวเมืองและผู้ชม มีมุมมองอย่างไร







Christopher Nolan, Jonathan Nolan และ David S. Goyer สร้างสรรค์บทภาพยนตร์ได้อย่างยอดเยี่ยม ในแง่ของการถ่ายทอดประเด็นหลักของหนังผ่านพล็อตหลัก พล็อตรอง ซึ่งแสดงให้เห็นถึงความพิถีพิถันและความชาญฉลาดในการวางโครงเรื่อง



แต่ข้อบกพร่องและช่องโหว่ของบทและการตัดต่อยังมีให้เห็นอยู่ประปราย ทั้งในแง่ความเป็นไปได้ อย่างการปล้นตลาดหุ้นเพื่อโจมตีฐานะทางการเงินในบริษัทของ Bruce Wayne และการรวบรัดตัดความที่ทำเอารู้สึกสะดุด อย่างอยู่ดีๆ Bruce ออกจากคุกถ้ำใต้ดินแล้วโผล่มา Gotham เลย หรือระดับความรุนแรงของการยึดเมืองของตัวร้ายที่น่าจะรัดกุมและเป็นระบบแบบแผนมากกว่านี้



แต่ก็ไม่ใช่ข้อบกพร่องร้ายแรงอะไรนัก หากพิจารณาว่านี่เป็นเมืองสมมติอยู่แล้ว และหนังไม่ได้เน้นไปที่รายละเอียดของการยึดเมือง หรือต้องการความสมจริงในการเล่นหุ้น อีกทั้งหนังมาพร้อมกับความรุนแรงแค่เรท PG-13 เท่านั้น







Christian Bale ในบท Bruce Wayne/Batman ยอดเยี่ยมและเป็นเจ้าของหนังอย่างแท้จริง แต่การที่ในภาคนี้มีตัวละครแยะ มีเรื่องให้เล่าเยอะ ทำให้ต้องเล่าเรื่องอย่างรวบรัด นั่นทำให้ Bale ไม่มีโอกาสได้แสดงฝีมือมากไปกว่านี้


Anne Hathaway ในบท Selina/Catwoman โดดเด่นทุกครั้งที่ปรากฏตัว Hathaway ประสบความสำเร็จในการสร้างสมดุลระหว่างตัวละครที่เหมือนหลุดออกมาจากการ์ตูนกับตัวละครที่มีเลือดมีเนื้ออยู่จริง


Bane ของ Tom Hardy อาจไม่มีอะไรให้น่าจดจำนัก สาเหตุหนึ่งเป็นเพราะธรรมชาติของตัวละครนี้ และบทที่ไม่ได้ส่งเสริมตัวละครนี้มากนัก


ส่วน Marion Cotillard ในบท Miranda แม้จะเป็นบทสำคัญของหนัง แต่กว่าจะเริ่มมีบทบาทสำคัญกับหนัง ก็กินเวลาไปเกือบครึ่งเรื่องแล้ว Cotillard คงไม่เหนื่อยนักในการรับบทนี้


ส่วนตัวละครสมทบอื่นๆทั้งหน้าเก่าหน้าใหม่ต่างก็รับผิดชอบบทของตัวเองได้ดี







การออกแบบงานสร้างทั้งหลายยังคงความพิถีพิถัน และเต็มไปด้วยความคิดสร้างสรรค์ เมือง Gotham ยังดูเป็นเมืองเดียวกับ The Dark Knight (แต่เหมือนเป็นคนละเมืองกับ Batman Begins)



ฉาก action แม้จะไม่หวือหวา และดูซ้ำซาก แต่ก็ดูสนุก และเป็นความบันเทิงของผู้ชม ดูเหมือน Nolan จะพัฒนาฝีมือการกำกับฉาก action ได้ดีขึ้นเรื่อยๆ



ต้องชมไปที่การสร้างอารมณ์ร่วมผ่านดนตรีประกอบของ Hans Zimmer ที่เร่งเร้า ปลุกอารมณ์ได้ถูกจังหวะ

รวมถึงการเลือก climax ที่เล่นกับ “เวลาที่เหลือน้อยลงทุกที” ที่ถือเป็นสูตร classic อีกแบบหนึ่งของหนัง action นั่นทำให้ช่วงสุดท้ายของหนังเป็นความลุ้นระทึกได้อย่างที่ต้องการ







The Dark Knight Rises วางโครงสร้างและนำเสนอประเด็นที่ต้องการบอกเล่าได้อย่างมีชั้นเชิง ขณะเดียวกันหนังยังเป็นความบันเทิงแบบหนัง action ประจำ summer อีกด้วย


บทหนังและการตัดต่ออาจเป็นปัญหา แต่ก็ไม่ได้ร้ายแรงถึงขั้นทำลายหนัง เพราะองค์ประกอบอื่นๆทั้งงานสร้าง ดนตรีประกอบ และการแสดง ต่างก็อยู่ในระดับดีเยี่ยม ช่วยพยุงหนังให้ดูดีขึ้น



The Dark Knight Rises มีพัฒนาการของเนื้อเรื่องที่ต่อเนื่องและเชื่อมโยงกับ 2 ตอนก่อนหน้า นั่นทำให้ The Dark Knight Rises เป็นตอนปิดที่ทำให้ไตรภาค Batman ของ Nolan สมบูรณ์แบบ





8 / 10 ครับ









ขอแสดงความเสียใจกับเหยื่อผู้เคราะห์ร้ายและครอบครัวผู้เสียชีวิต จากเหตุการณ์คนร้ายใช้ปืนกราดยิงผู้ชม ขณะรับชม The Dark Knight Rises ที่เมือง Aurora ประเทศสหรัฐอเมริกา มา ณ ที่นี้ด้วยครับ




 

Create Date : 25 กรกฎาคม 2555
7 comments
Last Update : 26 กรกฎาคม 2555 1:29:59 น.
Counter : 7145 Pageviews.

