Mini Review 20 : *** Slumdog Millionaire *** *** Slumdog Millionaire *** Slumdog Millionaire กวาดรางวัลมามากมาย จากหลากเทศกาล หลายสาขารางวัล รวมถึงรางวัลที่ถือว่า “โด่งดัง” และ “ยิ่งใหญ่” ที่สุดในแวดวงภาพยนตร์ อย่างรางวัล Academy award หรือ Oscar ในสาขา “ภาพยนตร์ยอดเยี่ยม” หนังเล่าเรื่องของ Jamal Malik (Dev Patel) เด็กชายจากสลัมมุมไบ ประเทศอินเดีย ที่ในวันนี้เขากำลังจะคว้าเงินรางวัลสูงสุดจากรายการเกมโชว์ชื่อดัง “Who Wants to be a Millionaire?” หรือ “เกมเศรษฐี” ในบ้านเรานั่นเอง โดยหนังเล่าเรื่องราวในวัยเด็กของ Jamal ตัดสลับกับการดำเนินไปของเกม ซึ่งที่มาของ “คำตอบสุดท้าย” ของ Jamal นั้น มาจากประสบการณ์อันหลากหลายในวัยเด็กของตัวเขาเอง ไม่นานหนังก็เผยให้เห็นว่า ความตั้งใจจริงของ Jamal ในการเข้าร่วมแข่งขันนั้น มาจากการที่เขาต้องการ ช่วยเหลือ Latika (Freida Pinto) หญิงสาวที่เป็นรักแรกของเขาตั้งแต่วัยเด็ก ที่ปัจจุบันกลายเป็นหญิงสาวในฮาเร็มของ Javed (Mahesh Manjrekar) เจ้าพ่อผู้ทรงอิทธิพลของมุมไบ Slumdog Millionaire มีกลิ่น “น้ำเน่า” โชยมาแต่ไกล ด้วยเรื่องราว ที่มีความเป็น “อุดมคติ” อยู่สูง อย่าง “รักแท้ มีชัยชนะ เหนือทุกสิ่ง” หรือการที่ ตัวละครเอกที่เป็นคนตัวเล็กๆในสังคม ผู้ถูกกระทำย่ำยี ก่อนจะพลิกมาเอาคืนด้วยความกล้า และความดีงาม ของตนเอง อีกทั้งเรื่องราวที่เป็น "ชัยชนะแบบเหนือความคาดหมายของคนตัวเล็กๆ" ที่ให้อารมณ์แบบ “ปาฏิหาริย์” นิดๆ และเป็นเรื่องที่ชวนฝันไม่น้อย แต่สิ่งที่ทำให้ Slumdog Millionaire แตกต่างจาก “หนังน้ำเน่า” เรื่องอื่นๆก็คือ การที่มันสอดแทรกประเด็นต่างๆได้อย่างคมคาย ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของทุนนิยม หรือปัญหาเรื่องเชื้อชาติ และศาสนาที่หลากหลายในอินเดีย อย่างไรก็ตาม Slumdog Millionaire ก็ไม่ได้นำเสนอประเด็นเหล่านี้อย่างเข้มข้น หรือหนักแน่นมากจนเกินไป นั่นทำให้หนังไม่ได้ “ดูยาก” หรือ “เคร่งเครียด” แต่อย่างใด