A NaughtyDog a day will keep a real doctor away!

 
ธันวาคม 2551
 123456
78910111213
14151617181920
21222324252627
28293031 
 
13 ธันวาคม 2551
 

ผ่าดี...ไม่ผ่าดี...ผ่าดี...ไม่ผ่า(ได้ก็คง)ดี!!!

เรื่องนี้เป็นปัญหาโลกแตกครับ หมอสูติฯทุกคนโดนถามประจำ แล้วก็เป็นปัญหาที่วงการสูติแพทย์กำลังปวดหัวกันมากด้วย ขออนุญาตเล่าให้ฟังกันแบบเปิดอก(แห้งๆ...ของผม ซึ่งคงไม่โป๊จนติดเรทครับ) แต่ขอบอกก่อนว่าในตอนท้ายเป็นความเห็นโดยส่วนตัวของผมนะครับ อย่างไรก็ตาม...จะพยายามให้ความเห็นอย่างเป็นกลางที่สุด...โดยไม่มีอคติอื่นมาเจือปน อ้อ...เรื่องที่กำลังจะเล่าต่อไปเป็นนี้เป็นข้อดีข้อเสียของการผ่าท้องคลอด หรือที่พวกหมอๆเค้าเรียกกันติดปากว่า "ทำซีซ่าร์ฯ" อันมาจากชื่อหัตถการการผ่าท้องคลอด หรือภาษาต่างด้าวว่า Caesarean section ครับ
พูดข้อดีก่อนดีกว่า...การผ่าท้องคลอดนั้นข้อดีที่เห็นได้อย่างชัดแจ้งดูจะเป็นเรื่องการบาดเจ็บที่เกิดจากทารกขณะคลอดมีน้อยกว่าการคลอดทางช่องคลอด ส่วนใหญ่จะคิดเช่นนั้นครับ ซึ่งไม่ถูกต้องทีเดียวนัก เพราะหากไม่ได้มีข้อบ่งชี้ทางการแพทย์แล้ว การคลอดธรรมชาติ(ในที่นี้หมายถึงการคลอดทางช่องคลอด)กับหารผ่าท้องคลอด ทารกที่คลอดออกมาไม่ได้เป็นอันตรายแตกต่างกันแต่อย่างใดครับ เพราะฉะนั้นที่ว่า...การผ่าท้องคลอดปลอดภัยต่อทารกมากกว่านั้น...เป็นจริงเฉพาะในบางกรณีเท่านั้น บางกรณีที่กล่าวถึง...ก์คือ เมื่อมี "ข้อบ่งชี้ทางการแพทย์" ตัวอย่างเช่น มีการผิดสัดส่วนระหว่างทารกกับอุ้งเชิงกรานของมารดา(ทารกในครรภ์ตัวใหญ่ หรือเชิงกรานของมารดาแคบ ทำให้เมื่อเจ็บครรภ์คลอดปากมดลูกไม่ยอมเปิดครับ...อันนี้เป็นข้อหาที่โดนไปผ่าท้องคลอดบ่อยกว่าเพื่อน) หรือมีภาวะรกเกะต่ำ หรือมีภาวะการเต้นของหัวใจทารกผิดปกติอันแสดงว่ามีการขาดออกซิเจนขณะคลอด หรือมีโรคติดต่อบางประการที่ถ้าคลอดทางช่องคลอดแล้วเด็กอาจติดชเอเป็นอันตรายได้(เช่น ขณะครบกำหนดคลอดมีการติดเชื้อไวรัสเริมบริเวณอวัยวะเพศ) เป็นต้น ข้อบ่งชี้ในการผ่าท้องคลอดเหล่านี้เป็นที่พิสูจน์กันทั่วไปแล้วครับว่าถ้าคลอดทางช่องคลอดมีโอกาสเกิดอันตรายต่อทารกในครรภ์มากกว่าการผ่าท้องคลอด แพทย์ก็จะแนะนำให้ผ่าท้องคลอดครับ