 

สุดยอดด มากก คับบ ชื่มชม ตีบท ควาไมด้ออกมาเยี่ยม มากก

 

โดย: หนุ่ม IP: 124.122.107.177 30 กรกฎาคม 2555 1:38:23 น.  

 

เป็นหนังในดวงใจเรื่องล่าสุดเลยครับเรื่องนี้

https://www.bloggang.com/viewdiary.php?id=amp-atom&month=10-2007&date=09&group=2&gblog=45

 

โดย: คนขับช้า 8 สิงหาคม 2555 10:24:03 น.  

 

แล้วแบทแมนภาคที่มีตัวร้ายเป็นอะไรเอ่ย?หายไปไหนกันเคยเห็นตัวอย่างอยู่แน่ใจได้ว่าไม่ใช่ภาคเก่าแน่นอนที่แรกไม่คิดว่าภาคนี้เบนจะโผล่หนังก็โอเคนะถึงจะขาดรายระเอียดไปบางอย่างผู้กำกับเขาคงรู้ดีว่าถ้าหากเอารายระเอียดทุกอย่างคนดูคงไม่รู้เรื่องเพราะคนดูส่วนใหญ่ดูแต่บู้อย่างเดียวไม่สนรายละเอียดไม่ได้สนใจความหมายหรืออะไรไม่เคยมองลึกเลยในเมืองไทยหนังที่ขายดีก็คือหนังตลกไม่ต้องอะไรมากคนดูแทบไม่ต้องคิดอะไรแต่พอเจอแบทแมนไปไม่ถูกเลย555อยากให้หัดดูอะไรที่ใช้ความคิดบ้างก็ดีนะ

 

โดย: too IP: 115.67.71.106 24 ตุลาคม 2555 18:42:09 น.  

 

^
^

หมายถึงมนุษย์เจ้าปัญหา หรือเปล่าครับ รู้สึกว่าจะไม่มีนะครับ

ตัวอย่างที่คุณได้ดูคงเป็น Fan made น่ะครับ

 

โดย: navagan 24 ตุลาคม 2555 20:33:59 น.  

 

คุณคือผู้ กำกับเเบทเเมนคนต่อไป ต่อจากโนเเลน ว่างเรื่องใหม่เลยครับ

 

โดย: ? IP: 1.4.241.177 19 ธันวาคม 2555 22:33:26 น.  

 

ได้เขียนเกี่ยวกับหนังเรื่องอื่นด้วยไหมครับ จะได้หาอ่าน

 

โดย: ? IP: 1.4.241.177 19 ธันวาคม 2555 22:35:33 น.  

 

ผมว่าผมเองก็เป็นคนหนึ่งที่ชอบดูหนังและก็วิเคราะห์ไปด้วย ทั้งการสื่อของตัวหนัง บท นักแสดง และ ผกก. รวมไปถึงสไตล์การกำกับหนังของแต่ละคน มุมกล้องและแสง แต่ทุกครั้งที่ได้อ่านบทความของคุณนวกานต์นี่ทำให้ผมคิดว่าการวิเคราะห์หนังของผมนี่ยังทำไม่ถึงครึ่งหนึ่งของคุณเลย คุณตีความหนังได้แตกยังไม่พอ สามารถตีความหนังรวมกับความคิดของผู้สร้างทีมงานออกมาได้อย่างแจ่มแจ้งและลงตัวอย่างยิ่ง ในฐานะผมก็เป็นคนหนึ่งที่ชอบดูหนังมาก ขอยอมรับและซูฮกในตัวคุณนวกานต์อย่างยิ่งครับ

 

โดย: คนรักหนัง IP: 223.206.142.244 3 มีนาคม 2556 15:12:30 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 


navagan
Location :
กรุงเทพฯ Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 73 คน [?]




นวกานต์ ราชานาค
Navagan Rachanark


สนใจใน ภาพยนตร์, การวิเคราะห์-วิจารณ์ ภาพยนตร์,ดนตรี, งานเขียน และ ศิลปะอื่นๆ

สร้างสรรค์ผลงานภาพยนตร์ทดลอง และ งานดนตรีทดลอง และ งานเขียน


ปัจจุบันทำงานด้านการตลาด การวิจัยและพัฒนายางสังเคราะห์และยางธรรมชาติ

เริ่มจัดเก็บข้อมูลสถิติการเข้าชม

Time 09:00 Date 31/01/2010

by Histats.com

blogger web statistics

ถูกใจบทความ หรืออยากสนับสนุนเจ้าของ Blog

ก็ช่วย click ที่ Link โฆษณาครับ

ขอบคุณครับ

Friends' blogs
[Add navagan's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.