หนำซ้ำหนังกลับดูสนุก และเป็นความบันเทิงสำหรับกลุ่มผู้ชมทั่วไปอีกด้วย นักแสดงทั้งหลายในหนัง รับผิดชอบตัวละครของตัวเองได้ดี แม้ตัวละครส่วนใหญ่จะมีเพียงมิติเดียวก็ตาม จะเว้นก็แต่ บท Salim พี่ชายของ Jamal ที่ถือว่ามีมิติความลึกมากที่สุดแล้วในเรื่อง แต่การที่หนังไม่ได้เน้นตัวละครนี้มากนัก อีกทั้งมีนักแสดงที่มารับบทนี้ถึง 3 ช่วงอายุ ทำให้ตัวละครนี้ไม่โดดเด่นอย่างที่ควรจะเป็น และทรงพลังพอที่จะส่งให้นักแสดงคนใคคนหนึ่งผู้รับบทนี้ เข้าชิงรางวัลนักแสดงสมทบยอดเยี่ยม ทั้งๆที่บท Salim ก็เอื้ออำนวยอยู่ไม่น้อย ผู้กำกับ Danny Boyle ทำให้หนังดูสนุก คึกคัก ฉับไว และประสบความสำเร็จในการสร้างความน่าติดตาม โดยอาศัยการตัดต่อ การถ่ายภาพ และดนตรีประกอบอันโดดเด่น เป็นองค์ประกอบสำคัญ และส่วนหนึ่งคงต้องยกความดีความชอบให้กับ “มุมไบ” ที่เป็นโลเกชั่นหลัก และถือเป็นอีกตัวละครสำคัญตัวหนึ่งของเรื่องก็ว่าได้ Slumdog Millionaire เป็นหนังที่มอบความประทับใจให้กับผู้ชมได้ไม่ยาก ด้วยเรื่องราวที่ชวนฝัน และ ให้กำลังใจ อีกทั้งสไตล์อันโดดเด่น จัดจ้าน และการดำเนินเรื่องที่ฉับไว ก็สร้างความบันเทิงให้กับผู้ชมได้เป็นอย่างดี แม้ว่าประเด็นต่างๆในหนังอาจไม่ใช่ของใหม่ แต่ก็ยังคงมีความน่าสนใจ แม้ว่าส่วนตัวแล้ว จะรู้สึกว่ามันมากเกินไปหน่อย กับคำชื่นชมต่างๆ รวมถึงรางวัลทั้งหลายที่หนังได้รับ แต่นี่ก็เป็นข้อยืนยันได้อย่างดีว่า มีผู้ที่ชื่นชอบหนังเรื่องนี้มากมายขนาดไหน สุดท้ายชะตากรรมของ Slumdog Millionaire ก็ไม่ต่างกับชะตากรรมของ Jamal มากนัก ในการที่มันเป็นหนังเล็กๆ ที่ฝ่าฟันอุปสรรค จนประสบความสำเร็จอย่างมากจนคาดไม่ถึง ไม่ว่าจะเป็นทั้ง “ชื่อเสียง” “เงินทอง” หรือ “ความรัก” ที่ผู้ชมส่วนใหญ่มีให้กับตัวหนังอย่างล้นหลาม แม้เรื่องราวของมันอาจจะฟังดู “น้ำเน่า” ไปสักหน่อย แต่มันก็ได้เกิดขึ้นจริงแล้ว 8 / 10 ครับ   Create Date : 06 ตุลาคม 2552 8 comments Last Update : 6 ตุลาคม 2552 15:13:30 น. Counter : 3121 Pageviews. Share Tweet