ข้อดีข้อที่สอง ซึ่งหลังๆนี้มีคนศึกษามากขึ้น คือการคลอดธรรมชาติ อาจทำให้เกิดภาวะอุ้งเชิงกรานหย่อน หรือที่ชาวบ้านเรียกว่าเกิดกระบังลมหย่อนได้ พูดถึงเรื่องนี้ต้องอธิบายให้ชัดแจ้งก่อนนะครับว่า...คนที่คลอดทางช่องคลอดทุกรายไม่จำเป็นต้องเกิดกระบังลมหย่อน หรือในทางกลับกันคนที่ผ่าท้องคลอดทุกรายไม่ใช่ว่าจะไม่เกิดกระบังลมหย่อนอย่างแน่นอน การเกิดกระบังลมหย่อนหรือการหย่อนของกล้ามเนื้อในอุ้งเชิงกรานนั้น มีปัจจัยสำคัญๆอยู่สองอย่างคือ อย่างแรก เป็นเรื่องการบาดเจ็บต่อกล้ามเนื้อของอุ้งเชิงกราน เช่น มีลูกหลายๆคน คลอดยากต้องเบ่งนาน หรืออะไรก็ตามที่ต้องทำให้เกิดการเบ่ง(เพิ่มแรงดันช่องทอง)บ่อยๆ (เช่น ท้องผูกเรื้อรัง, ไอเรื้อรัง เป็นต้น อึมมม..พวกลูกนนิกกินเมืองทั้งหลายน่าจะกระบังลมหย่อนกันบ่อยนะครับ 555) อย่างที่สอง ก็คือการขาดฮอร์โมนเพศซึ่งจะเกิดขึ้นเมือ่ผู้หญิงเข้าสู่วัยหมดระดู ดังนั้นกระบังลมหย่อนจึงไปเจอมากในเมื่อคุณผู้หญิงอายุมากแล้วครับ ก็นะ...ทุกอย่างมันโดนแรงโน้มถ่วงเล่นงานเหมือนกันอ่ะ โดยสรุปก็คือ แพทย์เชื่อว่าการผ่าท้องคลอด(ตั้งแต่ยังไม่เจ็บครรภ์และไปเบ่งคลอดนะครับ) "อาจจะ"(แค่อาจจะนะครับ)ลดความเสี่ยงที่จะเกิดการหย่อนของอุ้งเชิงกราน
ข้อดีข้อที่สาม อันนี้เป็นมุมมองของคนไข้นะครับ สูติแพทย์จะไม่ได้มองในแง่นี้เท่าใดนัก คือ...คนไข้มักจะบอกว่าการผ่าท้องคลอดมีข้อดีคือทำให้เวลาคลอดไม่เจ็บ เพราะการผ่าท้องคลอดต้องให้การระงับปวดในขณะทำ ซึ่งส่วนใหญ่แพทย์จะแนะนำให้ให้ยาสลบเฉพาะที่(หรือที่คนทั่วไปเรียกกันว่า "บล็อกหลัง") หรือบางคนก็บอกว่า จะได้ไม่ต้องเจ็บสองต่อ คือไปลองคลอดทางช่องคลอดแล้วแต่ไม่สำเร็จ(เจ็บไปต่อหนึ่งแล้ว) ก็ต้องมาเจ็บอีกต่อหนึ่งจากการผ่าท้องคลอด เรื่องการไม่เจ็บปวดทุกข์ทรมานขณะคลอดนั้น ถ้าโรงพยาบาลที่ไปคลอดมีบริการให้การระงับปวดขณะคลอดด้วยการบล็อกหลัง ก็สามารถทำได้แม้จะคลอดทางช่องคลอดครับ ดังนั้นข้ออ้างเรื่องไม่เจ็บขณะคลอดจึงเป็นคำกล่าวอ้างที่ไม่ถูกต้องตรงกับความจริงเท่าใดนัก
ข้อดีข้อที่สี่ อันนี้ก็เป็นมุมมองของคนไข้อีกเช่นกันครับ เพราะผ่าท้องคลอดกำหนดเวลาได้ ทำให้ความกังวลเรื่องว่าจะมาคลอดไม่ทันเพราะบ้านอยู่ไกลหรือรถติด หรือการเจ็บครรภ์คลอดจะเกิดขึ้นในช่วงกลางค่ำกลางคืนไม่สะดวกกับทั้งคุณแม่และครอบครับรวมถึงแพทย์ผู้ทำคลอด เลยเถิดไปถึงเรื่องสำคัญที่มีเฉพาะคนทางตะวันออกเท่านั้นที่นิยมทำกัน...คือคลอดเอา "ฤกษ์" ความดีข้อนี้สำหรับแพทย์แล้วถือว่าไม่ใช่เรื่องที่จะเอามาเป็นเหตุผลในการผ่าท้องคลอดครับ เรื่องผ่าเอาฤกษ์นี่มีให้เกร็ดให้เล่าได้อีกยาวครับ
มาพูดถึงข้อเสียกันบ้าง
ข้อเสียของการผ่าท้องคลอดข้อแรก คือภาวะแทรกซ้อนหลายอย่างที่พบได้ในการคลอดทางธรรมชาติเกิดในการผ่าท้องคลอดได้มากกว่า ได้แก่
