All the girls standing in the line for the bathroom !!!

*** หมายเหตุ : สงวนลิขสิทธิ์ บทความและผลงาน ใน Blog นี้ครับ ***
Group Blog
 
<<
กุมภาพันธ์ 2556
 12
3456789
10111213141516
17181920212223
2425262728 
 
25 กุมภาพันธ์ 2556
 
All Blogs
 

Mini Review: เก็บตก 2012 (1)

ด้วยภาระการงานที่มากขึ้นความรับผิดชอบที่มากขึ้น ทำให้ปีที่แล้ว (2012) ดูหนังน้อยมากครับ เฉลี่ยเดือนละ 2-3 เรื่องเท่านั้น ทั้งในโรง ทั้งดูที่บ้าน



แต่ที่น้อยกว่าคือ บทวิจารณ์ที่เขียนลง Blog

เหล่านี้คือหนังที่คิดว่าจะเขียนถึง เริ่มไปแล้ว แต่ก็ไม่ว่างเขียนให้จบ แต่ไหนๆก็เริ่มเขียนไปแล้ว เลยตัดเอาความรู้สึกสั้นๆมาบรรยายลง Blog ครับ






In time






หนังมี concept เริ่มต้นที่น่าสนใจ ด้วยการวิพากษ์วิจารณ์ ระบบเศรษฐกิจแบบทุนนิยม โดยใช้ “เวลา”แทน ”เงินตรา” แต่ความฉียบคม และความแม่นยำ ที่จะเจาะเข้าประเด็นที่วางไว้ยังทำได้ไม่ดีเทาที่ควร


คุณค่า ความน่าติดตาม และความบันเทิง ค่อยๆลดลงไป ตามเวลาของหนังที่ค่อยๆหมดไป เช่นเดียวกับบรรดาตัวละครในเรื่องที่เวลาค่อยๆหมดลงไปทุกที


อย่างน้อย idea เริ่มต้นของเรื่องก็ช่วยให้ผู้ชมกลับไปคิดวิเคราะห์ เปรียบเทียบกับโลกปัจจุบันภายใต้ระบบทุนนิยมได้ไม่รู้จบ


นักแสดงทั้งหลายยังไม่ค่อยเป็นที่น่าจดจำนัก เหตุผลหลักน่าจะมาจากบทหนังที่ไม่ได้มีมิติความลึก


ถือว่าความคิดเริ่มต้นดี แต่ยังไปได้ไม่สุด





7 / 10 ครับ









The Man from Nowhere






พล็อตเรื่องเหมือนหนัง Action ที่นิยมสร้างในต้นยุค 90 เมื่อพระเอกผู้มีอดีตอันเจ็บปวด ลุยเดี่ยวแก้แค้นบรรดาผู้ร้ายที่บังอาจมายุ่งกับ “ความสุข” เดียวที่เขามีในตอนนี้ ซึ่งการลุยล้างบางครั้งนี้ก็คล้ายๆจะเป็นการเยียวยาแผลใจไปในตัว


ด้วยฉากแอ๊คชั่นที่ทำออกมาได้ดี และการเดินเรื่องที่รวดเร็ว ทำให้ช่องโหว่ของบทที่มีมากมาย (พี่น้องแก๊งค์จีน ที่ดูยังไงก็หน้าไม่คล้ายกัน และดูไม่จีนเท่าไหร่, เป็นองค์กรข้ามชาติแต่มีปืนกระบอกเดียว, การกระทำของตัวละครที่ไม่น่าเชื่อในมูลเหตุจูงใจ การละเลยความเป็นไปได้ในบางครั้งบางคราว) ถูกมองข้ามไปอย่างง่ายดาย แต่ยังไม่ถึงขั้นที่ข้อบกพร่องเหล่านี้จะถูกลืม


แม้ไม่ได้สดใหม่ แถมยังเดินตามสูตรสำเร็จของหนังแนวนี้แบบเป๊ะๆ แต่หนังเป็นความบันเทิงอย่างถึงที่สุด ซึ่งต้องชมไปที่การสร้างอารมณ์ร่วม และการแสดงอันเป็นที่น่าจดจำของ Bin Won และสาวน้อย Sae-ron Kim




7 / 10 ครับ









We need to talk about Kevin






หนังเล่าถึงห้วงคำนึงของ Eva ที่ย้อนนึกไปถึง Kevin ลูกชายที่กลายเป็นฆาตรกรสังหารหมู่ ว่าทำไมลูกชายของเธอถึงกลายมาเป็นฆาตรกรได้

