BlogGang.com : : navagan :

Mini Review *** The Avengers ***

*** The Avengers ***

ออกตัวไว้ก่อนเลยว่าไม่เคยอ่านการ์ตูน หรือติดตาม Comic ทั้งหลายของ Marvel จะรู้จักก็จากหนังล้วนๆ

อย่างแรกเลยที่ต้องชมก็คือ หนังรักษาความต่อเนื่องกับหนังโชว์เดี่ยวของ Super Hero แต่ละรายได้อย่างดีเยี่ยม (สำหรับเรื่องแยกเดี่ยวของ Super Hero แต่ละรายผ่านตามาหมดแล้ว จะมีก็แต่ Captain America ที่ยังไม่ได้ดู) ซึ่งหัวใจสำคัญน่าจะอยู่ที่การรักษาเอกลักษณ์ และลักษณะนิสัยของตัวละครเอาไว้ได้อย่างครบถ้วน

นอกจากนี้หนังยังไกล่เกลี่ยเฉลี่ยบทให้ตัวละครสำคัญได้อย่างเท่าเทียมกัน และด้วยบุคลิกและเสน่ห์ที่แตกต่างกันอย่างชัดเจน ทำให้ทุกตัวละครมีความโดดเด่น ไม่ถูกกลืนหายไปกับเนื้อเรื่อง

แต่ที่โดดเด่นที่สุดคงจะเป็น Loki ด้วยเหตุที่เป็นหัวหน้าทีมตัวร้ายเพียงตัวเดียว จึงไม่มีใครแย่งความโดดเด่นไปได้ แถมยังเป็นตัวละครจอมวางแผนที่คอยสร้างปมปัญหาให้กับเรื่องราวทั้งหมดอีกด้วย

ก็บทส่งซะขนาดนี้ แถมทีม Super Hero ทุกคนต่างก็พุ่งเป้าเข้าหา จะไม่เด่นก็ให้มันรู้ไป

บทหนังมีช่องโหว่ และมีความไม่สมเหตุสมผล ในบางจุด แต่เมื่อหนังวางตัวเองไว้ชัดเจนว่าต้องการขายความบันเทิง และเลือกที่จะไม่จริงจังกับตัวเองมากนัก จึงไม่แปลกที่หนังจะมีลักษณะของความเป็นการ์ตูนอยู่สูง ราวกับว่ากำลังนั่งดูการ์ตูนที่วาดคนได้เหมือนคนจริงๆ วาดสิ่งของได้เหมือนสิ่งของจริงๆ นั่นเอง

ดังนั้นถ้าจะสงสัยว่า ทำไมกางเกงของ Dr. Banner ถึงไม่ขาดเมื่อกลายเป็น Hulk ก็ไม่ใช่เรื่องแปลก แต่ถ้าจะคาดคั้นหาคำตอบก็คงได้คำตอบแบบแถๆมากมาย (เอาเป็นว่า มันเป็น Censor ที่เนียนกว่า Mosaic เหลี่ยมๆแล้วกัน )

หรืออาจจะสงสัยว่า ในเมื่อ Dr. Banner คุมตัวเองได้ตอนโกรธ แต่ทำไมตอนอาละวาดในยานถึงคุมไม่ค่อยได้ (เอาเป็นว่าตอนนั้นโกรธจัดจนอยากอาละวาดเอง หรือเป็นพลังของ Loki ก็ว่ากันไป )

หนังกล้าที่จะเสียสละตัวละครอันเป็นที่รักของผู้ชมไปหนึ่งตัว ซึ่งเป็นการเสียสละที่คุ้มในแง่ของการสร้างอารมณ์ร่วม โดยช่วยเพิ่มความลุ้น และอารมณ์เอาใจช่วยบรรดา Super Hero ของพวกเขา

ด้วยการทำลายความมั่นใจเดิมของผู้ชมที่ว่า “ยังไงซะฝ่ายที่พวกเขาเอาใจช่วยในเรื่อง คงไม่มีใครถูกฆ่าตายหรือถูกทำลายลงไปได้” ให้สั่นคลอนลง (แม้จะเพียงเล็กน้อยก็ตาม)

อย่างไรก็ตามผู้ชมก็คงคาดเดาได้ไม่ยากว่าหนังจะลงเอยอย่างไร

มุกตลกถูกใส่มาในหนังไม่เยอะ แต่ใส่มาถูกจังหวะจะโคน และมาแบบเรียกเสียงฮาได้แรงๆ แน่นอนว่ามันจะถูกจดจำ และชวนให้ยิ้มได้เมื่อนึกถึง แม้หนังจะจบไปแล้ว

ขณะที่ฉาก Action แม้จะไม่ได้สดใหม่ หรือยิ่งใหญ่อลังการกว่าที่เคยมีมา แต่ก็สามารถสร้างความ ตื่นเต้น-ตื่นตา ได้ดีพอสมควร

Joss Whedon ในฐานะผู้กำกับ และ Zak Penn ในฐานะเจ้าของเรื่อง สมควรได้รับคำชมในฐานะที่ผูกเรื่องราวได้อย่างลงตัว และนำเสนอออกมาเป็นความบันเทิงอย่างถึงที่สุด

แม้จะไม่ใช่หนังที่สมบูรณ์แบบ และไม่ได้ทรงพลังจนทำให้ผู้ชมต้องทึ่ง แต่หนังก็ประสบความสำเร็จในการมอบความบันเทิงแบบที่หนัง Action ช่วง Summer ควรจะเป็น

8 / 10 ครับ

Create Date : 08 มิถุนายน 2555

0 comments

Last Update : 8 มิถุนายน 2555 22:29:48 น.

Counter : 3079 Pageviews.