- การเสียชีวิตของมารดาขณะคลอดด้วยการผ่าท้องคลอดสูงกว่ามารดาที่คลอดทางช่องคลอดหลายเท่า แม้ว่าในระยะหลังจะมีข้อมูลว่าความเสี่ยงเรื่องการเสียชีวิตมารดาลดลงกว่าในอดีตเป็นอย่างมาก เพราะเทคนิคในการผ่าตัดและความก้าวหน้าทางการแพทย์ทำให้การผ่าตัดปลอดภัยมากขึ้น แต่ก็ยังไม่เคยมีใครบอกว่าการผ่าตัดคลอดปลอดภัย "เท่ากับหรือน้อยกว่า" การคลอดทางช่องคลอด
- การเสียเลือดจากการคลอดด้วยการผ่าตัดคลอดสูงกว่า(ปกติผ่าท้องคลอดเสียเลือดเฉลี่ยประมาณ 400-500 ซีซี ถ้าผ่าท้องคลอดคูณสองได้เลยครับ) การตกเลือดหลังคลอดก็พบได้บ่อยกว่า
- การติดเชื้อต่างๆ เช่น การติดเชื้อในโพรงมดลูกหลังคลอด, การติดเชื้อที่แผลผ่าตัดหลังคลอดพบได้บ่อยกว่าเมื่อทำการผ่าผ่าตัดคลอดทางหน้าท้อง
ข้อที่สอง การผ่าตัดคลอดเป็นการผ่าตัด ดังนั้นจึงทำให้เกิดความเสี่ยงที่จะได้รับอันตรายอันเกิดจาการผ่าตัดต่างๆ เช่น การบาดเจ็บต่ออวัยวะต่างๆขณะทำผ่าตัด(ผ่าไปโดนลำไส้หรือกระเพาะปัสสาวะ เป็นต้น) ภาวะแทรกซ้อนจากการให้ยาสลบโดยไม่จำเป็น การติดเชื้อจากการให้เลือดเนื่องจากมีการเสียเลือดขณะผ่าตัด เป็นต้น ในระยะยาวก็อาจจะเกิดผังพืดรัดลำไส้ จนทำให้ลำไส้อุดตันได้ครับ
ข้อที่สาม การผ่าตัดคลอดทางหน้าท้องมีผลเสียต่อทารกบางประการได้ เช่น ถ้าคำนวณอายุครรภ์ของทารกผิดจะทำให้ทารกคลอดก่อนกำหนด และถึงแม้ว่าจะคำนวณอายุครรภ์ถูกต้อง คือผ่าท้องคลอดในทารกคลอดครบกำหนดก็ตาม แต่มีผู้รายงานว่าทารกที่คลอดจากการผ่าท้องคลอดเกิดการหายใจผิดปกติได้บ่อยกว่าเมื่อคลอดทางช่องคลอด
ข้อที่สี่ การผ่าท้องคลอดทำให้มารดามีโอกาสเกิดภาวะแทรกซ้อนของการตั้งครรภ์บางประการมากกว่าเดิม เช่น โอกาสเกิดมดลูกแตกมากขึ้น โอกาสเกิดรกเกาะต่ำมากขึ้น โอกาสเกิดรกเกาะลึกกว่าปกติมากขึ้น
ข้อที่ห้า การเจ็บแผลหลังคลอดนั้น การผ่าท้องคลอดเจ็บมากกว่าและนานกว่าครับ ก็...แหงอยู่แล้วละ เพราะว่าแผลใหญ่กว่ามาก แถมยังต้องผ่านทางผนังหน้าท้องด้วย รายไหนที่ค่อนข้างจะเจ็บง่ายถึงจะผ่านไปนานแล้วเวลาเกร็งหน้าท้อง(เช่น ยกของ, ออกกำลังกายที่ต้องเกร็งหน้าท้อง) ก็จะมีอาการเจ็บแปล๊บๆที่แผลผ่าตัดครับ แถมยังมีแผลผ่าตัดที่ผนังหน้าท้องด้วย ถึงแม้ว่าเดี๋ยวนี้จะลงแผลขวางต่ำกว่าบิกินนี่ แต่บางรายก็เป็นแผลเป็น Keloid ไม่น่าดูโดยไม่จำเป็นครับ
ข้อที่หก อึมมม...อันนี้เป็นข้อมูลที่ยังไม่มีหลักฐานชัดเจนนะครับ คือมีผู้ที่รายงานว่า อาจเกิดภาวะซึมเศร้าหลังคลอดได้บ่อยกว่าในพวกที่ผ่าตัดคลอดบุตรครับ(Postpartum Blue)