หนังฉลาดในการค่อยๆเผยรายละเอียดทั้งเกี่ยวกับตัว Eva และ ตัว Kevin ซึ่งกระตุ้นให้ผู้ชมติดตามหนังไปตลอดทั้งเรื่อง ซึ่งเมื่อหนังจบผู้ชมก็จะพอมองภาพคร่าวๆได้ว่า ที่ Kevin เป็นแบบนี้เพราะใคร และเพราะอะไร แม้จะยังมีความคลุมเคลือหลงเหลืออยู่ก็ตาม


การแสดงของ Tilda Swinton ในบท Eva คือหัวใจสำคัญของหนัง ขณะที่การนำเสนอของ Lynne Ramsay ก็ช่วยส่งเสริมอารมณ์กระอักกระอ่วนทั้งหลายในหนังได้เป็นอย่างดี


เมื่อหนังจบ เรื่องราวทั้งหลายยังคงวนเวียนติดอยู่ในหัว และพาลนึกสงสัยไปว่า เพราะอะไร Eva จึงเป็นคนแบบนี้


บางทีอาจจะต้องมีหนังเรื่อง We need to talk about Eva ทุกอย่างคงจะกระจ่างมากกว่านี้





8 / 10 ครับ









Immortals







เนื้อเรื่องไม่ได้มีความน่าติดตามเลย สไตล์ภาพที่เคยดูดีใน 300 กลับให้ผลลัพธ์ตรงกันข้ามในเรื่องนี้ ส่วนสไตล์อันโดดเด่นและเป็นเอกลักษณ์เฉพาะตัวของ ผู้กำกับ Tarzem singh ก็ไม่สามารถช่วยอะไรหนังได้เลย (แต่อย่างน้อยก็พอเป็นอะไรที่แก้ง่วงได้)


สรุปว่าหนังไม่ได้มีอะไรน่าจดจำ แต่จะว่าไปมันก็ไม่ได้เลวร้ายไปเสียหมด





4 / 10 ครับ









The Rite






ถ้าตัดเรื่องความเชื่อส่วนบุคคลออกไป แล้วถือซะว่าโลกในหนังก็มีกฏเกณฑ์เป็นของมันเอง The Rite จัดได้ว่าเป็นหนังที่ดูสนุกในระดับกลางๆ แม้จะพยายามวางตัวให้ต่างจากหนังดราม่าสยองขวัญเรื่องอื่นๆ แต่ท้ายที่สุดแล้วก็ไม่ได้แตกต่างกันมากนัก


หนังได้ระดับ Anthony Hopkins มารับบทที่น่าจะมีอะไรให้เล่นไม่น้อย แต่หนังกลับใช้ประโยชน์จาก Hopkins ได้ไม่มากนัก


น่าสังเกตว่า ผู้กำกับ Mikael Hafstrom เลือกกำกับหนังที่ว่าด้วยคนที่สงสัยในโลกหลังความตาย (ในแง่มุมของคริสศาสนา) มาก่อนหน้านี้แล้วใน 1408 (แบบจริงจังจนเป็นประเด็นหลักของเรื่องนะครับ ไม่ใช่ในแบบหนังผีทั่วๆไป) ไม่รู้ว่าเป็นความเชื่อของแกจริงๆ หรือเป็นความบังเอิญกันแน่





6 / 10 ครับ









The Thing (2011)






แม้ไม่อาจเทียบชั้นกับ The Thing (1982) เวอร์ชั่น John Carpenter ได้ แต่หนังก็เป็นความบันเทิงในรูปแบบหนัง sci-fi สยองขวัญ ที่คุ้มค่ากับการเสียเวลาดู


หนังสอบผ่านในการใช้มุขเด็ดมุขเดิมของเวอร์ชั่น 1982 แต่ประเด็นเรื่องความระทึกขวัญ ความไม่น่าไว้วางใจยังสู้ไม่ได้


สำหรับอารมณ์สยองขวัญ และความน่ากลัว ที่แม้จะมี special effect และ make up effect ที่ดีกว่าเดิมมากๆ ก็ยังสู้ต้นฉบับไม่ได้อยู่ดี


ถึงแม้มันจะน่าตื่นตาตื่นใจกว่าเดิมเยอะ แต่นี่ไม่ใช่หัวใจของความน่าหวาดกลัว ที่เคยเป็นจุดเด่นของเวอร์ชั่น Carpenter



ข้อดีของหนังอีกข้อคือ มันเชื่อมต่อกับ The Thing เวอร์ชั่นก่อนหน้าได้อย่างแนบเนียน คล้ายการแฝงร่างของ Alien ในเรื่อง