เรื่องนี้ผมเพิ่งได้ดูครับ ตอนที่กระแสมันแรงมากๆก็อยากไปดูนั่นแหล่ะ แต่ก็ไม่ได้ไปสักที เคยมีคนอยากให้เขียนยาวๆ แต่คิดว่าคงมีคนเขียนถึงเยอะแล้ว (จริงๆขี้เกียจด้วยน่ะแหล่ะ ) เลยขอรีวิวสั้นๆพอ   โดย: navagan 6 ตุลาคม 2552 15:31:59 น.

ขนาดรีวิวสั้นๆนะครับเนี่ย ผมว่าก็ยาวแล้วนะ อิอิ สำหรับหนังเรื่องนี้ส่วนตัวแล้วเห็นด้วยเลยครับว่า รางวัลที่ได้มันเกินไปหรือเปล่า เพราะความรู้สึกผมก็ชอบนะ แต่ไม่ที่สุด ให้ 8 ดาวเหมือนกันครับ   โดย: ไอซ์คุง (ปีศาจความฝัน ) 6 ตุลาคม 2552 21:23:48 น.

น่าเป็นเรื่องแรกที่ได้ดูก่อน นวกานต์นะเนี่ย (เฉพาะหนังที่นวกานต์รีวิวินะ) เป็นคนดูหนังช้ามาก ไม่ค่อยตามกระแสเท่าไหร่ (ประเภทเข้าโรงนานแล้ว ค่อยมาตามเก็บแผ่นดูทีหลัง ประมาณนี้) แต่เทสกาลออสการ์ จะหาเวลาไปดู ให้มากที่สุด อย่างปีนี้ได้มากสุดก้อแค่ 4 เรื่อง คือ Revolutionary Road (เรื่องนี้ทำให้เราได้รู้จัก Blog นี้เพราะตามหารีวิวอ่านพอดี แล้วคุณก้อเขียนได้ดีมาก เลยติดตาม Blog นี้ตั้งแต่นั้นมา) The Reader , The Wrestler , แล้วก้อเรืื่่องนี้ Slumdog Millionaire เราเห็นด้วยที่เรื่องนี้ขายฝันมากไปหน่อย แต่เป็นฝันที่เราก้อช่วยจามาลลุ้นตลอดเลย หนังกระชับฉับไว ดนตรีเร้าใจ มีความเป็นสูตรสำเร็จไม่น้อยเลย เมื่อเทียบกับหนังเรื่องออสการ์เรื่องอื่นๆ ชอบช่วงเด็กของหนังนะ เพราะตอนนั้นมันยังไม่มีความน้ำเน่าเข้ามาเกี่ยวเท่าไหร่ แล้วก้อตีแผ่เรื่องที่เราไม่เคยดู้จากเมืองมุมไบนี้เลย เด็กๆแสดงได้ดีมาก..น่ารักอ่ะ น่าจะมีรางวัลสำหรับเด็กด้วยนะเนี่ย   โดย: i love johnny depp IP: 125.25.44.255 7 ตุลาคม 2552 7:55:22 น.

ขออภัย เขียนคำว่า เทศกาล ผิด อายๆๆ   โดย: i love johnny depp (i love johnny depp ) 7 ตุลาคม 2552 7:59:30 น.

ส่วนตัวไม่ค่อยปลื้มกับเรื่องนี้เท่าไหร่ครับ แต่ชอบใจกับย่อหน้าก่อนสุดท้ายครับที่เปรียบเทียบชีวิตคนในหนังกับตัวหนัง ชอบๆ ^^   โดย: Seam - C IP: 58.9.189.142 7 ตุลาคม 2552 9:41:56 น.

เรื่องต่อไปขอ District 9 นะครับ จะลาโรงแล้ว รีบไปดูซะ   โดย: Neoracle IP: 161.200.255.162 8 ตุลาคม 2552 15:44:19 น.

รออ่าน District 9 ด้วยเหมือนกันนะคะ ^^   โดย: ioio IP: 58.8.103.239 12 ตุลาคม 2552 23:20:02 น.

การดำเนินเรื่องถือว่าดีมากๆ ตัวหนังน้ำเน่าไปหน่อย(โดยเฉพาะก่อนจะจบ)เหมือนที่วิจารณ์เอาไว้ ทำให้ความชอบลดลงไปเล็กน้อย แต่สุดท้ายแล้วตัวหนังก็ทำให้ผมเห็นคำตอบของคำถามในโปสเตอร์หนังเด่นชัดขึ้นมาอย่างมาก แม้ว่าก่อนดูก็พอจะเดาได้ว่าตอบว่าอะไร   โดย: hormones IP: 61.90.78.105 25 ตุลาคม 2552 20:43:10 น.