ดังที่ได้เกริ่นไว้แต่ต้นแล้วครับว่า เรื่องนี้เป็นที่ถกเถียงกันไม่ใช่แต่ในหมู่คุณแม่ที่ตั้งครรภ์เท่านั้น ในวงการแพทย์ก็ถกเถียงกันอย่างมาก เพราะอัตราการผ่าตัดคลอดที่เป็นตัวเลขซึ่งยอมรับกันทั่วไปนั้น(ราวๆ 15-20% ของการคลอดทั้งหมด) ในความเป็นจริงกำลังทะยานขึ้นไปอย่างมากในหลายๆประเทศ(โดยเฉพาะประเทศทางตะวันตก) ไม่อยากจะบอกเลยว่าในโรงพยาบาลเอกชน...ตัวเลขอัตราการผ่าท้องคลอดสูงถึง 80% (โอ้...พระเจ้าช่วยกล้วยทอด!) และในขณะที่อัตราการผ่าตัดคลอดสูงขึ้นนั้น อัตราการเสียชีวิตของทารกกลับไม่ได้ดีขึ้นแต่อย่างใด ที่เห็นได้ชัดก็ในประเทศที่การแพทย์เจริญก้าวหน้าเป็นตักศิลาของโลกอย่างสหรัฐอเมริกา อัตราการเสียชีวิตของทารกสูงกว่าประเทศญี่ปุ่นมาก ทั้งๆที่อัตราการผ่าตัดคลอดทางหน้าท้องสูงกว่าญี่ปุ่นหลายเท่า (อัตราการผ่าตัดคลอดทางหน้าท้องในญี่ปุ่นไม่ถึง 10% ครับ) ดังนั้นข้ออ้างที่ว่าการผ่าท้องคลอดจะทำให้ทารกปลอดภัยมากกว่านั้น จึงไม่เป็นความจริงเสมอไปครับ
ปัญหาเรื่องการพิจารณาผ่าท้องคลอดนี่ซับซ้อนขึ้นไปอีก เพราะมี Conflict of Interest หมายถึงมีการขัดกันของผลประโยชน์อีก เนื่องด้วย...แพทย์ที่พิจารณาผ่าตัดจะได้รับผลประโยชน์มากขึ้น หากผ่าตัดคลอดทางหน้าท้อง อีกทั้งปัญหาการฟ้องร้องทางการแพทย์ที่สูงขึ้น(สูติแพทย์เป็นหนึ่งในแพทย์ที่ถูกฟ้องร้องมากที่สุดครับ) ความกดดันและผลประโยชน์ดังกล่าว เป็นที่เชื่อกันว่า เป็นสาเหตุหนึ่งที่ทำให้การผ่าตัดคลอด "โดยไม่จำเป็น" สูงขึ้นมากในปัจจุบัน
อีกด้านหนึ่ง...ในระยะหลัง เริ่มมีบทความทางการแพทย์มากขึ้นที่พูดถึงเรื่อง Caesarean section on demand หรือก็คือ การเลือกวิธีการคลอดว่า...ควรจะเป็นสิทธิของผู้ป่วยที่จะ “เลือก” ได้หรือไม่ เป็นประเด็นทางจริยธรรมที่มีการถกเถียงกันอย่างกว้างขวางในวงการแพทย์
โดยส่วนตัวแล้วผมคิดว่า การผ่าตัดคลอดทางหน้าท้องมีความเสี่ยงสูงกว่าการคลอดทางหน้าท้องครับ ความปลอดภัยต่อทารกเมื่อคลอดทางช่องคลอดก็ไม่ได้แตกต่างจากการผ่าท้องคลอดแต่อย่างใด(ยกเว้นในกรณีที่มีข้อบ่งชี้นะครับ) ดังนั้นควรจะพิจารณาผ่าท้องคลอดเมื่อมีข้อบ่งชี้ทางการแพทย์เท่านั้น หากเกิดอันรายหรือภาวะแทรกซ้อนขึ้น...เราก็ตอบตัวเองและคนไข้ตลอดจนญาติๆได้ว่า...เพราะ "จำเป็น" ต้องผ่าตัด ไม่ใช่เพราะ...อะไรที่ตอบไม่ได้
นอกจากนี้เท่าที่มีประสบการณ์ผมรู้สึกว่า การคลอดเองทำให้คุณแม่ภาคภูมิใจและเข้าใจในความรักที่คุณแม่มีให้มากขึ้นครับ อย่าเข้าใจผิดนะครับผมทราบเสมอว่าคุณแม่ทุกท่านรักลูกมากกว่าสิ่งอื่นใดอยู่แล้ว ...ไม่ว่าจะคลอดด้วยวิธีใด
หวังว่าคงทำความกระจ่างให้กับคุณแม่ที่กำลังใกล้คลอดทั้งหลายนะครับ