7 / 10 ครับ









Cowboys & Aliens






Idea เริ่มต้นของหนังน่าสนใจมาก กับการจับเอา Cowboy มาเจอกับ Alien ที่น่าจะเล่นอะไรได้เยอะ และน่าจะเป็นความบันเทิงรสชาดใหม่ๆ ที่น่าสนใจ


หรือในแง่ของ genre ของหนัง ที่น่าจะหยิบจับเอาเอกลักษณ์ของหนังแนว Cowboy กับหนังแนว Alien มาเจอกัน


ท้ายที่สุดหนังเป็นได้แค่หนังที่ว่าด้วย “กลุ่มชาวบ้านชนบทต้องเผชิญกับสัตว์ประหลาด” ในสไตล์ Tremors หรือหนังเกรดบีทั้งหลาย (ที่สนุกกว่าเยอะ) เพียงแต่ลดความสยองลง แล้วเพิ่ม special effect เข้าไป (ที่จะว่าไปแล้วก็ไม่ได้โดดเด่นอะไร)



หนังระดมทัพนักแสดงมีฝีมือมากมายทั้ง Daniel Craig, Harrison Ford, Paul Dano, Sam Rockwell แต่หนังเรื่องนี้คงไม่ใช่เครดิตที่ดีสำหรับพวกเขาแน่นอน รวมถึงผู้กำกับ Jon Favreau ด้วย


เอาเป็นว่า หนังพอใช้ได้ ไม่มีอะไรน่าจดจำ





5 / 10 ครับ









Margin call






แม้จะเป็นหนังที่ว่าด้วยเสรษฐกิจและการเงิน ที่อ้างอิงมาจากเหตุการณ์จริง ถึงสาเหตุของวิกฤติเศรษฐกิจในปี 2008 หรือที่รู้จักกันดีในชื่อ Subprime Mortgage Crisis


หนังเล่าถึงเหตุการณ์ใน 1 วันของบริษัทยักษ์ใหญ่ทางการเงินที่เป็นสาเหตุหลักของวิกฤติเศรษฐกิจ ผ่านพนักงานหลายระดับชั้นในบริษัท ตั้งแต่เด็กใหม่จนกระทั่ง CEO ซึ่งนี่เองที่ผู้ชมจะได้เห็นความสัมพันธ์-ความสำคัญของระบบเศรษฐกิจที่มีต่อผู้คนในแต่ละระดับชั้น รวมถึงมุมมองที่หลากหลายทั้งด้านธุรกิจ จริยธรรมที่แตกต่างกันของแต่ละคน



ไม่น่าเชื่อว่าหนังจะมีความน่าติดตามและระทึกได้ขนาดนี้ ซึ่งก็ต้องชมไปที่ทีมนักแสดงที่ทำหน้าที่ได้ดี โดยเฉพาะการกำกับสไตล์สารคดี และการเขียนบทอันยอดเยี่ยมของ ผู้กำกับ มือเขียนบท J.C Chandor


หากมีความรู้ในเรื่องเศรษฐกิจซักเล็กน้อย นี่คือหนังที่ดูสนุก น่าติดตาม และต้องติดอยู่ในหัวไปอีกพักใหญ่



ส่วนตัวแล้วนี่คือ United 93 เวอร์ชั่นการเงิน เพราะมันพูดถึงจุดปะทุแรกของการก่อการร้ายทางเศรษฐกิจที่ส่งผลกระทบไปทั่วโลก




8 / 10 ครับ









ยังเหลือหนังอีกหนึ่งชุดใหญ่




 

Create Date : 25 กุมภาพันธ์ 2556
0 comments
Last Update : 25 กุมภาพันธ์ 2556 6:32:09 น.
Counter : 3259 Pageviews.

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 


navagan
Location :
กรุงเทพฯ Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 73 คน [?]




นวกานต์ ราชานาค
Navagan Rachanark


สนใจใน ภาพยนตร์, การวิเคราะห์-วิจารณ์ ภาพยนตร์,ดนตรี, งานเขียน และ ศิลปะอื่นๆ

สร้างสรรค์ผลงานภาพยนตร์ทดลอง และ งานดนตรีทดลอง และ งานเขียน


ปัจจุบันทำงานด้านการตลาด การวิจัยและพัฒนายางสังเคราะห์และยางธรรมชาติ

เริ่มจัดเก็บข้อมูลสถิติการเข้าชม

Time 09:00 Date 31/01/2010

by Histats.com

blogger web statistics

ถูกใจบทความ หรืออยากสนับสนุนเจ้าของ Blog

ก็ช่วย click ที่ Link โฆษณาครับ

ขอบคุณครับ

Friends' blogs
[Add navagan's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.