A NaughtyDog a day will keep a real doctor away!

 
สิงหาคม 2554
 123456
78910111213
14151617181920
21222324252627
28293031 
 
11 สิงหาคม 2554
 

ผมร่วงระหว่างตั้งครรภ์และหลังคลอด

สืบเนื่องมาจากว่า...ไปเจอกระทู้ในพันทิบห้องชานเรือน ถามเกี่ยวกับอาการผมร่วงหลังคลอดอยู่หลายกระทู้ อันที่จริงก็เคยตอบๆเรื่องนี้ไปเมื่อนานมาแล้ว อย่ากระนั้นเลย...มาคุยเรื่องนี้อย่างละเอียดกันอีกสักทีจะดีกว่า
โดยปกติแล้วผมของเราส่วนใหญ่(90%)จะเจริญเติบโตอยู่ ที่เหลือ(10%)จะเข้าสู่ระยะพัก(Resting or Telogen phase)ซึ่งเป็นระยะที่หยุดการเจริญเติบโต ทุกๆช่วง 2-5 เดือน ผมที่อยู่ในระยะพักเหล่านี้ก็จะหลุดร่วงออกมาแล้วเส้นผมใหม่ก็จะงอกเข้าไปแทนที่
ในขณะตั้งครรภ์ฮอร์โมนเอสโตรเจนที่ผลิตจากรกสูงกว่าปกติมาก ฮอร์โมนเอสโตรเจนมีผลทำให้เส้นผมอยู่ในระยะเจริญเติบโต(Anagen phase)ได้นานขึ้น นอกจากนี้ในระหว่างตั้งครรภ์ร่างกายได้รับสารอาหารต่างๆเพิ่มขึ้น ทำให้เส้นผมระหว่างที่ตั้งครรภ์อยู่มีความสวยงาม สุขภาพผมดี และอายุยืนยาวกว่าปกติ แต่หลังคลอดฮอร์โมนเอสโตรเจนที่ผลิตจากรกหายไป ระดับฮอร์โมนเอสโตรเจนกลับเข้าสู่ปกติ เส้นผมที่ถูกกระตุ้นให้เจริญเติบโตก็จะเข้าสู่ระยะ Telogen แล้วหลุดร่วงออกมาหลังจากนั้นประมาณ 2-4 เดือน
ผมร่วงหลังคลอดพบได้ค่อนข้างบ่อย(ประมาณ 40-50%) เส้นผมที่เข้าสู่ระยะพัก(Telogen or Resting phase)อาจจะมีมากถึง 60% ของเส้นผมทั้งหมด ปริมาณผมที่ร่วงโดยประมาณคือ 100-300 เส้นต่อวัน ระยะเวลาที่ผมร่วงมากที่สุดก็คือประมาณเดือนที่ 3-4 หลังคลอด การร่วงของผมจะกระจายเป็นบริเวณทั่วๆไป ไม่ร่วงเฉพาะบริเวณใดบริเวณหนึ่ง และการร่วงชองผมอาจจะอยู่ได้นานถึง 6-12 เดือน
ดังที่กล่าวแล้วว่าผมร่วงหลังคลอดมีสาเหตุมาจากฮอร์โมนเอสโตรเจนเป็นสำคัญ ดังนั้นหากมีการเปลี่ยนแปลงของฮอร์โมนเอสโตรเจน ก็จะทำให้เกิดผมร่วงได้ ตัวอย่างเช่น ภายหลังจากหยุดกินยาเม็ดคุมกำเนิด(หลังจากที่ได้รับประทานมาช่วงระยะเวลาหนึ่ง) หรือภายหลังจากการแท้งบุตร ก็อาจจะทำให้เกิดผมร่วงได้เช่นกัน นอกจากนี้ในบางครั้งก็พบว่ามีการร่วงของผมมากกว่าปกติระหว่างตั้งครรภ์เกิดขึ้นด้วย
การดูแลรักษาอาการผมร่วงหลังคลอดบุตรนั้นตามคำแนะนำของ American Pregnancy Association ว่าไว้ดังนี้ครับ
1. ปรึกษาบุคลากรทางการแพทย์เกี่ยวกับเรื่องความสมดุลของฮอร์โมนในร่างกาย(ข้อนี้ดูค่อนข้างกว้างมากไปหน่อย และถ้าอาการเข้ากันได้กับการเกิดผมร่วงหลังคลอด โดยส่วนตัวคิดว่าไม่จำเป็นครับ)
2. หลีกเลี่ยงการบาดเจ็บ ดึงรั้งเส้นผม เช่น การมัดผมทำจุก แกละ ถักเปีย เป็นต้น
3. รับประทานผัก ผลไม้มากมาก เพราะมีสารต้านอนุมูลอิสระ และสารพวก Flavanoids ซึ่งมีส่วนในการกระตุ้นการเจริญเติบโตของผม และบำรุงรากผม(Hair follicles)
4. ใช้ยาสระผม ครีมนวดผม ที่มีส่วนประกอบของสาร Biotin และ Silica
5. เส้นผมจะเปราะเมื่อเปียก ดังนั้นให้ระมัดระวังการปฏิบัติต่อผมในช่วงผมเปียก เช่น ไม่ควรใช้หวีที่ค่อนข้างถี่ในระหว่างที่ผมเปียก
6. อย่าให้ผมโดนความร้อน เช่น ถ้าต้องใช้ที่เป่าผม ก็ควรจะหลีกเลี่ยงการเป่าด้วยลมร้อน
7. พยายามรับประมานอาหารที่มีสารอาหารที่บำรุงเส้นผม ได้แก่ Vitamin B complex, Vitamin C, Vitamin E, Biotin และ Zinc
อ้างอิง
1. //www.americanpregnancy.org/pregnancyhealth/hairloss.html
2. Diagnosing and Treating Hair Loss. Am Fam Physician. 2009 Aug 15;80(4):356-62.
3. Alopecia in Women. Am Fam Physician. 2003 Mar 1;67(5):1007-14.
ไม่อยากจะบอกว่า...เห็นรายชื่อครม.ปูนึ่ง เอ๊ย ปูหนึ่งแล้ว อึมมม...คาดว่าผมจะร่วงหลังจากนี้อีกไม่นานอ่ะ อึมมม...อึมมมม...อึ้งกิมกี่จริงๆ


Create Date : 11 สิงหาคม 2554
Last Update : 11 สิงหาคม 2554 22:14:42 น. 0 comments
Counter : 5952 Pageviews.  
 
Name
Opinion
*ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก

NaughtyDoc
 
Location :


[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 8 คน [?]




[Add NaughtyDoc's blog to your web]

 
pantip.com pantipmarket.com pantown.com