Create Date : 13 ธันวาคม 2551
Last Update : 13 ธันวาคม 2551 21:03:12 น. 13 comments
Counter : 1601 Pageviews.  
 
 
 
 
เข้าใจแจ่มแจ้งเลยค่ะคุณหมอ

หลายปีมาแล้วผ่านการคลอดบุตรแบบธรรมชาติที่ญี่ปุ่นมาแบบเจ็บลืมไม่ลงจริงๆ T__T
 
 

โดย: morinaga IP: 122.214.128.153 วันที่: 14 ธันวาคม 2551 เวลา:13:22:48 น.  

 
 
 
ชัดเจนเลยครับ
 
 

โดย: จะเป็นพ่อคนแล้ว IP: 58.181.148.50 วันที่: 15 ธันวาคม 2551 เวลา:9:56:35 น.  

 
 
 
ยินดีด้วยครับ
 
 

โดย: naughtydoc IP: 161.200.255.162 วันที่: 15 ธันวาคม 2551 เวลา:12:05:14 น.  

 
 
 
I m now 37 weeks pregnant. Thank you for your sharing.
wish me luck na ka
 
 

โดย: funinthesun IP: 58.8.244.157 วันที่: 5 มกราคม 2552 เวลา:23:14:58 น.  

 
 
 
Wish ya luck krub!
 
 

โดย: NaughtyDoc IP: 58.8.62.241 วันที่: 8 มกราคม 2552 เวลา:20:00:13 น.  

 
 
 
ขอบคุณค่ะ ก็กลัวการผ่าคลอดอยู่เหมือนกันแต่คุณแม่สามีไปดูฤกษ์แล้วจะให้ผ่าคลอด ไม่รู้จะทำงัยดีใกล้ถึงวันแล้วด้วย เฮ้อ?
 
 

โดย: นิดหน่อย IP: 125.27.194.44 วันที่: 11 มกราคม 2552 เวลา:20:59:08 น.  

 
 
 
อึมมม...ลำบากเหมือนกันครับ อันที่จริงว่าจะเขียนเรื่อง "ฤกษ์" ให้อ่านเหมือนกันครับ เพราะ...ความจริงไม่ได้เป็นดังที่คนทั่วไปเข้าใจนักครับ
 
 

โดย: NaughtyDoc วันที่: 13 มกราคม 2552 เวลา:3:06:41 น.  

 
 
 
ขอบคุณมากค่ะสำหรับข้อมูลดีๆ
แต่เสียดายที่คลอดโดยผ่าไปแล้ว ทั้งๆที่ตั้งใจว่าจะคลอดเอง เพราะเลยกำหนดคลอดไป8วันแล้วปากมดลูกก็ยังไม่เปิด คุณหมอเลยให้ตัดสินใจเลือกเอาเอง (นัดผ่าเมื่อเลยกำหนดมาครบ10วัน)

มีข้อข้องใจขอถามคุณหมอNaughtyDoc ไว้ณที่นี้เลยได้มั๊ยคะ
1. ตอนที่เลยกำหนดมาแล้ว คุณหมอตรวจปากมดลูกให้ บอกว่าไม่เปิด แต่มีเมือกแล้วก็อาจจะเปิดได้ โดยธรรมชาติแล้ว จะใช้เวลานานเท่าไรคะ (การเต้นของหัวใจทารกปกติดีค่ะ)
2. ได้อ่านบทความจาก //www.bangkokhealth.com/wpregnant_htdoc/wpregnant_health_detail.asp?Number=1666
"ความเชื่อที่ว่า ครั้งหนึ่งที่เคยผ่าตัดคลอดทางหน้าท้องแล้ว จะต้องผ่าตัดคลอดตลอดไปนั้น ไม่เป็นความจริงเสมอไป ถ้าการผ่าตัดคลอดนั้นไม่ใช่เกิดจากความผิดปกติของช่องทางคลอด หรือการผิดสัดส่วนของทารก ซึ่งมักจะเกิดซ้ำซ้อน เช่น สภาวะรกเกาะต่ำ สภาวะทารกเครียด ซึ่งมักจะไม่เกิดซ้ำซ้อนในครรภ์ต่อมา และในปัจจุบันการผ่าตัดคลอดส่วนใหญ่แพทย์จะทำแนวผ่าตัดที่เนื้อมดลูกในแนว ขวาง ซึ่งจะทำให้การแยกของเนื้อมดลูกลดลงมาก จึงมีข้อบ่งชี้ที่จะทำการคลอดทางช่องคลอดในผู้ที่เคยผ่าตัดมาก่อนได้ แต่แพทย์จะต้องทำการประเมินระบบต่าง ๆ ให้สมบูรณ์ รวมทั้งการดูแลบริบาลติดตามการคลอดอย่างใกล้ชิด แต่ถ้าเคยผ่านการผ่าตัดคลอดมา 2 ครั้ง ติดต่อกันแล้ว ก็ควรจะทำการผ่าตัดคลอดในท้องต่อมาด้วย" จริงหรือเปล่าคะ เพราะยังอยากคลอดเองมากกว่าผ่าอยู่ดี
 
 

โดย: SATI Keenu Triniti IP: 222.123.161.42 วันที่: 15 มกราคม 2552 เวลา:22:57:12 น.  

 
 
 
ยินดีครับคุณ SATI keenu Triniti ขอโทษที่มาตอบช้าไปหน่อยนะครับ มาเริ่มกันเลยดีกว่า
ข้อแรกนี่...ตอบยากครับ ไม่มีใครทราบดอกครับว่าจะนานเท่าไหร่ ถ้าตรวจแล้วปากมดลูกเริ่มนุ่ม เอียงมาทางด้านหน้า และเริ่มเปิดแล้ว อย่างนี้คงไม่นาน แต่ก็ไม่รู้จริงๆว่าเมื่อไหร่ แต่ถ้าไม่เปิดนี่บอกยากครับ อย่างไรก็ตามหาก...มีมูกออกมา(ออกเองนะครับไม่ได้ออกหลังจากตรวจภายใน)น่าจะมีการเปิดหรือบางตัวของปากมดลูกบ้างแล้วครับ แต่หากจะให้บอกระยะเวลาแน่นอนนี่...ไม่มีใครทราบได้ครับ
ข้อสองคิดว่าน่าจะตรงกับที่เคยเขียนไปแล้วครับ ลองไปอ่านดูได้ครับ
//www.pantip.com/cafe/family/topic/N7375338/N7375338.html
หวังว่าคงตอบปัญหาให้คุณ สติ คีนู และหนูตรินีตี้ ได้นะครับ
ปล.เป็นแฟน ขี้หนู และหนังไซไฟ Matrix เช่นกันครับ ไม่ทราบง่าเคยดู Animatrix หรือเปล่าครับ
 
 

โดย: Naughtydoc IP: 58.8.62.56 วันที่: 19 มกราคม 2552 เวลา:5:57:06 น.  

 
 
 
ตอนนี้อายุครรภ์ 30 weeks แล้ว กำหนดคลอดประมาณ4 เม.ย. แล้วใจเราก็อยากจะคลอดเอง แต่หมอที่เราฝากครรภ์ด้วยนี่น่าจะเป็นมือผ่า เพราะรายไหนๆแกจับผ่าหมด แล้วนี้หมอบอกมาแล้วว่าถ้าจะผ่าก็นัดวันได้เลย(แกเปิดปฏิทินดูราวๆ 23 มี.ค หมอว่าง และจะว่างอีกทีตอน29 มี.ค.แต่ถ้าเจ็บท้องช่วงที่แกประชุมก็ต้องฝากหมอคนอื่นดูแทน) ใจเสียเลยยยย ท้องแรกด้วย อีกอย่างปวดกระดูกหัวหน่าวมาก แกบอกเลยว่ายังงี้จะคลอดเองได้เหรอ อาจต้องผ่านะ....เฮ้ออออออ!อยากเปลี่ยนหมอ
 
 

โดย: อ้วน IP: 124.121.25.88 วันที่: 29 มกราคม 2552 เวลา:16:08:14 น.  

 
 
 
อึมมมมม...โดยทั่วไป และโดยมารยาท และโดยหลักการที่ว่า แพทย์เจ้าของไข้น่าจะรู้จักคนไข้ของตัวเองดีที่สุด อีกทั้ง...ผมเป็นครายก้อม่ายรู้...รวมๆแล้วแปลว่า มิอาจจะให้คำแนะนำกับคุณอ้วนได้ครับ หวังว่าคุณอ้วนคงจะเข้าใจและไม่โกรธกันนะครับผม
ขออวยพรให้คุณอ้วนได้ดังประสงค์ และได้พบหน้ากับคนที่รอคอยมานาน แข็งแรงสมบูรณ์ทั้งแม่และลูกนะครับ
 
 

โดย: NaughtyDoc วันที่: 5 กุมภาพันธ์ 2552 เวลา:0:43:15 น.  

 
 
 
ขอบคุณมากค่ะ คุณหมอ ที่ให้ความกระจ่าง


ปล.ส่วนเรื่องที่มาของชื่อนี่ แหะๆๆๆ แอบใช้ของคุณสามีค่ะ เดี๋ยวไปถามให้นะคะว่าเคยดูเรื่องAnimatrixหรือเปล่า เพราะเขาก็ชอบดูหนังเหมือนกันค่ะ
 
 

โดย: SATI Keenu Triniti IP: 114.128.29.76 วันที่: 8 กุมภาพันธ์ 2552 เวลา:16:52:46 น.  

 
 
 
ท้องแรกลูกชายเก่งคลอดธรรมชาติ ท้องสองตอนนี้ 20 สัปดาห์ ตั้งใจคลอดธรรมชาติอีกเหมือนเดิมถ้าสาวน้อยในท้องให้ความร่วมมือ ขอบคุณสำหรับบทความดีๆที่คุณหมอนำเสนอเรื่อยมาค่ะ
 
 

โดย: IcyRose วันที่: 3 มิถุนายน 2552 เวลา:21:53:14 น.  

Name
Opinion
*ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก

NaughtyDoc
 
Location :


[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 8 คน [?]




[Add NaughtyDoc's blog to your web]

 
pantip.com pantipmarket.com pantown.com